[นิยายแปล] เจ้าหญิงแวม Kyuuketsu hime wa barairo no yume o miru - ตอนที่ 8.1 บทคั่น 2 ทงคัตสึมหาราช
- Home
- All Mangas
- [นิยายแปล] เจ้าหญิงแวม Kyuuketsu hime wa barairo no yume o miru
- ตอนที่ 8.1 บทคั่น 2 ทงคัตสึมหาราช
ข้อความจากผู้แต่ง
คราวนี้ก็เป็นบทคั่นอีกแล้ว แต่ว่ามีความเกี่ยวโยงกับเนื้อหาหลักอยูjนะ
เพื่อใครซักคนที่เกิดอยากกินราเมงตอนดึกละนะ
*—–
ร้านราเมง ‘ทงคัตสึมหาราช’ ตั้งอยู่ที่หัวมุมของเมืองภายในปราสาทอันธการสีชาด ซึ่งเป็นร้านลับเก่าแก่สำหรับผู้ที่รู้จัก (เดิมทีเป็นพื้นที่ที่สามารถใส่ร้านค้าอัตโนมัติของ NPC ได้ จำนวนที่สร้างได้สูงสุดมีมากถึง 50 ร้าน แต่ตอนนี้ขนาดมันขยายเพิ่มมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ปัจจุบันนี้มีเกิน2000ร้านแล้ว รวมถึง ‘ทงคตสึมหาราช’ ด้วย)
ที่ด้านหน้าร้านแคบๆ ที่มีแต่เก้าอี้สูง มักจะมีลูกค้ามาต่อแถวยาวอยู่เสมอ ซุปทงคัตสึมีกลิ่นฉุนเป็นเอกลักษณ์อบอวลไปทั่วร้านและโชยออกไปด้านนอก ทำให้ลูกค้าที่มารอเพิ่มความคาดหวังโดยไม่รู้ตัว
เนื่องจากร้านได้รับความนิยมอย่างมาก ใครๆ ก็คิดว่าพวกเขาควรจะขยับขยายร้านให้ใหญ่กว่านี้ แต่เจ้าของร้านคือราชาออร์ค ผู้มีความตั้งใจแน่วแน่ที่จะทำราเม็งด้วยมือของเขาเอง เพราะฉะนั้นร้านนี้จึงรับลูกค้าได้จำกัด แต่ด้วยรสชาติของราเมนของเขา ใครๆไม่สามารถต่อต้านได้
ในวันหนึ่ง ลูกค้าตัวเล็กๆคนนึง นั่งอยู่บนเคาน์เตอร์ตรงข้ามกับหม้อสต๊อก และสั่งทงคตสึราเม็งด้วยน้ำเสียงราวกับคนหมดความอดทน แต่เจ้าของร้านที่ได้ยินเสียงของลูกค้าคนนั้นกลับรู้สึกคุ้นเคยอย่างบอกไม่ถูก
ลูกค้าคนนั้นถูกปกปิดด้วยเสื้อคลุมสีดำตั้งแต่หัวจรดเท้า สูงราวๆ 140 เซน ร่างเล็กเหมือนเอลฟ์หรือฮอบบิท และใส่หน้ากากปีศาจปิดใบหน้าเอาไว้ (การแต่งตัวแบบนี้ถือเป็นเรื่องปกติของที่นี่) แต่เมื่อพิจารณเสียงของเขา อาจจะเป็นผู้หญิง หรือเด็ก หรือไม่ก็ทั้งสองอย่าง
แต่ถึงแม้นี่จะเป็นครั้งแรกที่ได้เจอลูกค้าคนนี้ เขาก็ไม่สามารถสลัดความรู้สึกที่เหมือนว่าเคยได้พบเธอที่ไหนสักแห่งออกไปได้
ด้วยความรู้สึกที่เหมือนมีกระดูกมนุษย์ติดอยู่ในลำคอ เจ้าของร้านพยายามเค้นตัวเองว่าเคยเจอเธอที่ไหนมาก่อนหรือไม่ แต่ถึงอย่างนั้น เขาก็ยังมีงานต้องทำ ดังนั้นเขาจึงรีบนำชามมาวางลงบนเคาน์เตอร์เบื้องหน้าลูกค้าของเขา
“เอาล่ะ ทงคตสึราเมนขนาดปกติ ขอโทษที่ให้รอ”
“อุหวา สุดยอด! นี่คือขนาดปกติหรอเนี่ย!?”
