cat2auto | นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย PDF
  • หน้าหลัก
  • อ่านมังงะ
  • เว็บอ่านมังงะ
  • นิยายวาย [Yaoi]
  • Nekopost
  • Niceoppai
  • รออัพเดท
  • มังงะ18+
  • แทงหวย24
  • manga
Advanced
Sign in Sign up
  • หน้าหลัก
  • อ่านมังงะ
  • เว็บอ่านมังงะ
  • นิยายวาย [Yaoi]
  • Nekopost
  • Niceoppai
  • รออัพเดท
  • มังงะ18+
  • แทงหวย24
  • manga
  • Romance
  • Comedy
  • Shoujo
  • Drama
  • School Life
  • Shounen
  • Action
  • MORE
    • Adult
    • Adventure
    • Anime
    • Comic
    • Cooking
    • Doujinshi
    • Ecchi
    • Fantasy
    • Gender Bender
    • Harem
    • Historical
    • Horror
    • Josei
    • Live action
    • Manga
    • Manhua
    • Manhwa
    • Martial Arts
    • Mature
    • Mecha
    • Mystery
    • One shot
    • Psychological
    • Sci-fi
    • Seinen
    • Shoujo Ai
    • Shounen Ai
    • Slice of Life
    • Smut
    • Soft Yaoi
    • Soft Yuri
    • Sports
    • Tragedy
    • Supernatural
    • Webtoon
    • Yaoi
    • Yuri
Sign in Sign up
Prev
Next
สล็อตเว็บตรง

[นิยายแปล]พันธนาการจ้าวมังกร เชื่อมใจ สู่ "หัวใจ" - ตอนที่ 75

  1. Home
  2. All Mangas
  3. [นิยายแปล]พันธนาการจ้าวมังกร เชื่อมใจ สู่ "หัวใจ"
  4. ตอนที่ 75
Prev
Next

บทที่5ตอนที่22

 

 

มังกรแห่งความตายที่จู่ๆก็ปรากฏตัวขึ้นระหว่างการฝึกพิเศษ

 

 

เนื่องจากมีสัตว์อสูรปรากฏตัวขึ้นบริเวณพื้นที่ฝึกซ้อม การฝึกจึงถูกยกเลิกและต้องทำการตรวจสอบอย่างละเอียด

 

 

นักเรียนทั้งหมดต่างกลับไปที่อาร์คาซัมทันที ทุกคนมาถึงสถาบันได้อย่างปลอดภัย

 

 

เนื่องจากจิฮัดเป็นผู้รับผิดชอบในการจัดงาน ไอริสดิน่าและคนอื่นๆรวมทั้งอาจารย์ก็มุ่งหน้าไปที่ห้อง 10

 

 

อย่างไรก็ตามที่นั่นไม่มีโนโซมุและมาร์อยู่ในห้องเรียน และเมื่อคุยกับพวกจินแล้วดูเหมือนทั้งคู่จะหายตัวไปหลังจากมาถึงสถาบันได้ไม่นาน

 

 

「ทุกคนมีใครเห็นพวกโนโซมุบ้างไหมคะ!?」

 

 

หลังจากสำรวจรอบๆสักพักไอริสและคนอื่นๆก็มารวมตัวกันที่หน้าประตูหลัก ทุกคนหอบหายใจอย่างรุนแรงเพราะสำรวจไปทั่ว

 

 

「แฮ่ก แฮ่ก แฮ่ก ไม่ได้อยู่ที่สนามฝึกด้วย …ฝั่งไอล่ะ?」

 

 

「ฝั่งนี้ก็ไม่เจอเลย ตามที่อาจารย์อันริบอก เขาอยู่ที่นั่นตอนที่มาถึงเมืองแต่ว่าเหล่านักเรียนก็บอกว่าไม่เห็นพวกเขาแล้ว……」

 

 

หลังจากไปหาที่ห้อง 10 แล้ว ไอริสก็ไปที่ห้องพักครูเพื่อตามหาทั้งสองคน พยายามถามหาโนโซมุกับอันริ แต่ว่าไม่ได้อยู่ที่นั่นเช่นกัน

 

 

หลังจากนั้นพอถามอันริที่อยู่ในอาคารเรียน เธอก็ตามหาโนโซมุและมาร์ที่หายตัวไป

 

 

「นั่นมีโอกาสสูงที่ทั้งสองคนจะไม่ได้อยู่ที่สถาบันแล้วสินะ……」

 

 

「ใช่แล้วล่ะ แล้วจะไปอยู่ที่ไหนกันล่ะ……」

 

 

ฟีโอพึมพำเช่นนั้นขณะมองไปนอกห้องสถาบัน และทอมเองก็เห็นด้วยกับความคิดนั้น

 

 

「ช่วยไม่ได้ต้องไปหาที่ๆคิดว่าทั้งสองคนน่าจะไปแล้วล่ะ?」

 

 

อย่างไรก็ตาม มิมุรุเสนอให้ออกไปตามหาในเมือง

 

 

ในขณะนั้นเองก็มีสาวน้อยคนหนึ่งมาจากทางสถาบันอีครอร์ส

 

 

「พี่ค่ะ!」

 

 

「โซเมีย!?」

 

 

เป็นโซเมียที่วิ่งมาหานั่นเอง เธอรีบวิ่งเข้าหาพี่สาวและกระโดดเข้าอ้อมอกของเธอ

 

 

 

 

「ทำไมถึงมาอยู่ที่นี่ล่ะ……」

 

 

ไอริสสับสนกับการโผล่มาของโซเมียที่มาเกาะติดหนึบกับเธอ แม้จะสับสนแต่เธอก็กอดน้องสาวสุดที่รักด้วยความเป็นห่วง

 

 

「คือว่า…ได้ยินว่าพี่สาวได้รับบาดเจ็บจากการต่อสู้กับมังกรระหว่างการฝึก..ก็เลยเป็นห่วงค่ะ……」

 

 

โซเมียเป็นห่วงพี่สาวของเธอ แม้ว่าดวงตาของเธอจะเต็มไปด้วยคราบน้ำตาและน้ำมูกก็เถอะ

 

 

เธอกังวลอย่างมากที่ได้ยินว่าพี่สาวตัวเองได้รับบาดเจ็บกับการต่อสู้กับมังกร

 

 

พี่น้องที่สายสัมพันธ์แน่นแฟ้น เช่นเดียวกับไอริสที่เกือบจะเสียโซเมียไป เธอเองก็จมอยู่ในความสิ้นหวัง โซเมียเองก็คิดว่าจะเสียพี่สาวของเธอไป

 

 

「ไม่เป็นไรหรอกนะ พี่อยู่ตรงนี้แล้ว จะไม่ไปไหนหรอกนะ……」

 

 

「ฟุ เฮะ เฮะ!ฮืออ……」

 

 

โซเมียพยายามจะไม่ร้องไห้ แต่เมื่อเธอเห็นพี่สาวที่ปลอดภัย ความตึงเครียดก็หายไป น้ำตาที่เอ่อล้นออกมาจากดวงตาก็ค่อยๆจางหายไป

 

 

ไอริสลูบหลังเธอเพื่อเป็นการปลอบ โซเมียเองก็ค่อยๆสงบสติอารมณ์มาได้บ้างแล้ว

 

 

ขณะที่โซเมียร้องไห้จนเสร็จและค่อยๆคลายอ้อมกอด ซีน่าก็ถามไอริส

 

 

「นี่ ไอริสดิน่า อยากจะถามอะไรหน่อย ที่มาร์พูดหมายความว่ายังไง?」

 

 

「……หมายถึงอะไรเหรอคะ?」

 

 

