[นิยายแปล] เจ้าหญิงแวม Kyuuketsu hime wa barairo no yume o miru - ตอนที่ 6 บทที่ 1 ตอนที่ 6 ประชุมระดับหัวหน้า
- Home
- All Mangas
- [นิยายแปล] เจ้าหญิงแวม Kyuuketsu hime wa barairo no yume o miru
- ตอนที่ 6 บทที่ 1 ตอนที่ 6 ประชุมระดับหัวหน้า
ความรู้สึกของผมผสมปนเปขณะที่ผมถูกพาผ่านประตูเข้าสู่ห้องของหัวหน้ากิลด์โดยเผ่ามนุษย์แมวเพศหญิง มีอา ไม่แน่ใจว่าผมต้องดีใจหรือเสียใจที่สิ่งต่างๆมันเป็นไปตามแผนได้อย่างดี
เบื้องหลังในตอนนั้นคือตอนที่ประชุมโต๊ะกลมเมื่อวันก่อน หัวข้อที่เทนไกเริ่มขึ้นมาคือโลกที่เราอยู่ในตอนนี้นั้นต่างไปจากโลกเดิม
“อาฮ่ะ แล้วไง?”
ผมได้แต่ถามไปแบบนั้น
ผมเสียชีวิตในอุบัติเหตุ แล้วก็มาเกิดใหม่ หรือไม่ก็ฟื้นขึ้นเป็นตัวละครในโลกของเกมที่ผมเล่น! แถมยังสมจริงมากจนเชื่อไม่ลงว่านี่เป็นแค่เกม
สถานการ์ณปัจจุบันก็เหมือนกับไปอยู่โลกใหม่อยู่แล้ว เพราะงั้นถึงมีโลกอีกใบถูกเพิ่มเข้ามาผสมด้วย ว่ากันตามตรงนะ ผมก็ไม่รู้เหมือนกันว่าต้องพูดอะไรดี ก็เลยเผลอพลั้งปากไป
เพราะงั้นแหละ อ่า แย่ละ! อย่างที่คิดเลย ถึงขนาดที่เทนไกกับคนอื่นๆผงะไปเลยนะ…
แล้วทำไมไม่รู้ เจ้าพวกนั้นก็ยิ้มซะกว้าง แถมยังก้มหัวให้ด้วยบรรยากาศของความชื่นชมซะด้วย
“นั่นสิ นั่นสินะครับ! เพราะที่ของพวกข้าในทั้ง 3000ภพล้วนแต่เพื่ออยู่เคียงข้างองค์หญิง หน้าที่ของพวกข้าคือปกป้ององค์หญิงและถล่มศัตรูให้ราบคาบ! –ข้าต้องขออภัยจริงๆองค์หญิง ข้าลืมความเป็นจริงเรื่องนี้ไปแล้วมาทำให้ท่านต้องอับอาย!”
“ใช่แล้ว! ร่างนี้ เลือดนี้ วิญญานและจิตวิญญานนี้เพื่อองค์หญิง! เราจะใช้ทุกอย่างที่มีเพื่อปราบศัตรูให้สิ้น!”
พวกนายพลปีศาจคำรามกันอีกแล้วแฮะ
อ่า มาอยู่จุดนี้อีกแล้วสินะ..
โลกที่พวกเราไม่รู้จักละ บุกยึดกันเหอะ เดี๋ยวตอนนั่งเคี้ยวคนในโลกนี้ก็รู้จักเอง
บรรยากาศแบบนี้อีกแล้วไงละ!!
ผมต้องลากกลับมาเข้าเรื่องให้ได้ ไม่งั้นโลกนี้โดนทำลายแหง๋
ผมไม่อยากจะกดปุ่มทำลายล้างดาวด้วยตัวเองหรอกนะ!
