ท่านอ๋องผู้โหดร้ายกับหมอปีศาจ - ตอนที่ 2116 ชีวิตเป็นของเจ้า
“เจ้าถอนคำสาปได้จริง ๆ หรือ?” เซี่ยซวีกล่าวด้วยความตกใจ
มู่เฉียนซีมองไปทางเซี่ยซวีแล้วกล่าวว่า “ข้าอยากจะบอกว่า นักเล่นคาถาอาคมที่ปรากฏตัวก่อนหน้านี้ได้ตายไปหมดแล้ว หากเจ้าคิดว่าพวกเขาจะปรากฏตัวขึ้นอีกครั้ง ก็เกรงว่าเจ้าคงจะฝืนทนจนถึงวันนั้นไม่ไหวเป็นแน่ และคาดว่าความสามารถของคนที่จะมาเป็นกลุ่มต่อไปคงจะแข็งแกร่งขึ้นไปอีก ซึ่งด้วยความสามารถของเจ้าก็น่าจะทำอะไรพวกเขาไม่ได้อยู่ดี”
“เป็นอย่างไร? ยอมที่จะเดิมพันดูหรือไม่?” มู่เฉียนซีกล่าวถาม
ภายในดวงตาของเซี่ยซวีส่องประกายแวววาว เขามองไปทางมู่เฉียนซีแล้วกล่าวว่า “เจ้ายังต้องการอะไรอีกหรือไม่? หากข้าต้องการให้เจ้าถอนคำสาปของคนในเผ่าทั้งหมด ยาขั้นเทวะเพียงต้นเดียวคงไม่เพียงพอแน่ ฉะนั้นหากเจ้าสามารถทำได้ ชีวิตนี้ของข้าก็จะเป็นของเจ้า”
“รวมไปถึงหุ่นวิญญาณเหมันต์ระดับผู้บำเพ็ญภูตพลังขั้นราชันวิญญาณทั้งสองตัวนั้นด้วยหรือไม่?” มู่เฉียนซีกล่าวถาม
“แน่นอน! พวกมันคือส่วนหนึ่งของข้า!” เซี่ยซวีตอบกลับอย่างตรงไปตรงมาเป็นอย่างมาก
ว่านซือเยี่ยนรู้สึกอิจฉาในความโชคดีของมู่เฉียนซี เพราะธุรกิจในคราวนี้ได้กำไรมหาศาลเลยทีเดียว และนี่ก็เท่ากับว่านางได้รับการสนับสนุนจากทั้งเผ่าราชันย์แห่งเหมันต์เลยก็ว่าได้
แน่นอน หากสมมติว่านางสามารถทำได้ล่ะก็นะ
การถอนคำสาปให้คนเพียงคนเดียวกับการถอนคำสาปให้คนทั้งเผ่า นั่นย่อมมีแนวคิดที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิงอยู่แล้ว และเกรงว่ามันจะต้องใช้ความพยายามไม่น้อยเลยทีเดียว
มู่เฉียนซีกล่าวว่า “ในเมื่อเจ้ารับปากแล้ว เช่นนั้นจะยังรออะไรอยู่เล่า? พาข้ากลับไปที่เผ่าราชันย์แห่งเหมันต์เถอะ!”
“ตกลง! ทางที่ดีเจ้าอย่าหลอกข้าจะดีกว่า” ตอนนี้เซี่ยซวียังคงไม่เชื่อคำพูดทั้งหมดของมู่เฉียนซีอย่างสมบูรณ์ แต่นี่ก็ถือว่าเป็นทางเลือกสุดท้ายแล้วจริง ๆ
ว่านซือเยี่ยนกล่าวว่า “ข้าก็อยากไปด้วยเช่นกัน”
เซี่ยซวีต้องการที่จะรู้ให้ได้ว่ามู่เฉียนซีสามารถถอนคำสาปได้หรือไม่ ดังนั้นเขาจึงไม่ได้ให้ความสนใจกับว่านซือเยี่ยนเลย
พวกเขามาถึงธารน้ำแข็งเหนืออย่างรวดเร็วปานสายฟ้าแลบ จนกระทั่งมาถึงตรงทางเข้าของเผ่าราชันย์แห่งเหมันต์ เซี่ยซวีก็กล่าวกับมู่เฉียนซีว่า “มีเพียงเจ้าเท่านั้นที่เข้าไปได้ ส่วนคนอื่นจะต้องรออยู่ข้างนอก”
ว่านซือเยี่ยนกล่าวว่า “เช่นนั้นไม่ได้ หากเจ้าใช้ประโยชน์เสร็จแล้วถีบหัวส่งเล่า?”