ไอริสตอบคำถามของซีน่าด้วยความมึนงง

 

 

「มาร์พูดแบบนั้นไม่ใช่เหรอ “ถ้าแกเอาจริงกับอีแค่กิ้งก่ามีปีกนั่นก็จัดการได้ง่ายๆไม่ใช่เหรอไง” นั่นนะหมายความว่ายังไง? ฉันเองก็รู้หรอกนะว่าเขาแข็งแกร่ง แต่การจะเอาชนะมังกรได้ง่ายๆแบบนั้นนะมันจริงเหรอ…มีหลายๆอย่างที่พวกฉันไม่รู้เลยสินะ?」

 

 

「นั่นคือ……」

 

 

ไอริสนิ่งเฉยกับคำถามของซีน่า

 

 

ซีน่าและผองเพื่อนไม่รู้ว่าโนโซมุสามารถปลด “พันธนาการ” ได้และพวกเธอก็ไม่รู้เกี่ยวกับทักษะพิเศษที่โนโซมุใช้ได้ด้วย ท่าทีของโนโซมุเริ่มแปลกไปต่างจากเมื่อก่อน

 

 

(แต่….ก็เหมือนกับเรา..เราไม่รู้อะไรเกี่ยวกับพลังที่เขามีเลยแม้แต่น้อย พลังสุดอัศจรรย์นั่น…แม้จะบอกว่าเป็นการ “ปลดพันธนาการ” แต่มันก็ดูเกินไปหน่อย……)

 

 

เขาอธิบายว่าพลังที่ใช้ต่อสู้กับรูกาโต้เป็นการปลด “พันธนาการ” เพียงแค่นั้น

 

 

อย่างไรก็ตามหากพลังนั้นถูกพันธนาการไว้จริงๆและปลดปล่อยออกมา เป็นเรื่องแปลกเกินไปที่โนโซมุจะควบคุมมันได้ดีเกินไป เขาดูดซับพลังมหาศาลนั่นเข้าสู่ร่างกาย วิธีการต่อสู้ของเขาไม่ใช่วิธีการต่อสู้ที่อาศัยพลังเลยแม้แต่น้อย แต่เป็นวิธีการต่อสู้ที่ใช้การควบคุมพลังและทักษะดาบที่แสนยอดเยี่ยมอย่างเต็มที่เพื่อให้ได้ผลสูงสุดโดยใช้พลังให้ต่ำที่สุด แต่ว่าตอนปลด “พันธนาการ”มันตรงกันข้ามกันเลย

 

 

「ไอริสดิน่าฉันสงสัยน่ะ…จะช่วยเล่าให้ฉันฟังได้ไหม?」

 

 

ซีน่าจ้องไปที่ไอริสด้วยแววตาคมกริบ ความตั้งใจนั้นแรงกล้าจนไอริสไม่กล้าปฏิเสธ

 

 

「……พี่คะ」

 

 

ไอริสเองก็ได้ยินเสียงเรียกของน้องสาว เพื่อนสนิทเองก็จ้องมองมาทางไอริสเช่นเดียวกับซีน่า

 

 

เมื่อไอริสสบตาทั้งสองมองขึ้นไปบนท้องฟ้าทางทิศตะวันตกที่ท้องฟ้าถูกย้อมเป็นสีแดงพร้อมกับดวงตะวันที่กำลังลับขอบฟ้า

 

 

โนโซมุและมาร์คงอยู่ที่ไหนสักแห่งในเมือง พวกเขากำลังทำอะไรอยู่กันแน่นะ……?

 

 

เธอนึกถึงสิ่งที่เกิดขึ้นในวันเกิดน้องสาวตัวเอง

 

 

แน่นอนมันไม่ใช่เรื่องง่ายๆที่จะพูดข้อตกลงลับๆของครอบครัวออกไป

 

 

อย่างไรก็ตามทิวทัศน์ของเมืองที่ย้อมในยามพลบค่ำและกำลังนำพาความมืดมาสู่เมืองก็ทำให้ไอริสหมดความอดทน

 

 

ฉันพูดอะไรไม่ได้…ฉันต้องทำอะไรบางอย่าง…ไม่เช่นนั้นจะไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงทั้งโนโซมุและมาร์…รวมถึงพวกเราด้วย……。

 

 

ไอริสคิดทบทวนอีกครั้ง เธอพยักหน้าราวกับตัดสินใจแล้ว และเผชิญหน้ากับซีน่าอย่างตรงไปตรงมา

 

 

「พวกเราเองก็เพิ่งมารู้ตอนวันเกิดครบรอบอายุ 11 ปี ของโซเมีย……」

 

 

เมื่อมองตรงไปทางซีน่า ไอริสก็พูดถึงจุดเริ่มต้นที่ได้พบกับเขาในตอนนั้น

 

 

◇◆◇

 

 

ในป่าที่มีการฝึกพิเศษ

 

 

หลังจากยกเลิกการฝึกไปแล้ว จิฮัดกำลังสืบสวนหาสาเหตุการปรากฏตัวของมังกรอย่างกระทันหันพร้อมกับผู้พิทักษ์แห่งอาร์คาซัมและเหล่าคนที่มาตรวจสอบ

 

 

เมื่อพวกเขาสำรวจความลึกของรูที่มังกรอยู่ มันมีโพรงขนาดใหญ่ในความลึกนั่น มีกระดูกมังกรกระจัดกระจายไปทั่ว

 

 

 

「กล่าวอีกนัยหนึ่งมีรังมังกรอยู่ด้านล่างเหรอ ทอร์เกรน……」

 

เสียงอันแสนสงบนิ่งของจิฮัดดังกังวานไปทั่ว ข้างหน้าเขาคือหลุมที่มีมังกรแห่งความตายปรากฏตัวขึ้น ชายในเสื้อคลุมสีขาววัย 20 กลางๆ มารายงานกับจิฮัด

 

「ครับ ตรวจสอบแล้วพบซากศพของมังกรที่ด้านล่าง แต่ประมาณ 10 ปีที่แล้วจากสภาพของกระดูกมังกรที่กระจัดกระจายไปทั่ว ยิ่งไปกว่านั้นกระดูกของมังกรเหล่านี้ยังไม่ใช่ของตัวที่โตเต็มวัยด้วยครับ」

 

ชายหนุ่มชื่อทอร์เกรนตอบคำถามของจิฮัดด้วยความว่องไว

 

 

ดวงตาที่อ่อนโยนสามารถมองเห็นได้ผ่านแว่นตาของเขาเห็นได้ชัดเขาเป็นหัวกะทิที่วุ่นกับงานเอกสารมากกว่างานในสนามรบ

 

 

อันที่จริงเขาไม่ใช่นักสู้แต่เป็นนักวิจัยจากสถาบันโกลว์ ออรัมที่ประชุมกันเพื่อตรวจสอบเรื่องนี้

 

 

สถาบันโกลว์ ออรัม(グローアウルム)เป็นสถานบันวิจัยที่ครอบคลุมซึ่งถูกสร้างขึ้นในเมืองอาร์คาซัม

 

 

การวิจัยและสิ่งอำนวยความสะดวกของสถาบันนี้สร้างขึ้นควบคู่ไปกับสถานบันโซลมินาติและนักวิจัยจากแต่ละประเทศก็กำลังดำเนินการวิจัยเรื่องต่างๆทั้งกลางวันและกลางคืน

 

 

ผลการวิจัยที่ได้จะถูกประกาศให้แก่ประเทศทราบปีละครั้งและเป็นประโยชน์ต่อหลายๆด้านเช่น การพัฒนาที่ดินเพื่อการเกษตร โครงสร้างผังเมือง มาตรการรับมือสัตว์อสูรและการเตรียมการสำหรับการรุกรานครั้งใหญ่ที่อาจจะเกิดขึ้น

