นิยามแห่งราตรี (Night’s Nomenclature ) - ตอนที่ 153 ไล่ล่า!
ตอนที่ 153 – ไล่ล่า!
เฉาเวยไล่ชิ่งเฉินมาเกือบ 8 ชั่วโมงแล้ว
ไล่ตามตั้งแต่เที่ยงวันถึงกลางคืน ตอนบ่ายเขาเพิ่งค้นพบเบาะแสของอีกฝ่าย ผลคือทุกครั้งตอนที่เกือบจะไล่กวดจนถึงร่องรอยของเด็กหนุ่ม อีกฝ่ายก็จะใช้ภูมิประเทศต่าง ๆ นานาล้างร่องรอยออกไป
พุ่มไมยราบอันหนาแน่น ลำธารที่ใสจนเห็นก้น พืชพรรณอันตราย
เด็กหนุ่มคนนั้นคล้ายจะสามารถหาสิ่งของอันแปลกประหลาดเจออยู่เสมอ ทุกสิ่งบนชายขอบสถานที่ต้องห้ามล้วนประดุจจะประทับอยู่ในสมองของอีกฝ่าย
แต่ตอนนี้อีกฝ่ายหนีไม่พ้นแล้ว
เฉาเวยหยิบเปลือกไม้ที่อีกฝ่ายถ่มลงบนพื้นขึ้นมา ยังมีกระดาษฟอยล์ที่ถูกเลีย รวบรวมมาไว้ที่จมูกแล้วสูดดมอย่างละเอียด
เฉาเวยไล่ตามกลิ่นไป ในใจรู้สึกมั่นใจต่อชัยชนะ
เขาฉีดยาแปลงพันธุกรรมมาสี่เข็มแล้ว ปัจจุบันนี้หยุดอยู่ที่แรงก์ C มาหลายปีแล้ว
ความเร็วและกำลังของเขาไม่ใช่สิ่งที่เด็กหนุ่มนั่นจะเทียบได้โดยเด็ดขาด
ขอเพียงสำเร็จภารกิจครั้งนี้ บ้านสี่ตระกูลชิ่งก็จะให้ยาแปลงพันธุกรรมที่เลื่อนขึ้นแรงก์ B กับเขา
เด็กหนุ่มนั่นคงจะไม่ได้มีกฎที่สามารถใช้ประโยชน์ได้มากเกินไปแล้ว ต้องทราบว่าเงื่อนไขการใช้ประโยชน์จากกฎมันเข้มงวดเป็นพิเศษจริง ๆ ตัวอย่างเช่นอุบายเมื่อครู่ที่อีกฝ่ายสลักตัวหนังสือไว้บนต้นไม้ก็เป็นไปไม่ได้ที่จะประสบความสำเร็จกับตนเองแล้ว
ในราตรีอันมืดมิด เฉาเวยไล่ตามกลิ่นต่อไป
กลิ่นของมนุษย์อันเป็นเอกลักษณ์ลอยอยู่ในอากาศ ก็เหมือนกับเส้นด้ายที่ขึงจนตึง ชี้ทิศทางให้เขา
เฉาเวยเพียงรู้สึกว่าระยะห่างกับอีกฝ่ายยิ่งมายิ่งใกล้ ถึงขนาดที่สามารถใช้ประสาทหูอันทรงพลังของตนเองรับรู้ถึงเสียงฝีเท้ากับเสียงหอบหายใจของอีกฝ่าย
เสียงหอบหายใจของเหยื่อรุนแรง อีกทั้งอ่อนล้า
นี่เป็นเสียงที่ฝูงสุนัขป่าชื่นชอบที่สุด
ระยะทางระหว่างทั้งสองฝ่ายยิ่งมายิ่งใกล้ เฉาเวยจะไม่ให้โอกาสอีกฝ่ายวางกับดักอีกต่อไป
เขาเห็นแผ่นหลังของเด็กหนุ่มแล้ว
200 เมตร
100 เมตร
50 เมตร
แต่ทว่าในขณะนี้เอง ใต้เท้าของเฉาเวยเกิดเสียงคลิกดังขึ้นมา
ร่างกายทั้งหมดของเขาหยุดชะงักอย่างกะทันหัน
ทุ่นระเบิดต่อต้านทหารราบ
เฉาเวยเป็นทหารมาสิบกว่าปี เสียงโครงยึดกลไกแรงกดอันแหลมใสนี้คุ้นเสียยิ่งกว่าคุ้น
เขาถึงขนาดไม่ต้องก้มหน้าลงก็รู้ว่าทุ่นระเบิดนี้เป็นรุ่นอะไร
เป็นทุ่นระเบิดที่พวกเขาแบกมาเอง!
