cat2auto | นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย PDF
  • หน้าหลัก
  • อ่านมังงะ
  • เว็บอ่านมังงะ
  • นิยายวาย [Yaoi]
  • Nekopost
  • Niceoppai
  • รออัพเดท
  • มังงะ18+
  • สล็อตเว็บตรง
Advanced
Sign in Sign up
  • หน้าหลัก
  • อ่านมังงะ
  • เว็บอ่านมังงะ
  • นิยายวาย [Yaoi]
  • Nekopost
  • Niceoppai
  • รออัพเดท
  • มังงะ18+
  • สล็อตเว็บตรง
  • Romance
  • Comedy
  • Shoujo
  • Drama
  • School Life
  • Shounen
  • Action
  • MORE
    • Adult
    • Adventure
    • Anime
    • Comic
    • Cooking
    • Doujinshi
    • Ecchi
    • Fantasy
    • Gender Bender
    • Harem
    • Historical
    • Horror
    • Josei
    • Live action
    • Manga
    • Manhua
    • Manhwa
    • Martial Arts
    • Mature
    • Mecha
    • Mystery
    • One shot
    • Psychological
    • Sci-fi
    • Seinen
    • Shoujo Ai
    • Shounen Ai
    • Slice of Life
    • Smut
    • Soft Yaoi
    • Soft Yuri
    • Sports
    • Tragedy
    • Supernatural
    • Webtoon
    • Yaoi
    • Yuri
Sign in Sign up
Prev
Next
สล็อตเว็บตรง

[นิยายแปล] เจ้าหญิงแวม Kyuuketsu hime wa barairo no yume o miru - ตอนที่ 10 บทที่ 1 ตอนที่ 10 การเจรจาล้มเหลว

  1. Home
  2. All Mangas
  3. [นิยายแปล] เจ้าหญิงแวม Kyuuketsu hime wa barairo no yume o miru
  4. ตอนที่ 10 บทที่ 1 ตอนที่ 10 การเจรจาล้มเหลว
Prev
Next

ตอนที่ 10 การเจรจาล้มเหลว

แม้ว่านี่จะเป็นแค่ครั้งที่สอง แต่ห้องของกิลด์มาสเตอร์กลับให้ความรู้สึกคุ้นเคยกับผมแล้ว ที่นั่งอยู่ภายในนั้นมีหัวหน้ากิลด์คอนราด และชายนักผจญภัยสวมเกราะหนัง ดูอายุราวๆ 25 ปีนั่งอยู่ด้วย

 

สีหน้าของคอนราดเคร่งเครียดมาก แต่พอเขาเห็นผมเข้าห้องมาพร้อมกับกัลด์ เขาก็ดูผ่อนคลายลงนิดหน่อย

 

“–เยี่ยมเลย ทุกคนมาครบแล้วสินะ”

 

ครั้งนี้ผมไม่เห็นคนเฝ้าประตูเลย คงคิดว่าครั้งนี้ไม่จำเป็นละมั้ง แล้วก็ ถึงจะพูดว่า “ทุกคน” ก็เถอะ แต่ก็มีแค่ 4 คนเองนะ? ถึงดูบรรยากาศแล้วคงไม่ใช่การชวนมาเล่นไพ่นกกระจอกแน่ๆ

 

“เชิญนั่งลงก่อนเถอะครับ เรื่องราวมันค่อนข้างยุ่งยากนะ–”

 

ขณะที่พูดอยู่ คอนราดก็ลุกขึ้นยืนแล้วก็ชงชากลิ่นหอมใส่แก้ว สำหรับกัลด์คงจะทำเรื่องละเอียดอ่อนพวกนี้ไม่ไหว หรือว่านี่คือการใช้คนให้ถูกงานงั้นสินะ? –คอนราดวางแก้วไว้ตรงหน้าผม ก่อนจะกางกระดาษแผ่นใหญ่บนโต๊ะทำงานออกกว้าง (ไม่เหมือนกับในเกม กระดาษที่นี่เป็นเรื่องธรรมดา ส่วนพวกกระดาษหนังนับเป็นของเก่าแก่ไปแล้ว)

 

กระดาษที่เขากางออกนั้นเป็นแผนที่ของเมืองและพื้นที่รอบๆ

 