“ถึงอย่างนั้น ยุคสมัยและภาษาของโลกนี้ที่คล้ายกับโลกเก่าของเราก็น่าสนใจดีนะ”
“ครับ ตอนนี้เรากำลังทำการสืบเรื่องนั้นอยู่ แต่ผลลัพธ์ออกมาไม่ดีนัก ช่างน่าอายจริงๆที่ข้าไม่สามารถบอกคำตอบเป็นรูปธรรมให้ท่านได้เลย แต่ข้าขอเรียนตามตรง พวกข้าไม่เก่งเรื่องพวกนี้เอาเสียเลยครับ โดยเฉพาะการลงไปสืบหาท่ามกลางหมู่มนุษย์”
คำพูดนั้นโดนใจผมเข้าอย่างจัง นี่แหละ! ผมจะไม่ใช้ประโยชน์จากตรงนี้ได้ยังไง
“เข้าใจละ นั่นก็จริงของเจ้า ถ้างั้นให้เราลงไปทดสอบความแข็งแกร่งของมนุษย์และมอนสเตอร์ของโลกนี้โดยตรงคงจะเป็นความบันเทิงสำหรับเราได้”
“ “ “ –อะไรนะ?!?” ” ”
เทนไก มิโคโตะ อุสึโฮะ ทั้งสามที่ได้ยินคำของผมเข้าไปถึงกับพูดไม่ออก
โคคุโยที่ไม่ได้พูดอะไร แต่ก็จ้องผมอย่างเงียบๆเป็นการต่อต้าน
“ตกใจอะไรกัน เราเคยอาศัยอยู่ในเมืองมนุษย์ และสู้ร่วมกันมาตลอด เพราะงั้นคนที่เหมาะสมก็คือเรานะสิ?”
นี่น่าจะยื้อเวลาได้ซักพักเลย ใช่ว่าจะได้ไปเจอหัวหน้ากิลด์หรือราชาได้ง่ายขนาดนั้นซะหน่อย
แล้วผมคงจะมีความสุขน่าดูที่ได้ออกห่างจากบ้านมอนสเตอร์นี่ไปซักพัก (แม้ว่าผมจะเป็นคนสร้างขึ้นเองก็เถอะ)
“ตะ แต่…”
“จะกังวลอะไรกัน เราแค่จะไปดูความสามารถของหัวหน้ากิลด์ ไม่ก็ราชาเพื่อดูว่าจะเคลื่อนไหวยังไงต่อไปต่างหาก ไม่ได้จะฝืนตัวเองซักหน่อย…หรือพวกนายไม่เชื่อในตัวเรากันละ?”
◆◇◆◇
แล้วก็ หลังจากตอนนั้น ก็ได้ถูกพามายังห้องของหัวหน้ากิลด์เมืองอาระ ผู้ที่แข็งแกร่งที่สุดในกิลด์ซะแล้ว
[สมกับเป็นองค์หญิง! ท่านสามารถก้าวเข้ามาอยู่ในเขตศัตรูได้ง่ายเพียงนี้ ข้าชื่นชมท่านจริงๆครับ!]
เสียงสรรเสริญของเทนไก ข้ารับใช้ที่รวมร่างกันอยู่ก้องสะท้อนอยู๋ภายในอกผม
…สงสัยจังนะว่าทำไมเขาถึงอยากฆ่าล้างขนาดนั้นทั้งๆที่ยังไม่ได้คุยกันเลยแต่ก็พูดว่า “เขตศัตรู” ซะแล้ว
ใครก็ตามที่ไม่ได้อยู่ฝั่งองค์หญิงคือศัตรูงี้หรอ
และศัตรูมีแค่ 2 ทางเลือก : โดนล้างบ้างไม่ก็โดนบดขยี้
ผมอยากจะแก้ระบบความคิดแบบนี้ให้ได้เลยจริงๆ แต่พอลองมาคิดดูแล้ว ข้ารับใช้ก็มีตัวตนเพื่อจุดประสงค์แบบนี้มาตั้งแต่แรก คงจะไร้เหตุผลเกินไปถ้าจะให้หมาทำตัวไม่เหมือนหมา
[เทนไก ครั้งนี้เรามาพอดูความแข็งแกร่งของแต่ละคนเท่านั้น เพราะงั้นจงหยุกการกระทำหรือคำพูดไม่ยั้งคิดนั่นซะ]
ถึงอย่างนั้น ผมก็อยากจะขีดเส้นไว้ซักหน่อย
[–ฮ่า แน่นอนครับ ข้าจะขอแลกชีวิตเพื่อปกป้องชื่อเสียงขององค์หญิง จะไม่มีเรื่องแบบนั้นแน่นอนครับ!]
