นิยามแห่งราตรี (Night’s Nomenclature ) - ตอนที่ 159 แผ่นฟ้าเป็นผ้าห่ม ผืนดินเป็นเสื่อปูนอน
- Home
- All Mangas
- นิยามแห่งราตรี (Night’s Nomenclature )
- ตอนที่ 159 แผ่นฟ้าเป็นผ้าห่ม ผืนดินเป็นเสื่อปูนอน
ตอนที่ 159 – แผ่นฟ้าเป็นผ้าห่ม ผืนดินเป็นเสื่อปูนอน
วัตถุต้องห้าม ACE-019 หุ่นเชิด
ชิ่งเฉินมองดูเส้นไหมสีใสก้อนเล็ก ๆ นั้นในมืออย่างอึ้ง ๆ ในมือเบาเหมือนไม่มีวัตถุ
ราวกับปุยเมฆหนึ่งก้อนแกว่งอยู่ในฝ่ามือไม่หยุด
นี่ไม่ใช่การอุปมา เขาไม่รู้สึกถึงน้ำหนักของวัตถุต้องห้ามนี้จริง ๆ
ชิ่งเฉินเงยหน้ามองไปทางยักษ์ที่อยู่ข้างหน้าตนนั้น “นี่สำหรับผมเหรอ”
ยักษ์ติงตงยิ้มซื่อพยักหน้า จากนั้นชี้ส่วนลึกของสถานที่ต้องห้าม คล้ายกำลังจะพูดว่า : เป็นสิ่งที่ผู้เฒ่าพวกนั้นมอบให้คุณ รีบเก็บไปเถอะ
สีหน้าของยักษ์ติงตงเป็นมิตรและนิสัยดีเป็นพิเศษ เพียงแต่เขาเหมือนจะรู้ดีว่ารูปลักษณ์นี้ของตนเองทำให้คนหวาดกลัวค่อนข้างง่าย ดังนั้นหลังเทวัตถุต้องห้ามในฝ่ามือลงบนมือของชิ่งเฉินก็ถอยหลังไปอย่างระมัดระวัง
เขากลัวว่าตนเองจะขู่ขวัญเด็กหนุ่มเบื้องหน้า
เพราะว่าสูงเกินไป ตอนที่ถอยหลังศีรษะยังไปชนกับยอดไม้ ท่าทางอิหลักอิเหลื่อน่ารักอยู่บ้าง
ยักษ์ตัวใหญ่นี้อยู่ที่ชายขอบสถานที่ต้องห้ามได้แต่โค้งหลังลงอย่างระวัง
ชิ่งเฉินมองไปทางครูตัวเองอีก “ครูครับ ผมรับไว้ได้ไหม”
“ได้แน่นอน!” หลี่ซูถงเลิกคิ้ว “ให้มาฟรี ๆ ทำไมจะไม่เอา! พวกตาเฒ่าอวดรวยอยู่ ถ้าเธอไม่รับ งั้นไม่ใช่ไม่ไว้หน้าทุกคนเหรอ!”
พูดจบ
หลี่ซูถงที่เมื่อครู่ยังขมวดคิ้วบึ้งตึงถึงกับเปลี่ยนเรื่องไปกล่าวกับส่วนลึกสถานที่ต้องห้ามว่า “นี่ถือว่าเป็นของขวัญพบหน้าเถอะ แต่พวกคุณคนเยอะขนาดนี้ ทำไมให้ของขวัญชิ้นเดียวล่ะ ละอายใจรึเปล่า ผมรู้นะว่า วัตถุต้องห้าม ACE-003 ‘งูเจ้าเล่ห์’ ก็อยู่ในนี้!”
ชิ่งเฉินมองหลี่ซูถงอย่างมึน ๆ เมื่อกี้ไม่ใช่ยังโมโหอยู่เลยเหรอ ทำไมปุบปับก็เริ่มระบุชื่อขอสิ่งของแล้วล่ะ?!