เคยใช้ไป 41 ลูกแล้วเนื่องจากการวางเขตทุ่นระเบิด ยังมี 9 ลูกที่ให้หมวด 1 เก็บรักษา แต่คิดไม่ถึงว่าจะตกอยู่ในมือของเด็กหนุ่มคนนี้
เฉาเวยเคยไปสังเกตการณ์ใกล้ ๆ ต้นหลิวใหญ่ เสื้อผ้าอุปกรณ์ของพลทหารเหล่านี้กระจัดกระจายอยู่ใต้ต้นไม้ ซากศพถูกมดกัดกินจนเกลี้ยงตั้งแต่แรกแล้ว
เขาคิดไม่ตกอยู่บ้าง อุปกรณ์พวกนั้นล้วนอยู่ข้าง ๆ ต้นหลิวใหญ่ไม่ใช่หรือ เด็กหนุ่มคนนี้กล้าไปหยิบฉวยอุปกรณ์มาได้อย่างไร?!
อีกอย่าง เขาก็ไม่รู้ว่าเด็กหนุ่มฝังทุ่นระเบิดต่อต้านทหารราบลูกหนึ่งตั้งแต่เมื่อใด
เดี๋ยวนะ เฉาเวยเข้าใจแล้ว ที่แท้อีกฝ่ายจงใจถ่มเปลือกไม้และทิ้งกระดาษฟอยล์เพราะค้นพบแล้วว่าตนเองมีประสา?การดมกลิ่นอันเฉียบคม ดังนั้นอยากให้ตนเองตาม “เส้นด้าย” ของกลิ่นเส้นนี้ เหยียบไปบนดงระเบิดนี่!
เฉาเวยไม่มีเวลาจะคิดเรื่องอื่นแล้ว เขาเหยียบบนทุ่นระเบิดไม่ขยับเขยื้อน แต่กลับถอดเป้เดินทางบนหลัง ล้วงหน้าไม้อันประณีตหนึ่งอันจากข้างใน
เสียงฟุบ
ลูกศรยาวเท่าแขนพุ่งออกมาดุจสายฟ้าในอากาศ เด็กหนุ่มที่กำลังวิ่งอยู่ข้างหน้าได้ยินเสียงจึงคิดจะหลบ แต่ว่าไม่ทันแล้ว
ในคลองสายตาของเฉาเวย ลูกศรดอกนั้นเฉือนต้นขาด้านนอกของอีกฝ่าย เกิดร่องเลือดหนึ่งเส้นบนขาของอีกฝ่าย
ร่างที่กำลังวิ่งของเด็กหนุ่มกลิ้งไปข้างหน้า แต่ลุกขึ้นอย่างรวดเร็วและวิ่งหนีต่อไปอย่างกะโผลกกะเผลก
เฉาเวยได้กลิ่นเลือดที่ลอยอยู่ในอากาศอย่างกะทันหัน อย่างนี้อีกฝ่ายจะไม่มีทางหนีพ้นการตามรอยของตนเองอีกแล้ว
เขาไม่ได้มองดูแผ่นหลังของเด็กหนุ่มอีก
“ฮัลโหล? เฉาเวยเรียกผู้บัญชาการ” เฉาเวยใช้ช่องสื่อสารเรียกหากำลังสนับสนุน
ชิ่งไฮว “พี่เฉาเวย? เจอกับเรื่องยุ่งยากเหรอครับ”
“อืม ผมเหยียบถูกทุ่นระเบิด ต้องการทหารช่างมาปลดระเบิด” เฉาเวยกล่าว
ชิ่งไฮว “พวกเราอยู่ห่างจากคุณประมาณ 20 กิโลเมตร รอพวกเราไปถึง!”
แต่ทว่าในขณะนั้นเอง เฉาเวยจู่ ๆ ได้กลิ่นเลือดกำลังเข้ามาใกล้ใหม่อีกครั้ง…… เด็กหนุ่มนั่นจู่ ๆ วิ่งกลับมา หรือว่าเตรียมไพ่ตายอะไรเอาไว้?
ถ้าอีกฝ่ายถือระเบิดมือสักลูก โยนไปข้างเท้าของเขาตอนที่ไม่อาจเคลื่อนไหวได้โดยสิ้นเชิง งั้นเขาก็ต้องตายอย่างไร้ข้อกังขาแล้ว!
