นิยามแห่งราตรี (Night’s Nomenclature ) - ตอนที่ 134 เด็กหน้าขาว
ตอนที่ 134 – เด็กหน้าขาว
ตอนที่ชิ่งเฉินยืนยันสถานะนักท่องเวลาสองคนได้ เขาลดเสียงกล่าวกับหลี่ซูถงว่า “ครูครับ หลังทะลุมิติครั้งนี้มีนักท่องเวลาใหม่สองคนปรากฏตัวออกมาแล้ว คนหนึ่งแทนลูกหลานล้างผลาญของตระกูลหลี่ คนหนึ่งแทนข้ารับใช้”
”อ้อ?” หลี่ซูถงฉงนอยู่บ้าง แม้แต่เขายังค้นพบนักท่องเวลาแค่คนเดียวเท่านั้น กลับคิดไม่ถึงว่าชิ่งเฉินจะค้นพบสองคนตรง ๆ เลย
หลี่ซูถงลดเสียงเอ่ยว่า “อีกคนหนึ่งเป็นใคร เธอใช้สายตามองเขา”
ชิ่งเฉินมองดูชายหนุ่มที่กำลังแกล้งเป็น “ข้ารับใช้คนเดิม” คนนั้น จากนั้นกล่าวกับหลี่ซูถงว่า “คนนี้ขั้นสูงหน่อย แต่ครูดูสิครับ ตอนนี้เขาทำงานพลางสังเกตคนอื่นพลาง อย่างนี้จะสะดวกให้เขาเลียนแบบในภายหลัง”
”อืม” หลี่ซูถงกวาดตามองไป จากนั้นลดเสียงคอมเมนต์ว่า “เรียนรู้เร็วเชียว แต่รู้สึกว่าตอนปกติไม่ใช่คนที่ทำงานทำการ เธอดูสิ พับเต็นท์ยังเก้ ๆ กัง ๆ เลย…… “
”อืม” ชิ่งเฉินก็คอมเมนต์ “ครูดูสิครับ ข้ารับใช้คนอื่นพูดกับเขา เขาตอบสั้นมากหมดเลย จุดนี้ทำได้ไม่เลวเลยนะ……”
ตอนที่ฟากนั้นนักท่องเวลาสองคนยังครุ่นคิดอย่างขมขื่นอยู่เลยว่าจะเอาตัวรอดอย่างไร ฟากนี้ศิษย์อาจารย์สองคนเริ่มดูละครกันแล้ว
ประเด็นคือ นักท่องเวลาที่มาใหม่สองคนนั้นยังไม่รู้ว่ามีคนกำลังดูละคร
ตอนนี้ หลี่อีนั่วให้ทุกคนขึ้นรถหมดแล้ว เธอกับชายกลางคนที่ติดตามอยู่ซ้ายขวามาตลอดคนนั้นคุยกันสองประโยค
กลับเห็นชายกลางคนคนนั้นพาตัวนักท่องเวลาที่โม่งแตกไปแล้วคนนั้นขึ้นรถของหลี่อีนั่วไปตรง ๆ
ดูท่าหลี่อีนั่วไม่คิดที่จะแฉตัวตนของอีกฝ่ายตรง ๆ ทว่าวางแผนจะใช้ประโยชน์จากช่วงขับรถสอบสวนเดี่ยว
ต้นหนที่สวมแว่นฮอโลแกรมตลอดเวลามาถึงเบื้องหน้าฉินเฉิง “ขอผมแนะนำตัวหน่อย ผมชื่อเซียวกง เป็นต้นหนของขบวนรถล่าฤดูใบไม้ร่วง เริ่มตั้งแต่ตอนนี้จะยึดปิคอัพของพวกคุณ ด้านพวกเรารถขาดไปสี่คัน ดังนั้นข้ารับใช้ต้องไปเบียดบนกระบะกับพวกคุณ”
ต้นหนที่ชื่อเซียวกงคนนี้อ่อนวัยมาก ดูแล้วท่าทางจะไม่เกินยี่สิบต้น ๆ แต่พูดได้เก่งกาจมาก