 

 

นอกจากนี้นักวิจัยบางคนที่ โกลว์ กอรัมยังมาเป็นอาจารย์บรรยายคาบเรียนด้านพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ในอนาคตอีกด้วย

 

 

 

「10ปีงั้นเหรอ…ก่อนที่เมืองอาร์คาซัมถูกสร้างขึ้นสินะ……」

 

「ครับ พื้นที่มันถูกปิดกั้นด้วยดินและทรายและอาจจะพังทลายลงมาด้วยเหตุผลบางประการทำให้มังกรที่ไม่สามารถหาอาหารได้และติดอยู่ในที่แห่งนี้ ต้องมากินเนื้อมนุษย์ จนสุดท้ายก็เหลือรอดเพียงตัวเดียว แม้ว่าพยายามอยู่เฉยๆจากการขาดสารอาหาร แต่ก็เหมือนตายทั้งเป็นแล้วล่ะครับ」

 

「และมันก็ยังรอดมาได้นะเนี่ย……」

 

อาร์คาซัมสร้างขึ้นเมื่อ 10ปีก่อนเป็นเมืองที่มีชั่วอายุสั้นๆ ไม่น่าแปลกใจว่าจะมีคนอาศัยอยู่ที่นี่ก่อนอาร์คาซัมจะถูกสร้างขึ้น

 

 

แน่นอนว่าบริเวรโดยรอบถูกตรวจสอบในขั้นตอนการก่อตั้งเมือง แต่เมื่อถึงเวลานั้นทางเข้าของมังกรมันถูกปิดกั้นทำให้ไม่สามารถโผล่ออกมาได้ ทำได้แต่อยู่เฉยๆไม่ก็รอวันตายไปวันๆ

 

 

 

「คุณทอร์เกรน เรื่อง มังกรแห่งความตายที่ทำร้ายนักเรียนของข้า?」

 

「ไม่มีอะไรเป็นพิเศษครับ ไม่มีใครตาย」

 

จิฮัดถอนหายใจออกมาราวกับโล่งอกกับคำพูดของทอร์เกรน

 

 

สมาชิกเองก็มองมาด้วยความสงสัย

 

 

จิฮัดมองไปบนฟ้าพร้อมกับเอามือลูบเคราของเขา เดิมทีป่าทึบแบบนี้อยู่นอกเหนือพื้นที่ตรวจสอบ บางทีเพราะวันนั้นอาจจะพลาดไป

 

 

「……เอาล่ะใกล้มืดแล้ว รีบตรวจสอบอย่างละเอียดและกลับเมืองอาร์คาซัมในวันนี้ เตรียมตัวกลับได้……」

 

「เข้าใจแล้วครับ」

 

「รับทราบครับ」

 

หลังจากสั่งทอร์เกรนและคนอื่นๆให้เตรียมพร้อมสำหรับการกลับเมือง จิฮัดก็จ้องมองลงไปในรูขนาดใหญ่อีกครั้ง ทันทีที่พ้นหลุมไป ความมืดที่มองไม่เห็นจักจ้องกลับมา

 

 

ในรายงานไม่พบสิ่งมีชีวิตภายในหลุมนั่น

 

 

เขาแค่จ้องมองหลุมที่ควรจะว่างเปล่า เฝ้าดูเหล่าทหารที่ไปสำรวจค่อยๆขึ้นมาทีละคนๆ

 

 

◇◆◇

 

 

ย่านการค้าในเมืองอาร์คาซัม เมื่อพระอาทิตย์กำลังตกดินและแสงดาวเริ่มเต็มไปทั่วทั้งท้องฟ้า ตามปกติแล้ว ไฟในเมืองจะไม่ดับแม้จะเป็นเวลากลางคืนและเสียงของผู้คนที่กำลังเดินไปตามถนนกำลังร่ำร้อง

 

 

ที่ “เรือนร่างของโค”เป็นโรงเตี้ยมและบาร์ในมุมหนึ่งของย่านการค้า มีชายหนุ่มกำลังดื่มหนัก

 

 

ชายหนุ่มที่ดื่มคือ มาร์・ ดิกเก้น มีขวดสาเกจำนวนมากเต็มโต๊ะและขวดเปล่าก็ค่อยๆเพิ่มมากขึ้น

 

 

บางทีเพราะค่อนข้างหงุดหงิดเป็นอย่างมาก บรรยากาศรอบตัวเลยมีออร่าแบบว่า อย่ามายุ่ง ราวลูกค้าทุกคนถูกไล่ออกจากร้านเหลือเขาเพียงคนเดียวภายในร้านนั้น

 

「งึก…งึก…แง่ม……」

 

มาร์เทสาเกลงในแก้วและกระดกรวดหมดในคราวเดียว

 

 

ด้วยความรู้สึกแสบร้อนในลำคอ สาเกร่วงหล่นไปที่ท้องและสมองเองก็เริ่มพล่ามัวและคลุมเครือ

 

 

อย่างไรก็ตามไม่ว่าจะดื่มหนักขนาดไหน เรื่องของโนโซมุมันก็ยังคงคาใจ

 

 

ตอนที่โผล่มาก่อนจบปี 2 ตัวหมอนั่นที่ไม่เคยแข็งแกร่งกลับแข็งแกร่งขึ้นมาจนน่าตกใจ ช่วงปี 3 เองก็เริ่มสนิทกันและมาที่ร้านบ่อยๆ เดินเล่นด้วยกันและฝึกซ้อมที่ด้านนอก ตัวหมอนั่นที่สามารถเอาชนะรูกาโต้ที่เป็นถึงแรงค์ S ได้

 

 

ตัวหมอนั่นช่างเจิดจรัส แต่ความโกรธที่อยู่ในร่างกายของเขาก็ไม่จางหายไป

 

(ไอ้หมอนั่น!ถ้าแกเอาจริงแกก็ทำได้ไม่ใช่เหรอไงวะ! ทั้งๆที่มันน่าจะเป็นเรื่องง่ายๆแท้ๆ!)

 

ยิ่งเขารู้สึกโกรธโนโซมุมากเท่าไร ตัวโนโซมุที่ไม่พยายามจนถึงที่สุดมันดูไม่เป็นตัวของหมอนั่นเลย

 

 

ราวกับหลอกตัวเองมาร์ยังคงดื่มสาเกต่อไป

 

ในเวลานั้นอิน่าที่มองเห็นสภาพพี่ชายที่ดูไม่ได้ก็มาบ่นด้วยความโกรธจัด

 

「เน่ พี่คะ มาดื่มแบบนี้เดี๋ยวลูกค้าก็ชิ่งกลับหมดก่อนหรอก!」

 

「หุบปากกกกกกกก……」

 

เขาไม่สนใจคำบ่นของอิน่าและพยายามเทสาเกลงไปในแก้วเปล่ามากขึ้นไปอีก แต่อิน่าเอื้อมมือไปด้านข้างและหยิบขวดออกมา

 

「……เอาคืนมา」

 

「ไม่ได้นะ วันนี้พี่นะทำตัวเกะกะที่ร้านมากเกินไปแล้วนะ」

 

อิน่าปฏิเสธมาร์ ฮันนะเองก็ไปที่เคาน์เตอร์พร้อมกับอิน่าด้วย

 

「ใช่แล้ว มาร์ไม่มีสาเกเหลือให้แกดื่มอีกต่อไปแล้ว! สาเกจะหมดร้านหมดแล้วเนี่ย……」

 

「ชิ……」

 