เฉาเวยหัวเราะเสียงเย็นคำหนึ่ง เขาล้วนมีดออกมาตัดรองเท้าบูตช้า ๆ หลังจากสอดมีดเข้าไปในรองเท้าก็ใช้มือกดรองเท้าบูต
ในภาพยนตร์ ทหารหน่วยรบพิเศษมากมายเลือกจะย้ายก้อนหินมากดทุ่นระเบิดต่อต้านทหารราบ อย่างนี้ คนที่เหยียบก็จะสามารถจากไปอย่างง่ายดาย
แต่ในความเป็นจริงพลังสะท้อนของโครงยึดกลไกพวกนี้มันเยอะมาก ถ้าด้านบนมีแรงกดต่ำกว่า 80 กิโลกรัมก็จะระเบิดทันที
ในป่า ก้อนหินที่หนักกว่า 80 กิโลกรัมใกล้ ๆ ทุ่นระเบิดหาไม่ง่ายเลย
แถมรอบ ๆ จุดวางทุ่นระเบิดที่เด็กหนุ่มคนนั้นเลือกถึงกับไม่มีแม้แต่ก้อนหินสักก้อน! อีกฝ่ายถึงกับย้ายก้อนหินออกไปล่วงหน้าอย่างรอบคอบแล้ว!
เฉาเวยถอดรองเท้าอีกข้างของตนเองมาวางซ้อนบนทุ่นระเบิด นี่เพื่อจะใช้บูตหนังที่ทนทานมากั้นลูกปรายที่ระเบิดออกมา
เขาเอาเป้หลังทางทหารที่กันกระสุนของตนเองคลุมไว้ด้านบนอย่างช้า ๆ อีกด้วย
จนกระทั่งขณะนี้ เฉาเวยจึงผ่อนลมหายใจช้า ๆ
เขารู้ว่าตนเองจะต้องฝืนต้านรับสักหน่อย แต่พลังอำนาจของทุ่นระเบิดต่อต้านทหารราบไม่ได้มากเลย ถ้าหากไม่มีลูกปรายเจาะเข้าไปในร่างกายโดยตรง ยอดฝีมือแรงก์ C จะไม่ตายแน่
อันที่จริงตั้งแต่อดีตก็มีวิธีการที่พึ่งพาได้ยิ่งกว่านี้ เพื่อจัดการกับทุ่นระเบิดต่อต้านทหารราบประเภทนี้ อุตสาหกรรมทางทหารได้ทุ่มเทวิจัยซูเปอร์กลู PVR มาแล้วช่วงหนึ่ง
หลังจากเหยียบทุ่นระเบิดต่อต้านทหารราบเพียงแค่ต้องหยอดกาวลงในช่องว่างของโครงยึดกลไก รอ 2 นาทีกาวก็จะยึดติดกับโครงยึดกลไกทั้งหมดอย่างมั่นคง
ทุ่นระเบิดก็กลายเป็นระเบิดด้าน
เฉาเวยสูดลมหายใจเข้าลึก ๆ เขานอนคว่ำบนพื้นใช้ข้อศอกกดที่ตำแหน่งของโครงยึดกลไก แขนทั้งคู่ป้องกันหน้าอกอย่างหนาแน่น
พริบตาถัดมา เขายกร่างกายเล็กน้อย เสียงคำรามดังขึ้น เห็นเพียงว่าเฉาเวยทั้งร่างถูกโยนขึ้นไป แต่ไม่มีลูกปรายของทุ่นระเบิดต่อต้านทหารราบแม้แต่ลูกเดียวที่เจาะทะลุมาตรการป้องกันที่เขาทำ
“แค่ก ๆ” ในช่องปากของเฉาเวยมีแต่รสคาว อวัยวะภายในทั้งหมดมีเลือดออกเนื่องจากพลังทำลายล้างของการระเบิด
เลือดเต็มปากไหลเข้าไปในคอ ชายโหดเหี้ยมผู้โด่งดังในกองพลที่สองคนนี้ถึงกับกลืนเลือดกลับลงไปในอึกเดียว
เขาตะเกียกตะกายลุกขึ้นมาหยิบหน้าไม้ วิ่งช้า ๆ ไล่หากลิ่นเลือดในอากาศ
แต่กลิ่นเลือดที่เดิมทีเคลื่อนเข้าใกล้กลับหนีไปไกลอีกแล้ว
เฉาเวยเข้าใจ ในมืออีกฝ่ายเกรงว่าไม่ได้มีไพ่ตายอะไร อีกฝ่ายอยากจะใช้กลยุทธ์ทางจิตวิทยาบังคับให้เขาเคลื่อนไหว!
……………………………
ตอนที่ 154 – ปีนเขาหนึ่งลูก