[นิยายแปล]สโนไวท์ปากร้าย - ตอนที่ 6 chapter 3.1
บทที่3-ตัวตนของ’ความชอบ’
เวลาผ่านไปท้องฟ้าถูกย้อมด้วยแสงอาทิตย์ยามเย็น นาโอยะ มาถึงหน้าประตูโรงเรียน เขาทรุดตัวลงพิงล็อกเกอร์รองเท้าแล้วถอนหายใจ
“เฮ้อ…จบสักที”
“เหนื่อยหน่อยนะ นี่มันหายนะสำหรับเราทั้งคู่เลย” โคโนะ ทัตสึมิ พูดกับเขา
ทั้งคู่สอบตกในการทดสอบครั้งที่แล้วและถูกบังคับให้เข้าเรียนเสริม ทัตสึมิ กำลังจะหยิบรองเท้าแต่เขาก็เอียงศีรษะอย่างงุนงง
“ไม่คิดเลยว่านายจะต้องเรียนเสริมด้วยนะ นาโอยะ “
“ฉันไม่เก่งเลข นายก็น่าจะรู้นี่ ทัตสึมิ “
“แต่…ไม่น่าจะถึงขั้นสอบตกใช่ไหมล่ะ?”
“…เอ่อก็…ใช่” นาโอยะ ยอมรับ
เขาไม่ได้ตั้งใจจะโอ้อวดแต่เขาก็ค่อนข้างเก่งเรื่องเรียนไม่ใช่เพราะเขาฉลาดอะไรหรอกเขาแค่ต้องตั้งใจฟังครูในห้องเรียนเพราะครูมักจะบอกว่าข้อสอบออกอะไรบ้างในแง่นี้ทักษะของ นาโอยะ เป็นตัวช่วยชีวิตเลยล่ะ
เพราะงั้นแค่ทบทวนบทเรียนก่อนสอบ นาโอยะ ก็มักจะทำข้อสอบผ่านได้โดยไม่มีปัญหานี่เป็นครั้งแรกที่เขาต้องเรียนเสริม ทัตสึมิ รู้เรื่องนี้ดีเขาจึงชี้ไปที่ใบหน้าของ นาโอยะ แล้วยิ้มกริ่ม
“ช่วงนี้นายชอบเหม่อลอยบ่อยๆใช่ไหม? มีเรื่องอะไรกังวลอยู่หรือเปล่า? ลองให้ฉันทายไหม?”
“ตามสบาย”
“ต้องเป็น… ชิโรกาเนะซังแน่เลยใช่ไหมล่ะ?”
“ก็…เดาง่ายไป” นาโอยะ ยอมแพ้
อย่างที่ ทัตสึมิ เดาได้ง่ายๆหัวของ นาโอยะ เต็มไปด้วยเรื่องของ ชิโรกาเนะ โคยูกิ เนื่องจากเขารู้ตัวดีว่ามันชัดเจนแค่ไหน เขาจึงไม่ได้พยายามปกปิดหรือปฏิเสธ
“คือ…ฉันไม่บอกนายจริงๆจัง แต่เรื่องที่’สโนไวท์ปากร้าย’เข้ากับนักเรียนชายธรรมดาๆได้กลายเป็นข่าวลือไปทั่วโรงเรียนแล้วนะ” ทัตสึมิ พูดด้วยน้ำเสียงล้อเลียน
อย่างไรก็ตามสีหน้าของเขาจริงจังชั่วขณะหนึ่งก่อนแสดงความเป็นห่วง
“แล้วก็…ถึง ชิโรกาเนะซัง จะมีนิสัยแข็งๆไปหน่อยแต่เธอก็สวยมากใช่ไหมล่ะ? แล้วมันมีปัญหาอะไรกับการที่ถูกเธอชอบล่ะเนี่ย?”
“ถ้าจะมีปัญหามันก็คงเป็นปัญหาของฉันเอง…”
“ห๊ะ?”
นาโอยะ ถอนหายใจทำให้ ทัตสึมิ ทำหน้างง นาโอยะ รู้สึกเป็นเกียรติที่ โคยูกิ คิดแบบนั้นกับเขามากกว่าสิ่งอื่นใดเขาดีใจ อย่างไรก็ตามปัญหามันอยู่ที่…
“ฉันไม่รู้ว่าตัวเอง’ชอบ’ ชิโรกาเนะซัง ในแบบไหน…”
“……อะไรนะ?”
