ท่านอ๋องผู้โหดร้ายกับหมอปีศาจ - ตอนที่ 2129 ข้าชื่อว่าอากุ่ย
เมื่อผ้าที่ปิดหน้าผากของเขาถูกคลายออก ว่านซือเยี่ยนก็กล่าวว่า “มู่เฉินซี เจ้าอย่ามาเถียงข้าง ๆ คู ๆ นะ!”
“พรวดดด! ฮ่า ฮ่า ฮ่า!”
“พี่เยี่ยน ขนคิ้วของท่าน! ขนคิ้ว!”
ด้วยเหตุนี้เมื่อมู่เฉียนซีได้เห็นรูปลักษณ์ของว่านซือเยี่ยน ก็ได้ร่วมหัวเราะในความโชคร้ายของเขาไปด้วยกันกับผีหนุ่มชุดขาวตนนั้นทันที
“หุบปาก!” ว่านซือเยี่ยนกล่าวขึ้นมาอย่างโกรธเคือง
มู่เฉียนซีเคาะลงไปบนหัวของเสี่ยวหงอย่างแผ่วเบาพลางกล่าวว่า “เสี่ยวหง เจ้าเป็นคนทำอย่างนั้นหรือ?”
“แน่นอนว่าไม่ใช่อยู่แล้ว เจ้าหมอนี่จำหมูผิดตัวแล้วล่ะ”
เจ้านายบอกเอาไว้แล้วว่า ให้ตายก็อย่าไปยอมรับ นอกจากนี้มันก็ไม่ได้ถูกจับได้คาหนังคาเขาอีกด้วย ดูซิว่าเขาจะทำอะไรมันได้?
ว่านซือเยี่ยนกล่าวว่า “ไม่ว่าจะเป็นมันหรือไม่ แต่วันนี้ข้าจะกินหมูหันให้ได้!”
มู่เฉียนซีกล่าวว่า “ได้สิ! ข้าก็อยากกินเหมือนกัน”
เสี่ยวหงชะงักไปครู่หนึ่ง จากนั้นก็มองไปทางมู่เฉียนซีอย่างน่าสงสาร เจ้านายคงจะไม่กินมันจริง ๆ หรอกนะ!
“เสี่ยวหงของข้า เป็นถึงสัตว์เทพระดับสอง อีกทั้งยังมีสายเลือดต้านสวรรค์ พลังในการต่อสู้ก็แข็งแกร่ง และยังเป็นหมูน้อยสีแดงตัวเดียวบนโลกนี้อีกด้วย! ฉะนั้นราคาต้องไม่ต่ำแน่นอนอยู่แล้ว หากเจ้าสามารถจ่ายในราคาร้อยล้านผนึกซวนได้ละก็ เจ้าก็สามารถกินได้! ไม่ว่าเจ้าจะเอาไปย่างหรือเอาไปตุ๋นทั้งตัวก็ได้ทั้งนั้น” มู่เฉียนซีกล่าวพลางยิ้มอย่างเรียบเฉย
คนขี้เหนียวอย่างว่านซือเยี่ยน ไม่มีทางยอมเสียเงินจำนวนมากเช่นนี้แน่นอน
“หมูตัวเดียวยังต้องซื้อตั้งแพงขนาดนี้ อีกอย่างเนื้อก็ไม่เยอะ ข้าต้องโง่แน่หากต้องการเจ้าสิ่งนี้น่ะ”
ว่านซือเยี่ยนหลอกมู่เฉียนซีไม่ได้อีกแล้ว ทั้งที่ก่อนหน้านี้ผู้หญิงคนนี้หลอกง่ายขนาดนั้นแท้ ๆ
เนื่องจากว่าตอนนี้นางบรรลุเป้าหมายแล้ว ฉะนั้นนางจึงเปลี่ยนไปเป็นคนฉลาดยิ่งกว่าจิ้งจอกเสียอีก
มู่เฉียนซีถอนหายใจกล่าวว่า “เฮ้อ! นายน้อยว่านซื่อเติบโตขึ้นมาด้วยใบหน้าที่หล่อเหลา แต่เมื่อไม่มีคิ้วมันเช่นนี้ มันก็ทำลายทัศนียภาพไปเล็กน้อยเช่นกัน! ถึงจะสวมผ้าเพื่อปกปิดอยู่เสมอก็ไม่มีผลเท่าไรหรอก!”
ว่านซือเยี่ยนจ้องมองมู่เฉียนซีอย่างประหลาดใจ นี่คือสิ่งที่เจ้าทำไม่ใช่หรือไง!