“ให้ไปได้อีกสามคน” และนี่คือการถอยก้าวใหญ่ที่สุดของเซี่ยซวีแล้ว
ดังนั้นว่านซือเยี่ยนกับอีกสองคนจึงได้ตามมู่เฉียนซีเข้าไปในอาณาเขตของเผ่าราชันย์แห่งเหมันต์ ซึ่งความงดงามอันประณีตของทั้งหุบเขาน้ำแข็งแห่งนี้ล้วนเป็นเพราะได้รับการดูแลจัดการโดยคนของเผ่าราชันย์แห่งเหมันต์นั่นเอง
“หัวหน้าเผ่ากลับมาแล้ว!”
“หัวหน้าเผ่ากลับมาแล้วจริง ๆ”
เมื่อเซี่ยซวีกลับมาได้อย่างปลอดภัย คนในเผ่าราชันย์แห่งเหมันต์ต่างก็พากันดีใจเป็นอย่างยิ่ง
“ท่านพี่!”
เซี่ยหนิงวิ่งออกมา และกระโจนเข้าใส่พี่ชายของตนเองอย่างตื่นเต้นดีใจ
มีคนออกมาจากเผ่าราชันย์แห่งเหมันต์ไม่น้อย แต่ทว่าทุกคนล้วนมีอายุน้อยทั้งสิ้น ซึ่งคนที่เด็กที่สุดก็มีอายุเพียงหนึ่งถึงสองขวบเท่านั้น
หลังจากที่เซี่ยหนิงพูดคุยกับพี่ชายของตนเองเสร็จเรียบร้อยแล้ว ก็กล่าวกับมู่เฉียนซีว่า “พี่สาวมู่ พี่ชายว่านซื่อ พวกท่านยอดเยี่ยมมาก คิดไม่ถึงว่าจะหาท่านพี่ได้เร็วถึงเพียงนี้”
คิดไม่ถึงว่าน้อยชายของตนเองจะไปขอบคุณคนทั้งสองที่วางแผนใช้กับดักกับเขา ซึ่งมันก็ทำให้เซี่ยซวีขมวดคิ้วอย่างไม่พอใจเล็กน้อยก่อนจะกล่าวว่า “เข้าไปคุยกันข้างในเถอะ!”
“ให้สมาชิกทุกคนภายในเผ่าเข้ามาให้หมด ห้ามขาดแม้แต่คนเดียว” หลังจากนั้นเซี่ยซวีก็ออกคำสั่ง
“ขอรับ ท่านหัวหน้าเผ่า!”
คนทั้งเผ่าราชันย์แห่งเหมันต์มีจำนวนน้อยมาก ซึ่งก็มีไม่ถึงร้อยคนเลยด้วยซ้ำ ทั้ง ๆ ที่เมื่อก่อนพวกเขาเคยเป็นเผ่าที่มีขนาดใหญ่มาก แต่เนื่องจากโดนคำสาปของเผ่าคำสาป จึงทำให้พวกเขาลดลงจนมาถึงจุดนี้เลยทีเดียว
เซี่ยซวีกล่าวว่า “ที่ข้าเรียกให้ทุกคนมารวมตัวกันในวันนี้ เป็นเพราะข้ามีเรื่องที่สำคัญมากอยากจะประกาศ! ซึ่งนั่นก็คือ ข้าหาคนที่สามารถถอนวิชาคำสาปบนร่างกายของพวกเราได้แล้ว”
ทันใดนั้น ทั่วทั้งเผ่าราชันย์แห่งเหมันต์ก็ตกอยู่ในความโกลาหลทันที
“อะไรนะ ท่านหัวหน้าเผ่าหาคนของเผ่าคำสาปเจอแล้วอย่างนั้นหรือ?”
“ท่านหัวหน้าเผ่า ท่านได้รับบาดเจ็บหรือไม่?”
“เผ่าคำสาปจะยอมตกลงถอนคำสาปของพวกเราได้อย่างไรกัน ท่านหัวหน้าเผ่า พวกเขาคงไม่ได้ทำอะไรท่านใช่หรือไม่?”
เซี่ยซวีกล่าวว่า “อันที่จริงแล้วจะใช่หรือไม่นั้น เมื่อถึงเวลานั้นพวกเจ้าทุกคนก็ดูมันด้วยตาตนเองเถอะ! เนื่องจากไม่สามารถยืนยันได้ว่าปลอดภัยหรือไม่ ฉะนั้นข้าจึงจะลองเป็นคนแรก”
“ท่านหัวหน้าเผ่า จะทำเช่นนั้นได้อย่างไร? ให้ข้าเป็นคนทำเองเถอะ!”
“หัวหน้าเผ่าเป็นผู้มีพรสวรรค์ดีที่สุดในรอบร้อยปีของเผ่าราชันย์แห่งเหมันต์ของพวกเรา หากมีอะไรเกิดขึ้น พวกเราจะอธิบายกับอดีตหัวหน้าเผ่าได้อย่างไรกัน!”
