[นิยายแปล]สโนไวท์ปากร้าย - ตอนที่ 8 chapter 3.3
“……”
“เอ๋ อะไร? ทำไมนายไม่พูดอะไรหน่อยล่ะ? ฉะ-ฉันพูดอะไรแปลกๆไปเหรอ?”
“ไม่หรอกอืม…” นาโอยะ ต้องเอามือปิดปากเมื่อเห็น โคยูกิ ตื่นตระหนก”แค่…พลังทำลายล้างของเธอรุนแรงมากฉันเกือบจะวิญญาณหลุดออกจากร่างไม่ต้องสนใจฉันหรอก”
“หมายถึง…นายพูดแบบนี้ยิ่งทำให้ฉันอยากรู้ไปใหญ่…พลังทำลายล้างอะไรกัน?” โคยูกิ ขมวดคิ้วด้วยความสับสน
แค่ท่าทางนั้นก็มีเสน่ห์เกินห้ามใจทำให้หัวใจของ นาโอยะ หวั่นไหว
ไม่ไหวแล้ว…ใครบ้างจะไม่ตกหลุมรักสาวคนกันบ้างเนี่ย…
เขายังคงหาคำตอบให้กับความรู้สึกของตัวเองที่มีต่อ โคยูกิ ไม่ได้ ทว่าความรักของเขามีแต่จะเพิ่มมากขึ้นเมื่อเห็นเธอพยายามอย่างหนักเพื่อเปลี่ยนแปลงตัวเอง นาโอยะ ก็อยากจะชมเธออยากลูบหัวเธอ
หืม? แบบนี้…เหมือนเป็นผู้ปกครองของเธอมากกว่าเลย?
หลังจากครุ่นคิดอยู่พักใหญ่ความเป็นไปได้ใหม่ก็ปรากฏขึ้นเขาชอบเธอแบบเพื่อนแบบผู้หญิงหรือเพราะเขาเป็นผู้ปกครองของเธอ?
ฉัน’ชอบ’เธอแบบไหนกัน…?
ด้วยเหตุนี้ นาโอยะ จึงครุ่นคิดต่อไปแม้กระทั่งตอนที่พวกเขาสั่งอาหารและนั่งลงที่โต๊ะกับคนอื่นๆทั้งสาม คนขณะที่เขานั่งเงียบๆหญิงสาวก็คุยกันอย่างออกรส
“เอ๊ะ…!?ที่พวกนายคบกันเป็นเพราะซาซาฮาระคุงงั้นเหรอ? มองไม่ออกเลยว่าเขาจะเป็นแบบพวกกามเทพ”
“ก็เขาบังคับ”
“กามเทพจะไปบังคับความรักได้ยังไงล่ะ?”
“เรื่องมันยาวแต่…”ยุยเหลือบมอง นาโอยะ แล้วก็ยักไหล่”สั้นๆก็คือตอนใกล้จบมัธยมต้นพวกเราสามคนเดินกลับบ้านด้วยกันแล้ว นาโอยะ ก็พูดขึ้นมาว่า’พวกนายจะเริ่มคบกันเมื่อไหร่?’”
