[นิยายแปล] ทั้งที่ติดร่างแหไปกับการอัญเชิญผู้กล้า แต่ต่างโลกนั้นแสนสงบสุข - ตอนที่ 2
เนื่องจากว่ากำลังสับสนอยู่เลยไม่รู้สึกตัว เลยไม่รู้ว่าตั้งแต่เมื่อไรที่ตรงหน้านั้นก็มีชาฝรั่งที่คุณลูน่ารินไว้ให้วางไว้อยู่ ก็เลยลองดื่มดูสักอึก
บอกตามตรงก็ไม่รู้หรอกนะว่าชาฝรั่งนี่น่ะมันดีหรือไม่ดี แต่คงเป็นเพราะคอแห้งจากการมาเจอสถานการณ์อันแสนผิดปกติโดยไม่คาดคิด ก็เลยรู้สึกว่ามันอร่อยเป็นพิเศษ
“……เป็นชาสมุนไพรที่อร่อยมากค่ะ”
“เป็นเกียรติที่ได้รับคำชมค่ะ ท่านคุสุโนกิ”
ดูเหมือนจะไม่ใช่ชาฝรั่งแต่เป็นชาสมุนไพรแฮะ ไม่เห็นจะเข้าใจเลยสักนิดเรื่องหรูหราแบบนั้นน่ะ……
“เช่นนั้น มาอธิบายใหม่กันอีกครั้งกันเถอะค่ะ ตามที่ได้พูดไปเมื่อครู่ ว่าในทุกๆ10ปีนั้นพวกเราได้ทำการเชิญท่านผู้กล้ามาจากโลกของท่านทั้ง3 ด้วยเหตุนั้น เรื่องความแตกต่างที่มีในโลกของทางนี้และต่างโลกนั้นจึงได้มีความเข้าใจเป็นอย่างดี ดังนั้นจะขออธิบายให้อย่างเป็นขั้นเป็นตอนนะคะ”
แบบนี้นี่เอง ก็คงจะจริงล่ะนะถ้าตั้งแต่เมื่อ1000ปีก่อนมีการเชิญคนจากต่างโลกมาทุกๆ10ปี ลองคำนวนง่ายๆดูก็หมายความว่ามีชาวต่างโลกกว่า100คนเคยมายังโลกแห่งนี้มาก่อนแล้วสินะ หรือก็คือเรื่องที่ว่าควรจะอธิบายอะไรให้ฟังบ้าง พวกคุณลิเลียนั้นรู้ดีกันอยู่แล้ว……แต่ครั้งนี้มีพวกฉันที่เป็นเหมือนสิ่งผิดปกติอยู่ด้วย กับเรื่องที่ต้องอธิบายให้ท่านผู้กล้านั้นจึงอาจจะต่างกันก็ได้ แต่ใจความหลักๆก็คงเป็นเรื่องเดียวกันล่ะมั้ง?
“ก่อนอื่นก็เกี่ยวกับเรื่องช่วงเวลาใน1ปีค่ะ ในปฏิทินของโลกนี้นั้นจะเป็นเดือนไฟ เดือนน้ำ เดือนไม้ เดือนดิน เดือนลม เดือนแสงตามลำดับ พอถัดจากเดือนแสงก็จะนับเดือนไฟต่อถึงเดือนลมอีกครั้ง จากนั้นในเดือนสุดท้ายก็จะเปลี่ยนจากเดือนแสงเป็นเดือนนภาค่ะ ส่วนจำนวนวันนั้นจะมี30วันเท่ากันหมด 1ปีจึงมี360วันนะคะ แล้วก็วันนี้เป็นวันที่30เดือนนภา เป็นวันที่เปลี่ยนเข้าสู่ปีใหม่ค่ะ”
หรือก็คือเป็นเดือนไฟ เดือนน้ำ เดือนไม้ เดือนดิน เดือนลม เดือนแสง เดือนไฟ เดือนน้ำ เดือนไม้ เดือนดิน เดือนลม เดือนนภาที่เปลี่ยนไปตามลำดับแล้วก็1ปีมี360วันสินะ ก็ถือว่าค่อนข้างดีอยู่นะเนี่ยที่เรื่องสัมผัสรับรู้ส่วนใหญ่ยังเหมือนโลกเดิมที่เคยอยู่มาก่อน
“ด้วยเหตุนี้วันที่ทุกท่านจะได้กลับไปยังโลกเดิมได้นั้น จะเป็นวันที่30เดือนนภาในครั้งหน้าค่ะ แล้วต่อไปก็เรื่องเวลา ในเรื่องนี้ได้ยินมาว่าเหมือนกันทุกประการค่ะ หรือก็คือ1วันมี24ชั่วโมงนะคะ จนถึงตรงนี้มีคำถามอะไรรึเปล่าคะ?”
