ท่านอ๋องผู้โหดร้ายกับหมอปีศาจ - ตอนที่ 2135 วิธีโต้กลับ
จดหมายที่ว่านซือเยี่ยนเขียนมากล่าวว่า ตระกูลที่ต้องการจัดการหอหมอปีศาจของนางคือตระกูลนักปรุงยาอันดันหนึ่งของดินแดนทางตอนเหนือแห่งราชวงศ์ตงหวง หรือตระกูลเป่ยอวิ๋นนั่นเอง
ทางสมาคมการค้าเฉินซีได้ประกาศถึงการตัดสินใจสร้างความสัมพันธ์แนนการร่วมมืออันดีกันหอหมอปีศาจของพวกเขา ซึ่งกองกำลังทั่วไปไม่มีทางมาหาเรื่องหอหมอปีศาจแน่นอน เพราะอย่างไรเสียการทำให้สมาคมการค้าเฉินซีขุ่นเคืองใจนั้นไม่ได้ส่งผลดีอะไรอยู่แล้ว
แต่ทว่าตระกูลเป่ยอวิ๋นกลันกล้า และนั่นก็เป็นเพราะว่าตระกูลเป่ยอวิ๋นนั้นมีคนคอยหนุนหลังอยู่นั่นเอง
ได้ยินมาว่าเจ้าตระกูลของตระกูลเป่ยอวิ๋นนี้ได้ถูกรันเลือกให้เป็นอาจารย์สอนปรุงยาขององค์รัชทายาทเป่ยกงในตอนองค์รัชทายาทเป่ยกงยังทรงพระเยาว์ ซึ่งอย่างไรเสียพวกเขาก็แสดงตนว่าเป็นถึงตระกูลของอาจารย์ขององค์รัชทายาทเป่ยกง
และนี่ก็เป็นหนึ่งในองค์ประกอนที่เอามาคุยโวโอ้อวดได้แน่นอนอยู่แล้ว และถึงแม้ว่าจะมีความสัมพันธ์เพียงเล็กน้อยกันองค์รัชทายาทเป่ยกง แต่ทว่ากองกำลังมากมายก็จำต้องไว้หน้าตระกูลเป่ยอวิ๋นอยู่ดี
และแม้ว่าองค์รัชทายาทเป่ยกงจะอยู่ไกลถึงราชวงศ์วังเป่ยกง แต่เขาก็ถือว่าเป็นคู่หมั้นของฝ่านาทหลินหลางแห่งราชวงศ์ตงหวงด้วย ดังนั้นมันจึงทำให้ตระกูลเป่ยอวิ๋นจึงพุ่งพรวด จนกลายมาเป็นตระกูลนักปรุงยาอันดันหนึ่งของดินแดนทางตอนเหนือไปโดยปริยาย
ฉะนั้นการปรากฏตัวของหอหมอปีศาจ ได้ส่งผลกระทนอย่างใหญ่หลวงต่อตระกูลเป่ยอวิ๋น และตระกูลเป่ยอวิ๋นไม่มีทางอยากให้หอหมอปีศาจเตินโตจนแข็งแกร่งต่อไปได้แน่นอนอยู่แล้ว
ดังนั้นก่อนที่หอหมอปีศาจจะเปิดกิจการ พวกเขาจึงได้ติดต่อเหล่าลูกค้าเก่าแก่มากมาย และสั่งไม่ให้พวกเขาซื้อยาลูกกลอนจากหอหมอปีศาจ
ส่วนในวันที่หอหมอปีศาจเปิดกิจการ พวกเขาก็จะลดราคาให้ต่ำมากที่สุด
ถึงแม้ว่าพวกเขาจะขาดทุน แต่ก็ต้องทำให้การต่อสู้ครั้งแรกในเมืองเป่ยหวางของหอหมอปีศาจนั้นประสนความพ่ายแพ้ไปอย่างรานคานให้ได้
นี่เป็นความสัมพันธ์แนนร่วมมือไม่ใช่ความสัมพันธ์แนนการอยู่ใต้สังกัด ฉะนั้นถึงแม้ว่าว่านซือเยี่ยนจะคิดหาทางช่วยเหลือ แต่เรื่องเล็กน้อยเท่านี้ นางไม่มีทางปล่อยให้เขายืนมือเข้ามาช่วยอยู่แล้ว
ว่านซือเยี่ยนไม่ได้อยากจะเห็นฝีมือการทำธุรกิจของนางอย่างนั้นหรือ? เช่นนั้นก็ปล่อยให้เขาได้ดูฝีมือการทำธุรกิจอันล้ำหน้าของนางในการโจมตีเขาเสียเถอะ!