…ทำไมรู้สึกเหมือนไม่ได้เรื่องอะไรเลยกันนะ สงสัยคิดไปเองละมั้ง
ลองมาคิดดู ปกติแล้วถ้าสัตว์เลี้ยงเกิดโมโหแล้วคลั่งขึ้นมา ความรับผิดชอบก็จะต้องอยู่ที่เจ้าของซึ่งคือตัวผมเอง เพราะงั้น ผมได้ยินเทนไกพูดว่า “เขาจะระวัง” แต่ผมอาจจะพะวงมากเกินเหตุจนได้ยินเหมือเขาจะหมายถึงการ “ลบทุกคน” ที่เรียกร้องหาความผิดชอบรึเปล่านะ?
ในห้องของหัวหน้ากิลด์มีโต๊ะทำงาน ชั้นหนังสือ และพื้นที่รับแขกด้านหน้า ต้องบอกว่าเรียบร้อยอย่างไม่น่าเชื่อเลยแหละ
เมื่อผมเดินเข้าไป ก็ได้เห็นการ์ดท่าทางดูดีสองคนยืนอยู่ทั้งตรงประตู และตรงหน้าโต๊ะทำงาน มีชายคนนึงที่แผ่บรรยากาศว่า “เจ้านี่แหละหัวหน้ากิลด์” เขาเป็นคุณลุงกล้ามใหญ่ที่อายุราวๆ 50 ปี มีแผลบนใบหน้า ส่วนชายที่ดูอายุ 35 และใส่แว่นคงจะเป็นเลขา
“หัวหน้า พาแขกมาแล้วคะ”
พยักหน้าตอบรับการทักทายของมีอา แล้วชายร่างผอมก็ก้าวเท้าออกมาพร้อมรอยยิ้ม
“ยินดีที่ได้รู้จักครับคุณผู้หญิง ข้าคือคอลลาร์ด หัวหน้ากิลด์เมืองอาระ”
ชายกล้ามแน่นมีแผลบนหน้าตามหลังมา
“เช่นกันครับ ข้ารองหัวหน้า กัลด์”
โอ้ะ ผมนึกว่าเขาเป็นหัวหน้าซะอีก
ดูท่าความคิดของผมมันจะออกมาทางสีหน้า เพราะรองหัวหน้ากิลด์ กัลด์ ยิ้มออกมาครั้งแรก
“ผิดแล้วละครับคุณผู้หญิง ถึงยังไงซะกิลด์เองก็ต้องทำงานราชการด้วย สำหรับคนอย่างข้าที่โตในสนามรบ ที่ทำได้ดีที่สุดก็แค่ช่วยอยู่ข้างๆแหละครับ”
“นั่นไม่จริงหรอก ไอ้เด็กทำเป็นเก่งอย่างข้าจะบริหารกิลด์ได้ยังไง ต้องขอบคุณกัลด์เลยที่ข้ายังบริหารกิลด์ได้ขนาดนี้”
“อ่ะฮ่ะฮ่า” หัวหน้ากิลด์คอลลาร์ดหัวเราะเขินๆ
อิงจากความรู้สึกของผม นี่เป็นสถานการ์ณที่ผมจะรู้สึกเห็นใจคอลลาร์ด หรืออย่างน้อยก็เห็นใจเรื่องแบบนี้ แต่พอผมมองหน้าต่างสถานะของเขา เขาก็หลอกผมไม่ได้อีกต่อไป คอลลาร์ดเป็นนักเวทย์ เพราะงั้นถ้าเขาสู้กับรองหัวหน้ากัลด์ เขาจะต้องชนะอย่างท่วมท้นแน่ๆ
เอาเถอะ ตอนนี้ผมจะทำตัวตามสบายไปก่อนแล้วกันนะ หมายถึงว่า ตอนนี้ผมก็นั่งลงที่โต๊ะรับแขกแล้วนะ
ถัดจากผมไปคือโจอี้ ที่กำลังเกร็งไปทั้งตัว ฝั่งตรงข้ามของโต๊ะหินอ่อนคือหัวหน้ากิลด์คอลลาร์ด ประกบข้างด้วยรองหัวหน้ากัลด์
“เอาละ ขอโทษด้วยนะที่เชิญมากระทันหัน เพราะเป็นเรื่องของเธอ…” “โจอี้คะ” “คำรองของโจอี้นะ”
มีอาช่วยหัวหน้ากิลด์ไว้ได้อย่างว่องไว
“เราทำอะไรผิดไปหรอ?”