“ไม่ครับ ไม่เป็นไร”
“เช่นนั้นต่อไปก็เกี่ยวกับค่าเงินตรา สกุลเงินในโลกนี้นั้นจะมีเหรียญ1R เหรียญเหล็ก เหรียญทองแดง เหรียญเงิน เหรียญทอง เหรียญทองคำขาวทั้งหมด6ชนิด ส่วนหน่วยเงินนั้นจะเรียกว่าR(ริร่า)ค่ะ เหรียญ1Rนั้นจะมีค่า1R เหรียญเหล็ก10R เหรียญทองแดง100R เหรียญเงิน1000R เหรียญทอง10000R แล้วก็เหรียญทองคำขาว100000R ส่วนรายได้ต่อเดือนโดยทั่วไปของชาวเมืองจะอยู่ที่ประมาณ2000Rถึง4000Rล่ะนะคะ”
ถ้างั้นเมื่อลองมาเทียบกับโลกก่อนหน้านี้ดู 1Rก็คงจะประมาณ100เยน ส่วนหน่วยเงินที่น้อยกว่านั้นเอาเป็นว่าให้มันไม่มีอยู่ไปเลยก็ได้มั้ง? แล้วก็ต้องใช้เหรียญเงิน2-3เหรียญต่อเดือน รู้สึกว่าถ้าหากมีเหรียญทองสัก4เหรียญต่อปีก็คงสามารถใช้ชีวิตได้อย่างสบายเลยล่ะมั้ง? อืม ไม่เป็นไร สมองยังพอตามทันอยู่
“อย่างไรก็ตามกับทุกท่านนั้น จะขอมอบเหรียญเงิน50เหรียญ——มอบ50000Rให้แต่ละท่าน เชิญเอาไปใช้เที่ยวชมและอื่นๆตามอัธยาศัยได้เลยค่ะ แล้วก็เนื่องจากเหรียญทองกับเหรียญทองคำขาวนั้นไม่สามารถใช้กับพวกร้านค้าที่มีราคาย่อมเยาอย่างพวกแผงลอยได้ จึงได้เตรียมเป็นเหรียญเงินไว้ให้ค่ะ”
“พรวด!?”
““เอ๊ะ!?””
