นิยามแห่งราตรี (Night’s Nomenclature ) - ตอนที่ 190 ผมไม่ฆ่าคุณ
ตอนที่ 190 – ผมไม่ฆ่าคุณ
ชิ่งเฉินคิดในใจว่า บางทีนี่อาจจะเป็นโลกที่เป็นของสัตว์ป่าเท่านั้นสินะ
พวกนักล่าชั้นบนสุดท่องไปทั่วโลก มีเพียงตัวที่ดุร้ายพอจึงจะสามารถมีชีวิตต่อไป
เฉาเวยเป็นเช่นนี้ หวงจื่อเสียนก็เป็นเช่นนี้ คู่ต่อสู้มากมายที่ชิ่งเฉินต้องเผชิญในอนาคตล้วนเป็นเช่นนี้ เขาจำเป็นต้องปลุกสมาธิยี่สิบส่วน ทำให้ตนเองเพิ่มความสุขุมและความดุร้ายยิ่งขึ้นจึงจะสามารถมีชีวิตต่อไป
ชิ่งเฉินโจมตีหมัดแล้วหมัดเล่า เสียงหายใจยิ่งมายิ่งหนัก ความเร็วของการออกหมัดก็ยิ่งมายิ่งช้า
แต่หวงจื่อเสียนมองทะลุการเสแสร้งของเขา ยังคงไม่เคลื่อนไหว ไม่รู้ว่ากำลังรอคอยอะไร
แต่ทว่า 2 นาทีให้หลัง หวงจื่อเสียนจู่ ๆ เผยจุดอ่อนหลังหูซ้ายออกมา ชิ่งเฉินเห็นจุดอ่อนนี้แล้วดวงตาสว่างวูบ ใช้แขนซ้ายโบกหมัดใส่จุดอ่อนนี้จากจิตใต้สำนึก
หวงจื่อเสียนมองช่องว่างระหว่างหมัดของชิ่งเฉิน คนทั้งคนจู่ ๆ ละทิ้งการป้องกัน ก้มตัวลงกอดขาทั้งคู่ของชิ่งเฉิน
เขาอยากจะกอดขาทั้งคู่ของชิ่งเฉินยกขึ้นอย่างดุเดือด แล้วทุ่มลงบนพื้นหนัก ๆ อีกที
ผู้ชมลุกขึ้นยืนด้วยความประหลาดใจ
ยิวยิตสูเป็นทักษะสร้างชื่อของหวงจื่อเสียน พอชิ่งเฉินถูกทุ่มลงบนพื้น งั้นก็ลุกอีกไม่ขึ้นแล้ว
แต่ทว่า หลี่ซูถงกลับเห็นว่า ชิ่งเฉินในขณะนี้ไม่ได้ตื่นตระหนกเลย ทว่ากำลังยิ้ม
หลี่ซูถงก็ยิ้ม
ส่วนที่ร้ายกาจที่สุดของลูกศิษย์คนนี้ของตนเองคืออะไรหรือ?