ผมตีหน้าซื่อถามคำถามเสมือนเป็นเด็กไม่ประสีประสาโลก
“จากที่ข้าได้ยินมา คำรองของท่านคือการคุ้มกันจากพื้นที่ทางตะวันตก มาสู่เมื่องอาระ และพาชมรอบๆภายในเมือง…ท่านวางแผนการเที่ยวชมไว้กี่วันหรอครับ?”
ผมมองกลับไปที่เขาแล้วยักไหล่เบาๆขณะตอบ
“อืม อาจจะซัก 2-3 วันนะ”
“…โอเคครับ สำหรับเรื่องนั้น รางวัลคือเหรียญทอง 10 เหรียญและเหรียญโอริคัลคุม 1 เหรียญ?”
“เยอะไปแล้ว!!”
รองหัวหน้ากิลด์ครวญออกมา ถัดจากผม โจอี้นั่งตัวสั่นอยู่
“เจ้าหนุ่ม นายพึ่งจะ F แรงค์ใช่ไหม? รางวัลสำหรับแรงค์นั้นปกติจะอยู่ที่..” “พื้นฐานคือ 2 เหรียญเงินคะ รางวัลเพิ่มเติมทั้งหมดก็จะอยู่ที่ประมาณ 80 เหรียญทองแดง”
รองหัวหน้ากิลด์พยักหน้าแรงๆให้กับคำอธิบายเสริมของมีอา
“นายเข้าใจไหมไอ้หนุ่ม?! 10เหรียญทองกับเหรียญโอริคัลคุมอีก 1 เหรียญ! เงินเยอะขนาดนั้นนะซื้ออาณาเขตเล็กๆพร้อมคนรับใช้ได้เลยนะ!”
“เอ๋?…เอ๋อออ..????”
บางทีโจอี้คงจะไม่เข้าใจสถานการ์ณทั้งหมด เหงื่อหยดไหลลงมาจากใบหน้าซีดๆของเขาเพราะเสียงกดดันจากผู้มีอำนาจเหนือกว่า
หัสหน้ากิลด์คอลลาร์ดพูดต่อจากที่กัลด์ทิ้งไว้
“ไม่ต้องพูดถึงว่ามันกระทบกับกิลด์ด้วย การกระทำไม่ยั้งคิดจะสร้างปัญหา มันจะทำลายภาพลักษณ์ของเราในสายตาของสังคมแน่ๆ เพราะทุกคนจะคิดว่ากิลด์นักภจญภัยได้หลอกท่านหญิงผู้ไม่รู้เรื่องเพื่อเอาเงิน ข่าวลือแย่ๆจะแพร่กระจายออกไป แล้วพอเป็นแบบนั้น ข้าเชื่อว่ามันไม่ส่งผลดีต่อโจอี้ด้วยแน่ๆ นายอาจจะไม่สามารถอยู่ที่กิลด์ได้อีกเลยเพราะชื่อเสียงฉ่าวโฉ่ และคงมีคนที่มุ่งเป้ามาที่ทรัพสมบัติของนาย แย่สุดก็ชีวิตนายด้วย”
ในที่สุดก็เข้าใจ หน้าของโจอี้ไม่เหลือสีเลือดซะแล้วแฮะ
“เพราะฉะนั้น ในฐานะตัวแทนของกิลด์ ข้าหวังว่าโจอี้จะคืนเงินที่จ่ายล่วงหน้าให้แก่คุณผู้หญิง และท่านจะช่วยออกคำร้องใหม่ที่มีรางวัลสมเหตุสมผล และในกรณีนั้น ท่านหญิงเองก็จะสามารถมอบคะแนนกิลด์ให้กับโจอี้ด้วยการผ่านขั้นตอนคำร้องของกิลด์ ถ้าหากท่านมีปัญหาเรื่องการกรอกแบบฟอร์ม ท่านสามาราถฝากให้เราจัดการได้ เป็นยังไงครับ?”