หลังจากมู่เฉียนซีหยิบเอายาน้ำขวดหนึ่งออกมาพลางกล่าวว่า “นี่คือยาน้ำที่ข้าเคยค้นคว้ามาก่อนหน้านี้ มันคือยาน้ำปลูกขน ซึ่งหากนายน้อยว่านซื่อใช้ไปแล้ว พรุ่งนี้ก็จะต้องมีขนคิ้วยาวออกมาแน่นอน”
“ราคาเท่าไร หากแพงมากเกินไปข้าไม่ต้องการ! รอให้มันค่อย ๆ ยาวออกมาเองก็ใช้เวลาไม่นานเท่าไรนักหรอก”
นอกจากการแสวงหาเงินแล้ว ว่านซือเยี่ยนไม่ค่อยมีความสนใจในความงดงามมากเท่าไรนัก
“ถึงอย่างไรเจ้าก็ช่วยเหลือข้าไว้ นี่ถือว่ามอบให้เจ้าโดยไม่คิดเงินก็แล้วกัน” มู่เฉียนซีกล่าวด้วยรอยยิ้ม
ว่านซือเยี่ยนรับยาน้ำขวดนั้นเอาไว้ และกวาดสายตามองไปที่มู่เฉียนซีอย่างสงสัย “เจ้ามอบสิ่งของให้ข้าโดยไม่คิดเงินเลยอย่างนั้นหรือ? ใจดีขนาดนี้เลยรึ?”
“หากไม่เชื่อข้า เจ้าจะไม่ใช้ก็ได้!” มู่เฉียนซีกล่าวอย่างเรียบเฉย
หลังจากนั้น นางก็มองไปยังวิญญาณหนุ่มในชุดขาวตนนั้น
ร่างของเขานั้นล่องลอยอยู่กลางอากาศอย่างแผ่วเบา ด้วยผมเผ้ายุ่งเหยิง อีกทั้งใบหน้าก็ซีดเซียวไม่มีเลือดเลยแม้แต่น้อย ทว่ามันก็ยังไม่สามารถหยุดความงดงามของใบหน้านั้นได้อยู่ดี
มู่เฉียนซีกล่าวกับเขาว่า “ข้าเหนื่อยแล้ว และต้องการพักผ่อน ส่วนท่านวิญญาณหนุ่ม คืนนี้จะพักหน่อยได้หรือไม่ หรือว่าช่วยเปลี่ยนคนก่อกวนไปเสีย ตอนนี้ข้ากำลังเป็นคนป่วยอยู่นะ!”
“เอาล่ะ! เช่นนั้นเจ้าก็รีบฟื้นตัวเร็ว ๆ เข้าเถอะ หลังจากที่เจ้าหายดีจนมีพลังแล้วค่อยมาเล่นกับข้า!” อีกฝ่ายตอบรับอย่างมีความสุข
หลังจากนั้นมือที่ขาวซีดของมันก็คว้าว่านซือเยี่ยนเอาไว้พลางกล่าวว่า “พี่เยี่ยน วันนี้ท่านเล่นเป็นเพื่อนข้าดีหรือไม่!”
“ข้าต้องคิดบัญชี และก็อยากหาเงินด้วย!”
“พักผ่อนสักวันก็ไม่เป็นไรหรอกน่า!”
“ข้าไม่หาเงิน แล้วผู้ใดจะมาเลี้ยงดูเจ้า คืนนี้เจ้าก็ทำตัวสงบเสงี่ยมหน่อยแล้วกัน”
“ไม่เอา!”
อย่างไรเสียเจ้าวิญญาณชายหนุ่มในชุดขาวตนนั้นก็ก่อกวนว่านซือเยี่ยนไม่ปล่อยแน่ และในตอนที่มันกำลังจะออกไป มันก็ลอยกลับเข้ามาอีกครั้งแล้วกล่าวว่า “ข้ารู้แล้วว่าเจ้าชื่อว่ามู่เฉินซี แต่ข้ายังไม่ได้บอกชื่อของข้ากับเจ้าเลยสินะ!”
“ข้าชื่อว่าอากุ่ย! คำว่ากุ่ยของวิญญาณผู้ชายน่ะ!”
เมื่อพูดจบ เขาก็ลอยออกไปอีกครั้ง จากนั้นก็ตะโกนว่า “พี่เยี่ยน รอข้าด้วยสิ! ข้าค้นคว้าค่ายกลรวมวิญญาณใหม่ออกมาได้อีกหนึ่งอันแล้ว!”
