ท่านอ๋องผู้โหดร้ายกับหมอปีศาจ - ตอนที่ 2115 ปลาติดเบ็ด
ข่าวเรื่องที่เผ่าคำสาปปรากฏตัวออกมานั้นดูจะบังเอิญมากเกินไป นอกจากนี้มันยังแม่นยำมากอีกด้วย และคนเช่นนั้นจะปล่อยให้คนอื่นหาที่อยู่ของเขาเจอได้อย่างไรกัน
ถึงเขาจะรู้สึกว่ามีปัญหาบางอย่าง แต่มันก็ไม่มีทางเลือกอยู่ดี
และถึงเขาจะได้พบสถานที่ที่พลังคำสาปอันแข็งแกร่งปรากฏขึ้นก่อนหน้านี้ แต่สำนักหลินเยว่นั่นก็ได้ถูกทำลายลงไปแล้ว
เพราะสถานที่แห่งนั้นไม่มีผู้รอดชีวิต ฉะนั้นจึงไม่มีผู้ใดล่วงรู้ว่านักเล่นคาถาอาคมที่ทำลายสำนักหลินเยว่ผู้นั้นไปอยู่ที่ใดกันแน่
สุดท้ายเขาที่อาการป่วยทรุดหนักก็มาถึงยังเมืองปิงหวางแห่งนี้จนได้ และคิดไม่ถึงเลยว่าข่าวนั้นจะเป็นเรื่องจริงไปได้
เซี่ยซวีหันหน้าไปยังทิศทางนั้น และมุ่งหน้าไปยังสถานที่แห่งนั้นทันที
เขาได้เก็บกลิ่นอายของตนเองไว้ ดวงตาคู่นั้นเย็นยะเยือกราวกับหิมะก็มิปาน ทั้งยังเต็มไปด้วยความเกลียดชังจนเข้ากระดูกดำอีกด้วย
หลังจากที่ทดลองวิชาคำสาปไปสามชนิดแล้ว มู่เฉียนซีก็ลืมตาขึ้นมา นางกล่าวกับว่านซือเยี่ยนด้วยรอยยิ้มว่า “คุณชายว่านซื่อ ปลาติดเบ็ดแล้ว เตรียมล้อมจับได้”
ว่านซือเยี่ยนรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย นี่คนของเขายังไม่ทันได้รู้ตัวเลยสักนิด
เพราะพลังจิตวิญญาณของหญิงผู้นี้ มีความแข็งแกร่งกว่าคนทั่วไปมากนัก ฉะนั้นจึงไม่แปลกใจเลยที่นางสามารถเรียนรู้สิ่งที่พบโดยบังเอิญ อย่างวิชาคำสาปที่ล่ำลือกันว่าคนนอกไม่สามารถฝึกฝนได้ของเผ่าคำสาปเช่นนี้
แต่ว่านซือเยี่ยนไม่รู้ว่า แม้จะเป็นคนที่มีพลังจิตวิญญาณแข็งแกร่งเพียงใด แต่ก็ยังคงไม่อาจฝึกฝนวิชาคำสาปของเผ่าคำสาปได้อยู่ดี
และมีเพียงมู่เฉียนซีคนเดียวเท่านั้นที่เกิดขึ้นโดยไม่คาดฝันเช่นนี้
ร่างเงาที่ขาวผุดผ่องร่างหนึ่ง ร่อนลงมากลางลานบ้าน และผมยาวสลวยที่มีสีขาวราวกับหิมะก็ปลิวไสวท่ามกลางท้องฟ้ายามค่ำคืน
ฟิ้ว ฟิ้ว ฟิ้ว!
ร่างเงาสองสามร่างพุ่งออกมา คนเหล่านี้ล้วนเป็นคนธรรมดา และไม่ใช่นักเล่นคาถาอาคมของเผ่าคำสาปแต่อย่างใด
ทันใดนั้น เขาก็รู้ตัวแล้วว่าตนเองติดกับเข้าให้แล้ว
เซี่ยซวีกล่าวว่า “พวกเจ้าเป็นใครกัน?”
ว่านซือเยี่ยนก้าวออกมา จากนั้นก็กล่าวด้วยรอยยิ้มว่า “ข้าคือว่านซือเยี่ยน เป็นนายน้อยของสมาคมการค้าเฉินซี อยากที่จะซื้อสิ่งของบางอย่างจากท่านหัวหน้าเผ่าราชันย์แห่งเหมันต์”
เซี่ยซวีกล่าวด้วยน้ำเสียงที่เย็นชาว่า “แม้ว่าเผ่าราชันย์แห่งเหมันต์ของข้าจะอาศัยในพื้นที่ของตนเองอย่างสงบ แต่ก็เคยได้ยินชื่อของสมาคมการค้าเฉินซีมาบ้าง สมาคมการค้าเฉินซีที่มีพร้อมทุกอย่างเช่นนั้น ยังต้องการซื้อสิ่งใดจากข้าอีกหรือ?”
“ข้าจะพูดกับท่านอย่างไม่อ้อมค้อมเลยแล้วกัน! ข้าต้องการบัวหิมะเก้าเซียน” ยาขั้นเทวะนี้มีความสำคัญยิ่งนัก และว่านซือเยี่ยนก็ไม่คิดที่จะพูดพร่ำกับเซี่ยซวีอีกต่อไปแล้ว
ทันใดนั้น บนตัวของเซี่ยซวีก็มีไอเย็นยะเยือกแผ่ออกมา “เจ้ารู้ได้อย่างไรกัน? เจ้าไปที่เผ่าราชันย์แห่งเหมันต์หรือ?”