‘ความชอบ’มีหลายแบบยกตัวอย่างเช่นคุณอาจจะชอบใครสักคนแบบครอบครัวแบบเพื่อนหรือแบบคนรัก’ความชอบ’ที่ โคยูกิ มีต่อ นาโอยะ เป็นแบบคนรักอย่างแน่นอน แล้วตัว นาโอยะ ล่ะ?ความสงสัยนี้รบกวนเขามาหลายวันแล้วและเขายังหาคำตอบไม่ได้
“นั่นแหละ สรุปแล้ว…อืม…ทำหน้าแบบนั้นหมายความว่าไง?”
“เอ๋…ก็…” ทัตสึมิ มอง นาโอยะ ด้วยสีหน้าซีดเผือดเสียงสั่นเทา
ทัศนคติที่อยากรู้อยากเห็นของเขาหายไปไหนแล้ว?ตอนนี้เขาดูเหมือนกำลังสังเกตสัตว์ประหลาดน่ากลัวในร่างของ นาโอยะ
“นี่นายพูดจริงเหรอ…? เด็กอนุบาลยังแยกแยะออกเลย นี่ไม่ใช่เรื่องที่เด็กมัธยมปลายควรจะกังวลสักหน่อย”
“ช่วยไม่ได้นี่! ฉันไม่เคยรู้สึกแบบนี้มาก่อน!”
“นั่นมันผิดของนายเองที่ไม่เคยเปิดโอกาสให้ใคร”
“อึก…เถียงไม่ออกเลย”
คำพูดของเพื่อนสมัยเด็กตอกย้ำเข้าไปในหัวใจของ นาโอยะ ทำให้เขาจมดิ่งลงสู่ความสิ้นหวังเนื่องจากเขาเก่งเรื่องการอ่านใจคนอื่นเขาจึงมีปัญหาในการสร้างความสัมพันธ์ทุกครั้งที่ผู้หญิงแสดงความรักต่อเขา เขาก็จะทำลายความหวังของพวกเธอทันทีส่งผลให้เขาขาดประสบการณ์
นี่…ฉันขุดหลุมฝังตัวเองงั้นเหรอ…?
นาโอยะ หน้าซีดเผือด ทัตสึมิ ตบบ่าเขาเบาๆพลางยิ้มกริ่ม
“นายเก่งเรื่องการอ่านใจคนอื่น แต่กลับไม่เข้าใจตัวเอง ฉันล่ะสงสารนายจริงๆ”
“คิดถึงใจฉันบ้างสิ…นีนายเป็นปีศาจหรือยังไง?”
“ก็ฉันมีแฟนแล้วนี่ ก็เลยมีสิทธิ์ที่จะพูดแบบนั้น”
“ก็…จริง…”
เขามีแฟนที่คบกันมานานกว่าหนึ่งปีแล้วจากมุมมองของเขาความกังวลของ นาโอยะ คงฟังดูเหมือนเรื่องตลก
“ถึงอย่างนั้น… ชิโรกาเนะซัง จะสนใจคนแปลกๆอย่างนายได้ยังไง…อ๊ะ?” ทัตสึมิ ยักไหล่แล้วเดินนำหน้าไปหลังจากเปลี่ยนเป็นรองเท้าสำหรับใส่นอกอาคารเรียน
อย่างไรก็ตามขณะที่เขากำลังจะออกจากประตูเขาก็หยุดเท้า
“คือ…ฉันไม่รู้ว่ามันเกิดขึ้นได้ยังไงแต่…ดูเหมือนเธอจะจริงจังนะ”
“ห๊ะ?หมายความว่าไง?”
“ก็…นั่น ชิโรกาเนะซัง ไม่ใช่เหรอ?”
“หา!?”
ทัตสึมิ ชี้ไปที่หน้าประตูชมรมต่างๆยังคงฝึกซ้อมกันอย่างเต็มที่ทำให้นักเรียนจำนวนมากเดินไปมาในบริเวณนั้นท่ามกลางผู้คนเหล่านั้นเธอกำลังยืนพิงเสาประตู— ชิโรกาเนะ โคยูกิ
” ชิโรกาเนะซัง !?”
“อ๊ะ…”
นาโอยะ ร้องเรียกเธอด้วยความตกใจแล้ววิ่งไปหา โคยูกิ เห็นดังนั้นใบหน้าของเธอก็สดใสขึ้นทว่ามันเป็นเพียงชั่วครู่ เธอก็เสยผมปล่อยให้รอยยิ้มเย็นชาปรากฏขึ้น
“แหม ซาซาฮาระคุงบังเอิญจังเลยนะ”
“บังเอิญ…เธอกำลังรอฉันอยู่ไม้ช่หรอ?”