หลังจากเมามาร์เองก็จ้องอิน่าและฮันนะด้วยความขุ่นเคืองแต่แล้วเดลที่กำลังทำความสะอาดพื้นก็เรียกเขา

 

「……มาร์」

 

「……มีอะไรกันเล่า! คิดจะทำอะไร!」

 

ทันใดนั้นมาร์ก็โดนเดลคว้าตัวไป เขาพยายามขัดขืนแต่ว่าไม่สามารถขัดขืนเดลได้

 

「ไม่รู้หรอกนะว่าเกิดอะไรขึ้นกับแก แต่ถ้าแกยังหัวร้อนอยู่แบบนี้ละก็ออกไปรับลมกลางคืนข้างนอกให้เย็นก่อนแล้วค่อยกลับมา」

 

「เดี๋ยวก่อนดิ! โอววววววววววววว!」

 

เดลลากมาร์ที่พยายามขัดขืนไปทางเข้าร้านแล้วโยนออกไปกลางถนน

 

 

ขณะที่มาร์กำลังคร่ำครวญ เดลเองก็เปลี่ยนป้ายเข้าร้ายจาก “เปิด” เป็น “ปิด”แล้วประตูก็ถูกล็อค

 

「เฮ้อ พี่นี่สร้างปัญหาได้ตลอด……」

 

「นั่นสิ วันนี้ก็ไม่ได้ช่วยเปิดร้าน แถมลูกค้ายังหายไปหมดเลย……」

 

อิน่าและฮันนะถอนหายใจออกมา

 

 

ภายในร้านมีเสียงของมาร์ที่เคาะประตูจากด้านนอกอยู่ อย่างไรก็ตามหลังจากเคาะได้ไม่นานก็หยุดลง

 

「แต่…เกิดอะไรขึ้นกับพี่กันแน่ พี่ไม่เคยเป็นแบบนี้มาก่อนเลย……」

 

「นั่นสินะ ตั้งแต่ที่ได้พบกับโนโซมุนิสัยนั่นก็หายไป ไม่เคยอาละวาดหรือทำตัวน่ารำคาญเหมือนเมื่อก่อนเลยสักครั้ง……」

 

ด้วยเหตุนี้อิน่าและฮันนะนึกถึงความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นกับมาร์

 

 

ตั้งแต่ที่ได้พบกับโนโซมุ มาร์ก็เลิกอาละวาด จริงอยู่ที่คนในย่านการค้ายังกลัวเขาและถึงแม้จะใช้เจ้านั่นช่วยจัดการพวกเมาหัวราน้ำ แต่ก็ไม่ได้ทำให้ร้านอื่นๆเดือดร้อนเหมือนเมื่อก่อน

 

 

อย่างไรก็ตาม มาร์ที่กลับมาที่ร้านในวันนี้เหมือนตัวตนในวันวาน

 

 

สงสัยว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่ที่สถาบัน มือใหญ่ของเดลวางไว้บนไหล่ของอิน่า

 

「ไม่ต้องกังวล ตอนนี้ยังไม่ได้หรอก แต่เมื่อมันกลับมาเมื่อไรจะเทศน์ให้ยับเลย」

 

「คุณพ่อ……」

 

มืออันอบอุ่นที่อยู่บนไหล่อิน่า สีหน้าที่เศร้าหมองของเธอก็ค่อยๆฟื้นคืนกลับมา

 

「ใช่แล้ว มาทำให้อิน่าต้องอิน่าเศร้าแบบนี้ต้องจัดให้หนัก」

 

ฮันนะยิ้มและยืดอกเพื่อสร้างความมั่นใจให้กับเธอ

 

 

อิน่ายิ้มและพยักหน้าเล็กน้อย

 

 

ในเวลานั้นประตูทางเข้าก็ถูกกระแทกเล็กน้อย

 

「ค่าาา ไม่ทราบว่าเป็นใครคะ?」

 

มาร์นั้นจากไปแล้วก่อนหน้านี้ ดังนั้นอิน่าจึงสงสัยว่ามีแขกมาแล้วงั้นเหรอ และพอเปิดประตูก็พบกับหญิงสาวผมสีน้ำตาลกำลังหอบหายใจ

 

「คุณทิม่า……」

 

「แฮ่ก แฮ่ก … ขอโทษที่มาหายามดึกนะคะ! มาร์คุงกลับมารึยังคะ!?」

 

บางทีเธออาจจะร้อนรนอย่างมาก ผิวขาวนวลนั้นแดงแจ๋ มีควันออกมาจากปากของเธอ ในคืนฤดูใบไม้ผลิอากาศที่หนาวเย็น เธอหายใจออกทั้งๆที่จ้องมองไปที่อิน่า

 

「พอดีพี่ดื่มหนักมากก็เลยโดนไล่ออกจากร้านให้ไปสงบสติได้สักพักแล้วค่ะ……」

 

เมื่อทิม่าได้ยินก็รู้สึกผิดหวังเล็กน้อยที่คลาดกัน

 

 

ตอนแรกอิน่าพยายามจะถามเกี่ยวกับมาร์ แต่เธอสัมผัสได้บรรยากาศแปลกๆจากทิม่าเลยถามออกไป

 

「เอ่อ…วันนี้พี่เขาเปลี่ยนไปตั้งแต่กลับมา จริงอยู่ว่าก่อนหน้านี้พี่เปลี่ยนไป แต่วันนี้เขาทำที่ร้านวุ่นไปหมดเลย..เกิดอะไรขึ้นกันแน่คะ?」

 

「นั่นสินะ……」

 

「…………」

 

ทิม่าลืมตาขึ้นเมื่อได้ยินคำพูดของอิน่า ทิม่าเองก็จ้องไปทางอิน่า

 

 

เมื่อทิม่าสบตากับอิน่าเธอก็พบกับฮันนะและเดลอยู่ด้วย

 

 

พวกเขาต่างจ้องมองมาทางทิม่าซึ่งเผยให้เห็นว่ากังวลเกี่ยวกับมาร์เป็นอย่างมาก

 

「อา คือ…จริงๆแล้ว……」

 

ทิม่าที่โดนจับจ้องก็เริ่มพูดถึงสิ่งที่เกิดขึ้นในวันนี้

◇◆◇

「ฮะฮะ…ฮึบ!」

 

มาร์ที่ถูกไล่ออกจากร้าน เมาแล้วเดินไปตามถนนย่านการค้าด้วยท่าทีโซเซ

 

 

สถานที่แห่งนี้ต่างจากถนนสายหลักที่ได้รับการทำความสะอาดและมีแสงไฟส่องสว่าง สถานที่แห่งนี้มีแสงไฟสลัวและมีขยะเต็มไปทั่วทุกที่ ความสลัวนั่นทำให้มาร์อุ่นใจ อย่างน้อยก็ไม่อยากให้ใครมาเห็นสภาพน่ารังเกียจเช่นนี้

 

「เอ่ออ อาาาาาาาา~」

 

มาร์เอามือพิงผนังเพื่อยันร่างกายเอาไว้

 

 

เขานึกถึงเรื่องของโนโซมุด้วยใบหน้าที่โกรธจัด อย่างไรก็ตามเพราะสาเกทำให้หัวของเขาตึบๆ ความรู้สึกนั้นค่อนข้างเบาลงกว่าตอนที่อยู่ที่ร้านแล้ว

 

 

แน่นอนว่าโกรธมากที่โนโซมุมันไม่พยายามอย่างเต็มที่เหมือนอย่างเคย แม้จะเกิดวิกฤตกับสหายของตัวเองก็ตามที

 

 

อย่างไรก็ตามโนโซมุมันท่าทีแปลกไปเมื่อเร็วๆนี้

 

