[นิยายแปล] เจ้าหญิงแวม Kyuuketsu hime wa barairo no yume o miru - ตอนที่ 7 บทที่ 1 ตอนที่ 7 ข้อตกลงของสุภาพบุรุษ
- Home
- All Mangas
- [นิยายแปล] เจ้าหญิงแวม Kyuuketsu hime wa barairo no yume o miru
- ตอนที่ 7 บทที่ 1 ตอนที่ 7 ข้อตกลงของสุภาพบุรุษ
หลังจากล็อคประตูแล้ว รองหัวหน้ากัลด์ก็กลับไปที่นั่งพร้อมกับจ้องเขม็งมาที่ผม
สายตาที่จ้องมาบวกกับรอยแผลเป็นจำนวนมากและใบหน้าโหดเหี้ยม ทั้งหมดนั้นทำเด็กๆร้องไห้ได้ง่ายๆเลยนะ
ก็นะ รูปลักษณ์ภายนอกของผมอาจจะเป็นเด็ก แต่ผมยังคงสงบสติอารมณ์ได้สบายๆ เพราะถ้าเปรียบเทียบใบหน้าของเขากับข้ารับใช้ของผม ใบหน้าของเขาก็ไม่ต่างจากเด็กขี้โมโหเลย
“ข้าเกลียดการพูดอ้อมค้อม ดังนั้นขอถามตรงๆ เลยดีกว่า ท่านเป็นใคร”
…ผมเป็นใครงั้นหรอ… จะอธิบายยังไงดีนะ?
“…”
ภายใต้ความเงียบที่ผมเป็นคนสร้างขึ้น รองหัวหน้าที่คิดว่าความเงียบของผมเป็ฯคำตอบ ก็แสดงฝ่ามือที่กำอยู่ของเขาให้ผมดู
…เส้นชีวิตสั้นจังนะ– ฝ่ามือของเขามีประกายแวววาวจากเหงื่อ ซึ่งมันน่าแหยงมากๆ
“ดูมือของข้านี่ เหงื่อมันไหลไม่หยุดตั้งแต่ท่านเข้ามาในห้อง ข้าพนันได้เลยว่าเจ้าสองคนนั้นก็คงจะเหงื่อโชกเหมือนกัน”
เมื่อได้ยินคำพูดนั้น ผมจึงหันหน้าไปมองยามสองคนตรงประตู ทันทีที่สบตากัน พวกเขาก็หันหน้าซีดๆไปจ้องพื้นเพื่อหนีจากสายตาของผม
“ทั้งคู่นะเป็นอัจริยะแรงค์ B และข้าก็ไม่ได้อยากอวด แต่ข้าเคยอยู่ในแรงค์ A ซึ่งนั่นเป็นเหตุว่าทำไมสัญชาตญาณของพวกเราถึงได้เรียกร้องนักหนาว่าท่านนะอันตรายจริงๆ”
เอ๋ออออออออ? แต่ผมว่ามันไม่มีองค์หญิงแวมไพร์ที่ไหนจะไร้พิษภัยต่อทั้งมนุษย์และสัตว์ได้เท่าผมแล้วน้า
“สมัยยังหนุ่มๆ ข้านะหัวร้อนพอตัวเลย ข้าเคยท้าทายทั้งกริฟฟินและมังกร ข้ารอดจากสภาพเกือบตายมานับไม่ถ้วน ทั้งยังมีช่วงเวลาที่ข้าคิดว่า ข้าเอาชนะเจ้านี่ไม่ได้แน่ๆ อยากยอมแพ้ชะมัดเลย’อยู่ด้วย
…แต่ว่า ท่านนะต่างออกไป—ไม่สิ ท่านอยู่กันคนละระดับอย่างสิ้นเชิง พูดตรงๆ ว่าข้าอยากหนีไปจะแย่แล้ว ถ้าเพื่อรักษาชีวิตของตัวเอง ข้าพร้อมจะทำทุกอย่างแม้มันจะทุเรศขนาดต้องเลียก้นท่าน ข้าก็ยินดี!”
อ๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก!!