คือความแข็งแกร่งที่จุดพีคแรงก์ E เหรอ? ไม่ใช่
เป็นฮีโร่ใจเด็ดที่ใช้ชีิวิตแลกชีวิตเหรอ? ก็ไม่ใช่
ส่วนที่ร้ายกาจที่สุดของลูกศิษย์คนนี้คือมันสมอง คือความสามารถในการคำนวณ
ก่อนแข่ง ชิ่งเฉินดูการแข่งมวยของหวงจื่อเสียนไปหนึ่งรอบ แต่หลังลงสนาม เขากลับแสดงท่าทางที่ไม่คุ้นเคยกับหวงจื่อเสียนอย่างสิ้นเชิงชนิดหนึ่ง
ตอนแรกคือถูกทุบตี
แล้วเป็นการสู้กลับ
แต่ชิ่งเฉินทราบชัดมากว่า เขาขาดโอกาสที่จะโจมตีครั้งเดียวถึงแก่ชีวิตมาโดยตลอด
ดังนั้นตั้งแต่ที่การแข่งมวยนัดนี้เริ่มต้น ชิ่งเฉินกับหวงจื่อเสียนสู้กันนานขนาดนั้นก็เป็นเพียงการรอคอยชั่วขณะนี้
เขารอหวงจื่อเสียนแกล้งเผยจุดอ่อนออกมาเหมือนอย่างในวิดีโอ จากนั้นชกหมัดซ้ายออกไปอย่างที่อีกฝ่ายคาดการณ์ เผยจุดอ่อนของตนเองออกมา
พริบตาถัดมา วินาทีที่หวงจื่อเสียนอยากจะทุ่มชิ่งเฉินลงพื้น ชิ่งเฉินไม่ได้เสียสมดุลเลย ทว่าฟาดแขนขวาออกไปราวสายฟ้า โจมตีใส่ท้ายทอยของอีกฝ่าย
ทุกสิ่งล้วนเขียนจนถึงบทสรุปอย่างที่ชิ่งเฉินรอคอย
เขาลงมืออย่างปรานี ถ้าหากการโจมตีนี้เต็มกำลัง หวงจื่อเสียนหลังจากถูกตีท้ายทอยต้องตายอย่างไม่ต้องสงสัย
ในกรงแปดเหลี่ยมพลิกผันไปมา ผู้ชมเดิมนึกว่าผู้เล่นกวงเสี่ยวถู่คนนี้จบเห่แล้ว แต่การกอดทุ่มในจินตนาการไม่ได้ปรากฎขึ้นเลย กลับเป็นหวงจื่อเสียนที่จู่ ๆ กางสองแขนออกราวกับถูกไฟช็อต ล้มลงบนพื้นตัวสั่นงั่ก ๆ ตะเกียกตะกายลุกไม่ขึ้น
ชิ่งเฉินขี่บนตัวหวงจื่อเสียน หมัดแล้วหมัดเล่าทุบทำลายพลังต่อสู้สุดท้ายของคู่ต่อสู้
เวลานี้ เหล่าผู้ชมบนอัฒจันทร์ก็ตระหนักแล้วว่าความพ่ายแพ้ของหวงจื่อเสียนมันแน่นอนแล้ว มีคนเริ่มลุกขึ้นยืนตะโกนเสียงดังอย่างตื่นเต้นว่า “ฆ่ามัน! ฆ่ามัน!”
ในป่าไม้เหล็กกล้าอันเย็นเยียบ นิสัยสัตว์ป่าที่ถูกสะกดไว้มานานของผู้ชมและนักพนันเหล่านี้ได้รับการปลดปล่อยออกมาในสนามมวยนี้
พวกเขาหวังว่าคืนนี้ในกรงแปดเหลี่ยมจะมีคนตาย!
ไม่มีเจ้าหน้าที่มายับยั้ง พวกเขาเหมือนกับจะได้รับคำสั่งไม่ให้ไปขัดขวางชิ่งเฉินฆ่าคนในกรงแปดเหลี่ยม
แต่ทว่าชิ่งเฉินกลับกล่าวเสียงเบา ๆ กับหวงจื่อเสียนอย่างกะทันหันว่า “ยอมแพ้ซะ ผมไม่ฆ่าคุณ”
ทันใดนั้น หวงจื่อเสียนที่บาดเจ็บสาหัสแทบจะพังทลายในที่สุดก็ทนต่อไปไม่ไหว เขาล้มลงหอบหายใจบนพื้น สุดท้ายกระซิบหนึ่งประโยคว่า “ขอบคุณ”
จนกระทั่งขณะนี้ ชิ่งเฉินจึงได้รู้ว่าที่แท้กรงแปดเหลี่ยมโหดร้ายขนาดไหน
หากคุณเป็นผู้แพ้ นั่นก็อาจจะตายได้จริง ๆ
ทุกคนล้วนรอให้ชิ่งเฉินฆ่าหวงจื่อเสียน แต่เขาไม่ได้ลงมือ
ชิ่งเฉินลุกขึ้นยืน มองไปทางกรรมการนอกสนามแล้วกล่าวอย่างสงบนิ่งว่า “จบแล้ว ประกาศเถอะ ผมไม่ฆ่าเขา”
กรรมการลังเลชั่วขณะ จนกระทั่งในหูฟังเขามีคำสั่งลงมาจึงได้พยักหน้าให้กับพิธีกร “ประกาศ”
พิธีกรตื่นเต้นขึ้นมาในทันใด “กวงเสี่ยวถู่ ชนะ!”