สิ่งที่อยู่ข้างหน้าเธอคือชามราเมงขนาดเท่าอ่างล้างหน้า (แม้ในมุมมองของเจ้าของร้านซึ่งสูงเกือบ 4 เมตร อย่างดีมันก็เป็นได้แค่ชามจิ๋ว) ต่างกับลุกค้าที่กำลังตื่นเต้น เจ้าของร้านเริ่มคุยเรื่อยเปื่อยไปพลางเช็ดมือกับผ้ากันเปื้อน
“มาครั้งแรกหรือคุณหนูตัวน้อย? ถ้าอย่างนั้นครึ่งจานเล็กอาจจะเหมาะกับเจ้ามากกว่า”
เจ้าของร้านโน้มตัวข้ามเค้าท์เตอร์มาขณะที่พูด ใบหน้าของเขาที่ดูยังไงก็คือหมูป่าสุดโหด ซึ่งสามารถทำให้คุณลูกค้าตัวเล็กนี่ร่วงจากเก้าอี้ด้วยความกลัวได้แล้ว แต่ทว่า เธอดูไม่สนใจเลยแม้แต่น้อย และจัดท่าทางตัวเองนิดหน่อยก่อนจะพยักหน้า
“ชะ-ใช่ เราได้ได้ยินมาว่ามีร้านราเม็งที่ขายทงคัตสึราเม็งแสนอร่อยอยู่แถวนี้ เราก็เลยไปถามมา แล้วก็พอมาต่อแถวหน้าร้าน ก็จำที่นี่ได้ทันทีเลย”
ดูเหมือนว่าการที่เขาเรียกเธอว่า ‘คุณหนู’ นั้นถูกต้อง เธอจับตะเกียบแล้วพูดว่า ‘ทานแล้วนะครับ’ เพื่อแสดงความตั้งใจที่จะเริ่มกิน
“โอ้ เจ้าโชคดีมากนะ ร้านนี้ตั้งอยู่ที่ถนนด้านหลังของเมือง ผู้ที่บอกเจ้าเรื่องนี้ต้องเป็นคนที่เคยมาหรือเป็นเจ้าหน้าที่แน่ๆ”
“อย่างนั้นเหรอ? ถ้างั้น เราจะกินทงคตสึให้อร่อยไปเลย ซู้ด…!? สุดยอด! อร่อยสุดๆ! เป็นครั้งแรกเลยที่ได้กินทงคัตสึที่อร่อยขนาดนี้!!”
เจ้าของร้านดูเธอกินจนเต็มปากแล้วชมไม่หยุดก็อดยิ้มไม่ได้
“ข้าบอกได้เลย! ซุปที่นี่พิเศษไม่เหมือนใคร”
ขณะที่เจ้าของร้านอวดรางเมงของเขาอย่างภาคภูมิใจ เขาก็เห็นว่าไม่มีแก้วน้ำวางอยู่ตรงหน้าลูกค้าตัวเล็กคนนี้ ใบหน้าของเขาเปลี่ยนเป็นบึ้งตึงในทันที ก่อนที่เขาตะโกนใส่ออร์คระดับสูงซึ่งเป็นพนักงานของเขาด้วยความโกรธ
“ไอ้โง่! แกต้องเอาน้ำมาให้ลูกค้าไม่ใช่เรอะไง!? ถ้ายังชักช้าอีก แกนั่นแหละจะลงไปอยู่ในซุปเป็นรายต่อไป!”
-ค่อก!
ตอนนั้นเอง เด็กหญิงๆ ที่กำลังซดซุปด้วยช้อนอย่างมีความสุขก็เริ่มไออย่างรุนแรง
“ยะ-อย่าบอกนะว่า.. ซุปนี่..”
“หืม? โอ้ ไม่ใช่อยู่แล้วสิ ถ้าเอาพนักงานมาทำซุปแล้วใครจะมาทำงานที่นี่ละ”
“นะ-นั่นก็จริงแฮะ ตกใจหมดเลย”
เธอถอนหายใจด้วยความโล่งอกก่อนจะดื่มซุปเข้าไปอีกครั้ง
“ก็นะ ข้าสามารถอัญเชิญออรค์ทั่วไปได้ไม่อั้นด้วยเวทของข้าอยู่แล้วนี่นา”
–ค๊อกแค๊ก
เด็กสาวไออีกครั้ง
“ไม่ต้องกังวลไปหรอก ข้าไม่ได้ใช้ออร์คในราเมงนี่ ใช้แค่เนื้อและกระดูกของหมูมีเขาที่เลี้ยงในฟาร์มเท่านั้นแหละ”
เขามองเธออย่างกังวล
“อา ใช่ โทษที นายพูดถูกแล้วละ ทงคัตสึราเมงจะใช้อย่างอื่นมาทำนอกจากเนื้อหมูและกระดูกหมูได้ยังไงกันละเนอะ?”