ผมรีบเอามือปิดก้นตัวเองโดยไม่รู้ตัวในขณะที่กระเด้งลงมาจากโซฟา
“กัลด์ นายเป็นพวกที่ชอบทำเรื่องแบบนั้นกับเด็กสาวหรอกหรอ…”
หัวหน้ากิลด์คอลลาร์ดมองกัลด์ด้วยสายตาราวกับว่ามองขยะ
“ไม่ใช่ เดี๋ยว! ข้าไม่ได้มีงานอดิเรกแบบนั้น มันแค่สำนวนโวหารเฉยๆ!”
คอลลาร์ดไม่สนใจกัลด์ที่พยายามอธิบายตัวเองด้วยความสิ้นหวัง แล้วผายมือให้ผมว่า “เอาละ โปรดนั่งลงเถอะ” ผงก็เลยกลับไปนั่งโซฟาแค่ชั่วคราว และแน่นอนว่าผมนั่งให้ไกลจากกัลด์มากที่สุดเท่าที่จะทำได้
“ข้าไม่มีประสบการณ์ในการต่อสู้มากพอที่จะเข้าใจความแข็งแกร่งของท่านผ่านสัญชาตญาณเหมือนกับคนอื่นๆในห้องนี้… แต่ถึงอย่างนั้น ข้าก็พอบอกได้ว่าท่านเป็นตัวตนที่พิเศษมากๆ ท่านก็รับรู้ใช่ไหมละ? เวทป้องกันและตรวจจับที่ข้าวางไว้รอบกิลด์…”
“อ๋อ เจ้าหมายถึงได้กระดาษกาวกับหยากไย่นั่นนะเหรอ”
ตอนแรกผมแค่อยากจะปัดๆมันออกโดยไม่ใช่มันขาด แต่มันก็มาวุ่ยวายแล้วพยายามจะพันผมอยู่เรื่อยๆ ก็เลย ปัดมันออกมันออกซะสุดแรง แล้วก็ขาดเฉยเลย~
“ท่านกำลังจะบอกว่าเกราะป้องกันมอนสเตอร์แรงค์ B นั้นคือ ‘กระดาษกาว’ แล้วเวทมนตร์ตรวจจับชั้นหนึ่งของประเทศนี้คือ ‘หยากไย่’ งั้นเหรอ…!?”
ฟังคำโวยวายด้วยความตื่นตระหนกของหัวหน้ากิลด์ ผมก็พลอยตกใจไปด้วย
“เอ๊ะ ไอ้นั่นป้องกันมอนสเตอร์แรงค์ B ได้เลยหรอ! และอีกอย่างก็คือเวทมนตร์ระดับเฟิร์สคลาสของประเทศงั้นเหรอ! โครตอ่อน!?”
เมื่อได้ยินความในใจที่ผมเผลอพูดออกไป กัลด์ที่โกรธจัดจึงแทรกขึ้นมากลางบทสนทนา
“คืองี้นะ กิลด์นี่มีนักผจญภัยที่ลงทะเบียนไว้ถึง 20,000 คน ในนั้นก็มีนักผจญภัยแรงค์ B อีกราวๆ500 คนและแรงค์ A อีก 60 คน นอกจากนี้ยังมีทหารของประเทศอีก 500 คนที่ประจำการอยู่ที่นี่ ข้าไม่รู้ว่าท่านเป็นสัตว์ประหลาด แต่ท่านเพียงคนเดียวจะกำจัดศัตรูทั้งหมดนี่ได้หรอไง?”
แม้เขาจะพูดด้วยความมั่นใจ แต่ผมไม่สนหรอกว่าที่กัดล์พูดนะเกินจริงไปรึเปล่า ผมโชว์ 3 นิ้วใส่เขา
“–?อะไรนะ”
“ก็นี่ไง ถ้ามาปะทะกันตรงๆ เวลาเพียงแค่นี้เราก็ล้างบางพวกนายได้หมดแล้ว”
“… ทำได้ใน 3 วัน?”
ผมส่ายหัวเบาๆ ต่อเสียงครวญอย่าผวาของกัลด์
“ม่ายอะ แค่ 3 นาทีก็เสร็จเรียบร้อยแล้ว แต่ถ้ารวมข้ารับใช้ที่เราพามาด้วย แค่คนเดียวก็ถล่มเมืองนี้ให้หายไปจากแผนที่ได้ภายในไม่กี่วินาที”
[ข้าจะใช้เวลาไม่ถึง 2 วิเลยครับ!]