การแข่งจัดอันดับของชิ่งเฉินในคืนนี้ถือว่าผ่านด่านแล้ว การแข่งกับรุ่นยานลาดตระเวนภาคพื้นหลังจากนี้จะปล่อยให้เขาเลือกเองว่าจะเข้าร่วมหรือไม่
ธรรมเนียมบนอัฒจันทร์เริ่มขึ้นแล้ว เหล่านักพนันที่ไม่ได้ลงว่าชิ่งเฉินผ่านด่านโยนตั๋วในมือใส่หวงจื่อเสียนอย่างขุ่นแค้น
ตั๋วที่ลอยอยู่ในอากาศราวกับดอกไม้กระดาษที่โปรยปรายในงานเลี้ยงฉลองยิ่งใหญ่
ถัดจากนั้น ควรจะถึงคราวเหล่านักพนันที่ลงขันถูกชูตั๋วขึ้นร้องเชียร์แล้ว
แต่ทุกคนจู่ ๆ ค้นพบปัญหาข้อหนึ่ง พวกเขาไม่มีตั๋วที่สามารถชูขึ้นได้เลย……
ในสถานการณ์ปกติ ผู้ชนะกับผู้แพ้บนอัฒจันทร์แตกต่างกันอย่างเห็นได้ชัด มีคนดีใจ มีคนเศร้าใจ
แต่ทว่าอัฒจันทร์หลังการแข่งนัดนี้ประหลาดมาก ทุกคนล้วนเศร้ามากกันหมดเลย
ไม่มีผู้ชนะเลย……
จนกระทั่งเวลานี้ทุกคนจึงตระหนักว่า ชายกลางคนที่ไร้ซึ่งคุณธรรมแม้แต่นิดเดียวคนนั้นถึงกับเก็บรวบรวมตั๋วที่ลงว่าผ่านด่านพวกนั้นไปแทบหมดสิ้นแล้ว!
และในอีกด้านหนึ่งหลี่ซูถงได้เอาตั๋วทั้งหมดไปขึ้นเงินเรียบร้อยแล้ว ให้ค่ายมวยโอนเงินเข้าบัญชีธนาคารพัฒนาเทคโนโลยีตระกูลหลี่ภายใต้ชื่อชิ่งเฉิน
จำนวนเงินที่ชนะมากกว่าที่คาดการณ์เอาไว้บ้าง เพราะว่ามีคนไม่น้อยที่ซื้อตอนอัตราต่อรองเป็นหนึ่งต่อสิบเจ็ด จำนวนเงินในบัญชีสุดท้ายตกอยู่ที่ 13.26 ล้าน!
คืนนี้หลี่ซูถงทำให้ชิ่งเฉินยกระดับขึ้นไปอยู่ในกลุ่มเศรษฐีผ่านกิจกรรมที่สืบทอดกันมาของอัศวิน
แน่นอนว่านี่ไม่มีทางเทียบกับเศรษฐีที่แท้จริงได้ แต่สามารถครอบครองเงินสิบกว่าล้านในสมัยนักเรียนได้ โดยทั่วไปชิ่งเฉินสามารถเดินเบ่งในโรงเรียนได้แล้ว
อาจจะมีคนมากมายเคยคิดว่า ถ้าหากตนเองสมัยเป็นนักเรียนกลายเป็นมหาเศรษฐีมันจะเป็นประสบการณ์แบบไหน?
ในห้องส่วนตัว หลี่อีนั่วนั่งบนโซฟาอย่างผ่อนคลาย เจียงเสี่ยวถังย่ำรองเท้าส้นสูงเข้ามากล่าวอย่างยิ้มแย้มว่า “ได้ยินว่าคุณหนูอีนั่วหาฉันเหรอคะ?”