ฉินเฉิงอึกอักอยู่บ้าง “สวัสดีครับท่าน คืออย่างนี้ ด้านพวกเรายังมีภารกิจล่าสัตว์อยู่……”
เซียวกงส่ายหน้าตัดบทเขา “ตระกูลหลี่จะจ่ายค่าชดเชยที่เหมาะสมให้คุณ อีกอย่างผมได้ยินว่าพวกคุณก็ลงใต้เพื่อจับแร้งฟานซานใช่ไหม งั้นตามพวกเราไปก็เป็นทางผ่านพอดีเลย เป้าหมายของทุกคนอยู่ที่สถานที่ต้องห้ามหมายเลข 002 ทั้งนั้น”
พูดจบ เขาโบกมือให้ข้ารับใช้ห้าคนปีนขึ้นกระบะของปิคอัพ ไม่ให้โอกาสฉินเฉิงได้ปฏิเสธต่อเลย
กลุ่มการเงินจะยึดรถใครก็ไม่ต้องปรึกษาเขาหรอก
แต่สิ่งที่น่าสนใจคือ ผู้เล่นชั้นสูงที่ทะลุมิติมาเป็นข้ารับใช้คนนั้นก็อยู่ในกระบะด้วย
……
หลังขบวนรถล่าฤดูใบไม้ร่วงออกเดินทาง รถยนต์ที่ขวางบนทางภูเขาเล็ก ๆ จึงได้เปิดทางในที่สุด ตระกูลจินไดตามหลังขบวนรถอย่างไม่เร็วไม่ช้า แล้วก็ไม่มีความตั้งใจจะแซงขึ้นไป
ขณะนี้ในกระบะมีคนนั่งบนพื้นกระบะอยู่แปดคน ฉินอี่อี่, ชิ่งเฉิน, หลี่ซูถง ยังมีข้ารับใช้ห้าคน
ระหว่างการนั่งรถที่กระแทกกระทั้น ชิ่งเฉินถามข้ารับใช้อย่างไม่ใส่ใจว่า “จะว่าไปพวกเราเคยเจอกันมาก่อน ตอนนั้นก็ไม่เห็นว่าขบวนรถของพวกคุณจะมีรอยขีดข่วนและเสียหายเลย ไหงจู่ ๆ หายไปสี่คันแล้วล่ะ”
ข้ารับใช้กลางคนคนหนึ่งกล่าวอย่างเชื่องช้าว่า “นี่ก็ไม่ใช่ความลับอะไรอะนะ เห็นว่าในป่าปรากฏชาวป่าที่อวดเบ่งกลุ่มหนึ่ง พวกเราตอนนั้นก็ไม่รู้แน่ว่ามันเกิดอะไรขึ้น แต่ทั้งสองฝ่ายก็เปิดศึกกันแล้ว”
”ชาวป่าที่อวดเบ่ง?” ฉินอี่อี่ถามอย่างรู้สึกพิกล “หมายความว่ายังไงเหรอ”
กลับได้ยินข้ารับใช้คนหนึ่งยิ้มอธิบายว่า “ชาวป่ากลุ่มนั้นไม่รู้ว่าเป็นบ้าหรือยังไง ไม่แค่ยิงโดรนของต้นหนเซียวกงลงมาตัวหนึ่ง ถึงกับยังสลักคำยั่วยุไว้บนภูเขาด้วย”
ฉินอี่อี่อยากรู้ “สลักคำว่าอะไรเหรอ”
”แน่จริงก็มาฆ่าผมที่ิทิศเหนือ!” ข้ารับใช้คนนั้นหัวเราะอย่างร่าเริง “ชาวป่าทั่วไปเห็นทีมล่าฤดูใบไม้ร่วงก็หนี ใครเคยห็นชาวป่าที่ดุขนาดนี้บ้างล่ะ”
พริบตานี้ ชิ่งเฉินและหลี่ซูถงมองลงพื้นกระบะพร้อม ๆ กัน ล้วนไม่ตอบคำ
