[นิยายแปล] ~จ้าวนักสู้เกิดใหม่ทั้งทีดันเป็นนางร้าย ~ ลูน่าอยากรีไทร์แล้ว - ตอนที่ 52 - 029:แผนการฝึกนักบุญ⑥ ก่อนการต่อสู้
- Home
- All Mangas
- [นิยายแปล] ~จ้าวนักสู้เกิดใหม่ทั้งทีดันเป็นนางร้าย ~ ลูน่าอยากรีไทร์แล้ว
- ตอนที่ 52 - 029:แผนการฝึกนักบุญ⑥ ก่อนการต่อสู้
029:แผนการฝึกนักบุญ⑥ ก่อนการต่อสู้
ปาร์ตี้ชายสองคนและผู้หญิงหนึ่งคนมีชื่อปาร์ตี้ว่า『อัศวินทะเลสาบ』เป็นนักผจญภัยแรงค์บรอนซ์
「เอ่อ ขอบคุณที่ช่วยพวกเราเอาไว้ ชั้นชื่อเกลล่ะ เป็นแลนเซอร์ที่ได้รับการรักษาเมื่อกี้นี้ และมาเรียซังเป็นลมไปสินะ แต่พวกเราค่อนข้างตกใจเลยนะ ไม่คิดเลยว่าสาวน้อยวัยสิบสองปีจะเข้ามาช่วยพวกเรานับตั้งแต่เป็นนักผจญภัยวันแรก……」
กลางป่าเล็กๆทางตะวันออกของลาทอส ชายคนหนึ่งแนะนำว่าตัวเองชื่อเกล พูดด้วยท่าทางอึดอัดใจ
พวกเราตัดสินใจว่ามันอันตรายหากมีการต่อสู้เกิดขึ้นอีก พวกเราเลยมาพักกันแถวลำธารที่พวกเราเจอ ขณะดูและมาเรียที่เกือบจะหมดสติ และฉันก็ได้ถามสถานการณ์คร่าวๆ
「พวกเราได้รับคำขอปราบปรามมาล่ะ แต่ว่าตอนที่เข้ามาในป่าแห่งนี้เพื่อมาล่าก็อบลินสักสองสามตัว และทันใดนั้นก็พบว่าในป่ามันแปลกไป และพวกเราก็ต้องเผชิญกับปีศาจที่ไม่เคยเห็นมาก่อนแบบนั้น」
ฉันรู้จักก็อบลิน
ไม่เพียงแต่เป็นสัญลักษณ์ของเกม RPG แฟนตาซีเท่านั้น แต่เห็นบนชั้นหนังสือของท่านพ่อและท่านแม่ด้วย
ก็อบลินเป็นมอนสเตอร์ชนิดหนึ่ง แต่ผู้คนมักจะเรียกมันว่าปีศาจจิ๋ว
นี่เป็นเพราะว่ามีทฤษฏีที่เชื่อกันว่าก็อบลินเป็นสายพันธุ์ที่แตกแขนงออกมาจากเอลฟ์และเผ่าอื่นๆ ที่อาศัยอยู่ในป่าและพัฒนาการอย่างอิสระ
ก็อบลินนั้นร่างกายเล็กเหมือนเด็ก และนิสัยของมันนั้นโหดร้ายไม่เหมาะกับรูปลักษณ์ เป็นสิ่งมีชีวิตที่จะใช้มนุษย์ผู้หญิงในการสืบพันธุ์ และหากมันจับผู้หญิงได้ก็จะทำให้พวกเธอเหล่านั้นเป็นแม่พันธุ์ให้พวกมัน
นอกจากนี้ยังมีทฤษฏีที่ว่าฮอบก็อบลินที่มีขนาดใหญ่กว่ามนุษย์ที่โตเต็มวัยเป็นสิ่งมีชีวิตที่พัฒนาจากก็อบลินซึ่งเป็นผลิตผลจากการผสมพันธุ์ข้ามเผ่าพันธุ์ของก็อบลินที่วิวัฒนาการกับมนุษย์
ดูเหมือนว่าความจริงเหล่านี้จะยังไม่ถูกแถลงไข แต่หนังสือเล่มนี้กล่าวไว้ว่าหากเจอก็อบลินตัวหนึ่งให้นับไปเลยว่ามีอย่างน้อยมากกว่าสิบเป็นอย่างต่ำ พวกมันไม่เคยคิดจะสู้ตัวต่อตัว แต่จะใช้วิธีรุมฝ่ายตรงข้าม