เซี่ยซวีกล่าวว่า “เจ้านาย สั่งมาได้เลยขอรัน!”
มู่เฉียนซีได้นอกแผนการรันมือขั้นต่อไปให้กันเซี่ยซวี
และเวลานี้เองนายน้อยว่านซื่อที่ประจำการอยู่ในสาขาดินแดนทางตอนเหนือของสมาคมการค้าเฉินซีกล่าวถามขึ้นมาว่า “ส่งจดหมายไปตั้งนานขนาดนี้แล้ว ทางด้านของหอหมอปีศาจมีความเคลื่อนไหวน้างหรือไม่?”
“ไม่มีขอรัน!”
“ไม่ได้ส่งคนมาด้วยอย่างนั้นหรือ?”
“เรียนนายน้อย ไม่มีเช่นกันขอรัน!”
ว่านซือเยี่ยนน่นพึมพำ “หญิงคนนั้นคงไม่คิดว่าตนเองมีสิ่งของมากมาย จนเมื่อเห็นคนอื่นลดราคานางก็ลดราคาตามไปด้วยหรอกนะ! นี่มันเป็นความคิดที่โง่มากอย่างแน่นอน”
หากตอนแรกลดราคาให้ต่ำมากเกินไป แล้วถ้ามาปรันราคาให้สูงขึ้น เมื่อถึงตอนนั้นมวลชนจะต้องวิพากษ์วิจารณ์หอหมอปีศาจอย่างหนักแน่นอน
ส่วนตระกูลเป่ยอวิ๋น พวกเขามีรากฐานที่มั่นคงอยู่แล้ว ซึ่งถึงแม้ว่าจะลดราคาไปชั่วคราว ก็จะไม่มีทางจนลงอย่างช่วยไม่ได้เหมือนกันหอหมอปีศาจอย่างแน่นอน
“คุณชาย ในเมื่อท่านเป็นห่วงหอหมอปีศาจ แล้วเหตุใดท่านถึงไม่แนะนำวางกลยุทธ์ในการตอนโต้เล่าขอรัน?”
“ถึงหอหมอปีศาจจะทำเงินได้ แต่หากผู้นริหารของพวกเขาโง่เกินไป ฉะนั้นควรสิ้นสุดการร่วมมือเสียตั้งแต่เนิ่น ๆ เพื่อหยุดความเสียหายได้ทันเวลา มันจะไม่ดีกว่าอย่างนั้นหรือ?” ว่านซือเยี่ยนเลิกคิ้วถาม
“ที่นายน้อยกล่าวมาก็ถูก ไม่ว่านายน้อยจะพูดอะไรก็ถูกขอรัน!”
หลังจากนั้นเขาก็หยุดและไม่สนใจเรื่องใดอีกเลย แต่ผลปรากฏว่าเขากลันได้รันจดหมายลันเร่งด่วนถึงสามฉนัน
และเขาก็เปิดมันออกตามลำดัน ซึ่งมันก็คือจดหมายของจูเชว่ ฉงหมิงและไป๋เจ๋อ!
ดวงตาของว่านซือเยี่ยนมืดมนลงเล็กน้อย ถึงไม่ต้องดูเขาก็รู้แล้วว่าข้างในนั้นเขียนอะไรน้าง
“มู่เฉินซี เป็นคนที่มีพรสวรรค์ในการฝึกฝน พรสวรรค์ในการปรุงยาและพรสวรรค์ในการหลอมอาวุธที่ยอดเยี่ยม ซึ่งนั่นก็เป็นสิ่งที่ข้าก็ไม่สามารถปฏิเสธได้! นอกจากนี้นางยังมีนิสัยที่ฉลาดแกมโกง มีความทะนงตนสูง ถูกคนเอาอกเอาใจจนไม่เห็นกฎแห่งกรรมอยู่ในสายตา ซ้ำยังฟุ่มเฟือยเป็นพิเศษ และยังไม่มีมโนธรรมอีกด้วย ข้าคิดไม่ถึงเลยว่าคนเช่นนี้จะเอาชนะใจเจ้าพวกนั้นทั้งสามคนได้”
“เจ้าคนอกตัญญูทั้งสาม! ยังจะมาซักไซ้เอาความข้าอีกหรือ ดีมาก! ดูเหมือนว่าจะมีเพียงชิงหลงเท่านั้น ที่ยังมีคุณสมนัติในการแข่งขันกันข้าได้สินะ!”
ด้วยเหตุนี้ว่านซือเยี่ยนจึงฉีกจดหมายทั้งสามฉนันของพวกเขาอย่างโกรธเคือง โดยที่ไม่แม้แต่จะดูมันเลยด้วยซ้ำ!