เด็กหญิงพยักหน้าเห็นด้วย ก่อนที่พนักงานจะนำแก้วน้ำเย็นมาให้เธอดื่ม นั่นทำให้เธอสงบลงได้และเริ่มกินอาหารต่อ
“แน่นอนอยู่แล้วสิ จิ๊ ที่ข้าใช้เหมือนกับร้านอื่นๆนั่นแหละ ว่าง่ายๆ ก็คือฝีมือของเชฟ ทักษะพวกนั้นต่างหากที่ทำให้ทงคตสึราเมงของข้ามีรสชาติแบบนี้”
“อา เข้าใจละ”
“พิลึกชะมัดที่คู่แข่งของข้าเชื่อว่าเคล็ดลับความอร่อยของราเม็งมันมาจากร่างกายของราชาออร์ค ไอ้เจ้าพวกนั้น คิดว่าข้าแช่น้ำที่เอามาทำซุป ข้าไม่รู้เลยว่าเจ้าพวกนั้นกินอะไรเข้าไปถึงได้ข้อสรุปแบบนั้น—”
–ค๊อกแค๊กค๊อกแค๊กก
“ก็แค่ข่าวลือน่า! เจ้านี่สงบใจไม่ได้เลยหรือไงหืม จากนี้ไปอย่าใช้ชีวิตแบบนั้นนะ ท่านหญิงฮิยูกิฟื้นขึ้นมาแล้ว สงครามใกล้เข้ามาแล้วละ”
“…จ-จริงเหรอ? แน่ใจเรื่องนั้นได้ไง?”
“แน่นอนสิ เพราะทุกที่ที่เลดี้ฮิยูกิไปก็มักจะเต็มไปด้วยเลือดและความอาฆาตอยู่เสมอ ―หืม? เจ้ายังไม่ได้เจอเธอเลยเหรอ?”
“อา! ใช่แล้ว ข้าไม่เคยพบเธอโดยตรงเลย…”
“โอ้! ถึงว่าละ จนถึงตอนนี้ ข้าก็ยังจำมันได้.. เดิมทีข้าเคยเป็นราชาแห่งขุนเขาและปกครองป่าเล็กๆ แต่ในวันนั้น ข้าพ่ายแพ้อย่างสิ้นเชิงให้ท่านหญิง และได้สาบานว่าจะจงรักภักดีต่อเธอ.”
“อา จะว่าไป นายคือบอสของพื้นที่ป่าวิสสินะ?”
“โอ้ รู้จักด้วยหรอ? หลังจากวันนั้นข้าก็ท่องไปทั่วทุกแห่งพร้อมกับองค์หญิง ต่อสู้กับนักรบจากหลากหลายที่ หมัดของข้าชุ่มไปด้วยเลือดไม่เคยเหือดเลยละ”
“หืม? ข้าว่าท่านคงจะทำอะไรซักอย่างอยู่นั่นแหละ… ว่าแต่ทำไมนายมาเป็นเจ้าของร้านราเมงละ? ถ้านายแข็งแกร่งพอจะเป็นบอสพื้นที่ ไม่เข้าร่วมกับ 13 นายพลปีศาจหรอ?”
“13นายพลปีศาจงั้นหรอ? -ฮ่าฮ่า ก็เป็นได้แค่สถานะให้ผู้ที่อยากจะอวดตนเท่านั้นแหละ ถ้าจะทำแบบนั้นก็เอาเวลามาทำราเมงดีกว่า อีกอย่าง ในละแวกร้านที่นี่ก็มีผู้คนอีกมากที่มีความแข็งแกร่งพอๆกับข้า อาจจะประมาณ 1 ใน 4 ของคนทั้งหมดเลยละมั้ง”
“ป-ประมาณ.. 1 ใน 4 เลยหรอ… นะ-นั่นสินะ นายเองก็เป็นบอสพื้นที่นี่นา จะว่าไป ทำไมทุกคนอยากจะอัพเลเวลให้ได้ 99 กันนัก?”
“ก็แน่นอนว่า ทุกคนต่างก็อยากจะทำเพื่อท่านหญิงฮิยูกินะสิ! เจ้าเองก็ต้องพยายามเข้าเพื่อท่านด้วยนะ!”
“-อะ-อา มั้งนะ ข้าจะพยายามมากขึ้นเพื่อความปลอดภัยของท่านหญิงฮิยูกิ!”