「หมายความว่าเดินหาก็อบลินไม่เจอ จนมาเจอเข้ากับปีศาจงั้นเหรอ……」
ท่านพี่ทำท่าทางครุ่นคิด
แม้ว่าเธอจะแสดงสีหน้าปั้นยาก แต่ก็น่ารัก จนฉันอยากแต่งงานด้วย
ฉันยังไม่สามารถกำจัดภาพจำก่อนหน้านี้ได้
ใช่ แม้ว่าฝ่ายตรงข้ามจะเป็นก็อบลินหรือปีศาจที่ไม่มีชื่อ แต่ก็ไม่มีความจำเป็นต้องกลัวเพราะเรามีเทพธิดาอยู่
ยิ่งกว่านั้นยังเป็นคนที่เคยโค่นล้มจอมมารด้วย
บางทีเธออาจจะสังเกตการจ้องมองของฉันเธอก็เลยหันมามองฉันด้วยความสงสัย
「มีอะไรงั้นเหรอ มาเรีย?」
「เอ่อ ไม่มีอะไรค่ะท่านพี่ แต่ว่านะคะ ปีศาจตัวนั้นฉันจำไม่ได้ว่ามีในหนังสือภาพเลยค่ะ」
「อ๋อ ก็คงจะเป็นแบบนั้นแหละ เพราะมันเป็นลูกสมุนของเผ่าปีศาจ」
ท่านพี่พูดด้วยความมั่นใจ
ฉันอดไม่ได้ที่จะ「เอ๊ะ?」
「โครงร่างที่พร่ามัวไร้ตัวตนเป็นสิ่งที่ปีศาจสร้างมันขึ้นมาเหมือนกับสัตว์อัญเชิญ และโดยพื้นฐานแล้วพวกมันแตกต่างจากปีศาจทั่วไป กล่าวว่าหากตรงตามเงื่อนไข เช่น เวลาผ่านไปครบกำหนด หรือ ได้รับสารอาหารเพียงพอพวกมันก็จะปะปนไปกับมอนสเตอร์ทั่วไปจนแยกไม่ออกเลยล่ะ」
เมื่อได้ยินคำอธิบายจากท่านพี่ ไม่เพียงแต่ฉันเท่านั้น『อัศวินทะเลสาบ』เองยังตกใจ
ไม่ นี่มันครั้งแรกเลยที่ฉันได้ยินเรื่องนี้
ท่านอลิซ่าเองก็พยักหน้าเห็นด้วยกับฉัน
「เป็นแบบนั้นเองเหรอคะพี่สาว………..เพราะตอนนั้นพี่สาวเลยต้องไปคนเดียว」
「หมายความว่ายังไงเหรอคะ……」
ท่านอลิซ่าตอบคำถามของฉันด้วยความร่าเริง
「เมื่อห้าปีที่แล้ว มีสถานที่แห่งหนึ่งซึ่งตอนนี้กลายเป็นบ่อน้ำพุร้อน แต่ตอนนั้นมันเป็นโบสถ์ร้างและตัดสินใจจะไปกำจัดโจรเพราะพวกมันกบดานอยู่ที่นั่น แต่พี่สาว ท่านซาราเอล่า ฉันและท่านแม่ของฉัน รวมถึง โอไกเองก็อยู่ในเหตุการณ์ในวันนั้นด้วย」
ฉันเห็นใบหน้าเคร่งขรึมของโอไกพยักหน้า「อืม」
「ดังนั้นพวกเราจึงนำทัพทหารห้าสิบนาย แต่ไม่เจอโจรสักคน และพวกเราก็เลยออกมา ในเวลานั้นพี่สาวเข้าไปในโบสถ์ด้วยตัวเองและหลังจากนั้นก็มีปีศาจและพี่สาวออกมาจากห้องใต้ดิน ฉันยังจำฉากนั้นได้ดีเลยล่ะ ที่พี่สาวซัดมันซะน่วมเลย」
เธอก้มลงมองหมัดตัวเองด้วยความคิดถึง
ท่านพี่ชูหมัดขึ้นมาเล็กน้อย
「อ่า ตอนนั้นสินะ จำได้ว่าตอนนั้นมีปีศาจที่เรียกตัวเองว่า “เบเลียล” ซึ่งเป็นสี่จตุรอาชาแห่งกองทัพจอมมาร」
เอ๊ะ สี่จตุรอาชาแห่งทัพจอมมาร……?