มุมปากของมู่เฉียนซีกระตุกเล็กน้อย อากุ่ย คิดไม่ถึงเลยว่าจะมีคนที่ใช้ชื่อเช่นนี้ด้วย แต่มันก็สอดคล้องกับบุคลิกของเขามากจริง ๆ
ยาขั้นเทวะนี้กินเพียงแค่เม็ดเดียวก็เพียงพอแล้ว เพราะหากกินเข้าไปอีกมันก็จะสิ้นเปลืองเกินไป
ส่วนการรักษาขั้นต่อไป ใช้เพียงยาน้ำของนางเหล่านั้นก็เพียงพอแล้ว
วันรุ่งขึ้น ในขณะที่มู่เฉียนซียังคงหลับอยู่ ก็ได้ถูกปลุกให้ตื่นขึ้นด้วยเสียงร้องคำรามเสียงหนึ่ง!
“มู่เฉินซี เจ้าไสหัวออกมาเดี๋ยวนี้นะ! มู่เฉินซี…”
“เฮ้! เจ้าคือผู้ใดกัน?” หญิงรับใช้ที่อยู่ด้านนอกเห็นคนร้องคำรามอย่างบ้าคลั่งก็รู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย
คนผู้นี้แปลกประหลาดยิ่งนัก นั่นก็เพราะขนคิ้วของเขานั้นยาวเป็นอย่างมาก มันยาวยิ่งกว่าผมบนศรีษะเสียอีก
ว่านซือเยี่ยนแหวกขนคิ้วของเขาออกพลางกล่าวว่า “ข้าเอง!”
เหล่าหญิงรับใช้ต่างพากันตกตะลึงไปทีละคน “คุณชาย ทะ…เหตุใดท่านถึงกลายเป็นเช่นนี้เล่าเจ้าคะ?”
ว่านซือเยี่ยนก็กลัดกลุ้มมากเช่นกัน คืนนั้นหลังจากที่เอายาน้ำปลูกผมที่มู่เฉินซีมอบให้เขาขวดนั้นมาแล้ว เขาก็ได้เอาไปให้นักปรุงยาตรวจสอบดู
นักปรุงยาบอกเขาว่า มันไม่มีพิษ และยังสามารถทำให้ขนคิ้วยาวไวขึ้นอีกด้วย
เมื่อได้ฟังคำพูดของนักปรุงยาแล้วเขาก็รู้สึกวางใจ เขาจึงได้ตัดสินใจที่จะเชื่อมู่เฉินซีดูสักครั้ง หลังจากนั้นจึงได้ใช้มัน และหวังว่าพรุ่งนี้ขนคิ้วของเขาจะสามารถฟื้นฟูจนกลับมาเป็นปกติได้!
ผลสุดท้าย ทันทีที่ตื่นขึ้นมาในวันนี้ ก็ค้นพบว่าขนคิ้วของเขานั้นยาวยิ่งกว่าผมที่อยู่บนศรีษะของเขาเสียอีก
มันช่างเหมือนกับฟ้าผ่าตอนกลางวันแสก ๆ การเชื่อใจหญิงสาวที่ชื่อว่ามู่เฉินซีผู้นั้น แน่นอนว่าเป็นเรื่องที่ผิดพลาดที่สุดที่เขาเคยทำมาเลยจริง ๆ
และที่ว่านซือเยี่ยนผู้มีขนคิ้วยาวเกินไปมาในตอนนี้ ก็ไม่ได้มีเพียงการมาซักไซ้เอาความตั้งแต่เช้าอย่างเดียวแน่นอน
ในที่สุดมู่เฉียนซีก็ถูกรบกวนจนทำให้ตื่นขึ้นมาจนได้ นางกล่าวว่า “เจ้าคือผู้ใดกัน! สัตว์ประหลาดคิ้วดกหรือ?”
“มู่เฉินซี เจ้านี่มันช่างดียิ่งนัก คิดไม่ถึงว่าจะแสร้งทำเป็นไม่รู้จักข้า เจ้านี่ช่างกล้าดีจริง ๆ!” ว่านซือเยี่ยนกัดฟันกล่า
“น้ำเสียงเช่นนี้ฟังดูคุ้นหูนัก เหมือนกับ…มันเหมือนกับเสียงของนายน้อยว่านซื่อ…”
ตูมมม!