 

โนโซมุมักจะครุ่นคิดอะไรบางอย่าง และพยายามปิดบังทุกสิ่งเอาไว้

 

มือของข้าที่ทำร้ายโนโซมุลงไป มือข้างขวาข้างนี้

 

(ไอ้บ้าเอ้ย…….อะไรกันวะ……นี่ไม่เชื่อใจกันขนาดนั้นเลยงั้นเหรอ……)

 

อย่างไรก็ตามเหตุผลที่กลับมาเล็กน้อยก็กลืนกินไปด้วยความโกรธ

 

 

โนโซมุที่ทำหน้าตากดขี่ตัวเอง เห็นแบบนั้นแล้วก็ยิ่งเดือดดาลกลับไปเป็นตัวตนเก่าๆอีกแล้ว

 

 

แต่ในขณะเดียวกันมาร์เองก็รู้สึกสมเพชตัวเอง

 

มาร์ค่อยๆเร่งความเคิดของเขา ทุกข์ทรมานจากความโกรธที่โนโซมุสร้างขึ้นและทำเขาผิดหวัง เขาไม่เข้าใจอะไรเกี่ยวกับหมอนั่นเลย ยังไงก็ตามมีเสียงเรียกจากด้านหลัง

 

 

「หยุดเถอะนะคะ!」

 

「ไม่เป็นไรหรอก ก็แค่อยากจะออกมาเดินเล่นยามดึกเองนะ?」

 

「มาเล่นกับพวกเราดีกว่านะ? จะทำให้สนุกยันหว่างเลย!」

 

ข้าได้ยินเสียงผู้หญิงกำลังร้องขอความช่วยเหลือและเสียงผู้ชายที่ดูหยาบกร้าน มาร์เดินตามไปด้วยท่าทางอันโซเซ ในไม่ช้าเขาก็เห็นชายหนุ่มที่อายุพอๆกันกับเขา

 

 

พวกเขาห้อมล้อมผู้หญิงคนนั้นและพยายามโต้เถียงกันอยู่

 

 

มันเป็นสถานที่ไร้คนสัญจร เป็นที่อโคจรไม่ควรจะมาเดินเล่นในที่แบบนี้ เห็นได้ชัดว่าฝ่ายหญิงไม่มีท่าทีจะเล่นกับฝ่ายชาย

 

 

ผู้ชายที่อยู่ตรงหน้ามันเลวทรามทั้งพฤติกรรมและรูปลักษณ์มันเป็นคนที่เขารู้จักดี

 

「……พวกนายกำลังทำอะไร」

 

มาร์จ้องมองชายสองคนที่อยู่ใกล้กับผู้หญิงมากที่สุด ท่ามกลางพวกนั้นเคยเป็นพวกที่เคยติดตามมาร์

 

「หาาาา?……มีอะไรงั้นเหรอมาร์?」

 

「แค่เห็นก็น่าจะรู้แล้วนี่หว่า? ก็จะเล่นกับผู้หญิงคนนี้ไง」

 

「ปล่อยฉันนะ!」

 

ชายคนนั้นคว้าแขนของผู้หญิงคนนั้น ผู้หญิงคนนั้นพยายามสลัดแขนออก เธอเป็นนักเรียนของสถาบันโซลมินาติห้อง 10 เธอคนเดียวไม่รอดแน่ๆ

 

 

ตรงกันข้ามฝ่ายชายมันกำลังทำท่าทางตื่นเต้นกับการขัดขืนของเธอมันตบหน้าเธอคนนั้นและพยายามเอามือล้วงเข้าไปในหน้าอกและก้นของเธอ

 

 

 

「วู้ยยยยยยยยย~~。ร่างกายนี่มันยอดไปเลยไม่ใช่เหรอ! ชักเครื่องติดแล้วโว้ย」

 

「อาาาาาาา! ดูท่าจะได้มันส์ยันหว่างจริงๆวะอย่าปล่อยมันไปเชียวนะ」

 

「ไม่ ไม่ ไม่น้าาาาาาาาาา……」

 

เธอที่ทำท่าทางกลัวก็ล้มลงไปนั่งอยู่กับพื้น

 

「ไม่เป็นไรหรอกน่า …ครั้งแรกในเมืองก็ดีไม่ใช่เหรอไง? มาสร้างความทรงจำดีๆกันเถอะ……」

 

คำพูดนั่นออกความเห็นโดยไม่คำนึงถึงฝ่ายหญิงเลยแม้แต่น้อย ชายอีกคนที่อยู่ด้านข้างพยายามปลดเปลื้องเสื้อผ้าของผู้หญิง อย่างไรก็ตามอดีตคนติดตามก็โดนต่อยจนปลิวไป

 

「มาร์!แกกกกกกกกก!ทำบ้าอะไรของแกวะ!」

 

 

คือมาร์เองที่พุ่งเข้าไปซัดหน้าผู้ติดตามของเขา หมอนั่นล้มลงกระเด็นไปจนปลิวไปโดนคนที่เหลือ

 

「น่ารำคาญโว้ยพวกแกเนี่ย ตอนนี้ยิ่งเดือดๆอยู่ พอมาเห็นหน้าพวกแกแล้วแม่งยิ่งหงุดหงิดสุดๆไปเลยวะ……」

 

พวกมันต่างจ้องมาร์ที่มาร์แต่มาร์ไม่ได้เคลื่อนไหวอะไร

 

 

อดีตผู้ติดตามของมาร์รู้ดีว่าความสามารถของมาร์เป็นยังไง

 

「เหหหห…อยากจะสู้กับตรูยังงั้นเหรอ?」

 

「เฮ้ย!พูดอะไรของพวกแกนะหาาา แต่ก่อนทำได้แค่เลียแข้งเลียขาไปวันๆ เดี๋ยวนี้หัดหันเขี้ยวแว้งกัดงั้นเหรอวะ!」

 

มาร์เปิดปากพูดขึ้น อารมณ์ในตอนนี้คืออยากจะซัดหน้าพวกแม่งให้หมดเพื่อระบายความหงุดหงิดในตอนนี้

 

「…………」

 

「เหอะ กับอีคนแบบแกเนี่ยที่ไปอยู่กับไอ้เศษเดนนั่นอะนะ……」

 

พอหมอนั่นพูดถึงโนโซมุขึ้นมา มาร์ก็วิ่งเข้าไปซัดหน้าทันที

 

 

นั่นเป็นสัญญาณของการเริ่มต้นทะเลาะวิวาท ชั่วขณะหนึ่ง เสียงกระทบกระทั่งกันก็ดังขึ้นภายในตรอกด้านหลัง

 

 

◇◆◇

 

 

「อัก! ไอหมอนั่น……」

 

มาร์ที่ทะเลาะกับอดีตผู้ติดตามตัวเอง ไม่ได้กลับไปที่ถนนสายหลัก แต่นั่งลงที่ตรอกด้านหลังโดนหันหลังพิงกำแพง

 

 

ใบหน้าที่โดนต่อยบวมตามที่ต่างๆและเมื่อสัมผัสก็จะรู้สึกเจ็บแปล๊บ

 

 

การทะเลาะวิวาทจบลงเพราะการหนีไปของหญิงสาวที่ไปเรียกทหารยามมา

 

 

บางทีอาจจะเป็นเพราะไม่พอใจที่จะต้องมาจับเหล่านักเรียน พวกนั้นก็เลยหนีไปอย่างรวดเร็ว

 

 

มาร์ที่ซัดกับพวกเกเรทั้ง 10 คน แต่ว่าเขาสู้ได้ไม่ดีนักเพราะเมาหนัก

 

 