จากคำพูดของคุณลิเลียที่เอ่ยออกมาพร้อมกับรอยยิ้มนั้น คุณลูน่าก็ทำการเรียงถุงสวยๆสำหรับใส่เหรียญไว้ที่ตรงหน้าของพวกฉัน
50000R ถ้าเทียบเป็นเงินเยนก็ให้มาทีเดียว5ล้านเยนต่อคนกันเลย สมกับที่เป็นท่านดยุกจริงๆไม่มีครึ่งๆกลางๆเลยนะเนี่ย……
“อ๊ะ เอ่อ……นี่มันค่อนข้างที่จะ……”
“ความรู้สึกที่ว่ามันน้อยนั้นเข้าใจดีค่ะ เมื่อคิดว่าเป็นการที่ถูกอัญเชิญมายังต่างโลกแล้ว เรื่องที่ว่าสิ่งเหล่านี้ไม่เพียงพอต่อการที่จะขออภัยเลยนั้นทราบดีอยู่แล้วค่ะ”
“อ๊ะ ไม่ใช่……”
กลับกันเลยครับ นี่มันมากเกินไปแล้ว ก็จริงอยู่ว่าที่ว่าเป็นจำนวนเงินที่สามารถใช้ชีวิตได้โดยไม่ไร้ซึ่งอิสรภาพเป็นเวลา1ปี แต่ยังไงจู่ๆก็ให้เงินมากขนาดนี้กับคนที่เป็นแค่นักเรียนเนี่ยนะ? ได้รับมาก็มีแต่จะสับสนซะเปล่าๆ……
ไม่สิเดี๋ยวก่อนนะ ถ้ารวมพวกค่าใช้จ่ายประจำวันเข้าไปด้วย……จะว่าไปก็ยังไม่รู้มาตรฐานการใช้ชีวิตของโลกนี้ด้วยสิ กับการที่จะใช้ชีวิตให้เหมือนกับในโลกที่พวกฉันเคยอยู่นั้นอาจจะเป็นจำนวนเงินที่เหมาะสมแล้วก็ได้
นั่นสินะ ถึงจะบอกว่าขอรับประกันเรื่องอาหารเครื่องนุ่มห่มที่พักอาศัยก็ตาม แต่ก็คงไม่ได้จะให้ไปอยู่กับตระกูลดยุกอยู่แล้วคงให้ไปในที่พักที่ได้จัดเตรียมไว้ให้อะไรแบบนั้นแน่ มันต้องเป็นแบบนั้นอยู่แล้วสินะ
“แน่นอนว่า เรื่องอาหารเครื่องนุ่มห่มที่พักอาศัยนั้นมีการเตรียมแยกไว้ต่างหากให้ค่ะ แล้วทุกท่านเองก็ไม่ต้องมาชำระภาษีแต่อย่างใด เชิญเอาเงินนั้นไปใช้ในการท่องเที่ยวหรือกับสิ่งที่ต้องการได้เลยค่ะ”
ไม่รวมพวกค่าใช้จ่ายประจำวันอีกต่างหาก!? นั่นน่ะ ยังไงก็มากเกินไปนะนั่น!?
“ถะ ถ้าเป็นแบบนั้น มันจะไม่มากเกินไปหน่อยเหรอคะ?”
คุณคุสุโนกิพูดออกมาได้ดีมาก นั่นแหละใช่เลย สิ่งที่ฉันอยากจะพูดก็คือนั่นแหละ
“ท่านคุสุโนกิ ไม่จำเป็นต้องกังวลไปค่ะ กับฉันที่ได้ทำให้ทุกท่านต้องมาติดร่างแหแล้วนั้น ทำได้แค่ขออภัยในรูปแบบเช่นนี้เท่านั้นค่ะ ยังไงถึงจะใช้จนหมด……แล้วถ้าหากเกิดไม่พอขึ้นมา ในตอนนั้นก็จะเตรียมเพิ่มให้ค่ะ”
“กล่าวคือเงินที่ได้เตรียมไว้ให้นั้น เป็นเงินส่วนตัวของคุณหนูจึงไม่จำเป็นต้องเกรงใจแต่อย่างใดค่ะ อีกทั้งยังไม่มีแม้แต่งานอดิเรกที่ต้องใช้เงินเป็นพิเศษ เป็นเจ้านายตระกูลดยุกที่สุดแสนจะเปล่าเปลี่ยวแล้วนับประสาอะไรกับเรื่องสามีขนาดผู้ที่จะมาสมัครเรื่องนั้นยังไม่มีเลย เพราะแบบนั้นเงินที่เก็บสะสมไว้ก็เลยมีค่อนข้างมากน่ะค่ะ”
“ลูน่า ลูน่า……ทำไมเธอถึงต้องมาพูดแทงใจดำฉันด้วยล่ะคะ? เธอน่ะเป็นเมดของฉันใช่ไหมคะ?”