ว่านซือเยี่ยนปล่อยหมัดโจมตีออกไป ส่วนมู่เฉียนซีก็หลบหลีกมันได้ จึงทำให้เสาไม้ที่อยู่ด้านหลังตัวนั้นยุบลงไปทันที
“ยาแก้!”
มู่เฉียนซีกล่าวว่า “นี่ข้าลืมบอกปริมาณการใช้ให้เจ้าไปอย่างนั้นหรือ เพราะนายน้อยว่านซื่อใช้เยอะจนเกินไปมันถึงได้เป็นเช่นนี้ เจ้าเพียงแค่โกนมันออกแล้วใช้ยาอีกครั้งก็เรียบร้อยแล้ว”
“ข้าไม่เชื่อ เช่นนั้นเจ้าก็มาโกน และมาใส่ยาให้ข้าสิ!” ว่านซือเยี่ยนกล่าวพลางจ้องเขม็งไปทางมู่เฉียนซี
“ข้าทำให้เอง ข้าทำให้!” พลันนั้นมู่เฉียนซีก็หยิบเอามีดออกมากองหนึ่ง
มันคืออาวุธศักดิ์สิทธิ์ระดับสูงทั้งนั้น แต่ดูเหมือนว่าทุกชิ้นล้วนไม่เหมาะที่จะเอามาโกนขนคิ้วเลย
มุมปากของว่านซือเยี่ยนกระตุกขึ้นมาเล็กน้อย ผู้หญิงคนนี้มีสมบัติที่เป็นอาวุธศักดิ์สิทธิ์ไม่น้อยเลยจริง ๆ
และในเวลานี้เองเสี่ยวหงก็วิ่งออกมาแล้วกล่าวว่า “นายท่าน ไม่จำเป็นต้องยุ่งยากถึงเพียงนี้หรอก! เพราะข้าเคยมีประสบการณ์ทำเช่นนี้มาก่อน!”
ด้วยเหตุนี้เสี่ยวหงจึงใช้ไฟของมันแผดเผา และก็ทำให้ขนคิ้วที่ยาวเสียยิ่งกว่าเส้นผมนั้นหายไปอย่างหมดจด!
ว่านซือเยี่ยนเดือดเป็นฟืนเป็นไฟขึ้นทันที “มู่เฉินซี ตอนนี้เจ้ายังกล้าพูดว่าสัตว์พันธสัญญาของเจ้าไม่ได้ทำอยู่อีกหรือไม่?”
“ใจเย็นก่อน ๆ ขนคิ้วที่จะงอกออกมาคราวหน้าจะต้องยาวได้พอดีมากเป็นแน่ และมันก็จะทำให้เจ้าหล่อเหลายิ่งกว่าเดิมแน่นอน! จริง ๆ นะ!” และจากนั้นมู่เฉียนซีก็ได้หยดยาน้ำลงไปบนโครงคิ้วของเขาสองหยด
หลังจากที่ทำเสร็จแล้ว นางก็อุ้มเสี่ยวหงและหนีอย่างไม่คิดชีวิต!
“มู่เฉินซี เจ้าหยุดเดี๋ยวนี้เลยนะ!”
“อากุ่ย อากุ่ย ว่านซือเยี่ยนอยากจะฆ่าคนแล้ว!” มู่เฉียนซีรีบวิ่งหนีอย่างรวดเร็ว
หากต้องการที่จะหยุดการระเบิดของว่านซือเยี่ยน มู่เฉียนซีคิดว่าการขอความช่วยเหลือจากเจ้าของบ้านหลังนี้เป็นการตัดสินใจที่ฉลาดที่สุดแล้ว
และมันก็เป็นอย่างที่คาดไว้จริง ๆ เพราะดูเหมือนว่าอากุ่ยจะได้ยินคำพูดของมู่เฉียนซี และฉากที่อยู่ตรงหน้านี้ก็พลันเปลี่ยนแปลงไป ซึ่งตอนนี้มู่เฉียนซีก็ถูกดึงเข้ามาในสุสานโบราณใต้ดินแล้ว
สุสานโบราณนี้กว้างใหญ่เป็นอย่างมาก ภายในสุสานนั้นมีชั้นหนังสือตั้งเรียงรายอยู่เป็นทิวแถว นอกจากนี้ยังมีโลงศพหยกที่โปร่งใสอยู่โลงหนึ่ง ซึ่งด้านในนั้นมีอากุ่ยนอนอยู่อย่างสงบ
เขากล่าวว่า “เสี่ยวซี เจ้าทำอย่างไรถึงทำให้พี่เยี่ยนโกรธถึงเพียงนั้นได้?”