” “ไม่มีความอ่อนโยนเลย…”
“ใช่ ฉันเลยไม่อยากนึกถึงเรื่องนั้นอีกแล้ว…” ทัตสึมิ พึมพำขณะกัดเครป
ทั้งสามคนมอง นาโอยะ พร้อมกันซึ่งเขาไม่สามารถเมินเฉยได้อีกต่อไป
“มะ-ไม่ใช่แบบนั้น ฉันเองมีเหตุผลของตัวเองเหมือนกัน”เขาพูดแก้ตัวพลางกัดเครปของตัวเอง
ทั้งสามคนมอง นาโอยะ พร้อมกันซึ่งเขาไม่สามารถเมินเฉยได้อีกต่อไป
“มะ-ไม่ใช่แบบนั้นฉันมีเหตุผลของฉัน”เขาพูดแก้ตัวพลางกัดเครปของตัวเอง
ทั้งสามคนจ้องมองมาที่เขา นาโอยะ จึงหลบสายตาไม่ได้
เขาเคี้ยวเครปพลางอธิบาย
ทั้งสามคนนี้รู้จักกันมาตั้งแต่อนุบาลแม้ว่าจะไม่ได้ใช้ทักษะอ่านใจ นาโอยะ ก็รู้ดีว่ายุยกับ ทัตสึมิ ต่างก็มีใจให้กันแต่ก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้นโชคดีที่พวกเขาตัดสินใจเข้าเรียนมัธยมปลายโรงเรียนเดียวกันแต่ทั้งคู่ก็มีเพื่อนเยอะพอขึ้นมัธยมปลายพวกเขาก็คงต้องแยกย้ายกันไปตามทาง นาโอยะ จึงคิดว่านี่คงเป็นโอกาสสุดท้ายของพวกเขา
นั่นเป็นเหตุผลที่เขาผลักดันพวกเขา…’บังคับ’ให้คบกันนั่นแหละตอนแรกก็ดูอึดอัดแต่พอเวลาผ่านไปพวกเขาก็สนิทกันมากขึ้น
“เป็นเรื่องราวที่ซาบซึ้งเลยใช่ไหมล่ะ?” นาโอยะ ถาม
“ไม่รู้สิ…มันไม่เหมือนกับเรื่องราวความรักหวานอมขมกลืนที่ฉันคาดไว้เลย…” โคยูกิ บ่นขณะกัดเครปสตรอเบอร์รี่
เพราะเธอกินไม่เป็น วิปครีมจึงเลอะปลายจมูกเธอทุกครั้งที่กัดเธอเช็ดมันออกด้วยทิชชู่แล้วมันก็เลอะซ้ำๆท่าทางของเธอทำให้ นาโอยะ นึกถึงสัตว์ตัวเล็กๆความรู้สึกของเขาก็ยิ่งเพิ่มมากขึ้น
“เล่าเรื่องของเรามามากพอแล้ว”ยุยพูด ฉันอยากฟังเรื่องของ ชิโรกาเนะซัง มากกว่า”
“เอ๋?เรื่อ-เรื่องของฉัน…?”
“เรื่องความรักไง!เธอชอบอะไรในตัว นาโอยะ ?”
“ฟุเอ๋!?” โคยูกิ ตกใจเธอขยำเครปจนกระดาษยับยู่ยี่
ใบหน้าของเธอแดงยิ่งกว่าสตรอเบอร์รี่ปากอ้าปากหุบด้วยความสับสนและตกใจทว่าเธอก็ตั้งสติได้อย่างรวดเร็วแสร้งทำเป็นยิ้มอย่างเย่อหยิ่ง—เพื่อซ่อนเหงื่อที่ไหลออกมาจากทุกอณูรูขุมขน—แล้วพูดขึ้น
“มะ-ตลกน่าฉันไม่มีทางชอบคนแปลกๆอย่างเขาหรอก”เธอชี้ไปที่ นาโอยะ ด้วยคางแล้วพูดต่อด้วยท่าทางเย็นชา”ตอนนี้…พวกเรากำลังเล่นเกมให้นายตกหลุมรักฉันอยู่นายต้องสารภาพรักกับฉันแล้วก็…ฉันไม่ได้รู้สึกอะไรเป็นพิเศษกับเขานะ”
“อ่า…เข้าใจแล้วฉันก็นึกว่าจะเป็นแบบนั้น~”
“ใช่ๆ…เอ๊ะ?” โคยูกิ เบิกตากว้าง
อย่างไรก็ตามยุยไม่ได้สนใจปฏิกิริยาของโคยูกิ เธอชี้ไปที่ นาโอยะ
“ก็ว่าอยู่…หมอนั่นไม่ได้มีความละเอียดอ่อนอะไรเลย ปิดบังอะไรไม่ได้ หน้าตาก็ธรรมดาไม่น่าจะเหมาะกับสาวงามอย่างเธอหรอก”
“เฮ้…จะด่าฉันก็เกรงใจคนฟังหน่อยสิ” นาโอยะ บ่น
“เขาก็แค่…ไม่ค่อยรู้จักกาลเทศะ…มั้ง?”