เสียงประกาศของเทนไกช่างน่าประทับใจ ใช่ ผมเชื่อนะว่าเป็นความจริง ซึ่งมันทำเอาผมกังวลแล้วละ
“…บ้าไปแล้ว ท่านต้องโกหกแน่”
เขาอึ้งไป แล้วก็พูดคำเหล่านั้นมาปลอบใจตัวเอง
อืม ซักจะเริ่มน่ารำคาญแล้วแฮะ
“โปรดรอก่อน! อย่าบอกนะว่าท่านกำลังจะพูดคำเทือกๆ ‘ถ้าอย่างนั้น เอาตัวอย่างมั้ย?’ อะไรแบบนั้นนะ!?”
กำลังจะพูดอย่างนั้นเลยละ ผมทำตาโตจ้องคอลลาร์ดที่เด้งตัวขึ้นมาด้วยความตื่นตระหนก
“…เป็นความจริงสินะ ข้าเชื่อคำพูดของท่านแล้ว ถึงอย่างนั้น ข้าก็หวังว่าตัวตนระดับพระเจ้าอย่างท่านจะไม่ทำเรื่องไร้หัวคิดแบบนั้น แม้จะเพื่อความบันเทิงก็ตาม”
พอได้เห็นความวิตกกังวลของพวกเขาที่เหมือนกับที่ผมมี…มันก็บันเทิงใจดีเหมือนกันนะ จะว่ายังไงดีละ อารมณ์ประมาณ ‘หุหุหุหุ ทีนีทุกคนก็รับรู้ความเจ็บปวดของข้าแล้วสินะ’?
แต่ถึงอย่างนั้น คอลลาร์ดก็ไม่ได้ทำอะไรผิด และมันก็ออกจะน่าสงสารถ้าจะแกล้งพวกเขาต่อ เพราะงั้น ผมจะหยุดเรื่องนี้แล้วละ
“เอาเถอะ ถ้าพวกนายไม่มาจุ้นจ้านอะไรกับเรา เราก็ไม่คิดทำอะไร”
“… คงไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องเชื่อในตัวท่านสินะ ทางเราเองก็ไม่สามารถหยุดท่านได้อยู่แล้ว ข้าเข้าใจดี เราจะไม่ยื่นมือเข้าไปยุ่งกับท่านในทุกๆด้าน และเราสัญญาว่าจะตอบสนองคำขอร้องของท่านให้ดีที่สุดเท่าที่จะทำได้”
“หืม ถ้าอย่างนั้น เรามีคำขอหนึ่งข้อ– อืม อาจจะสองข้อ อย่างแรก ห้ามจับตาดูเรา”
เป็นเรื่องธรรมดาที่พวกเขาจะวางแผนจับตาดูผม พวกเขาพยักหน้าด้วยใบหน้าบูดบึ้ง
“และสำหรับข้อที่สอง ระหว่างที่เราพักอยู่ที่นี่ สาวๆบางคนอาจจะหายตัวไปตอนกลางคืน และจะอยู่ในอาการมึนๆเมื่อถูกพบตัว จะไม่มีอันตรายต่อชีวิตของพวกเธอ และพวกเธอจะถูกส่งตัวกลับไปที่เดิมที่เคยอยู่ ดังนั้น เมื่อเรื่องมันเกิดขึ้นเราอยากให้เจ้ามองข้ามไปให้หน่อย”
“เดี๋ยวก่อนสิ! นั่นเป็นอาชญากรรมร้ายแรงเลยนะ! แล้วพวกเราจะแยกจากเหตุการณ์อื่นๆ ที่ไม่ได้เกิดจากฝีมือท่านได้ยังไง”
เข้าใจละ รองหัวหน้าก็มีเหตุผลนะ ถ้าเรื่องนี้เกิดทับซ้อนกับการลักพาตัวอื่นๆก็กลายเป็นหายนะได้เลย
“อา ถ้างั้นเราจะจำกัดให้แคบลงอีกหน่อยแล้วกัน เป้าหมายจะมีอายุระหว่าง 15-20 ปี พวกเธอจะเป็นสาวพรหมจารีที่หน้าตาสวยและมีสุขภาพที่ดี ก่อนหายตัวไป จะถูกเห็นว่ากำลังคุยกับผู้ชายผมบลอนด์ที่หล่อสุดๆ เป็นไง?”