ข้ารับใช้อีกคนกล่าวว่า “ตอนเริ่มแรกทุกคนนึกว่าชาวป่าฝูงนี้จะซุ่มโจมตี เตรียมพร้อมแล้วถึงได้มา ตอนนั้นค้นหนเซียวกงกังวลเลยแหละ ผลคือตอนหลังค้นพบว่าไม่ได้เป็นเรื่องอย่างนั้นเลย อีกฝ่ายถูกพวกเราตีจนฉี่แตก ถ้าไม่ใช่ว่ามีลูกหลานกลุ่มการเงินบ้าบิ่น พวกเราน่าจะชนะหมดจดไปแล้ว”
ชิ่งเฉินและหลี่ซูถงแทบจะจินตนาการถึงฉากเหตุการณ์ตอนนั้นได้เลย : ชาวป่าที่เจอกับการต่อสู้ด้วยใบหน้างงงวย ส่วนฝ่ายตรงข้ามก็คือทีมล่าฤดูใบไม้ร่วงที่ถูกยั่วโมโห……
ชาวป่าพวกนั้นอาจจะคิดไม่ตกเลยก็ได้ว่าเหตุใดลูกหลานกลุ่มการเงินกลุ่มนี้ถึงได้เกรี้ยวกราดขนาดนั้น……
”ภายหลังล่ะ” ฉินอี่อี่ไล่ถาม
”อ้อ หลังตีพวกมันหนีกระเจิง คุณหนูอีนั่วก็ไม่ให้ไล่แล้ว ท่านบอกว่ายังมีเรื่องสำคัญกว่า ไม่มีเวลาจะมาจัดการชาวป่าพวกนี้”
เวลานี้ ชิ่งเฉินกล่าวว่า “ยังไม่รู้เลยว่าทุก ๆ คนเรียกว่าอะไรเหรอ ผมแนะนำตัวก่อนนะ ผมชื่อก่วงเสี่ยวถู่”
หลี่ซูถง “ฉันชื่อมู่โยว่ถง”
ข้ารับใช้ที่อยู่ตรงข้ามแนะนำตัวเองว่า “เกาซุ่น”
”ซ่งฉีเหลียง”
”หวงซ่าง”
”ลวี่ฟา”
”โจวเซวียน”
ชิ่งเฉินและหลี่ซูถงล้วนจดชื่อของคนสุดท้ายนี้เอาไว้ โจวเซวียน
นี่ก็คือนักท่องเวลาที่มาใหม่คนนั้น
ฉินอี่อี่เอ่ยอย่างอยากรู้ว่า “ในทีมล่าฤดูใบไม้ร่วงของพวกคุณเป็นคุณหนูอีนั่วคนนั้นสั่งการเหรอ”
“แน่นอน คุณหนูเป็นลูกสาวคนโตรุ่นสามของตระกูลหลี่ ย่อมเป็นท่านสั่งการ” ข้ารับใช้คนหนึ่งอธิบาย
“โห งั้นฉันเห็นท่านหอบเด็กผู้ชายที่อ่อนปวกเปียกคนหนึ่งอยู่ตลอดเลย คนนั้นคือ?” ฉินอี่อี่ถาม
“คนนั้นเหรอ……” หวงซ่างลังเล “อันที่จริงคนนั้นเป็นไอ้ตัวของคุณหนูอีนั่ว เป็นเด็กหน้าขาวตัวโปรดข้างกายคุณหนูอีนั่ว……”
ข้ารับใช้กลางคนที่ชื่อเกาซุ่นถลึงตาใส่เขาแวบหนึ่ง “รู้ว่าอะไรควรพูดอะไรไม่ควรพูดด้วย ไม่งั้นกลับไปเดี๋ยวตบปาก”
ชิ่งเฉินไม่ได้พูดจา เพียงแต่เขาค้นพบอย่างชัดเจนว่า ตอนที่พวกข้ารับใช้พูดถึงตำแหน่งของหลี่อีนั่ว รวมทั้งที่อีกฝ่ายชอบเลี้ยงต้อยหนุ่ม
นักท่องเวลาที่ชื่อโจวเซวียนคนนั้นสายตาสว่างวูบขึ้นมา……
……………………………
น้องหนานเหมือนจะมีคนอยากมาแย่งชิงความโปรดปรานแล้วค่ะ 555
ตอนที่ 135 – รูปแบบเปิดเกมที่แปลกประหลาด