เพียงแต่เจตจำนงเหล่านั้นในสถานที่ต้องห้ามเหมือนจะดูแคลนที่จะถกปัญหานี้กับหลี่ซูถง จึงไม่ได้เคลื่อนไหวอีก
ยักษ์ติงตงยิ้มให้หลี่ซูถงเหมือนจะทักทาย จากนั้นหมุนตัวเดินไปยังส่วนลึกของสถานที่ต้องห้าม
ชิ่งเฉินจู่ ๆ กล่าวกับแผ่นหลังของเขาว่า “ขอบคุณครับ ผมชื่อชิ่งเฉิน ดีใจมากที่ได้รู้จักคุณ”
ยักษ์ติงตงประหลาดใจอยู่บ้าง เขารีบโบกมือให้ชิ่งเฉินอย่างดีใจ แล้วจึงเดินหน้าต่อไป
ตอนแรกยักษ์เดินช้า ๆ แล้วค่อย ๆ เริ่มวิ่ง
เสียงฝีเท้าตึก ๆ ๆ เสียงทึบทว่ามีพลัง
เท้าที่ใหญ่โตนั้นดูไปแล้วคล้ายกับยางรถบรรทุก ทรงพลังมาก
“ครูครับ ติงตงคนนี้คือ……?” ชิ่งเฉินถามอย่างใคร่รู้
ก่อนหน้านี้ เขายังไม่เคยเห็นมนุษย์ที่บึกบึนขนาดนี้เลย หรือพูดได้ว่า อันที่จริงอีกฝ่ายหลุดพ้นไปจากประเภทมนุษย์แล้ว?
หลี่ซูถงอธิบายว่า “แม่ของเขาเป็นชาวป่าคนหนึ่ง ตอนที่ท้องเขาเพื่อเลี่ยงการล้อมปราบของกองพลสหพันธรัฐได้หลงเข้าไปในชั้นในของสถานที่ต้องห้ามอย่างไม่ตั้งใจ แล้วยังบังเอิญมีวาสนากินสิ่งของบางอย่างของชั้นใน ภายหลังเขาคลอดออกมาในนี้ เป็นเหมือนกับสิ่งมีชีวิต ‘พื้นถิ่น’ ของสถานที่ต้องห้ามทั้งหมด เกิดการเปลี่ยนแปลงอันน่ามหัศจรรย์”
ชิ่งเฉินมองดูแผ่นหลังของติงตง จู่ ๆ เขาคิดถึงปัญหาข้อหนึ่ง: โครงกระดูกของมนุษย์ธรรมดาถ้าหากไม่ใช่ผู้เหนือมนุษย์เกรงว่ายากมากที่จะแบกรับร่างกายเช่นนี้
ทว่าติงตงดูแล้วไม่มีปัญหาประเภทนี้ ร่างกายอันสูงสง่าของอีกฝ่ายวิ่งอย่างบ้าคลั่งขึ้นมาถึงกับทำให้เขาคิดถึงสำนวนหนึ่งสำนวน: ควาฟู่ไล่ตะวัน*
ไม่อาจไม่พูดว่า ชิ่งเฉินรู้สึกมากขึ้นเรื่อย ๆ ว่าสถานที่ต้องห้ามพวกนี้ขยายตัวต่อไปอาจจะสร้างโลกในตำนานใบใหม่ขึ้นมาได้จริง ๆ
โลกในตำนานที่เคยคงอยู่แต่ในจินตนาการของมนุษย์
“ครูครับ ติงตงเป็นชนพื้นเมืองของสถานที่ต้องห้ามนี่ จะไม่ถูกกฎผูกมัดใช่รึเปล่าครั้บ” ชิ่งเฉินถามอย่างอยากรู้
“ไม่ใช่แค่ไม่ถูกกฎของสถานที่ต้องห้ามหมายเลข 002 ผูกมัด” หลี่ซูถงตอบ “เขาสามารถท่องสถานที่ต้องห้ามทั้งหมดได้อย่างไร้ขีดจำกัด แต่ว่ามักไม่ค่อยมีปฏิสัมพันธ์กับผู้คนในในสถานที่ต้องห้าม ดังนั้นเก็บตัวอยู่บ้าง ไม่ยอมไปที่โลกข้างนอกสถานที่ต้องห้าม”
“ผมเห็นว่าในดวงตาเขามีลูกตาซ้อน ในโลกภายนอกนี่มีอยู่แค่ในประวัติศาสตร์หรือว่าตำนานเท่านั้น” ชิ่งเฉินกล่าว “ลูกตาซ้อนมีประโยชน์อะไรครับ”
ลูกตาซ้อนที่มีชื่อเสียงที่สุดมีสองคน คนหนึ่งคือซุ่น คนหนึ่งคือเซียงอวี่**
หลี่ซูถงอธิบายว่า “ติงตงสามารถมองทะลุจิตใจคน ก็อาจจะเเพราะเหตุผลนี้ เขาจึงไม่ยอมออกจากสถานที่ต้องห้ามไปเผชิญหน้ากับมนุษย์คนอื่น แต่กลับชอบอยู่ร่วมกับสัตว์ ตาเฒ่าพวกนั้นให้เขามาส่งวัตถุต้องห้าม เกรงว่าก็อยากจะยืมตาซ้อนมาส่องเธอ หลังจากพวกเขาค้นพบว่าติงตงชอบเป็นเพื่อนกับเธอมาก ก็น่าจะวางใจได้อย่างสมบูรณ์แล้ว”
“อย่างนี้นี่เอง” ชิ่งเฉินคิดย้อนถึงยักษ์ตัวใหญ่ที่สัตย์ซื่อเมื่อครู่นี้ แล้วมองไปยังวัตถุต้องห้ามในมือตนเอง “ครูครับ เงื่อนไขการรองรับ ACE-019 อันนี้คือ?”