มันเป็นแผนที่ที่ทำมาง่ายสุดๆ ทั้งระยะ สถานที่ และจุดสังเกตต่างเพี้ยนไปค่อนข้างมาก ผมไม่รู้ว่าเป็นเพราะเทคโนโลยีการสำรวจที่ย้งล้าหลังอยู่ หรือเป็นเพราะความลับทางการทหาร แต่อย่างน้อยจุดสำคัญต่างๆก็ยังถูกต้อง  

 

สำหรับผมแล้ว ผมมีสกิล [ออโต้แมพปิ้ง] ที่เป็นหัวใจของเพลย์เยอร์อยู่(สกิลนี้จะวาดแผนที่ในรัศมี 500 เมตรจากเพลย์เยอร์เป็นศูนย์กลาง แต่ว่าบางทีก็ไม่สามารถใช้ในดันเจี้ยนได้ หรือที่พิเศษอื่นๆได้) ก่อนที่ผมจะมาเมืองอาระ ผมก็ให้เทนไกบินรอบเมืองไปครั้งนึง เพราะงั้นตอนนี้ผมก็เลยมีแผนที่ที่เป็นเหมือน GPS อยู่ในหัวของผมเรียบร้อย

 

ถึงอย่างนั้นผมก็ไม่จำเป็นต้องเปิดเผยความลับออกไป ผมจึงทำเป็นดูแผนที่ด้วยความสนใจ

 

“ขอแนะนำตัวเขาคนนี้ก่อนแล้วกัน นี่คือแฟรงค์ นักผจญภัยแรงค์ C ที่สังกัดอยู่กับกิลด์ เขาเป็นหัวหน้าของกลุ่มนักผจญภัย ‘แอสตร้า’…ไม่สิ เคยเป็นนะ”

 

เมื่อได้รับการแนะนำตัวจากหัวหน้ากิลด์ ใบหน้าของชายผู้มีนามว่า แฟรงค์ ก็บิดเบี้ยวด้วยความเศร้าโศก

 

เมื่อมองดูชุดเกราะของเขาดีๆ ก็จะเห็นรอยกรงเล็บสดใหม่บนนั้นเต็มไปหมด ผิวหนังของเขาที่เผยออกมาผ่านรูพวกนั้นมีสีสันที่ต่างออกไป ดูเหมือนรอยแผลจะพึ่งถูกรักษาไปโดยเวทย์รักษาสินะ

 

“แฟรงค์ คุณหนูน้อยผู้นี้คือ.. ท่านหญิงสูงศักดิ์ที่กำลังพักอยู่ในเมืองของเรา และในเมื่อนี่เป็นเรื่องเร่งด่วน ข้าจึงขอให้ท่านมาอยู่ตรงนี้ด้วย”

 

แฟรงค์มองผมอย่างข้องใจในการแนะนำตัวที่ดูไร้พิษภัยนั่น ก่อนจะก้มหัวลงให้ผมอย่างเงียบๆเพราะคิดว่าเป็นหน้าที่ ผมจึงทำเป็นไม่เห็นและมองข้ามเขาไป

 

คำทักทายและความสุภาพจะไร้ประโยชน์หากใจไม่คิดอยากจะทำด้วย และการทำเรื่องไร้ประโยชน์มันไม่ได้อะไรนะ

 

บรรยากาศไม่เป็นมิตรเล็กๆก่อตัวขึ้นระหว่างเราสองคน หัวหน้ากิลด์คอนราดหันความสนใจมาทางผม

 

“ท่านหญิง ท่านรู้จักปรากฏการ์ณ ‘สแตมพีด(การแตกตื่น)’หรือเปล่า?”

 

ผมไม่รู้จักสแตมพีดอื่นนอกเหนือจากรายการสแตมพีดเวสลิงของนักมวยปล้ำอาชีพหรอกนะ

 

ผมเอียงคอ คอนราวจึงอธิบายต่อราวกับคาดการ์ณไว้แล้ว

 

“มันคือการอพยพครั้งใหญ่ของมอนสเตอร์ที่เกิดเป็นระยะในมหาพงไพร โดยประมาณแล้วก็ 1 ครั้งในทุก 15 ปี แต่ทว่าในบันทึกที่มีอยู่ บางครั้งก็เกิดขึ้นซ้ำภายในไม่กี่เดือนด้วย”

 

เขาชี้ไปยังจุดนึงในแผนที่ ตรงจุดนั้นมีสัญลักษณ์รูปต้นไม้อยู่ ค่อนข้างห่างจากเมืองอาระไปทางเหนือ-เหนือเฉียงตะวันออก ตรงเกือบสุดขอบของแผนที่ อันที่จริง ทิศนั่นนะอยู่ค่อนไปทางตะวันออกประมาณ 7 องศา แล้วระยะจากเมืองไปถึงขอบป่าก็ราวๆ 30 กิโล ที่ใกล้กว่าในแผนที่มาก

 

“หืม รู้สาเหตุรึเปล่า?”