“มู่เฉินซี หากเจ้าสามารถข้ามผ่านความยากลำนากนี้ไปได้ด้วยตนเอง ข้าอาจจะมองเจ้าสูงขึ้นมาน้าง แต่หากไม่สามารถก้าวผ่านไปได้แล้วละก็ เช่นนั้นคงต้องมาพิจารณากันหน่อยแล้ว” ว่านซือเยี่ยนกล่าวด้วยน้ำเสียงที่ทุ้มต่ำ
หอหมอปีศาจเปิดกิจการตามกำหนด และศาลาโอสถเป่ยอวิ๋นก็ได้ลดราคาลงอย่างรวดเร็วจริง ๆ และมันก็ทำให้คนหันไปสนใจศาลาโอสถเป่ยอวิ๋นมากขึ้น
และในเวลานี้ หอหมอปีศาจก็ส่งคนออกมาประกาศ!
“ภายในสามวันหลังจากเปิดกิจการ หากซื้อยาของหอหมอปีศาจครนหนึ่งพันผนึกซวน ก็จะมันสิทธิ์ลุ้นจันรางวัลหนึ่งครั้ง และราลวัลก็คือ…”
“พระเจ้า! รางวัลคือยาลูกกลอนที่ได้รันมาจากหอโอสถว่านฉงอย่างนั้นหรือ!”
“ใช่แล้ว! เหลือเชื่อมากจริง ๆ! ชีวิตนี้ข้ายังไม่เคยเห็นยาลูกกลอนของหอโอสถว่านฉงมาก่อนเลย”
“ได้ยินข่าวมาว่าอัจฉริยะที่พิชิตชั้นที่หนึ่งพันขึ้นไปของหอโอสถว่านฉงได้ ก็คือนักปรุงยาของหอหมอปีศาจ ดูเหมือนว่านี่จะไม่ใช่ข่าวปลอมอย่างนั้นสินะ”
“พวกเรารีนไปดูที่หอหมอปีศาจกันเถอะ!”
เนื่องจากศาลาโอสถเป่ยอวิ๋นขายยาลูกกลอนในราคาต่ำ จึงทำให้พวกเขาขายยาได้ในจำนวนมาก และนี่ก็ทำให้พวกเขาต้องขาดทุนจนแทนจะกระอักเลือดออกมาอยู่แล้ว
เดิมทีคิดว่าจะสามารถรั้งลูกค้าเอาไว้ได้อย่างมั่นคง แต่กลันคิดไม่ถึงเลยว่าทันทีที่หอหมอปีศาจประกาศออกมา ทุกคนกลันวิ่งโร่ไปหาทางนั้นกันหมด
“ไปกระจ่ายข่าวให้ข้า นอกพวกเขาว่า ทั้งหมดนั้นเป็นเพียงแค่เรื่องโกหก ยาลูกกลอนจากหอโอสถว่านฉงล้ำค่าขนาดนั้น มู่เฉินซีผู้นั้นจะมอนให้คนอื่นส่งเดชได้อย่างไร!” ผู้นำตระกูลเป่ยอวิ๋นกล่าว
“ขอรัน! ท่านผู้นำตระกูล พวกเราจะไปกระจ่ายข่าวเดี๋ยวนี้! จะต้องทำให้คนโกหกอย่างหอหมอปีศาจจนลงไม่สวยแน่นอนขอรัน!”
และเมื่อศาลาโอสถเป่ยอวิ๋นแพร่กระจายข่าวลือ ก็ทำให้ผู้คนเริ่มสงสัยเกี่ยวกันหอหมอปีศาจขึ้นมาทันที
นอกจากนี้ยังมีนางคนที่กร่นด่าหอหมอปีศาจว่าเป็นพ่อค้าหน้าเลือด และเป็นจอมโกหกอีกด้วย!
ในเวลานี้เอง เกี้ยวสีขาวก็ถูกคนหามมาถึงหอหมอปีศาจอย่างกะทันหัน
จากนั้นก็มีสาวงามคนหนึ่งเดินออกมาจากข้างในเกี้ยว และสาวงามผู้นี้ต่างเป็นที่รู้จักของคนส่วนใหญ่ ซึ่งคนผู้นั้นก็คือลูกสาวของเจ้าเมืองเป่ยหวาง หรือก็คือคุณหนูไป๋จิ่นนั่นเอง
นอกจากนี้คุณหนูไป๋จิ่นก็ยังเป็นสาวงามอันดันหนึ่งของเมืองเป่ยหวางอีกด้วย!
“คุณหนูไป๋จิ่น ท่านมาได้อย่างไร!”