หลี่ซูถงไม่ได้พูด เขาถึงกับหยิบใบไม้หนึ่งใบขึ้นมาตรง ๆ เฉือนเป็นแผลเล็ก ๆ บนข้อมือชิ่งเฉิน
เลือดไหลออกมาจากแผลที่เปิดอ้านั้น
ชิ่งเฉินมองดูเงียบ ๆ แต่กลับค้นพบว่าในก้อนเส้นด้ายที่แทบจะโปร่งใสนั้น จู่ ๆ มีปลายด้ายยกตัวขึ้นมา ประหนึ่งงูตัวเล็ก ๆ
ถัดจากนั้น ปลายด้ายของวัตถุต้องห้าม ACE-019 มุดเข้าไปในปากแผล ก้อนด้ายที่เดิมทีโปร่งใสกำลังถูกย้อมเป็นสีแดงของเลือดด้วยความเร็วที่เห็นได้ด้วยตาเปล่า
รอจนก้อนด้ายกลายเป็นสีแดงทั้งหมด ACE-019 ออกมาจากปากแผลอย่างพึงพอใจ พันไปบนข้อมือของชิ่งเฉินเบา ๆ คล้ายกับสายรัดข้อมือสีแดง
ส่วนปากแผลบนข้อมือของชิ่งเฉินถึงกับหายดีอย่างปาฏิหาริย์
หลี่ซูถงเตือนชิ่งเฉินว่า “เริ่มตั้งแต่วันนี้ไป ในระหว่างเดือนครึ่งเสี้ยวทุก ๆ สองเสี้ยว เธอจะต้องฆ่าคนห้าคนมาสังเวยวิญญาณให้มัน ถ้ามีสักเดือนที่ทำไม่ได้ งั้นถ้าเธออยากจะใช้มันอีกก็จะต้องฆ่าสิบคนทุก ๆ สองเดือนครึ่งเสี้ยว”
เดือนครึ่งเสี้ยว ทั่วไปแล้วหมายถึงวันที่ 7 และ 22 ของของแต่ละเดือนในปฏิทินจันทรคติ ที่เรียกว่าระหว่างสองเดือนครึ่งเสี้ยว นั่นก็หมายความว่าอนาคตถ้าชิ่งเฉินอยากใช้หุ่นเชิดจะต้องฆ่าคนห้าคนทุก ๆ เดือน
ชิ่งเฉินสีหน้าเคร่งขรึม “ครูครับ ทำไมผมรู้สึกว่าเงื่อนไขการรองรับของวัตถุต้องห้ามอันนี้ชั่วร้ายอยู่บ้างครับ”
หุ่นเชิดถอนหายใจ “ผู้เหนือมนุษย์ที่ตกผลึกวัตถุต้องห้าม ACE-019 หลังตายคนนั้นเคยเป็นผู้เหนือมนุษย์ที่น่ารังเกียจเป็นพิเศษ ภายหลังหุ่นเชิดชิ้นนี้ถูกคนอื่นรับไปอีกแล้วทำความชั่วอีกมากมาย สุดท้ายสิ่งของนี้ถูกอัศวินรุ่นก่อนหยิบมา รองรับอยู่ในสถานที่ต้องห้ามหมายเลข 002 นี้”
“งั้นรุ่นก่อนทำไมเอามันให้ผมล่ะครับ” ชิ่งเฉินไม่เข้าใจ “ถึงผมจะอยากมีวัตถุต้องห้ามสักชิ้นมาก ๆ แต่พวกรุ่นก่อนไม่กลัวว่าผมจะสูญเสียจิตใจดั้งเดิมไปเพราะเหตุนี้เหรอครับ”