 

“ครับ พอจะรู้อยู่ มีอยู่ 3 เหตุผลหลักๆ

 

อย่างแรกคืออาหารไม่เพียงพอ ไม่ว่าจะเพราะภายในป่าไม่เพียงพอ หรือจำนวนของมอนสเตอร์ขยายพันธ์มากเกินไปจนเกิดการแออัด

 

อย่างที่สองคือการแย่งชิงอำนาจภายในป่า กลุ่มของผู้แพ้จะถูกขับไล่ออกมาแล้วเข้าโจมตีหมู่บ้านรอบๆ ไม่ว่าจะอย่างไหนก็เป็นมอนสเตอร์อ่อนแอ แม้จะมีจำนวนมาก แต่พวกเราก็สามารถขับไล่ไปได้โดยไม่มีปัญหาอะไร

 

เหตุผลข้อที่สามคือปัญหาหลัก คือเมือมีตัวตนที่สามารถควบคุมและสั่งการเหล่ามอนสเตอร์ในป่าได้”

 

“สั่งการ? ก็คือเหมือนบอสพื้นที่สินะ”

 

“ไม่รู้ว่าคืออะไรหรอกนะ? แต่มันไม่ใช่แค่กลุ่มเล็กๆเลย แต่เป็นมอนสเตอร์ที่พัฒนาไปมากพอจนสามารถผูกขาดทั้งป่าได้ อีกนัยนึง พวกมันถูกเรียกว่า ‘จอมราชา’ มันมีหลากหลายประเภท แต่ทว่าแต่ละตัวนั้นแข็งแกร่งจนน่ากลัว เป็นมอนสเตอร์ที่จัดการไม่ได้ง่ายๆ

 

อันที่จริงสมัยข้ายังเด็ก สแตมป์พีดเมื่อครั้งนั้นเกิดขึ้นเพราะว่า ‘ราชา’ ของเผ่า ‘เทรนท์’ เจ้านั่นใช้รากจากใต้ดินดูดเลือดนักผจญภัยนับร้อยชีวิตไปรวดเดียวเลย”

 

รองหัวหน้ากัลด์ขมวดคิ้วพลางพูดไปด้วย และผมที่เกิดสนใจขึ้นมาหน่อยๆ

 

“ว้าว นายปราบมันหรอ? ทำได้ดีนี่”

 

“เพราะพื้นฐานแล้วมันคือมอนสเตอร์ไม้นั่นแหละ ร่างหลักมันช้าและอ่อนแอต่อไฟ พวกเราใช้ดินปืนและเวทย์ไฟจากนักเวทย์ทั้งหมด และผู้ใช้ภูตก็คอยตัดรากมันจากระยะไกล ในตอนสุดท้าย A แรงค์ทั้งหมดก็โจมตีและเผามันจนกลายเถ้าถ่าน”

 

“อืม มันก็เป็นอีกวิธีในหารปราบมันลงละนะ ยังไงซะมันก็อยู่ในระดับบอสประจำพื้นที่ เราว่าควรมอบหมายงานนี้ให้ใครซักคนที่ปราบมันได้ด้วยตัวคนเดียวจะดีว่า หรือไม่ก็แรงค์ S ในตำนานนั่นไง”

 

“เธอคิดว่าจะมีแรงค์ S บนโลกนี้ซักกี่คนกันเชียว? มันจะเสียเวลาและเงินทองไปขนาดไหนเพื่อที่จะเรียกเจ้าพวกนั้นมากัน?” แฟรงค์ตำหนิผมอย่างโกรธเคือง

 

โอ้ แรงค์ S มีอยู่ด้วยละ! ดูท่าจะน่าสนุกขึ้นนิดนึงแล้วนะเนี่ย

 

“ยังไงก็เถอะ ในครั้งนี้คู่ต่อสู้ไม่มีจุดอ่อนแบบนั้น แถมยังมีความคล่องตัวสูง เรื่องนี้ก็เลยยุ่งยากขึ้นอีก”