「ตอนนั้นน่าทึ่งมากที่สามารถสังหารปีศาจระดับสูงด้วยการโจมตีเพียงครั้งเดียวค่ะ」
「ให้ฉันสอนเจ้านั่นให้อลิซ่าด้วยเอาไหมล่ะ?」
「เป็นไปไม่ได้หรอกค่ะพี่สาว ปริมาณพลังปราณที่ใช้นั้นมากเกินไป ดังนั้นถ้าฉันเรียนรู้มันคงใช้ได้ไม่รุนแรงเท่าพี่สาวหรอก และยิ่งไปกว่านั้นหากฉันใช้ได้ขึ้นมาพลังปราณคงหมดตัวแหงๆค่ะ」
「นี่เธอไปจำคำพูดแบบนั้นมาจากไหนกันเนี่ย」
「ฮ่ะ ฮ่ะ……」
เห็นได้ชัดว่าดูเหมือนท่านพี่จะมีไพ่ตายเด็ดๆอยู่และท่านอลิซ่าก็ได้แต่ยอมแพ้
ฉันรู้สึกอิจฉา แต่ฉันเองก็คงไม่สามารถใช้พลังที่เทพธิดาใช้ได้หรอกนะ
เพราะในแง่ของความสามารถแล้วพลังปราณของท่านอลิซ่านั้นมากกว่าฉันสิบสี่เท่า ถึงกระนั้นท่านอลิซ่าก็บอกว่ายังใช้ได้ไม่เท่าท่านพี่
ดังนั้นฉันจึงปล่อยให้เป็นเรื่องราวของท่านอลิซ่าแทน และฉันกำลังให้ท่านพี่ลูบไล้ร่างกายของฉันด้วยการเป็นเด็กดีในอ้อมอกของเธอ
……ฉันหมายถึงตอนนี้มันโดนกวาดล้างไปแล้ว แต่เมื่อห้าปีก่อนมันคือตอนที่พวกเธออายุเจ็ดขวบ?
ฉันคิดว่ามันค่อนข้างจะผิดปกติไปไกลโขสำหรับเด็กสาวอายุเจ็ดขวบไปต่อสู้กับสี่จตุรอาชาแห่งทัพจอมมารด้วยตัวคนเดียว
แม้จะรู้อยู่แก่ใจว่าเธอเป็นเทพธิดา ดังนั้นยังพอทำใจได้
แต่ว่าไม่คิดว่ามันแปลกจากมุมมองทั้งสองคนที่รู้เรื่องนี้เลยเหรอ
ดูเหมือนว่าจะสีหน้าลึกลับบนใบหน้าของท่านอลิซ่าและเธอบอกว่า「พี่สาวน่ะเป็นคนที่พิเศษ ดังนั้นจะเกิดอะไรขึ้นก็ไม่แปลกใจแล้วล่ะ」
ฉันคิดว่าแบบนั้นนะ
ฉันรู้สึกตกใจเล็กน้อยแต่ที่เธอกล่าวมาทั้งหมดมันก็ถูก
「อ่า แต่ความจริงที่ว่ามีเผ่าปีศาจอยู่นี่――」
「ก็หมายความว่าสิ่งนั้นสินะคะ」
อลิซ่าและท่านพี่มองหน้ากันและพยักหน้า
เมื่อฉันพยายามจะถามว่าพวกเธอพูดอะไรกัน
「อาจจะมีกองทัพของจอมมารหรือสิ่งที่เทียบเท่าซุ่มอยู่ใกล้ๆก็ได้ มันเป็นโอกาสดีที่จะได้ลับสมองประลองฝีมือ ดังนั้นฉันจะฆ่าพวกมัน」
เดี๋ยวนะนี่ฉันเผลอไปปักธงหายนะอีกแล้วเรอะ……!