“เอ๋… ชิโรกาเนะซัง …?” นาโอยะ รู้สึกเจ็บปวด
อย่างไรก็ตาม โคยูกิ เมินเฉยต่อปฏิกิริยาของเขาเธอกล่าวต่อ
“แต่…ซาซาฮาระคุงก็ไม่ได้เป็นคนเลวร้ายอะไรนะ เขาเคยช่วยฉันหลายครั้ง แล้วเวลาอยู่กับเขา…ฉันก็รู้สึกสงบ…” โคยูกิ พึมพำขณะเหลือบมองหน้าของ นาโอยะ ซ้ำๆ”แถมยังใจดีมาก…เพราะงั้น…ฉันไม่คิดว่า…เราจะเข้ากันไม่ได้”
มันเป็นการโจมตีที่แสนอ่อนโยนและน่ารักยุยและ ทัตสึมิ ถึงกับจ้องมอง โคยูกิ ด้วยความประหลาดใจ นาโอยะ ก็เช่นกันเขาตกใจยิ่งกว่าทั้งสองคนเสียอีกความเงียบปกคลุมไปทั่วจนกระทั่ง โคยูกิ ร้องเสียงดัง
“ปะ-แต่…ฉันไม่ได้ชอบเขาเลยนะ! ไม่ชอบจริงๆ เข้าใจไหม!?”
“เอ๋?อ่า…ใช่ๆเข้าใจแล้วขอโทษนะที่ถามอะไรแปลกๆไป ชิโรกาเนะซัง “
“หึ้ย…เข้าใจก็ดีแล้ว” โคยูกิ กัดเครป
เธอกำลังปกปิดความเขินอีกแล้ว นาโอยะ เงียบลง
เธออาจจะยังไม่สามารถซื่อสัตย์กับคนอื่นได้แต่เธอรู้ตัวว่ารู้สึกยังไง…ฉันสิ…
นาโอยะ รู้สึกผิดต่อ โคยูกิ
“เข้าใจแล้ว…เนอะ ทัตสึมิ?”
“ใช่เลย~”
ยุยกับ ทัตสึมิ ยิ้มให้กันอย่างรู้กัน นาโอยะ ที่กำลังจมอยู่กับความคิดจึงไม่ทันสังเกตในขณะที่เขากำลังกัดเครปยุยก็เรียกเขา
“ว่าแต่…เครปของนายดูน่ากินจัง นาโอยะ “
“หา…?จริงเหรอ?”
นาโอยะ กินเครปรสชาเขียวถั่วแดงซึ่งไม่หวานเท่าของยุยเธอน่าจะอยากชิมบ้าง อย่างที่เขาคาดไว้เธอตบมือดังปัง
“ขอชิมหน่อยสิ!”
“หา? ไม่ได้หรอกปากของเธอกว้างเกินไป คำเดียวก็หมดแล้วมั้ง”
“ไม่หรอกน่า”
“โกหกไป ขอกับ ทัตสึมิ โน่น”
“เอ๋…แต่ฉันไม่ชอบนัตโตะ”
“ว่าแต่นายสั่งอะไรแบบนั้นมาทำไม ทัตสึมิ ?”
“อร่อยจะตาย” ทัตสึมิ พูดขณะที่แก้มของเขาเต็มไปด้วยเครปนัตโตะ
ยุยจ้องมองเขาด้วยสายตาว่างเปล่าก่อนจะหันไปหา นาโอยะ
“แค่คำเดียวเองน่า”
“เออก็ได้…เอาไป”
“เย้~ขอบคุณนะ!”ยุยไม่ลังเลที่จะกัดคำใหญ่
ทั้งคู่ไม่ได้คิดถึงเรื่องจูบทางอ้อมในตอนนี้ นาโอยะ มองเครปที่เหลืออยู่ในมือแล้วถอนหายใจ
“งะ-งั้น…ฉันขอกัดบ้างสิ!”