“อืม” หลี่อีนั่วกล่าว “คืนนี้เพราะคำพูดประโยคเดียวของฉัน ทำเงินมากขึ้นได้ไม่น้อยเลยปะ? ฉันเห็นว่าเธอเพิ่งจะออกจากห้องส่วนตัว อัตราต่อรองผ่านด่านก็ลดลง 4 แต้ม”
เจียงเสี่ยวถังยิ้มเอ่ยว่า “นั่นย่อมเป็นคำอวยพรของคุณหนูอีนั่วค่ะ”
“ในเมื่อฉันช่วยเธอทำเงิน งั้นฉันก็มีข้อเรียกร้องอย่างหนึ่ง” หลี่อีนั่วหันไปมองเจียงเสี่ยวถัง ริมฝีปากสีแดงของอีกฝ่ายดูเย้ายวนเป็นพิเศษในแสงไฟสลัว
เจียงเสี่ยวถังกล่าวว่า “อย่าว่าแต่ข้อเรียกร้องเดียว ถึงคุณหนูอีนั่นจะเรียกร้องมาสิบข้อฉันก็รับปากค่ะ”
หลี่อีนั่วชี้ไปที่ชิ่งเฉินซึ่งกำลังหอบหายในอยู่ในกรงแปดเหลี่ยม “จากนี้ไป เขาอยากแข่งมวยก็ให้เขาแข่ง ถ้าเขาไม่อยากสู้ เธอก็อย่าเล่นลูกไม้อะไร”
มีคนพูดว่า ไม่ว่าคุณจะเห็นบอสสาวสวยคนนั้นของค่ายมวยไห่ถังเมื่อใด อีกฝ่ายก็ยิ้มแย้มอยู่เสมอ แต่ตอนนี้อีกฝ่ายกลับหุบยิ้ม “คุณหนูอีนั่น ค่ายมวยไห่ถังก็เปิดประตูทำธุรกิจนะคะ มีนักมวยดี ๆ ย่อมจะทำให้ธุรกิจดีขึ้น”
“ไงนะ เธอไม่ตกลง?” ผู้กล้าสาวสวยนั่งตัวตรง
เจียงเสี่ยวถังกล่าวอย่างสงบนิ่งว่า “นั่นก็ไม่ใช่ ฉันอยากพูดว่าสุดท้ายแล้วยังต้องดูความคิดของกวงเสี่ยวถู่เองใช่หรือไม่คะ ฉันก็ไม่ได้จะบังคับอะไรเขา แต่ฉันเชื่อว่าค่ายมวยไห่ถังจะต้องมีสิ่งของที่สามารถดึงดูดเขาได้แน่”
หลี่อีนั่วยิ้มแล้วลุกขึ้นยืน ตอนที่เธอเดินผ่านเจียงเสี่ยวถังได้กล่าวอย่างมีความหมายลึกซึ้งว่า “อย่าเอาตัวเองเข้าไปแส่”
พูดจบ เธอพาหนานเกิงเฉินกับหลี่ถงอวิ๋นจากไป
ระหว่างทาง หลี่ถงอวิ๋นยังถามอย่างกังวลใจว่า “พี่อีนั่วคะ นักมวยเสี่ยวถู่คนนั้นเหมือนจะได้รับบาดเจ็บ เขาจะเป็นอะไรไหมคะ?”
“ไม่หรอก” หลี่อีนั่วลูบศีรษะเสี่ยวถงอวิ๋น “บาดแผลพวกนั้นดูน่ากลัว แต่ก็เป็นบาดแผลที่ผิวนอกทั้งนั้น”
เจียงเสี่ยวถังยืนอยู่ในห้องส่วนตัวอันว่างเปล่าไร้ผู้คน มองไปในกรงแปดเหลี่ยมผ่านหน้าต่างเงียบ ๆ เธอยิ้ม จากนั้นบิดเอวเดินออกไป หลังจากเลี้ยวสองสามรอบก็เดินเข้าไปในห้องส่วนตัวอีกห้องหนึ่ง
ที่นี่ โจวม่อนักมวยรุ่นมิดเดิลเวทที่ทิ้งไฟต์ก่อนหน้านี้ถูกคนกดให้คุกเข่าอยู่กับพื้น
เจียงเสี่ยวถังไม่พูดไม่จาสักคำก็หยิบมีดสั้นสองเล่มจากในมือของลูกน้องสูทดำแทงเข้าไปในช่องท้องของโจวม่ออย่างนิ่ง ๆ
หญิงสาวมองสีหน้าเจ็บปวดของอีกฝ่าย กล่าวอย่างสงบนิ่งว่า “อย่าโทษฉัน กฎของยุทธจักรก็อย่างนี้ คุณสามารถไม่รับการแข่งของค่ายมวยไห่ถัง แต่ในเมื่อคุณรับแล้วก็ไม่สามารถเสียใจภายหลังไปดื้อ ๆ ถ้าไม่ลงโทษสักหน่อยจะให้คนนอกมองฉันยังไง?”