 

คอลลาร์ดเดาะลิ้นอย่างหงุดหงิด

 

อ๋อ~ มันเป็นแบบนั้นสินะ

 

จากการสนทนานี้ ‘สแตมป์พีด’ จะเกิดขึ้นเมื่อ ‘ราชา’ คนใหม่ถือกำเนิดขึ้น

 

“ปัญหานี้เริ่มขึ้นเมื่อ 1 สัปดาห์ที่แล้ว มันเริ่มจากการติดต่อกับหมู่บ้านบุกเบิกที่อยู่ติดกับบริเวญชายป่าหายไป”

 

ปกติแล้ว พื้นที่ห่างไกลจะไม่ค่อยได้รับความสนใจอยู่แล้ว แต่เมื่อพ่อค้าเร่ที่ออกจากหมู่บ้านใกล้เคียงก็ไม่กลับมาเช่นกัน ข่าวก็แพร่กระจายไปยังหมู่บ้านใกล้เคียงว่ามีสิ่งผิดปกติเกิดขึ้น

 

ไม่นานจากนั้น หมู่บ้านใกล้เคียงก็ถูกตัดขาดการติดต่อตามไปด้วย กิลด์ที่พึ่งจะเริ่มขยับตัวทำงานได้ ก็ได้ส่งนักผจญภัยสามกลุ่ม โดยเริ่มจากแฟรงก์และกลุ่มแอสตร้าของเขาเพื่อทำการสืบสวนภาคสนาม

 

ผลลัพธ์นั่นก็คือ ทั้งกลุ่มถูกสังหารเหี้ยน เหลือเพียงแค่แฟรงค์

 

“..แม่งคือนรกชัดๆ ต่อให้จะวิ่งสุดแรงแค่ไหน พวกพ้องของข้าก็โดนพวกมอนสเตอร์นั่นไล่ทันทีละคนๆ พวกมันกินอย่างตะกละทั้งเป็นๆอยู่ด้วย… ปฏิหาร์ยแล้วที่ข้ายังรอดมาได้”

 

ภายในดวงตาของแฟรงค์มีแต่ความมืดหม่น เขาค่อยๆเล่าเรื่องราวตอนนั้นออกมาทีละเล็กละน้อย

 

“จำนวนของพวกมันมีเป็นพัน บางทีอาจจะใกล้ถึงหมื่นแล้วก็ได้ เห็นว่ามีออร์คอยู่ใจกลาง ข้ากล้าบอกเลยว่ามันคือ ‘ออร์คคิง’แน่”

 

จากคำอธิบายของกัลด์ทำให้ผมแอบคิดใจในว่านี่มันเกมไล่จับหรือไง แต่ผมไม่ได้พูดออกไปเพราะมันคงจะไม่ดีแน่ๆ(เป็นมุกของยุ่นคะ มันคือเกมยักษ์ไล่จับ แล้วออร์คคิง = ยักษ์ คะ)

 

แล้วก็นะ…

 

“ แล้วเรียกเรามาทำไม?”

 

บอกตามตรงเลยนะ นี่ไม่ใช่เรื่องของผมเลยซักนิด ผมตั้งใจจะออกจากเมืองวันนี้ด้วยซ้ำ

 

หัวหน้ากิลด์ทั้งสองส่งสายตาไม่สบายใจให้กันต่อคำพูดนั้น

 

“…ขอถามความเห็นท่านได้ไหมครับ ท่านคิดว่าควรทำอย่างไรในสถานการ์ณนี้ดี?”

 

คอนราดถามผมมาแบบนั้น “อืม–” ผมกำมือมารองคางขณะที่กำลังครุ่นคิด

 

“อาจจะลองคุยดูก่อนละมั้ง?”

 

“อย่ามาพูดเรื่องโง่ๆ! มอนสเตอร์มันคุยด้วยได้ซะที่ไหน!”