“–ข้า ข้าจะคืนเงิน! ข้าไม่รู้เรื่องเลย..ฮิ-ฮิยูกิ ข้าขอโทษนะ ข้า…”
ในสภาพเหงื่อแตก โจอี้หยิบเหรียญจากในกระเป๋าออกมาวางกองบนโต๊ะด้วยความตื่นตระหนก ผมเห็นได้ในทันทีว่ามีประกายวาบที่ดูอันตรายอยุ่ในสายของคอลลาร์ดและกัลด์เมื่อพวกเขาได้เห็นเหรียญลวดลายซับซ้อนเหล่านี้
“โจอี้เข้าใจความเป็นจริงแล้ว แล้วท่านละ คุณผู้หญิง?”
คอลลาร์ดไม่ได้เปลี่ยนแปลงท่าทีสุภาพของเขาจนถึงที่สุด พอมาคิดถึงข้อเสนอของเขา ผมก็ทำท่าคิด แบบที่เอากำปั้นมารองคางตัวเองนะ
“สำหรับเรางั้นหรอ เราได้ให้คำสัญญาไปแล้ว การที่เรารับเงินคือคือการคืนคำ ซึ่งมันเสื่อมเสียเกียรติของเรา เพราะฉะนั้น เราขอปฏิเสธ”
ลูกผู้ชายพูดแล้วไม่คืนคำอยู่แล้ว อืม แต่ในกรณีนี้มันเป็นเชิงธุรกิจละนะ
ได้ยินคำพูดของผม โจอี้ก็อ้าปากพะงาบๆ ทำท่าจะเป็นลมเหมือนปลาขาดอากาศ ส่วนคอลลาร์ดและกัลด์ก็ทำหน้านิ่งเงียบไปเลย
“…พอจะมีทางให้ท่านได้เปลี่ยนใจไหมครับ? ข้าเข้าใจว่าการที่คนที่มีฐานะทางสังคมอย่างท่าน การผิดคำพูดเป็นเรื่องสำคัญมาก แต่เพื่ออนาคตของเด็กหนุ่มคนนี้ โปรดปล่อยเรื่องนี้ไปเถอะ”
[ไอ้พวกส-ว-ะ! พวกมันบังอาจปฏิเสธความเมตตาจากองค์หญิงงั้นเรอะ!]
ผมต้องสงบเทนไกที่กำลังเกรี้ยวกราดด้วยสินะ
[การเจรจาพึ่งจะเริ่มเท่านั้น เทนไก เราจะไม่มาหงุดหงิดกับเรื่องเล็กๆเพียงนี้หรอกนะ]
“อืม มันก็พูดยากนะ แต่โจอี้เองก็ช่วยเราไว้ได้มาก แต่ จะให้เรายอมรับง่ายๆอย่างนั้น…”
“ถ้าอย่างนั้น…”
มีอา ผู้ที่นิ่งเงียบมาตลอดการสนทนา เอ่ยปากขึ้นมา
“โจอี้คุงไม่เคยได้รับการฝึกฝนนักผจญภัยหรือการฝึกดาบเลย เพราะงั้น ต่อจากนี้ เขาจะได้รับอนุญาติให้เข้าร่วมโรงเรียนฝึกพิเศษของกิลด์โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย แบบนี้ได้ไหมคะ?”
“หืม? หมายความว่าไง?”
กัลด์ขมวดคิ้วด้วยความงงงวย
“วิธีการแบบนี้คะ เพราะคุณผู้หญิงไม่ตกลงที่จะรับเงินรางวัลกลับ เงินนั้นจึงถูกเก็บไว้ที่ธนาคารกิลด์ จำนวนดอกเบี้ยที่ได้รับจากเงินจำนวนนั้นไม่ใช้น้อยๆแน่นอน
เพื่อชดเชยการจ่ายเงินรางวัลตามปกติ โจอี้จะถูกจัดให้ไปฝึกที่โรงเรียนฝึกของกิลด์จนกว่าเขาจะเป็นนักผจญภัยเต็มตัว ค่าใช้จ่ายในการเข้าเรียนโรงเรียนฝึกจะถูกครอบคลุมด้วยดอกเบี้ย
เมื่อถึงเวลาและเขาเป็นนักผจญภัยเต็มตัว ― โอ้ หมายถึง แรงค์D ทางเราจะคืนเงินให้กับคุณผู้หญิง ท่านพอจะพิจารณาตกลงตามเงื่อนไขเหล่านี้ได้ไหมคะ?”