ด้วยเหตุนี้จึงจบลงด้วยการโดนซัดซ้ำๆและจบลงด้วยบาดแผลเต็มหน้า ตัวข้ายังคงสั่นและเจ็บอยู่

 

(……นี่ตรูทำบ้าอะไรอยู่กันวะเนี่ย……)

 

มาร์หัวเราะเยาะเย้ยตัวเองที่จู่ๆก็ไปสู้กับอดีตผู้ติดตามของตัวเอง

 

 

หากมองจากด้านข้าง มาร์ก็เหมือนพระเอกขี่ม้าขาวไปช่วยหญิงสาวคนนั้น แต่เขาไม่ได้สนใจเธอเลยแม้แต่น้อย เขาเพียงแค่คิดว่าอยากซัดหน้าพวกนั้นให้หมอบลงเพื่อระบายความหงุดหงิด

 

 

 

(…………)

 

มาร์ที่ใจเย็นลงหลังจากได้ระบายอารมณ์แล้ว แต่ก็รู้สึกผิดขึ้นมาที่ไปต่อยโนโซมุเพราะความโกรธ

 

 

ถึงกระนั้นความโกรธที่ยังลุกโชนมันยังไม่หายไป

 

มาร์ที่เป็นตัวตนค่อนข้างแข็งแกร่ง กลับมีเรื่องหนักใจและพยายามไม่ก่อเรื่อง แต่ตอนนี้มันก็อดใจไม่ไหว

 

 

ตัวเขาเองรู้ว่าความโกรธที่เขาปลดปล่อยออกไปมันรุนแรงเกินเหตุ แต่ว่าก็ไม่สามารถคุมตัวเองได้จริงๆ

 

 

แม้กระทั่ง ความโกรธที่มีต่อโนโซมุเขายังควบคุมมันไม่ได้และซัดหน้าโนโซมุไป เขาเองก็รู้สึกผิดที่ทำเช่นนั้นได้แต่กัดฟันและกำหมัดแน่น

 

(ให้ตายสิ…มาลงอีหรอบนี้ทุกทีเลยวะ……)

 

“ความโกรธ” โกรธตัวเองที่ควบคุมมันไม่ได้ ความรู้สึกต่อทุกสิ่งทุกอย่างมันกลายเป็นความโกรธและกัดเซาะจิดใจของเขา

 

(เธอคงจะตกใจละสิ……。ตัวข้าเองก็ขับเคลื่อนด้วยเพราะสิ่งนี้……)

 

ใบหน้าของทิม่าเองยังคงอยู่ในใจเขา

 

 

เธอที่สอนเวทย์ให้ข้า เธอที่คอยเป็นห่วงข้า ตัวข้าที่เอาพลังของเธอมาใช้ด้วยความเห็นแก่ตัว

 

 

ตัวตนที่แข็งแกร่งก็มักจะมีจิตใจที่เข้มแข็ง แต่ตัวเขามันตรงกันข้ามเป็นคนใจร้อน

 

 

สุดท้ายแล้วก็ทำให้เธอผิดหวัง

 

 

ไม่สนใจคำแนะนำของเธอและพยายามใช้มันออกมา ทำให้เธอต้องลำบากใจและสร้างภาระให้เธอที่เป็นคู่หูของข้าเป็นอย่างมาก เหล่าเพื่อนๆเองก็ไม่อยากจะให้ข้าใช้มัน

 

 

ยังไงก็ตามความโกรธที่มีต่อหมอนั่นก็เป็นของจริง

 

(ขอโทษจริงๆนะ……)

 

เสียงหัวเราะแห้งๆเล็ดลอดออกจากปากของมาร์ ในขณะนั้นเองมาร์ก็รู้สึกได้ว่ามีคนกำลังวิ่งมา

 

「แฮ่ก แฮ่ก แฮ่ก แฮ่ก เจอมาร์คุงแล้ว」

 

จู่ๆก็โดนเรียกและเมื่อแหงนมองก็เจอกับหญิงสาวที่ข้านึกถึง

 

 

เขาที่รู้ว่าทำให้ตัวเธอต้องโกรธ แต่ตัวเธอก็ยังคงยิ้มให้

 

ทิม่าเดินไปข้างๆข้าและนั่งลง

 

「…………」

 

「…………」

 

มาร์และทิม่าต่างเงียบมีเพียงเสียงของถนนสายหลักที่ดังครึกครื้น

 

 

ทั้งสองเงียบไปครู่หนึ่งก่อนจะเป็นทิม่าที่ถามอะไรบางอย่างออกมา

 

「มาร์คุง ฉันได้ยินเรื่องราวทั้งหมดจากพ่อแม่ของเธอและอิน่าแล้วละคะ เรื่องพ่อแม่จริงๆของเธอน่ะ……」

 

「เอ๋!แล้วมีใครได้ยินเรื่องนั้นอีกบ้าง!!」

 

มาร์ขึ้นเสียงถามทิม่าโดยไม่ได้ตั้งใจ มีเพียงครอบครัวของเขาที่ทราบเรื่องนี้

 

「……หลังเลิกเรียน ฉันไปที่ร้านมาค่ะเพื่อตามหามาร์คุง ฮันนะและคนอื่นๆที่เห็นสถานการณ์เปลี่ยนไปก็เลยมาคุยกับฉันคะ……」

 

「……งั้นเหรอ!」

 

เมื่อฮันนะและคนในครอบครัวได้ยินเรื่องราวที่เกิดขึ้น พวกเขาฟังเรื่องราวด้วยสีหน้าจริงจังและเมื่อพูดถึงอิน่าแล้ว พวกเขานั้นยึดติดกับฮันนะราวกับกลัวอะไรบางอย่าง

 

 

หลังจากสูดหายใจเฮือกใหญ่ เดลก็เริ่มพูดถึงอดีตของมาร์และอิน่าอย่างช้าๆ

 

ฮันนะและเดลไม่ใช่พ่อแม่ที่แท้จริงของมาร์และอิน่า

 

 

แม่ของมาร์และอิน่าเสียชีวิตจากโรคระบาดตั้งแต่มาร์ยังเด็ก

 

 

หลังจากนั้นพ่อที่เสียภรรยาไปก็รู้สึกผิดหวังและเริ่มติดเหล้าจากนั้นก็ไปผัวพันกับหญิงสาวคนหนึ่งจนไม่ค่อยกลับบ้าน

 

 

พ่อที่สองสามวันกลับบ้านที พอกลับมาถึงบ้านก็เอาแต่เก็บตัวอยู่ในห้อง

 

 

มาร์และอิน่าที่เห็นพ่อตัวเองออกไปข้างนอกก็มองด้วยความสิ้นหวัง พ่อออกจากบ้านไปและพูดโดยไม่เหลือเยื่อใยดีๆต่อกันเลยแม้แต่น้อย

 

 

พ่อใช้ความรุนแรงกับมาร์และอิน่าอย่างไร้เหตุผล

 

 

อยู่มาวันหนึ่งเมื่อวันเหล่านั้นดำเนินต่อไปประมาณ 1 ปี ในที่สุดพ่อก็ไม่กลับบ้านมาอีก ได้ยินภายหลังปรากฏว่าหนีไปอีกเมืองแล้วและไปพร้อมกับผู้หญิงคนหนึ่งที่พบเจอในบาร์

 

 

หลังจากนั้นญาติๆก็คุยกันว่าจะทำยังไงกับทั้งสองที่เสียทั้งพ่อและแม่ไป แต่สิ่งที่พูดคุยนั้นเป็นแรงกดดันให้ทั้งสองที่โดนพ่อตัวเองทิ้งไป

 

 