 

แฟรงค์ตะโกนขึ้นมาด้วยความเหลืออด

 

เอ๋ แต่ผมว่าน่าจะได้นะ เพราะมีตัวนึงนำฝูงใหญ่มานี่ มันจะต้องมีสติปัญญาระดับนึงเลยเพื่อที่จะสื่อสารต่อกันภายใน เพราะงั้นสิ่งแรกที่ผมคิดได้ก็คือการพูดคุยนะสิ

 

“ข้ายังไงก็ไม่ไหวแน่ สำหรับมอนสเตอร์พวกนั้น มนุษย์เป็นเพียงอาหาร อันที่จริง ในหมู่บ้านที่ถูกทำลายไป ไม่ว่าจะเด็กหรือคนแก่ ต่างก็ถูกกินจนไม่เหลือกระดูกด้วย”

 

แม้กระทั่งกัลด์ก็ยังส่ายหัวหรอเนี่ย

 

หืมม แต่ตรงนี้มีเจ้าหญิงแวมไพร์ที่ใช้เหตุผลด้วยได้ง่ายๆอย่างผมอยู่ด้วยนะ การยอมแพ้ก่อนจะได้ลองมันดูไม่ถูกต้องเลยนา

 

เอาละ มาจำลองสถานการ์ณกันหน่อย

 

มอนสเตอร์ของผมกำลังจะโจมตีเมืองมนุษย์

แล้วก็มีตัวแทนมาขอยกธงขาวให้

อะไรละนั่น

มนุษย์ละ

อื้ม ลองชิมกันเถอะ

 

….ขอโทษที คงไม่มีทางคุยกันได้แหละนะ ได้แค่เป็นของทดลองชิมเท่านั้นแหละ

 

“งั้นก็คงต้องเอาจำนวนเข้าสู้กับจำนวน กองกำลังทหารมีไว้เพื่อการนี้ไม่ใช่หรอ แล้วทำไมไม่เรียงกองทัพมาให้ช่วยปราบละ?”

 

“แน่นอนว่าพวกเราได้ร้องขอการสนับสนุนจากประเทศแล้วครับ แต่ว่ากองทัพเคลื่อนพลมาไม่ได้ง่ายๆ หลังจากได้รับการอนุมัติจากรัฐสภาแล้ว จะต้องใช้เวลาอย่างน้อยหลายสัปดาห์ในการรวบรวมกองกำลังที่กระจายกันอยู่ทั่วประเทศ ตั้งแต่เริ่มจัดทัพจนถึงออกเดินทาง ไม่มีทางที่กองกำลังจะพร้อมได้ทันเวลาแน่”

 

อุหวา โครตยุ่งยากเลย ไม่ใช่ว่าคำสั่งของราชาก็เพียงพอที่จะเคลื่อนไหวแล้วหรอกหรอ? เป็นอาณาจักรเลยนี่นา  

 

ในกรณีของผม ไม่ใช่แค่กองทัพเท่านั้น แต่เจ้าของร้านราเมงในย่านการค้าก็กระตือรือร้นที่จะทำสงครามก่อนที่ผมจะทันได้พูดอะไรด้วยซ้ำ

 

“ถ้างั้น ก็มีแค่พึ่งตัวเอง ปิดล้อมเมืองและอดทนจนกว่ากองทัพจะมาถึงงั้นเหรอ?”

 

“นั่นก็ไม่ไหวครับ อย่างที่รู้กันว่าเมื่องนี้ชื่อว่าเป็นรัฐอิสระ เรามีแต่กำแพงขนาดเล็กเท่านั้น”

 

“งั้นทำไมไม่ยอมแพ้แล้วหนีไปล่ะ”

 

“–ไอ้สารเลว นี่แกคิดจะล้อเล่นตั้งแต่ต้นจนจบเลยใช่ไหมวะ! พวกพ้องข้าต้องเสียสละไปเท่าไหร่เพื่อปกป้องเมืองนี้!”

 

แฟรงค์ที่โกรธจัดลุกขึ้นยืนหมายจะคว้าตัวผมไว้ แต่หัวหน้าและรองหัวหน้ากิดล์ก็รีบร้อนเข้ามาหยุดเขา และเมื่อทั้งหมดเหลือบมองผมก็สะดุ้งจนหงายท้องลงโซฟาด้วยความเสียขวัญ

 

“…ถามว่าเราล้อเล่นรึเปล่าอย่างนั้นหรอ? เราต่างหากที่ต้องถามว่าพวกนายต่างหากที่กำลังล้อเล่นเราอยู่

 

เป็นบ้าอะไรถึงต้องไปบุกเบิกหมู่บ้านในที่ๆที่เกิดการสแตมพีดอยู่ตลอด? ต่างกับการไปสร้างบ้านบนหน้าผาที่มีหินร่วงใส่เรื่อยๆ ไม่ก็สร้างบนเกาะที่มีน้ำท่วมตลอดตรงไหนกัน