“……”
“ข้าคือหัวหน้าเผ่า พวกเจ้าจะไม่เชื่อฟังคำสั่งของข้าอย่างนั้นหรือ?” น้ำเสียงของเซี่ยซวีเปลี่ยนเป็นเข้มงวดขึ้นมาหลายส่วน
ถึงพวกเขาจะรู้ว่าผิด แต่ก็กล่าวว่า “ท่านหัวหน้าเผ่า ไม่ว่าอย่างไร ท่านก็จะเสี่ยงไม่ได้”
มู่เฉียนซีกล่าวว่า “เอาล่ะ! ในเมื่อเจ้าเป็นคนเชิญข้ามา ก็ควรที่จะมั่นใจในตัวข้าบ้าง มานั่งขัดสมาธิแล้วทำร่างกายให้ผ่อนคลายเสีย”
คนของเผ่าราชันย์แห่งเหมันต์ต่างมองไปที่มู่เฉียนซีอย่างพร้อมเพียงกัน นักเล่นคาถาอาคมที่หัวหน้าเผ่าเชิญมาคือแม่นางท่านนี้อย่างนั้นหรือ? แม่นางท่านนี้ไม่ใช่คนที่ช่วยนายน้อยของพวกเขาหรอกหรือ?
แม่นางผู้นี้มีใบหน้าที่งดงามมาก ฉะนั้นนางจะเป็นคนของเผ่าคำสาปได้อย่างไรกัน
เงาของเผ่าคำสาป ได้ปกคลุมไปทั่วเผ่าราชันย์แห่งเหมันต์มานานนับหมื่นปีแล้ว และทุกคนภายในเผ่าต่างก็ถูกทรมานด้วยวิชาคำสาป ฉะนั้นในความคิดของพวกเขาคนของเผ่าคำสาปจะต้องมีหน้าตาที่ดุร้าย ทั้งยังมีสามหัวหกแขนราวกับสัตว์ประหลาดก็มิปานเป็นแน่
เซี่ยซวีได้นั่งลงตามที่มู่เฉียนซีบอก และในเวลานี้ พลังจิตวิญญาณของมู่เฉียนซีก็แผ่กระจายออกมา ซึ่งมันก็ทำให้ทุกคนต่างพากันประหลาดใจเป็นอย่างยิ่ง
พลังจิตวิญญาณของพวกเขาเผ่าราชันย์แห่งเหมันต์นั้นแข็งแกร่งมากอยู่แล้ว บวกกับสายเลือดที่สืบทอดต่อกันมาในเผ่าของพวกเขา จึงทำให้พวกเขาสามารถสร้างหุ่นวิญญาณเหมันต์และยังสามารถบรรลุสัญญาจนควบคุมพวกมันได้อีกด้วย
แต่ทว่าพลังจิตวิญญาณที่อยู่เบื้องหน้าของพวกเขาตอนนี้กว้างใหญ่สุดลูกหูลูกตาราวกับมหาสมุทรก็มิปาน และเห็นได้ชัดว่าพลังวิญญาณเพียงเล็กน้อยของพวกเขานั้นดูไม่มีคุณค่าพอให้เอ่ยถึงเลยทีเดียว
แข็งแกร่งมาก!
อักขระคำสาปถูกมู่เฉียนซีร่างออกมาอย่างง่าย ๆ จากนั้นมันก็หายไปตรงระหว่างคิ้วของเซี่ยซวี และเซี่ยซวีก็รู้สึกได้อย่างชัดเจนว่าพลังแห่งความมืดที่กักขังเขาเอาไว้ได้หายไปแล้ว
ดูเหมือนว่าร่างกายของเขาจะรู้สึกอบอุ่นขึ้นมาแล้ว เดิมทีแล้วเผ่าราชันย์แห่งเหมันต์ของพวกเขาไม่กลัวความหนาวเหน็บ แต่เป็นเพราะถูกวิชาคำสาปของเผ่าคำสาป จึงทำให้พวกเขาแต่ละรุ่นความกลัวหนาวมากขึ้นเรื่อย ๆ
ตอนนี้ดูเหมือนว่าสัญชาตญาณที่เป็นของพวกเขาเผ่าราชันย์แห่งเหมันต์ จะกลับมาอีกครั้งแล้ว
กลิ่นอายแห่งความตายบนตัวของเซี่ยซวีอันตรธานไปจนหมดสิ้น เขาลืมตาทั้งสองขึ้น และตอนนี้คำสาปก็ถูกถอนไปแล้ว
ใช้เวลาเพียงแค่สิบลมหายใจก็สามารถถอนคำสาปได้แล้ว ซึ่งมันก็ราบรื่นอย่างน่าเหลือเชื่อ
มู่เฉียนซีก้มหน้าลงไปมองเซี่ยซวี มันช่างราบรื่นจนน่าประหลาดใจเสียจริง หากคำสาปของจิ่วเยี่ยสามารถถอนได้ง่ายเช่นนี้ก็คงจะดี แต่น่าเสียดายที่ยังหาวัตถุดิบอีกสองชนิดไม่เจอเสียที
แก่นของไม้เทพแห่งชีวิตยังไม่มีเบาะแสเลยแม้แต่น้อย และหากต้องการดีกิเลนก็ต้องเสี่ยงอันตรายอย่างมาก ซึ่งตอนนี้ทางจิ่วเยี่ยก็ยังไม่มีข่าวคราวเช่นกัน
“ท่านหัวหน้าเผ่า ท่านรู้สึกอย่างไรบ้าง?”