“ค่ะ ฉันลูน่ามาเรียนั้น คือเมดที่สาบานว่าจะมอบทั้งกายและใจให้กับคุณหนูลิเลีย และไม่ว่าจะเมื่อไรก็เป็นพวกพ้องของคุณหนูเสมอค่ะ”
“……”
คุณลิเลียเนี่ยก็ลำบากเหมือนกันสินะ ไม่สิ จะว่าไป……หลังจากนี้เรื่องชื่อของคุณลูน่า เรียกว่าคุณลูน่ามาเรียดูจะเป็นทางการกว่า จำไว้หน่อยก็แล้วกัน
“เอาล่ะ คุณหนู ก็เข้าใจความรู้สึกที่กังวลเกี่ยวกับเรื่องที่พลาดช่วงวัยที่ควรแต่งงานอยู่หรอกนะคะ แต่ว่าก็ควรที่จะได้เวลา……”
“ฉันน่ะ เรื่องแบบนั้นไม่เคยเลยแม้แต่ครั้งเดียวใช่ไหมล่ะคะ!? เธอแค่เพิ่มเรื่องนั้นเข้ามาเองเท่านั้นใช่ไหมล่ะคะ!! โอ๊ะ เดี๋ยวเรื่องนั้นไว้ค่อยว่ากันทีหลัง ยังไงก็คงไม่สามารถที่จะพูดคุยกันต่อยาวๆที่นี่ได้ล่ะนะคะ ทุกท่านคะ การอธิบายเรื่องสามัญสำนึกของโลกนี้นั้นอยากที่จะขอให้ย้ายไปที่บ้านของฉันก่อน……คงจะไม่ว่าอะไรสินะคะ?”
“อ้าว? ที่นี่ ไม่ใช้บ้านของคุณลิ——ของท่านดยุกอัลเบิร์ทหรอกเหรอครับ?”
“ท่านมิยามะ เรียกแค่ลิเลียที่เป็นแค่ชื่อต้นก็ไม่เป็นไรค่ะ คำให้เกียรติเองก็ไม่จำเป็น จะใช้ภาษาพูดที่คุยกันง่ายๆก็ได้ไม่ว่าอะไรค่ะ”
“อ๊ะ เอ่อ ถ้างั้น ขอเรียกว่าคุณลิเลียก็แล้วกันนะครับ แล้วก็ ทางฉันเองก็ด้วยจะเรียกแค่ชื่อ——ชื่อต้นว่าไคโตะก็ได้ไม่เป็นไรครับ คำให้เกียรติเองก็ไม่จำเป็นเหมือนกัน”
“เข้าใจแล้วค่ะ ถ้างั้น หลังจากนี้จะขอเรียกว่าคุณไคโตะนะคะ เอาล่ะ เกี่ยวกับคำถามก่อนหน้านี้……ใช่ค่ะ ที่นี่คือวิหารสำหรับอัญเชิญผู้กล้า ไม่ใช่สถานที่ที่ฉันเป็นเจ้าของหรอกค่ะ ส่วนเรื่องยาวๆนั้นไว้ย้ายที่กันก่อนก็แล้วกันนะคะ”
คุณลิเลียที่ยิ้มอย่างอ่อนโยนนั้นน่ารักจริงๆ มันงดงามมากจนเผลอมองโดยไม่รู้ตัวเลย อื~ม ทั้งที่เป็นสาวงามที่ดูใจดีแถมมีทั้งฐานะแล้วก็เงินแต่กลับโสดซะได้ ไม่เข้าใจโลกนี้เลยจริงๆนะเนี่ย
จากนั้นคุณลิเลียอยากจะขอไปตรวจสอบเรื่องความคืบหน้าของทางมิทสึนากะคุงหน่อย จึงลุกออกไปจากที่นั่งแล้วเหลือพวกฉัน3คนกับคุณลูน่ามาเรียไว้
“ทุกท่าน จะเติมชาหน่อยไหมคะ?”
“ขะ ขอบคุณมากค่ะ คือว่า คุณลูน่ามาเรีย?”