 

–ถึงแม้จะมีเหตุผลว่าทำไม แต่อย่างน้อยพวกนายก็ควรมีการเดินตรวจตราเป็นประจำ หรือไม่ก็สร้างกำแพงป้องกันใช่ไหมละ? แล้วได้ทำอะไรกันบ้างไหม พวกนายคงจะภูมิใจมากที่ได้ทำดีที่สุดแล้วงั้นสิ  

 

แล้วไงต่อ หมู่บ้านเหล่านั้นก็ต้องมากลายเป็นเครื่องสังเวย แล้วมาถึงตานายที่ต้องไปสำรวจ.. ที่ในที่สุดก็ไปซะที ทำไมไม่ไปถามคนในหมู่บ้านที่ตายไปนั่นละ? การตายของพวกนายช่วยเตือนพวกเราว่าอันตรายกำลังใกล้เข้ามาแล้วนะ เราละสงสัยจริงๆว่าจะตอบยังไง”

 

บอกตามตรงเลยนะ ว่าผมโมโหมากๆ

 

คนพวกนี้คิดว่าชีวิตเป็นอะไรกัน?

 

“…ท่านพูดถูก ทุกสิ่งมันเกินการควบคุมไปมาก แต่ทว่า ในฐานะผู้นำของกิลด์นักผจญภัยเมืองอาระ ข้ามีหน้าที่และความรับผิดชอบที่จะต้องปกป้องเมืองนี้ ข้าจะขอพูดอย่างชัดแจ้งว่าข้าอยากจะขอความช่วยเหลือจากท่าน”

 

หัวหน้ากิลด์ คอนราด โค้งศีรษะลงด้วยท่าทางเจ็บปวด แต่ความโกรธของผมไม่ลดลงเลย อันที่จริง ผมหัวเสียสุุดๆ

 

“แล้วเราจะได้อะไรคืนมาละ? เรามีเงินทอง มีทรัพย์สมบัติ เราไม่ต้องการสถานะใด ไม่ต้องการเกียรติยศที่พวกนายชอบหนักหนา แล้วพวกนายจะให้อะไรเราได้?”

 

“…ขอเพียงศีรษะของข้าจะทำให้ท่านพอใจได้ ก็ได้โปรดช่วยปกป้องผู้คนในแผ่นดินนี้ด้วยเถอะ!”

 

ไ อ้ ห ม อ นี่…!!!

 

เขาไม่เข้าใจเลยว่าทำไมผมถึงโกรธ การยอมสละชีวิตไปง่ายๆ แบบนี้มันมีประโยชน์ตรงไหน!!

 

“…นายพูดแบบนั้นไม่ใช่ในฐานะประชาชนทั่วไป แต่ในฐานะตัวแทนของเมืองอาระและหัวหน้ากิลด์นักผจญภัยสินะ?”

 

“ครับ”

 

“กิลส์ เดอ เรยส์ [กุหลาบแห่งคนบาป]!”

 

พร้อมกับเสียงเรียก ผมลุกพรวดพร้อมกับดาบยาวสำดำสนิท แต่ก็โปร่งแสงเอาไว้ในมือ มันคือดาบรักของผม ชื่อของมันคือ กิลส์ เดอ เรยส์ [กุหลาบแห่งคนบาป]

 

ผมเมินทั้งสามคนที่ตาค้าง ผมชี้ดาบไปยังหัวหน้ากิลด์คอนราด

 

“คอนราด เราจะแนะนำตัวกับเจ้าอีกครั้ง เรามีนามว่า ฮิยูกิ ข้าคือผู้เป็นนิรันดร์และผู้ปกครองหนึ่งเดียวแห่งอาณาจักรอิมพีเรียลคริมสัน(จักวรรดิสีชาด) ข้าผู้ได้รับการยกย่องให้เป็นบรรพบุรุษของเหล่าทวยเทพ! เจ้าคิดว่าคอผอมๆของเจ้าจะสมกับข้างั้นหรือ? หรือคิดว่าข้าจะสงสารหรือเห็นใจเจ้ากัน ข้าประเมินเจ้าต่ำไปจริงๆ”

 