โจวม่อถึงจะเจ็บปวดเกินทน แต่ไม่ได้ปริปากบ่นเลย “ผมรู้กฎครับ”
หญิงสาวกล่าวกับลูกน้องว่า “เอาล่ะ ปล่อยเขาเถอะ ให้เขาเดินไปที่ห้องฉุกเฉินของโรงพยาบาลข้าง ๆ นี่เอง จำไว้นะ ก่อนจะเข้าโรงพยาบาลจะดึงมีดออกมาไม่ได้”
ขณะนี้ พิธีกรนอกกรงแปดเหลี่ยมกล่าวด้วยสีหน้าเร้าอารมณ์ว่า “เส้นทางผ่านด่านของราชามวยอาฝาน คืนนี้ได้เกิดขึ้นอีกครั้งที่ค่ายมวยไห่ถัง ผมเชื่อว่าในอนาคต ผู้ชมทุกท่านที่เป็นประจักษ์พยานต่อชั่วขณะนี้ด้วยกันกับผมจะไม่ลืมเลือนทุกสิ่งพวกเราได้ร่วมประสบด้วยกันในวันนี้เป็นกันขาด”
ชิ่งเฉินเดินออกไปข้างนอกด้วยใบหน้าไร้อารมณ์ ตอนนี้เขาเพียงรู้สึกว่าตลอดทั้งร่างของตนเองแทบจะแตกสลายแล้ว
นอกจากสองแขนที่เริ่มบวมแล้ว ซี่โครงทั้งสองข้างของชิ่งเฉินล้วนฟกช้ำ ยังมีต้นขาด้านนอกก็ถูกลูกเตะของหวงจื่อเสียนจนบวมแดงขึ้นมา
แก้มชิ่งเฉินเปื้อนเลือดไปข้างหนึ่ง บวมหนักมาก
วิธีสู้แบบไม่เอาชีวิตยอมรับว่าดุดัน แต่หลังสู้เสร็จก็เจ็บจริง!
เขาเดินกะโผลกกะเผลกไปที่ห้องเปลี่ยนชุด เจ้าหน้าที่ด้านล่างเวทีเข้ามาหาทันที “เพื่อนเสี่ยวถู่ครับ ค่ายมวยไห่ถังเตรียมห้องเปลี่ยนชุดพิเศษให้ท่านแล้ว อีกทั้งเจ้าหน้าที่ทางการแพทย์ก็รออยู่ที่นั่นแล้วครับ คุณพ่อของท่านก็อยู่”
“ดี พาผมไป” ชิ่งเฉินกล่าว
การแข่งจัดอันดับนัดนี้สู้เสร็จ ทุกสิ่งล้วนไม่เหมือนเดิมแล้ว
ตามที่เจ้าหน้าที่แนะนำ ภายหลังเขาอยากจะมาที่ค่ายมวยอีกก็ไม่ต้องยุ่งยากเองแล้ว ขอเพียงโทรศัพท์มาก็จะมีรถตู้ของค่ายมวยไปรับ
ในห้องเปลี่ยนชุดมีถาดผลไม้ ข้างในยังมีห้องน้ำหรูหราแบบเฉพาะตัว
นี่เป็นการปรนนิบัติที่ต้นไม้เงินที่แท้จริงถึงจะมี
……………………………………
ตอนที่ 191 – เงาที่แท้จริง