“เอ๋!?” นาโอยะ ตกใจเมื่อได้ยิน โคยูกิ พูดแบบนั้น
โคยูกิ จ้องมอง นาโอยะ ด้วยสายตาเอาเรื่องเธอน่าจะหึงยุยที่จู่ๆก็เข้ามาใกล้ชิดกับ นาโอยะ นาโอยะ ไม่มีเหตุผลที่จะปฏิเสธเธอเขาจึงคิดว่าจะยอมให้เธอแต่…
เอ๋…เป็นอะไรกัน…อยู่ๆก็รู้สึกแปลกๆ…
นาโอยะ รู้สึกว่าหัวใจของเขาเต้นเร็วขึ้นใบหน้าร้อนผ่าวความรู้สึกอึดอัดประดังเข้ามาเขาพูดตะกุกตะกัก
“ได-ได้สิ…เอาไป”
“ขะ-ขอบคุณ…อ้าม”
นาโอยะ ยื่นเครปให้ โคยูกิ อย่างเกร็งๆเธอโน้มใบหน้าเข้ามาใกล้เธอเสยผมแล้วกัดเครปตรงมุม… นาโอยะ จ้องมองโดยลืมหายใจ
“อืม…อร่อยจัง”เธอกลืนเครปอย่างระมัดระวังแล้วผละออกไป
เขามองเห็นริมฝีปากเล็กๆของเธอขยับ
“อึก…!”
“เอ๋? เกิดอะไรขึ้น? ฉันกินเยอะไปเหรอ…?”
นาโอยาเอามือปิดหน้าอกของตัวเองซึ่งทำให้โคยุคิเป็นห่วงผลที่ตามมาคือเกิดเรื่องแปลกๆกับหัวใจของนาโอยาเขาไม่เคยรู้สึกแบบนี้มาก่อน
“เกิดอะไรขึ้น…ทำไมกับ ชิโรกาเนะซัง ถึง…ใจฉัน…!”
นาโอยะ ไม่เข้าใจว่าความรู้สึกนี้หมายความว่าอย่างไรสมองของเขาทำงานหนักจนไม่สามารถคิดอะไรได้อีก ทัตสึมิ มองดู นาโอยะ ที่กำลังทรมานแล้วยิ้มกว้าง
“นายนี่โชคดีจริงๆเลยนะที่ สามารถหยอกล้อกับสาวน่ารักแบบนั้นได้ ถ้าฉันไม่มียุยฉันคงจีบเธอไปแล้ว”
“จะทำเป็นไม่ได้ยินก็แล้วกันนะทัตสึมิ แต่ฉันก็เห็นด้วยนะว่า ชิโรกาเนะซัง แถมน่ารักผิวของเธอดูเนียนมากด้วย!”
“ใช่ไหมล่ะ? แถมยังมีสไตล์ที่ดีเรียนเก่งอีกเหมือนดอกไม้ที่เอื้อมไม่ถึงเลย”
“เอ๋!?มะ-ไม่ใช่นะ…”
เมื่อถูกชมกะทันหัน โคยูกิ ก็หน้าแดงก่ำก้มหน้าลงเนื่องจากเธอถูกปฏิบัติราวกับ’สโนไวท์ปากร้าย’มาโดยตลอดเธอจึงไม่คุ้นเคยกับการได้รับคำชมแบบนี้เธอไม่มีเวลาแม้แต่จะปล่อยคำพูดร้ายๆออกมาได้แต่เงียบ นาโอยะ เห็นด้วยกับคำพูดของ ทัตสึมิ …แต่ก็รู้สึกสับสน
หา? ว่าแต่ยุยไม่เท่าไหร่ ทัตสึมิ นี่มันเข้ามาใกล้เกินไปแล้วนะ
นาโอยะ รู้สึกดีใจที่มีคนเข้าใจข้อดีของ โคยูกิ อย่างไรก็ตามเขารู้สึกไม่พอใจทุกครั้งที่ ทัตสึมิ พูดกับเธอหัวใจของเขาก็สงบลงแต่ตอนนี้ความรู้สึกหงุดหงิดกลับเข้ามาแทนที่ นาโอยะ จ้องมอง ทัตสึมิ ซึ่งเขาก็ดูเหมือนจะรู้ตัวทว่าเขากลับไม่สนใจและพูดด้วยน้ำเสียงร่าเริง
” ชิโรกาเนะซัง เธอได้คะแนนสูงสุดในชั้นปีไม่ใช่หรอ? ไว้ช่วยติวหนังสือให้ฉันบ้างสิ”
“เอ๋?”