ปลายดาบ กิลส์ เดอ เรยส์ [กุหลาบแห่งคนบาป] ที่จ่ออยู่ตรงใบหน้าไร้สีเลือดของคอนราดเคลื่อนออกไป

 

“จงเลือกซะ เพราะข้าจะปกป้องเพียงผู้อยู่ใต้ตัวข้าเท่านั้น! จงมอบเมืองนี้ ผู้คน และชีวิตไว้ใต้ดาบนี้ซะ แล้วข้าจะปกป้องมันด้วยทั้งหัวใจและจิตวิญญาน แต่หากเจ้าทำไม่ได้ งั้นก็สมควรแล้วที่ดาบเล่มนี้จะชี้ใส่ เราไม่สนหรอกนะว่าอะไรจะเกิดขึ้น”

 

“……” คอลลาร์ดแสดงสีหน้าขื่นขม แต่แล้วเขาก็ส่ายหัวอย่างอ่อนแรง “ข้าทำไม่ได้ เมืองแห่งนี้คือรัฐเสรี พวกเราไม่สามารถยอมจำนนต่อท่านได้ แม้ว่าท่านจะเป็นผู้ที่อาจเป็นพระเจ้าก็ตาม”

 

“อย่างนั้นหรอ?”

 

อารมณ์พลุ่งพล่านของผมเย็นลง เมื่อได้สูดหายใจเข้าลึกๆ พูดให้ชัดคือ สติของผมกลับมาแล้ว

 

…รู้สึกเหมือนว่า ตะกี้ ผมใส่แรงทั้งร่างเพื่อพูดสุนทรพจน์จูนิเบียวที่น่าอายมากๆไป แต่นั่นคงเป็นแค่จินตนาการของผมใช่มั้ย? จริงสิ มาใส่สิ่งนี้ไว้ในกล่องประวัติศาสตร์อันดำมืดที่ผมจะไม่มีวันเปิดอีกเป็นอันขาดกันเถอะ

 

[ช่างโง่เขลาเหลือเกินที่ปล่อยให้ความกรุณาขององค์หญิงสูญเปล่า]

 

เทนไกหัวเราะเยาะอยู่ภายในร่างของผม แต่หยุดนะ อย่าขุดเรื่องนี้ขึ้นมาอีกเลยนะ!

 

ในตอนนั้นเอง ก็มีเสียงเคาะประตูด้วยความเร่งรีบ และเจ้าหน้าที่กิลด์ก็วิ่งพรวดพราดเข้ามา

 

“ยะ-แย่แล้วครับ! ฝูงมอนสเตอร์จำนวนมหาศาลอยู่ห่างจากเมืองนี้อยู่ประมาณ 2 วันครับ!”

 

คำพูดของเขาทำให้หัวหน้ากิลด์ คอนราด และ รองหัวหน้ากิลด์ กัลด์ กลับมามีสติอีกครั้ง

 

ส่วนแฟรงค์… เขาตาเหลือกไปแล้วเรียบร้อย (เขาคงเครียดและความตกใจจากการตายของพวกพ้องแหละน่า)

 

หลังจากเก็บ กิลส์ เดอ เรยส์ [กุหลาบแห่งคนบาป] แล้ว ผมก็เดินไปยังประตูที่เปิดคาเอาไว้

 

“ดูท่าว่าเวลาหนีก็ไม่มีแล้วสิ เราเองก็อยากจะเห็นพลังของมอนสเตอร์กับนักผจญภัยที่ดินแดนแห่งนี้เหมือนกัน งั้นจะคอยชมอยู่ห่างๆแล้วกันนะ”

 

ผมโบกมือลาก่อนจะออกจากห้องไป

 

-*****-*-*-*-*-*-*-*-*

ข้อความจากผู้แต่ง

จากบทส่งท้ายครั้งที่แล้ว ฉันได้รับความคิดเห็นมากมายที่บอกว่าดีแล้วที่เธอไม่ได้ลงเอยกับโจอี้ และโจอี้ก็สมควรโดนแล้ว

 

โจอี้ที่น่าสงสาร….