“เข้าใจละ ไม่แย่เลยนะ”
การประนีประนอมครั้งนี้ไม่เลวเลย ดูเหมือนว่ามิอาจะเป็นพวกหัวไวนะ น่าเสียดายจังนะ
หัวหน้ากิลด์ คอลลาร์ด ก็ดูเหมือนจะเห็นด้วยเช่นกัน
“ทางเราไม่มีปัญหา โจอี้นายว่าไง”
“แน่นอน ข้อขอยอมรับ!”
“เจ้าหนุ่ม อย่ามาทำตัวครึ่งๆกลางๆในการฝึกนะ เตรียมตัวไว้ให้ดี!”
เห็นโจอี้พยักหน้าแรงๆให้คำพูดเหล่านั้น รองหัวหน้ากิลด์กัลด์ก็ฉีกยิ้มกว้าง
“เอาละ ดูท่าว่าเรื่องของรวงวัลจะจบได้อย่างสันตินะ อา แล้วท่านหญิงท่านนี้ได้ตัดสินใจรึยังว่าคืนนี้จะพักที่ไหน?”
“ไม่นะ ยังเลย”
“นั่นไม่ดีเท่าไหร่นะ โทษทีนะ มีอา รบกวนหน่อยได้ไหม แต่จัดการห้องพักให้คุณผู้หญิงด้วยนะ”
“–เอ๊ะ?!”
“ท่าทางแบบนั้นอะไรนะเจ้าหนุ่ม? อย่าบอกนะว่านายตั้งใจจะพาคุณผู้หญิงไปโรงแรมถูกๆนะหือ?”
“เอ๊ะ?! อะ ไม่ใช่นะ..คือ..”
ดูท่าว่านั่นจะเป็นสิ่งที่โจอี้ตั้งใจไว้จริงๆ เขาก้มหน้าหนีแล้วพูดติดขัด
“เจ้าโง่เรอะไง?! นายจะปกป้องเธอยังไงถ้าพาไปที่อันตรายแบบนั้น?! ไม่ได้อยู่แล้ว! ของแบบนี้มันย้อนคืนมาได้ที่ไหน!.. โอ ช่างเถอะ พอแล้ว ที่ๆท่านหญิงท่านนี้จะพักในคืนนี้จะถูกจัดสรรโดยมีอา เจ้ากลับบ้านไปซะ แล้วมาจัดการขั้นตอนคำร้องใหม่พรุ่งนี้!”
ฟังคำดุของรองหัวหน้ากิลด์จบ โจอี้ก็ลุกขึ้นและโค้งคำนับทั้งหัวหน้ากิลด์คอลลาร์ดและรองหัวหน้ากิลด์กัลด์ จากนั้นเขาก็หันหน้ามาหาผมเพื่อบอกลา
“แล้วเจอกันฮิยูกิ ขอโทษด้วยนะวันนี้ พรุ่งนี้ข้าจะพาเธอเที่ยวดูรอบๆแน่นอน”
“ได้สิ แล้วจะรอ”
โจอี้ก้มหัวอีกครั้งแล้วเดินออกไปพร้อมกับมีอาที่ได้รับงานจัดการเรื่องที่พักให้ผม
เมื่อทั้งสองคนจากไปหมดแล้ว รองหัวหน้ากิลด์กัลด์ก็ลุกขึ้นและล็อกประตูจากด้านใน
เอาล่ะ ในที่สุดก็ได้เวลาเริ่มประเด็นหลักแล้ว…
ตอนนี้ย๊าวยาว เหนื่อยจังเจ้าค่า~
{ไทยพาณิชย์ นางสาว ทยาธร อนันต์มานะ 162-246448-2}
สนับสนุนเป็นกำลังใจหรือจะเป็นค่าชานมไข่มุกให้คนแปลก็ได้ทั้งนั้นคะ (แต่ส่วนใหญ่น่าจะไปลงชานมหมด)
ที่อ่านจนถึงตรงนี้เพราะสนุกสินะคะ ฮี่~ แล้วเจอกันใหม่คะ