หลี่ซูถงส่ายหน้า “นี่อาจจะเป็นเหตุผลที่พวกเขาให้ติงตงมาดูเธอ ตอนนี้ในเมื่อให้ ACE-019 กับเธอแล้ว ย่อมไว้ใจเธอแล้ว กฎของวัตถุต้องห้ามก็อยู่ตรงนี้ ใช้อย่างไรยังต้องดูตัวเธอเอง”
ชิ่งเฉินครุ่นคิด “งั้นหุ่นเชิด ACE-019 นี่ควรจะใช้ยังไงครับ”
“รอจนเธอเติมเต็มเงื่อนไขรองรับครั้งที่หนึ่งแล้วจะสามารถพันปลายด้านหนึ่งของ ACE-019 ที่โปร่งใสนี้ไว้กับข้อมือตัวเอง ปลายอีกด้านพันบนข้อมือคนอื่น ขอเพียงแรงก์ของเขาไม่สูงกว่าเธอ งั้นในระหว่างเชื่อมต่อ เขาจะกลายเป็นหุ่นเชิดของเธอ เธอไม่อาจควบคุมความคิดของอีกฝ่าย แต่ร่างกายของอีกฝ่ายกลับจะต้องทำสิ่งที่เธอต้องการ อยากให้อีกฝ่ายทำอะไรก็ได้หมด” หลี่ซูถงกล่าว
หลี่ซูถงกล่าวต่อว่า “แน่นอนว่ายังมีเงื่อนไขรองรับเบื้องต้นอย่างหนึ่ง เธอต้องรู้ชื่อของผู้ที่ถูกควบคุม”
ชิ่งเฉินพยักหน้า “ผมเข้าใจแล้ว”
เวลานี้หลี่ซูถงกล่าวว่า “กระบวนการผ่านด่านเป็นตายของเธอครั้งนี้ ฉันพอใจอย่างยิ่ง แต่ว่าฉันได้แต่พาเธอมาถึงตรงนี้ เส้นทางที่เหลือยังต้องให้เธอเดินไปเอง”
ชิ่งเฉินถามว่า “ครูครับ หนุ่มสาวตลอดกาลสี่คำนี้ใครสลักครับ”
“เป็นผู้ก่อตั้งองค์กรอัศวิน ชื่อว่าเริ่นเหอ” หลี่ซูถงอธิบาย “เธอก็น่าจะเห็นชื่อที่สลักเอาไว้สูงที่สุดแล้ว เริ่นเสี่ยวซู่ นั่นเป็นลูกชายของเขา”
ชิ่งเฉินพยักหน้า บนหน้าผาทั้งหมด “ชีวิตคนควรเป็นเหมือนเทียนไข เผาไหม้จากหัวจรดเท้า สว่างไสวตั้งแต่ต้นจนจบ” ประโยคนั้นที่เริ่นเสี่ยวซู่สลักเอาไว้กระทบจิตใจตนเองมากที่สุด
บางทีถ้าไม่เห็นประโยคนั้น เขาก็ไม่กล้ากระโดด
หลี่ซูถงยิ้มมองชิ่งเฉิน “ถัดจากนี้ยังมีแผนอะไร ไปฆ่าชิ่งไฮวเหรอ”
“อืม ถ้าอยากเติมเต็มเงื่อนไขรองรับของหุ่นเชิดก็ต้องเป็นก่อนคืนกลับครั้งนี้ ไม่งั้นรอผมกลับโลกภายนอก ฝั่งนั้นไม่มีคนที่ควรฆ่าให้ผมฆ่า” ชิ่งเฉินกล่าว
หลี่ซูถงมองไปทางนักเรียนของตนเอง เอ่ยอย่างอยากรู้ว่า “มั่นใจแล้วเหรอ ตอนนี้พวกเขาน่าจะไม่ให้โอกาสเธอได้ใช้กฎแล้ว เธอก็ไม่มีทุ่นระเบิดต่อต้านทหารราบที่สามารถใช้ได้แล้วด้วย”