“ถึงแม้จะมีความต้องการพวกนั้นก็เถอะ แต่ขอบเขตของท่านก็ยังกว้างไปอยู่ดี พูดสั้นๆก็คือ เป้าหมายของท่านจะประมาณมิอาเมื่อตะกี้ใช่ไหม”
รองหัวหน้าย้ำประเด็นสำคัญ แต่สายตาของเขาบอกเจตนาชัดเจนว่าอย่าได้กล้ามาแตะพนักงานของข้าเด็ดขาด!
“จะว่าแบบนั้นก็ได้ มิอาก็โอเค เธอถูกใจฉัน แต่โชคไม่ดีที่เธอไม่ใช่สาวพรหมจรรย์”
“”””อะ-อะไรนะ!?!””””
ด้วยเหตุผลบางประการ ทั้งหัวหน้ากิลด์และทหารยามสองคนก็ร่วมตะโกนไปพร้อมกับกัลด์
“ละ-แล้วมินะล่ะ! พนักงานต้อนรับผมแดงคนที่สามจากซ้าย เธอทั้งสะอาดและเป็นระเบียบเลยนะ!”
คอลลาร์ดโยนภาพลักษณ์สงบนิ่งก่อนหน้านี้ทิ้ง แล้วเข้ามาถามผมด้วยใบหน้าสิ้นหวัง
“อ่า~ คุณหนูคนนั้นเหรอ อืม เราคิดว่าเธอน่าจะคบอยู่ 2-3 คนเลยนะ มีกลิ่นของผู้ชายหลายคนติดตัวเธออยู่”
“ปะ-เป็นไปไม่ได้!”
หัวหน้ากิลด์ทิ้งตัวลงคุกเข่าแล้วมองขึ้นฟ้าด้วยใบหน้าที่ราวกับว่าเขาเห็นจุดจบของโลก
ทำไมผมถึงรู้สึกว่าเขาช๊อคมากกว่าคำพูดของผมก่อนหน้านี้อีกนะ?
“ถ้าอย่างนั้น ลูเซีย… เธอคือสาวผมดำที่มีไฝใต้ตา คนนี้ล่ะ?!”
“แล้วเอลเลนล่ะ! เด็กสาวผมบลอนด์ที่รวบผมหางม้านะ!”
เจ้ายามทั้งสองแทบจะถามเป็นเสียงเดียวกัน ดูท่าพร้อมจะพุ่งเข้ามาหาผมเต็มที่
…เอ่ม เกิดอะไรขึ้นกับที่พวกเขาบอกว่าเคยกลัวผมโดยสัญชาตญาณกันนะ?
หรือ.. บางทีเรื่องนี้อาจจะร้ายแรงถึงขั้นทำให้พวกเขาลืมความกลัวของตัวเองไป?!
“เอ้อ คือ เรื่องนั้นเป็นความลับส่วนบุคคลนะน่ะ เราพูดอะไรมากกว่านี้ไม่ได้แล้วละ…”
แม้ว่าผมจะพูดไปอย่างนั้น แต่ทั้งสองคนก็ยังคงกดดันผมให้ตอบคำถามอยู่พักหนึ่งเลย หัวหน้ากิลด์และรองหัวหน้าก็ยังคงเผชิญกับความเสียหายทางจิตใจอยู่ ผมคิดอยู่ในใจ แม้จะมันจะแปลกที่ตัวผมเองคิดแบบนี้ก็เถอะ
พวกผู้ชายนี่งี่เง่าจริงๆ
อื้ม ผู้ชายนี่.. งี่เง่าดีนะคะ…..
{ไทยพาณิชย์ นางสาว ทยาธร อนันต์มานะ 162-246448-2}
สนับสนุนเป็นกำลังใจหรือจะเป็นค่าชานมไข่มุกให้คนแปลก็ได้ทั้งนั้นคะ (แต่ส่วนใหญ่น่าจะไปลงชานมหมด)
ขอบคุณสำหรับการอ่านจนถึงตรงนี้นะคะ แล้วเจอกันใหม่คะ