“นี่แหละความมุ่งมั่น!”
ระหว่างพูดคุย อาหารในชามก็หายไปจนหมด
“ขอบคุณสำหรับอาหาร คิดว่าจะกินไม่หมดซะอีก แต่อร่อยมากจนกินเข้าไปทั้งหมดเลยแฮะ ราคาเท่าไหร่นะ?”
“โอ้ ทงคัตสึราเมงขนาดปกติอยู่ที่ 8 เหรียญทองแดงนะ”
“หนึ่ง..สอง.. เอาละ 8 เหรียญพอดีเป๊ะ วางไว้ตรงนี้นะ”
“ขอบคุณมากครับ ไว้มาอีกนะคุณหนู!”
“อื้ม จะมาแน่ เอาไว้เจอกันใหม่นะไกจิน(เหล้าฉลองชัย(มั้ง))”
เด็กสาวเอ่ยลา แล้วจากไป
แต่เจ้าของร้านที่พยายามมองข้ามหลายสิ่ง แต่คำพูดสุดท้ายนั่นเป็นเหมือนสายฟ้าที่แล่นผ่านไปทั่วทั่งร่างของเขา
[ไกจิน]คือชื่อของเขาที่แม้แต่พนักงานประจำยังไม่รู้จัก
มันถูกมอบให้โดยบุคคลสำคัญของเขา ความภาคภูมิใจ และทุกสิ่งทุกอย่างของเขา
คำที่ถูกผนึกเอาไว้ และจะไม่มีผู้ใดเรียกได้นอกจากท่านผู้นั้น แล่นผ่านหูของเขาไป เสียงเดิมเหมือนกับวันนั้น
“..ไม่จริงน่า”
ไกจินตัวแข็งไปราวกับรูปปั้น สายตาของเขากวาดมองหาคนๆนั้นที่กลืนไปกับฝูงชนแล้ว
“บอสครับ! มีออเดอร์ครับ”
เสียงของพนักงานดึงสติของเขากลับมา เขาค่อยๆเก็บเหรียญทองแดงเหล่านั้นราวกับเป็นสมบัติล้ำค่า
“เออ รู้แล้ว”
เขาพยักหน้ารับ และเจ้าของร้านที่ดูอารมณ์ดีมากกว่าทุกวันก็เริ่มต้มเส้นราเมงต่อไป
ข้อความจากผู้แต่ง
ช่วงเวลาของตอนนี้คือหลังจากฮิยูกิกลับมาจากห้องของโจอี้ เธออยากกินรางเอามากๆจนวาร์ปกลับมาที่ปราสาท แล้วก็ใส่หน้ากากมุ่งตรงไปร้านราเมงก่อนจะกลับไปอีกครั้ง (ก่อนหน้านี้ เวทวาร์ปใช้ไม่ได้เพราะว่าการวาร์ปออกไปยังที่ที่ไม่รู้จักไม่ได้ แต่ถ้ารู้ตำแหน่งที่แน่ชัดบนโลกแล้วก็วาร์ปได้)
แล้วก็เรื่องของออรค์คิง เขาเป็นฟิลบอสเวลกลางๆ (บอสฟิล หรือบอสประจำพื้นที่นั้นๆ ย่อเหลือบอสพื้นที่)
อีเว้นนี้จะเกิดได้จากการรับเควส ออร์คคิงนั้นจะมีลูกน้องอยู่รอบตัวเสมอ ทำเอาลำบากมากเพราะเขาเรียกมาได้เรื่อยๆ
พูดถึงข้ารับใช้ที่เรียกได้ ก่อนหน้าเรียกได้แค่ครั้งละ 3 ตัวเท่านั้น แน่นอนว่ากฏนั้นถูกยกเลิกไปแล้ว 555
ชื่อของไกจิน ไม่แน่ใจว่าแปลถูกไหมนะคะ 凱陣 ถ้าผู้ใดแปลออกก็บอกกันได้
หรือถ้าเจอคำผิดก็แจ้งมาได้นะคะ บางทีเราก็ข้ามไปเฉยๆทั้งๆที่ตรวจทานแล้วก็มี 5555
{ไทยพาณิชย์ นางสาว ทยาธร อนันต์มานะ 162-246448-2}
สนับสนุนเป็นกำลังใจหรือจะเป็นค่าชานมไข่มุกให้คนแปลก็ได้ทั้งนั้นคะ (แต่ส่วนใหญ่น่าจะไปลงชานมหมด)
ขอบคุณสำหรับการอ่านจนถึงตรงนี้นะคะ แล้วเจอกันใหม่คะ