ท่านพี่เพิกเฉยต่อฉันที่หมดคำพูด
「ดังนั้นพวกเธอยู่ที่――」
「ไม่เอาอ่า ฉันเองก็จะไปด้วยพี่สาว」
ท่านอลิซ่าขัดจังหวะท่านพี่และมองไปยังข้างหน้า
「พี่สาว ฉันเองก็ฝึกหนักเป็นเวลาห้าปีแล้วนะ ไม่ไปเป็นภาระหรอกน่า ดังนั้นอย่าให้ฉันรออยู่อย่างเงียบๆอีกเลย」
ฉันไม่เข้าใจสถานการณ์เท่าไหร่
ฉันไม่รู้ แต่ดูเหมือนท่านอลิซ่าจะมุ่งมั่นอย่างมาก
ท่านพี่และท่านอลิซ่าจ้องมองกันสักพัก
ท่านพี่เป็นฝ่ายที่พูดขึ้นมา
「นั่นสินะ ถ้างั้นก็จงทำให้ประสาทสัมผัสตื่นตัวอยู่ตลอดเวลา กำหมัดไว้ให้แน่นๆแล้วไปซัดหน้าพวกมันซะ ไม่อนุญาตให้พ่ายแพ้ มีเพียงแค่พวกเราที่จะได้เหยียบย่ำศพของพวกมัน」
รอยยิ้มปรากฏขึ้นบนริมฝีปากของเธอ
อ่า ดูเหมือนจิตวิญญาณแห่งการต่อสู้ของเธอจะตื่นขึ้นแล้ว
แต่แล้วฉันมีทางเลือกเพียงอย่างเดียว
「แน่นอนว่าฉันเองก็จะไปด้วยค่ะ ฉันอยากจะช่วยท่านพี่!」
ฉันพูดออกไปด้วยความรู้สึกทั้งหมดที่มี แต่นั่นไม่ใช่เหตุผลจริงๆ
สัญชาตญาณมันบอกว่าฉันจะปลอดภัยหากอยู่เคียงข้างท่านพี่
มากกว่านั้นหากฉันถูกทิ้งไว้ที่นี่ ฉันจะเป็นคนเดียวที่กลับเมืองไปพร้อมกับสมาชิกของ『อัศวินทะเลสาบ』
แค่คิดก็รู้สึกหงุดหงิด
ยิ่งไปกว่านั้นหากเจอตัวก่อนหน้านี้โอกาสตายของฉันจะสูงมากขึ้นไปอีก
ถ้าอยู่กับท่านพี่จะปลอดภัยมากกว่าแม้จะเจอสถานการณ์เลวร้ายแค่ไหนก็ตาม
แต่ว่าหากตายไปพร้อมกับทั้งสามคนเหล่านี้ก็จะกลายเป็นอาหารให้พวกมอนสเตอร์ มีความเป็นไปได้สูงว่าจะถูกกำจัดจนหมดสิ้น
ดังนั้นฉันจะไม่ยอมอ่อนข้อให้หรอกนะ
ฉันจะต้องอยู่กับท่านพี่
「ฮ่าฮ่า~ เข้าใจแล้ว พวกเรานี่มีแต่พวกสมองกล้ามทั้งนั้นเลยนะ」
เธอพูดพร้อมกับถอนหายใจเข้าลึกๆ
ไม่ ฉันไม่อยากโดนเอาไปเทียบกับท่านพี่หรอกนะ
――ด้วยวิธีนี้พวกเราปาร์ตี้『อลิสเทีย』ได้ตัดสินใจเดินหน้าไปกำจัดปีศาจ
ตามล่าพวกปีศาจและกวาดล้างให้หมดสิ้น
ในฐานะคนเดียวที่ยังคงความเป็นมนุษย์ในปาร์ตี้สมองกล้ามนี้ แม้ว่าฉันจะโดนฝึกมาแต่ก็ไม่มีอะไรสู้พวกเขาได้ แต่จะเรียกว่ายังไงดีล่ะ ฉันควรดีใจหรือเศร้าใจกันนะ