ชิ่งเฉินคิดแล้วตอบว่า “ผมกลับคิดว่า ลำดับต่อไปอาจจะง่ายกว่าฆ่าเฉาเวยหน่อย”
“อ้อ?” หลี่ซูถงสำรวจนักเรียนคนนี้ของตัวเองอย่างสนอกสนใจยิ่ง “เพราะอะไร”
ชิ่งเฉินกล่าวว่า “ตอนที่ผมฆ่าเฉาเวย ถึงบนตัวเขาจะบาดเจ็บสาหัส แล้วยังถูกไล่จะเหน็ดเหนื่อยหมดแรง แต่จนกระทั่งถึงการต่อสู้สุดท้ายในจิตใจของเขายังคงเป็นเสือร้าย แต่ว่าคนพวกนั้นที่เหลือเป็นแค่จิ้งจอกสุนัขป่าที่ขวัญกระเจิงเท่านั้น”
พูดจบ ชิ่งเฉินนอนแผ่หลาบนพื้น เขาไม่ได้นอนหลับมานานมาก ๆๆ แล้ว
ตอนที่ไล่ฆ่าเฉาเวยก่อนหน้านี้ เพื่อให้อีกฝ่ายไม่อาจพักผ่อน ตัวเขาเองก็ไม่อาจพักผ่อนเช่นกัน
ตอนนี้บุคคลที่ตึงมือที่สุดจัดการไปแล้ว ครูก็อยู่ข้างกาย ชิ่งเฉินย่อมต้องเติมพลังก่อน
หลี่ซูถงถามว่า “เธอวางแผนจะสลบเหมือดก่อนเลยเหรอ ไม่กลัวว่าจะทำเงื่อนไขรองรับของหุ่นเชิดไม่ทันเวลาเหรอ”
ชิ่งเฉินคิดแล้วกล่าวว่า “ครูเป็นคนสอนผมเองนะ ว่าตอนล่าสัตว์จะต้องมีความอดทน ถึงตอนนี้ผมจะคึกคักแจ่มใจก็จวนจะสว่างอยู่แล้ว ตอนกลางวันล่าคนเป็นกลุ่มไม่ง่ายขนาดนั้น ยังไม่สู้รอคืนมืดมิด”
หลี่ซูถงกล่าวว่า “งั้นเธอไม่กลัวชิ่งไฮวจะชิงออกจากสถานที่ต้องห้ามเหรอ”
“ไม่ครับ” ชิ่งเฉินส่ายหน้า “พวกรุ่นก่อนรู้ว่าผมอยากฆ่าเขา จะไม่ปล่อยให้เขาไป”
หลี่ซูถงเอ่ยอย่างจนใจว่า “ฉันก็ว่าแล้ว ญาติผู้ใหญ่ห่างรุ่นจะสปอยล์เด็ก!”
ชิ่งเฉินยิ้ม ๆ แล้วนอนหงาย แผ่นฟ้าเป็นผ้าห่ม ผืนดินเป็นเสื่อปูนอน
หลี่ซูถงนั่งขัดสมาธิข้าง ๆ เขา สีหน้าจู่ ๆ ก็อ่อนลง เขามองท่าทางนอนหลับของนักเรียนคนนี้ ในใจจู่ ๆ มีความภาคภูมิใจพุ่งขึ้นมา
นับถอยหลัง 22:00:00
…………………………
*ควาฟู่ไล่ตะวัน ตำนานคือมีเซียนชื่อควาฟู่อยากไล่ตามพระอาทิตย์ให้ทัน ก็วิ่งไล่ไปเรื่อยจนสุดท้ายหมดแรกตาย
** ซุ่นเป็นกษัตริย์ยุคก่อนประวัติศาสตร์ อยู่ในสามราชาห้าจักรพรรดิ เซียงอวี่อยู่ยุคระหว่างราชวงศ์ฉินกับฮั่น
ตอนที่ 160 – ช่องโหว่ที่ใหญ่ที่สุด