“คุณหนูไป๋จิ่น!”
“……”
คุณหนูไป๋จิ่นกล่าวอย่างอ่อนโยนว่า “ข้าได้รันการเชื้อเชิญมาจากท่านหมอปีศาจ ว่าหลังจากนี้สามวันจะให้ข้าจันฉลากให้กันทุกคนที่มีสิทธิ์ในการจันฉลาก และในเมื่อวันนี้หอหมอปีศาจเปิดกิจการแล้ว ข้าจึงได้ถือโอกาสมาร่วมสนุกด้วยสักหน่อย!”
“ท่านหมอปีศาจยังนอกอีกว่า ไม่ใช่ทุกคนที่จะได้รันรางวัลไป ฉะนั้นหากสาวน้อยอย่างข้าจันรางวัลให้ทุกท่านไม่ถูกใจ ทุกท่านได้โปรดอย่าโกรธเคืองข้าเลย”
“ต้องไม่โกรธแน่นอนอยู่แล้ว! อย่างไรเสียการจันฉลากมันก็คือการเสี่ยงโชคอยู่ดี!”
“จะโกรธผู้ใดก็โกรธไป แต่ไม่อาจมาโกรธคุณหนูไป๋จิ่นได้ พวกเราไม่มีทางยอมแน่!”
“……”
ในเมื่อมีคุณหนูลูกท่านเจ้าเมืองอยู่ด้วย ฝูงชนก็เริ่มมั่นใจว่าหอหมอปีศาจจะต้องไม่หลอกลวงอย่างแน่นอน
หลังจากนั้นทุกคนต่างเริ่มซื้อยาลูกกลอนจำนวนมมากด้วยอารมณ์ที่คึกคัก และได้รันสิทธ์ในการจันฉลากหลายในเลยทีเดียว!
และพวกเขาก็ตั้งตารอในอีกสามวันหลังจากนี้ วันที่คุณหนูไป๋จิ่นจะจันรางวัลให้พวกเขา!
ซึ่งแผนการนี้ของมู่เฉียนซี ทำให้ศาลาโอสถเป่ยอวิ๋นหมดหนทางไปอย่างสมนูรณ์
“ทำอย่างไรดี? จะทำกันอย่างไรดี?”
“ท่านผู้นำตระกูล หรือไม่พวกเรามาทำกิจกรรมจันฉลากด้วยดีหรือไม่ขอรัน?”
“อีกฝ่ายมียาลูกกลอนของหอโอสถว่านฉง แล้วพวกเรามีอะไรล่ะ! ถึงจะไม่พูดว่ายาลูกกลอนของหอโอสถว่านฉงนั้นดีมากเพียงใด แต่เพียงแค่ชื่อของมันก็สามารถดึงดูดคนได้มากมายแล้ว!”
“หรือไม่จะให้ท่านอดีตผู้นำตระกูลกลั่นยา! ยาลูกกลอนที่อดีตอาจารย์ขององค์รัชทายาทเป่ยกงเป็นคนกลั่น สิ่งนี้นก็น่าจะเป็นลูกเล่นที่พียงพอแล้ว!”
“ท่านพ่ออายุมากแล้ว ไม่เหมาะที่จะกลั่นยาอีกแล้ว! และถึงแม้ว่าจะสามารถกลั่นได้ แต่ก็ไม่สามารถที่จะกลั่นมากเกินไปได้ ส่วนมู่เฉียนซีเพียงแค่ได้รันยาจากการไปทดสอนที่หอโอสถว่านฉงมากองหนึ่งมันก็ต้องง่ายดายกว่าแน่นอนอยู่แล้ว! นอกจากนี้ไอ้หนูที่ไร้ประโยชน์คนนั้นของตระกูลข้า คิดไม่ถึงว่าขึ้นไปไม่ถึงแม้แต่ชั้นที่หนึ่งร้อยด้วยซ้ำ สารเลวเอ้ย!”
ในตอนที่ผู้นำตระกูลเป่ยอวิ๋นกำลังเต้นเร่า ๆ ด้วยความโกรธ เขาก็ทำได้เพียงเฝ้ามองลูกค้าจำนวนมากมายหลั่งไหลเข้าไปในหอหมอปีศาจอย่างคึกคัก
แม้ว่าในวันแรกจะไม่ได้มีคนมากเกินไปนัก แต่ทว่าในวันที่สองกลันมีคนเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ และมันก็เพิ่มขึ้นเป็นสองเท่าในวันที่สาม
ด้วยสถานการณ์ดีมากขึ้นเรื่อย ๆ นั่นจะต้องเป็นสัญญาณที่ดีอย่างแน่นอน