 

“Gilles de Rais, the Rose Sinner” เป็นหนึ่งในชุดอุปกรณ์ของ Hiyuki  

 

มันเป็นดาบระดับสูงสุดที่เสริมพลัง(enhanced)มาจนเต็ม 10 ครั้ง ซึ่งสร้างขึ้นโดยการทำลายดาบยาวระดับสูงสุดกว่า 1,000 เล่มที่สามารถสร้างได้ด้วยทักษะการตีเหล็ก  

 

ผู้ที่มีทักษะตีเหล็กและช่างทองได้ทำงานร่วมกันเพื่อปรับแต่งรูปลักษณ์ของดาบเล่มนี้  

มันเป็นอุปกรณ์สุดเลิศหรูสวยงามที่มีด้ามจับสีทองพร้อมประดับทับทิมและกุหลาบ

Stampede Wrestling เป็นรายการทีวีมวยปล้ำอาชีพของแคนาดา 

ฮิยูกิจังดูรายการมวยปล้ำเฉย ผิดคาดนะเนี่ย

 

ตอนนี้ใส่ความเบียวเข้าไปเต็มที่เลยคะ คำพูดตอนเบียวก็เลยละการใช้ นาย  เรา แต่เป็น ข้า และ เจ้า เลย จะได้สัมผัสความเบียวอย่างสุดๆของนาง :v 

 

 

{ไทยพาณิชย์ นางสาว ทยาธร อนันต์มานะ 162-246448-2}

//ไหว้ย่อ

Prev
Next
MY READING HISTORY
You don't have anything in histories
POPULAR MANGA
กระบี่จงมา
กระบี่จงมา
บทที่ 992.2 ดอกไม้แดงบนภูเขาเขียวดุจเพลิงลุกไหม้ 27 พฤศจิกายน 2024
บทที่ 992.1 ดอกไม้แดงบนภูเขาเขียวดุจเพลิงลุกไหม้ 27 พฤศจิกายน 2024
323r
ท่านอ๋องผู้โหดร้ายกับหมอปีศาจ
ตอนที่ 2138 จะทำลายพวกเจ้า 27 พฤศจิกายน 2024
ตอนที่ 2137 เทือกเขาแห่งความตาย 27 พฤศจิกายน 2024
เทพกระบี่มรณะ (chaotic sword god)
เทพกระบี่มรณะ (chaotic sword god)
ตอนที่ 2528 - การตัดแขน 27 พฤศจิกายน 2024
ตอนที่ 2527 - ชำระหนี้แค้น 27 พฤศจิกายน 2024
61d44445LSpjhqcZ
เปิดระบบสุดโกงอัปสกิลหมอ
บทที่ 869 ที่หลบภัย 27 พฤศจิกายน 2024
บทที่ 868 ผมซับเหงื่อให้ครับ 27 พฤศจิกายน 2024
Full-time-Artist-ใครว่าผมไม่เหมาะเป็นศิลปิ
Full-time Artist ใครว่าผมไม่เหมาะเป็นศิลปิน
ตอนที่ 775 อาภรณ์หลวมโพรกมิเสียดาย เพื่อเจ้าข้าผ่ายผอมยอมอิดโรย 27 พฤศจิกายน 2024
ตอนที่ 774 ผีเสื้อรักบุปผา 27 พฤศจิกายน 2024
นิยายแปล-~จ้าวนักสู้เกิดใหม่ทั้งทีดันเป็นนางร้าย-~-ลูน่าอยากรีไทร์แล้ว
[นิยายแปล] ~จ้าวนักสู้เกิดใหม่ทั้งทีดันเป็นนางร้าย ~ ลูน่าอยากรีไทร์แล้ว
ตอนที่ 53 - 030:แผนการฝึกนักบุญ⑦ ค้นหาศัตรู 27 พฤศจิกายน 2024
ตอนที่ 52 - 029:แผนการฝึกนักบุญ⑥ ก่อนการต่อสู้ 27 พฤศจิกายน 2024
Here for more Popular Manga

Comments for chapter "ตอนที่ 10 บทที่ 1 ตอนที่ 10 การเจรจาล้มเหลว"

MANGA DISCUSSION

ใส่ความเห็น ยกเลิกการตอบ

You must Register or Login to post a comment.

  • HOME
  • BLOG
  • CONTACT US
  • ABOUT US
  • COOKIE POLICY

© 2025 Madara Inc. All rights reserved

Sign in

Lost your password?

← Back to cat2auto | นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย PDF

Sign Up

Register For This Site.

Log in | Lost your password?

← Back to cat2auto | นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย PDF

Lost your password?

Please enter your username or email address. You will receive a link to create a new password via email.

← Back to cat2auto | นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย PDF