ในขณะนั้นความวิตกกังวลต่างๆเนื่องจากผลกระทบจากการรุนรานครั้งใหญ่ทำให้ญาติทุกคนไม่สามารถปกป้องบ้านของตัวเองได้ พวกเขาไม่สนญาติพี่น้องที่เหลือต่างสาปแช่งกรนด่าพวกเขาด้วยความเกลียดชังว่าเป็นดั่งตัวหายนะ

 

 

มันเป็นช่วงเวลานั้นเองที่ มาร์เริ่มมีไฟแห่งความโกรธเผาไหม้อยู่ในจิตใจขณะที่อุ้มอิน่าตัวน้อย

 

 

 

อย่างไรก็ตามขณะนั้นจู่ๆก็มีผู้หญิงคนหนึ่งกรีดร้องขึ้นมาขัดจังหวะที่กำลังคุยกัน

 

 

เธอเป็นป้าในละแวกบ้านที่คุ้ยเคยตอนแม่ของมาร์ยังมีชีวิตอยู่ และทั้งคู่มักจะได้รับการดูแลจากพวกเขาเสมอ

 

 

เมื่อเธอคุยกับเหล่าญาติๆของมาร์ เธอมองมาร์ที่พวกเขาและบอกว่า “ฉันจะเอาสองคนนี้ไปเลี้ยงเอง”แล้วพาพวกเขากลับบ้าน

 

 

สามีของเธอเองก็ตกใจที่จู่ๆก็พาเด็กกลับมาบ้าน ทั้งสองพยายามจะมีลูกแต่ก็มีไม่ได้ สามีเธอก็พยักหน้ารับหน้าและบอกจะดูแลทั้งสองคน

 

 

ในเวลานั้นเองซึ่งก็คือฮันนะและเดลที่เป็นพามาร์และอิน่ามาเลี้ยงดู

 

 

◇◆◇

 

 

เมื่อได้ยินเรื่องราวทิม่าก็ตกใจอย่างมาก

 

 

เป็นความจริงที่อิน่าและฮันนะมักจะโกรธมาร์ เป็นไปได้ที่ทั้งสองครอบครัวจะเชื่อมโยงกันอย่างลึกซึ้ง และทิม่าก็รู้สึกว่าที่บ้านเองก็ไว้วางใจพวกเขาสองคนมาก อันที่จริงได้ยินด้วยว่ามาร์ไม่เคยยอมพาใครมาที่ร้านของตนเองเลยถ้าไม่เปิดใจจริงๆ

 

แม้ว่าจะเชื่อฟังแค่ไหนแต่มันไม่ใช่ความเชื่อใจ

 

 

หลังจากได้ยินเรื่องราว ทิม่าก็รู้เลยที่มาร์ทำลงไปเพราะความเป็นห่วง

 

 

บาดแผลของเขาที่ยังเยาว์วัย มันเป็นข้อเท็จจริงที่ว่าเขาพยายามปกป้องครอบครัวให้ออกห่างจากเหล่าคนชั่ว

 

 

 

「……ข้าน่ะอยากจะแข็งแกร่งขึ้น อยากจะแข็งแกร่งพอที่จะเอาชนะความไร้เหตุผลเหล่านั้น ในใจข้าคิดว่าโนโซมุนั้นมีพลังเพียงพอเช่นเดียวกับทิม่า。」

 

นั่นอาจเป็นเหตุผลที่แท้จริงที่เขาแสวงหาพลังและเขาก็อิจฉาคนที่มีพลังเหล่านั้น

 

「ข้าคิดว่าถ้าเธอสอนเวทย์ให้และได้รับพลังนั้นมา แต่นั่นเป็นความเข้าใจผิด…ถึงอย่างงั้นก็ควบคุมความโกรธไม่ได้เลย」

 

「…………」

 

ทิม่าที่นั่งอยู่ข้างๆก็นั่งฟังเงียบๆ

 

「……มันเป็นเรื่องราวที่น่าสมเพชใช่ไหมละ ปล่อยให้ความโกรธครอบงำเหมือนกับไอเวรนั่น……」

 

「……มาร์คุง」

 

ความเสียใจและความผิดหวังของมาร์ วันที่ไม่สามารถควบคุมอารมณ์ได้มันยังฝังแน่นอยู่ในใจ ความอิจฉาต่อเพื่อนๆที่มีพลังมากมาย ความผิดที่ข้าได้ทำลงไป ความคิดที่ครั้งหนึ่งเลยเริ่มต้นใหม่อีกครั้ง นี่เป็นครั้งแรกเลยที่เขาระบายออกมาให้ใครคนหนึ่งได้ยิน

 

「โนโซมุวันนี้ก็เช่นกัน สาเหตุคือถ้าข้าแก้ไขเหตุการณ์นั่นได้ ข้าอุตสาห์ภูมิใจที่ใช้นั่นได้จริงๆ แต่ตอนนั้นหากปล่อยให้ซีน่าและคนอื่นๆจัดการเรื่องแบบนี้ก็คงไม่เกิดขึ้น……」

 

มาร์กัดฟันแน่น เลือดหยดลงในหมัดของเขา

 

 

ทิม่าค่อยๆวางมือของเธอไว้บนกำปั้นของมาร์

 

「…………」

 

「ทิม่า?」

 

มาร์เอียงคอด้วยความสงสัย

 

 

ทิม่าจับมือของมาร์และเปิดปากพูด จ้องมองเขาตรงๆ

 

「ใจจริงฉันรู้นะคะ? มาร์คุงเป็นคนที่ใจดี ทุกๆคนเองก็รู้ ทั้ง ไอ โนโซมุ โซเมีย ซีน่าซัง……」

 

ทิม่าค่อยๆพูดออกมา

 

「มาร์คุงน่ะ มือข้างนี้ใช่ไหมละคะที่ใช้ปกป้องฉันตอนที่สู้กับรูกาโต้…แถมยังช่วยเพื่อนของฉันเอาไว้」

 

มือของทิม่าที่ค่อนข้างเย็น อย่างไรก็ตามเขารู้สึกได้ว่ามันอบอุ่นขึ้น หัวใจที่แข็งกร้าวของมาร์ค่อยๆละลายลง

 

「มาร์คุงอาจจะทำผิดพลาดไปบ้างก็จริง แต่อย่างน้อยมันก็ออกมาดีไม่ใช่เหรอไงคะ เพราะงั้นพวกโนโซมุและเราถึงได้มาอยู่ตรงนี้?」

 

มาร์จ้องหน้าทิม่าด้วยความประหลาดใจ

 

 

ยามที่พ่อแม่ที่แท้จริงจากไปตัวเขาก็ไม่สามารถก้าวเดินต่อไปได้ มาร์ไม่เคยคิดจะลดละความโกรธที่มีในใจลงเลยแม้แต่น้อย

 

 

อย่างไรก็ตาม โนโซมุยังคงอยู่ เขาน่าจะยังอยู่ในเมืองนี้ มาร์อยากจะพบกับโนโซมุอีกสักครั้ง

 

「……ถ้าไปตอนนี้จะทันไหม?」

 

มาร์ถามทิม่าเพื่อให้แน่ใจ เธอตอบด้วยน้ำเสียงหนักแน่น

 

「น่าจะทันอยู่ค่ะ ใช่แล้วล่ะคะ ไปกันเถอะคราวนี้พวกเราไปเจอกับโนโซมุและไปบอกกับเขาด้วยตัวเองว่า “นายปิดบังอะไรไว้กันแน่”ค่ะ」

 

「เอะ….เลียนแบบข้ารึไงกัน?」

 

มาร์ที่จู่ๆก็โดนทิม่าเลียนแบบ รอยยิ้มปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเขา

 

มาร์หลับตาลงอีกครั้งและสูดลมหายใจเข้าลึกๆเพื่อจัดระบบความคิดอีกครั้ง

มาร์สูดหายใจเข้าออกอย่างช้าๆ ราวกับจะขจัดความขุ่นมัวในใจ เขาลืมตาราวกับตัดสินใจได้แล้วและยืนขึ้นมา

 

「……นั่นสินะ ไปเจอหมอนั่นและต้องขอโทษ และก็ต้องบอกมันว่า “มีอะไรปิดบังไว้กันแน่หะ”」

 

รอยยิ้มที่เต็มไปด้วยความกล้าปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเขา มันเป็นรูปลักษณ์ที่เหมาะกับเขาจริงๆ

ทิม่าเองก็ยิ้มตาม ราวกับกำลังคิดในเรื่องเดียวกัน

 

“ไปเจอโนโซมุอีกครั้ง และขอโทษเขา แล้วก็ให้เขาบอกเรื่องที่ปิดบังทุกอย่างไว้”

 

「ยังไงก็ต้องไปตามหาไอ้หมอนั่นสินะ……」

 

「ใช่ ไอและคนอื่นๆเองก็ไปหารอบๆเมืองเลย ฉันเองก็ต้อง…อึก!」

 

ทั้งสองพยายามจะไปตามหาโนโซมุ อย่างไรก็ตาม ทิม่าก็มีท่าทีโซเซ

มาร์รีบเข้าไปพยุงร่างของเธอทันทีอย่างเร่งรีบและจ้องมองลงที่ข้อเท้าของเธอ ใบหน้าของทิม่าแดงก่ำ

 

「เธอ…ข้อเท้ามัน」

 

มาร์จ้องมองไปที่ข้อเท้าของทิม่าด้วยความตกตะลึง

ใบหน้าของเขาเริ่มแสดงความเจ็บปวดออกมาอีกครั้ง อาการบาดเจ็บที่เกิดจากการที่เขาผลักเธอในตอนนั้น

 

「เอ๋!? อาาา! แต่ก็ไม่เป็นไรหรอกนะ เจ็บมาสักพักหนึ่งแล้ว หายปวดแล้วล่ะคะ……」

 

ทิม่าร้อนรนเมื่อสังเกตเห็นมาร์ที่จ้องมองขาของเธอ แต่มาร์เองก็ตะคอกใส่ทิม่า

 

「ยัยบ้า! นี่มันไม่ดีขึ้นเลยสักนิด! มันแย่ลงยิ่งกว่าเก่าอีกไม่ใช่เหรอไง!」

 

「เอ๋! เดี๋ยวสิ! มาร์คุงงงง!?」

 

มาร์วางมือบนไหล่และขาของเธอ กอดเธอไว้และเริ่มวิ่งอย่างรวดเร็วจุดหมายคือร้านของเขาเอง

ในหัวของเขาคิดเรื่องแต่วิธีรักษาข้อเท้าของเธอ ใบหน้าของทิม่าเปลี่ยนเป็นสีแดงสดเพราะตอนนี้อยู่ในท่าอุ้มเจ้าหญิง

 

「ยังไงก็ตาม! รีบกลับบ้านไปทำแผลให้เธอก่อน!」

 

「เอออออออออ๋! เดี๋ยวสิ เดี๋ยว! ……คิย๊าาาาาาาาาาา!」

 

มาร์วิ่งไปทั่วเมืองตอนกลางคืนขณะฟังเสียงกรีดร้องของทิม่า

 

อย่างไรก็ตามหลังจากมาถึงร้านแล้วและรักษาข้อเท้าทิม่า เขาก็ถูกฮันนะและอิน่าต่อว่า เขาถูกทั้งสองคนให้อุ้มท่าเจ้าหญิงเหมือนเดิมและใบหน้าก็แดงระเรื่อกันทั้งคู่

Prev
Next

YOU MAY ALSO LIKE

6218a64f4L3yHjrm
พี่น้องร่วมสาบาน ใต้แสงจันทร์อันเจิดจรัส
8 กรกฎาคม 2022
Super-Decomposition-System
ระบบย่อยสลายขั้นเทพ
20 ตุลาคม 2022
9567_cover
ไม่อยากไปดูตัวเลยตั้งเงื่อนไขสุดเว่อร์แต่ดันตรงกับเพื่อนร่วมชั้น
15 มิถุนายน 2021
4500_cover
[นิยายแปล] เจ้าหญิงแสงจันทร์แห่งดินแดนไว้ทุกข์
30 ธันวาคม 2021
MY READING HISTORY
You don't have anything in histories
POPULAR MANGA
กระบี่จงมา
กระบี่จงมา
บทที่ 992.2 ดอกไม้แดงบนภูเขาเขียวดุจเพลิงลุกไหม้ 27 พฤศจิกายน 2024
บทที่ 992.1 ดอกไม้แดงบนภูเขาเขียวดุจเพลิงลุกไหม้ 27 พฤศจิกายน 2024
323r
ท่านอ๋องผู้โหดร้ายกับหมอปีศาจ
ตอนที่ 2138 จะทำลายพวกเจ้า 27 พฤศจิกายน 2024
ตอนที่ 2137 เทือกเขาแห่งความตาย 27 พฤศจิกายน 2024
เทพกระบี่มรณะ (chaotic sword god)
เทพกระบี่มรณะ (chaotic sword god)
ตอนที่ 2528 - การตัดแขน 27 พฤศจิกายน 2024
ตอนที่ 2527 - ชำระหนี้แค้น 27 พฤศจิกายน 2024
61d44445LSpjhqcZ
เปิดระบบสุดโกงอัปสกิลหมอ
บทที่ 869 ที่หลบภัย 27 พฤศจิกายน 2024
บทที่ 868 ผมซับเหงื่อให้ครับ 27 พฤศจิกายน 2024
Full-time-Artist-ใครว่าผมไม่เหมาะเป็นศิลปิ
Full-time Artist ใครว่าผมไม่เหมาะเป็นศิลปิน
ตอนที่ 775 อาภรณ์หลวมโพรกมิเสียดาย เพื่อเจ้าข้าผ่ายผอมยอมอิดโรย 27 พฤศจิกายน 2024
ตอนที่ 774 ผีเสื้อรักบุปผา 27 พฤศจิกายน 2024
นิยายแปล-~จ้าวนักสู้เกิดใหม่ทั้งทีดันเป็นนางร้าย-~-ลูน่าอยากรีไทร์แล้ว
[นิยายแปล] ~จ้าวนักสู้เกิดใหม่ทั้งทีดันเป็นนางร้าย ~ ลูน่าอยากรีไทร์แล้ว
ตอนที่ 53 - 030:แผนการฝึกนักบุญ⑦ ค้นหาศัตรู 27 พฤศจิกายน 2024
ตอนที่ 52 - 029:แผนการฝึกนักบุญ⑥ ก่อนการต่อสู้ 27 พฤศจิกายน 2024
Here for more Popular Manga

Comments for chapter "ตอนที่ 75"

MANGA DISCUSSION

ใส่ความเห็น ยกเลิกการตอบ

You must Register or Login to post a comment.

  • HOME
  • BLOG
  • CONTACT US
  • ABOUT US
  • COOKIE POLICY

© 2025 Madara Inc. All rights reserved

Sign in

Lost your password?

← Back to cat2auto | นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย PDF

Sign Up

Register For This Site.

Log in | Lost your password?

← Back to cat2auto | นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย PDF

Lost your password?

Please enter your username or email address. You will receive a link to create a new password via email.

← Back to cat2auto | นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย PDF