“ท่านพี่!”
เซี่ยซวีกล่าวว่า “ข้ารู้สึกดีมาก มันดีอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อนเลย”
เดิมทีคิดว่าเผ่าราชันย์แห่งเหมันต์ของพวกเขาคงถึงคราวต้องดับสูญเป็นแน่ และนี่คือการดิ้นรนครั้งสุดท้ายของพวกเขา แต่คิดไม่ถึงเลยว่าสวรรค์จะมีทางออกให้กับพวกเขาเช่นนี้
“เจ้าทำได้แล้ว!”
มู่เฉียนซีกล่าวว่า “นั่นมันแน่นอนอยู่แล้ว ต่อไป ผู้ใดจะมา?”
“นายท่าน ท่านเพิ่งจะสัมผัสคำสาปมา น่าจะเหนื่อยมากแล้ว พักสักวันค่อยลงมือต่อเถอะ! พวกเรายังพอเหลือเวลาอยู่บ้าง”
“นายท่าน ต้องลำบากท่านแล้ว”
“……”
คนของเผ่าราชันย์แห่งเหมันต์ที่ได้มองเห็นถึงความหวังในเวลานี้ จากเดิมทีเป็นเพียงคนที่ดูเย็นชาราวกับตุ๊กตาหิมะก็มิปาน แต่ตอนนี้ได้เปลี่ยนมาเป็นคนที่มีชีวิตชีวาขึ้นแล้ว
มู่เฉียนซีกล่าวว่า “ไม่มีปัญหา มาต่อกันเถอะ!”
สิ่งนี้ทำให้เสียพลังไปไม่มากนัก และมันก็ง่ายดายกว่าตอนที่รับมือกับคนของเผ่าคำสาปก่อนหน้านี้อย่างสิ้นเชิง
การถอนคำสาปนั้นไม่ได้ยากเย็นนัก แต่ที่เผ่าราชันย์แห่งเหมันต์ถูกบีบจนมีสภาพเช่นนี้ นั่นก็เป็นเพราะนอกจากเผ่าคำสาปจะไม่ปล่อยพวกเขาไปแล้ว ยังไม่คิดถอนวิชาคำสาปให้พวกเขาอีกด้วยก็เท่านั้นเอง
เซี่ยซวีก็อยากให้คนในเผ่าตนเองหลุดพ้นจากฝันร้ายนี้ให้เร็วที่สุดเช่นกัน ฉะนั้นเขาจึงกล่าวว่า “เช่นนั้นก็เรียงแถวจากอายุมากที่สุดไปน้อยที่สุด”
“ขอรับ ท่านหัวหน้าเผ่า!”
หลังจากนั้นถึงจะถอนคำสาปของคนที่หนึ่ง คนที่สอง และคนที่สามไปแล้ว แต่มู่เฉียนซีกลับยังไม่มีร่องรอยของความเหนื่อยล้าให้เห็นเลยแม้แต่น้อย
และโดยที่ไม่ทันรู้ตัว มู่เฉียนซีก็ได้จัดการถอนคำสาปของทุกคนที่อยู่ในเผ่าราชันย์แห่งเหมันต์เสร็จเรียบร้อยแล้ว ซึ่งนั่นก็ทำให้ทุกคนจ้องมองไปทางนางด้วยความตื่นตะลึง
“เจ้า…”
ตูมมมมมม!
และในตอนที่มู่เฉียนซีถอนวิชาคำสาปของเผ่าคำสาปได้อย่างสมบูรณ์ ก็ได้ทำให้ไข่มุกสีขาวดุจหิมะที่อยู่ในสถานที่อันห่างไกล ที่ซึ่งเป็นสถานที่ตั้งของเผ่าคำสาปเกิดการระเบิดขึ้น
พรวด!
ชายชราในชุดดำคนหนึ่งได้กระอักเลือดสด ๆ ออกมาจนเต็มปาก
.