“หือ…?” นาโอยะ ร้องออกมาเสียงดังจนตกใจตัวเอง
โคยูกิ เบิกตากว้างเหมือนไม่คาดคิดว่า ทัตสึมิ จะพูดแบบนั้นแต่เขากลับพูดต่ออย่างไม่ใส่ใจ
“คือ…ฉันสอบตกเลขในการทดสอบครั้งที่แล้วฉันอยากจะตั้งใจเรียนมากขึ้นถ้าเธอช่วยสอนฉันคงได้คะแนนดีๆแน่ๆ”
“กะ-ก็…ฉันเก่งเลขอยู่นะ”
“งั้นรบกวนด้วยนะ ชิโรกาเนะซัง ถ้าเธอสอนฉันฉันจะเลี้ยงเครปเป็นการตอบแทน”
“เอ๋…แต่…”
“อ๊ะ อยากได้อย่างอื่นนอกจากเครปไหม?บอกมาเลยฉันจะพยายามให้เธอให้ได้” ทัตสึมิ ยิ้มกริ่มเขาตื้อไม่เลิก
ฟังดูเหมือนเขากำลังจีบเธอ แปลกที่ยุยยังคงกินเครปต่อไปอย่างไม่สนใจ โคยูกิ ทำตัวไม่ถูกเมื่อ ทัตสึมิ ตบมือดังปัง
“เพราะงั้น…ถ้าเธอว่าง…”
“ไม่ได้” นาโอยะ พูดขัดขึ้น
เขาไม่สนใจปฏิกิริยาของ โคยูกิ และจ้องมอง ทัตสึมิ
“ไม่ได้หรอก เข้าใกล้ ชิโรกาเนะซัง มากเกินไปแล้ว”
“…อ๊ะ?”มุมปากของ ทัตสึมิ ยกยิ้ม
ราวกับว่าท่าทางของเขาก่อนหน้านี้เป็นเรื่องโกหกเขายิ้มให้ตัวเอง
โคยูกิ เอียงศีรษะด้วยความสับสน
“อยู่ๆก็พูดอะไรออกมาซาซาฮาระคุงโกรธอะไรกัน?”
“เอ๋? คือ…ฉันก็ไม่ได้โกรธอะไรหรอก…”
เมื่อถูกทัก นาโอยะ ก็เพิ่งรู้ตัวว่าเขากำลังทำตัวแปลกๆเขาเอียงศีรษะอย่างงุนงงพลางกินเครปที่เหลือ
“ฉันรู้สึกแปลกๆมาระยะหนึ่งแล้ว…”
“แปลก?แบบไหน?” โคยูกิ ถาม
“คือ…ตอนยุยกินเครปของฉันฉันไม่ได้รู้สึกอะไรแต่พอกินกับเธอ ชิโรกาเนะซัง หัวใจฉันกลับเต้นแรง”
“เอ๋?”
“แล้วตอน ทัตสึมิ เข้ามาใกล้เธอฉันก็รู้สึกหงุดหงิด…นี่มันอะไรกันเนี่ย?”
“หรือว่า…” โคยูกิ กลืนน้ำลายเธอมอง นาโอยะ อย่างละเอียด “เป็นหวัดหรือเปล่า?ถึงได้รู้สึกแปลกๆแบบนั้น?”
“ก็…อาจจะใช่…ต้องกลับไปกินยาตอนกลับถึงบ้านซะแล้ว”
“ทำไมมันถึงเป็นแบบนั้นล่ะโว้ย!?” ทัตสึมิ โวยวาย