ร่องรอยความเหนื่อยล้าปรากฏบนใบหน้าของ โคยูกิ อย่างชัดเจนรอยเท้าของเธอบนพื้นก็เช่นกัน…เธอคงรออยู่ที่นี่นานแล้วไม่ต้องสงสัยเลย
“ฉันบอกให้เธอกลับบ้านไปก่อนไง เพราะฉันต้องเรียนเสริมเลข…”
“หึ้ย…อย่ามาหลงตัวเองหน่อยเลย ฉันไม่ได้รอนายสักหน่อยก็แค่กำลังอ่านหนังสืออยู่ที่ห้องสมุดต่างหาก” โคยูกิ พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาแต่ นาโอยะ รู้ว่าเธอแค่แสร้งทำเป็นเข้มแข็ง
แทนที่จะชี้ให้เธอเห็น นาโอยะ กลับก้มหน้าลงหา โคยูกิ
“เข้าใจแล้วแต่…ขอโทษนะที่ทำให้รอนานฉันจะพยายามไม่ให้ต้องเรียนเสริมอีกแล้ว”
“อึก…ถะ-ถ้านายจะขอโทษงั้นฉันก็…ยอมรับก็ได้” โคยูกิ หลบสายตาตอบด้วยน้ำเสียงไม่มั่นใจ
ปลายจมูกของเธอแดงก่ำชัดเจนว่าเธอกำลังพอใจ นาโอยะ อดไม่ได้ที่จะคิดว่า โคยูกิ น่ารักอีกแล้ว
อย่างที่คิด…อยู่กับเธอแล้วสนุกจริงๆ…
การอ่านใจคนอื่นทำให้เขาเหนื่อยแต่การอยู่กับ โคยูกิ กลับไม่เป็นแบบนั้นแทนที่จะเหนื่อยมันกลับทำให้เขารู้สึกสงบสุข
แต่…ฉันยังไม่รู้เลยว่านี่คือความรักหรือเปล่า…
เพราะรอบๆตัว นาโอยะ ก็มีคนแบบ โคยูกิ อยู่พ่อแม่ของเขาผู้จัดการร้านและ—
“อ๊ะ นาโอยะ “
“อ๊ะ?”
“อืม…”
ทันใดนั้นเสียงร่าเริงก็ดังมาจากด้านหลัง นาโอยะ หันไปมองก็พบกับหญิงสาวคนหนึ่งเธอมีผมสีแดงผูกเป็นหางม้าขายาวระหงภายใต้กระโปรงดวงตาเรียวรีให้ความรู้สึกมีชีวิตชีวาเธอดูเป็นสาวสปอร์ต
“ยุยเหรอกำลังกลับจากชมรมเหรอ?”
“เปล่าวันนี้ชมรมหยุดอ้าว… ชิโรกาเนะซัง !?”
เธอเพิ่งสังเกตเห็น โคยูกิ แล้วก็ร้องเสียงหลงเธอมองทั้งสองคนอย่างละเอียด
“เอ๋ ทำไมพวกนายถึงอยู่ด้วยกัน!? ไปสนิทกันตอนไหนเนี่ย!?”
“ฉันไม่เคยเล่าให้ฟังเหรอ?เกิดเรื่องมากมายน่ะตอนนี้เลยสนิทกันแล้ว”
“เอ๋~~~…ทำไมเธอถึงเข้ากับคนแปลกๆแบบนายได้ล่ะ…อ๊ะ ชิโรกาเนะซัง เธอก็จะกลับบ้านเหมือนกันใช่ไหม?”
“คะ-ค่ะ…” โคยูกิ พยักหน้าอย่างเคอะเขิน
ดูเหมือนจะมีกำแพงกั้นอยู่ระหว่างพวกเธอแต่ก็ไม่ได้แสดงท่าทีเหมือนคนแปลกหน้า นาโอยะ รู้สึกแปลกๆเขาจึงตบมือดังปัง
“จริงสิยุยก็อยู่ห้อง3เหมือนกันห้องเดียวกับ ชิโรกาเนะซัง ใช่ไหม?”
“ใช่ๆแต่…ไม่ค่อยได้คุยกันเท่าไหร่”
“…ค่ะ” โคยูกิ พยักหน้าอีกครั้งแล้วเหลือบมอง นาโอยะ
รอยยิ้มที่เธอแสดงออกมานั้นดูฝืนๆในเวลาเดียวกันเขาก็รู้สึกเหมือนถูกเข็มทิ่มแทง
“ว่าแต่…นายกับนัตสึเมะซังเป็นเพื่อนกันเหรอซาซาฮาระคุง?”
“เพื่อนกันสิถ้าจะให้พูดให้ถูกก็เป็นเพื่อนสมัยเด็ก”
“ใช่! เราอยู่ด้วยกันมาตั้งแต่อนุบาล!เป็น’สายสัมพันธ์เน่าๆ’อย่างที่เขาเรียกกัน”ยุยเสริม