“คะ? มีเรื่องอะไรเหรอคะท่านยูซุกิ”
“ถึงจะเป็นคำถามที่ดูเสียมารยาทก็เถอะค่ะ……คุณลิเลียน่ะ ทั้งที่เป็นคนที่สวยมากรูปร่างเองก็ดูดี แถมยังใจดีมากๆแบบนั้นแท้ๆ……แต่ทำไม เรื่องคนรัก……”
“ฮินะจัง……เธอเนี่ยนะ……”
“อ๊ะ ไม่ใช่นะ ก็นั่นไงรุ่นพี่เองก็ติดใจอยู่ใช่ไหมล่ะคะ?”
ดูเหมือนเป็นเพราะว่าคุณลิเลียเลยทำให้รู้สึกผ่อนคลายกันขึ้นมาล่ะมั้ง คุณยูซุกิก็เลยได้ถามเรื่องที่ฉันเองก็สนใจกับคุณลูน่ามาเรียขึ้นมา แล้วที่คุณคุสุโนกิไม่ฝืนเข้าไปหยุดแบบนี้ก็หมายความว่าสนใจอยู่เหมือนกันสินะ
คุณลูน่ามาเรียได้รินชาฝรั่งให้กับพวกฉันพร้อมยิ้มเจื่อนออกมา แก่ข้อสงสัยแบบนั้นของพวกฉัน
“ที่จริงแล้วกษัตริย์องค์ปัจจุบัน หรือก็คือท่านพี่ของคุณหนูนั่นแหละค่ะ กับคุณหนูลิเลียที่อายุห่างกันแล้ว ดูจะรักและเอ็นดูแบบไม่ลืมดูลืมตามากเลยน่ะค่ะ ใช่ค่ะ จริงๆแล้ว……ถึงขนาดมีข่าวลือที่ว่า [หากมีผู้ชายคนใดที่เข้าใกล้คุณหนูลิเลีย วันต่อมาก็หายสาบสูญไป] อะไรแบบนั้นขึ้นมาเลยล่ะค่ะ”
“เอ๊ะ แบบนั้นมัน……”
“ใช่ค่ะ เป็นปัญหามากเลยล่ะค่ะ และเพราะเหตุนั้นตระกูลดยุกอัลเบิร์ทจึงต้องมีแต่ผู้หญิงเท่านั้นแม้กระทั่งคนรับใช้ก็ด้วย แถมยังถูกทำแบบว่า [แต่เดิมแล้วการให้ผู้ชายเข้ามานั้นเป็นสิ่งต้องห้าม] ด้วยล่ะนะคะ”
“……”
เดี๋ยวสิรอก่อน ถึงจะไม่ค่อยเข้าใจเท่าไรว่าพูดอะไรอยู่ก็เถอะ……แต่จะบอกว่าพระราชาเป็นพวกซิสคอนอย่างหนัก? แถมบ้านของคุณลิเลียโดยปกติก็ห้ามให้ผู้ชายเข้า? งั้นคำตอบที่จะได้มาจากเรื่องข้างต้นก็?
“ท่านมิยามะ ขอแสดงความยินดีด้วยนะคะ เป็นการกระทำอันน่าปลาบปลื้มมากตั้งแต่ได้เริ่มต้นตระกูลอัลเบิร์ทมาเลยล่ะค่ะ แต่แหม ถึงในรุ่นของคุณหนูจะเป็นรุ่นแรกเลยก็เถอะนะคะ……”
“……ห๊ะ?”
“……คุณมิยามะ สินะคะ? เป็นการพบกันที่สั้นมากเลยค่ะ”
“……เฮะ?”
“……ถึงจะกลับญี่ปุ่นไปแล้ว ก็จะไม่ลืมเรื่องของรุ่นพี่มิยามะเลยล่ะค่ะ”
“……เอ๊ะ? เออออ๋!?”
กราบเรียนด้วยความเคารพ ท่านแม่ ท่านพ่อ——ต่างโลกนั้นสงบสุขดีครับ แต่ว่า——ดันปักเดธแฟลกเข้าอย่างจังเลยครับ