และทันทีที่เซี่ยซวีโบกมือ หุ่นวิญญาณเหมันต์หลายสิบตัวก็ปรากฏขึ้นมาอย่างกะทันหัน
หุ่นวิญญาณเหมันต์เหล่านี้ต่างก็มีระดับเป็นถึงผู้บำเพ็ญภูตพลังขั้นภูตศักดิ์สิทธิ์ขั้นสูงสุดทั้งนั้น เพราะเซี่ยซวีเห็นว่าจะไปตามหาเผ่าคำสาป เขาจึงได้นำตัวที่มีพลังในการต่อสู้ที่แข็งแกร่งที่สุดมาด้วย
ดวงตาของว่านซือเยี่ยนหรี่ลง “หัวหน้าเผ่าราชันย์แห่งเหมันต์ ก็แค่คุยการค้ากันเท่านั้น เจ้าจำเป็นต้องจะใช้กำลังด้วยความโกรธด้วยหรือ?”
“ไม่มีอะไรให้ต้องคุยทั้งนั้น”
เซี่ยซวีได้ควบคุมการโจมตีของหุ่นวิญญาณเหมันต์เหล่านั้น แต่คนของว่านซือเยี่ยนก็ไม่ได้อ่อนแอ และลูกน้องของเขาก็เริ่มลงมืออย่างรวดเร็วเช่นกัน
ตูมมมม!
มีเสียงดังสนั่นหวั่นไหวไปทั่วบริเวณ การป้องกันทางกายภาพของหุ่นวิญญาณเหมันต์เหล่านี้มีความแข็งแกร่งเป็นอย่างมาก ไม่ว่าการโจมตีของผู้แข็งแกร่งจากสมาคมการค้าเฉินซีจะสูงมากเพียงใด ต่างก็ไม่สามารถโจมตีให้เศษหิมะบนร่างกายของมันร่วงหล่นออกมาได้เลย
และเมื่อเซี่ยซวีตระหนักได้ว่านี่คือกับดัก ด้วยความที่เขาเป็นห่วงคนในเผ่ามาก จึงอยากที่จะปลีกตัวออกไป เพื่อกลับไปดูที่เผ่าของตนเอง
ว่านซือเยี่ยนกล่าวว่า “ขวางเขาเอาไว้!”
แม้หุ่นวิญญาณเหมันต์ของเซี่ยซวีนั้นจะแข็งแกร่งมาก แต่ทว่าว่านซือเยี่ยนก็ได้วางกับดักเอาไว้นานแล้ว ฉะนั้นถึงเขาต้องการที่จะปลีกตัวออกไป ก็ไม่ใช่เรื่องง่ายอยู่ดี
ปัง ปัง ปัง!
หลังจากที่ปะทะฝีมือไปหลายสิบรอบแล้ว แววตาของเซี่ยซวีก็มืดมนลง
เขาได้เอาหุ่นวิญญาณเหมันต์ออกมาอีกสองตัว และกลิ่นอายของหุ่นวิญญาณเหมันต์เหล่านี้ไม่เหมือนตัวอื่นเหล่านั้น ซึ่งมันมีความแข็งแกร่งกว่ามากทีเดียว
แววตาของว่านซือเยี่ยนเคร่งขรึมขึ้นมาทันที “ในตัวเจ้าหมอนี่ยังมีหุ่นวิญญาณเหมันต์ระดับผู้บำเพ็ญภูตพลังขั้นราชันวิญญาณอยู่ด้วยสินะ”
ข่าวลือที่ว่าเผ่าราชันย์แห่งเหมันต์มีความสามารถที่เทียบเท่ากับกองกำลังระดับสี่ครึ่งชั้นนำได้นั้นไม่ใช่เรื่องโกหกเลย เพราะการมีหุ่นวิญญาณเหมันต์ระดับผู้บำเพ็ญภูตพลังขั้นราชันวิญญาณก็เท่ากับว่าเผ่าของพวกเขามีตำแหน่งของผู้บำเพ็ญภูตพลังขั้นราชันวิญญาณอยู่ด้วยนั่นเอง
“คุณชายว่านซื่อ เจ้าดูถูกเผ่าราชันย์แห่งเหมันต์ของข้าเกินไปแล้ว ทางที่ดีเจ้าอย่ามาทำร้ายคนในเผ่าของข้า มิเช่นนั้น แม้จะเป็นสมาคมการค้าเฉินซี เผ่าราชันย์แห่งเหมันต์ของข้าไม่มีทางปล่อยเจ้าไปแน่” เซี่ยซวีกล่าวอย่างเย็นยะเยือก
“อีกอย่าง พลังคำสาปเมื่อครู่ ที่จริงแล้วมันเกิดอะไรขึ้นกันแน่? หากไม่มีนักเล่นคาถาอาคมอยู่ด้วยจริง ๆ ก็จะไม่มีทางระเบิดพลังคำสาปเช่นนั้นออกมาได้! ส่งตัวเขาออกมาเดี๋ยวนี้” เซี่ยซวีที่งัดเอาไม้ตายทั้งหมดของเขาออกมาเพื่อต่อต้านว่านซือเยี่ยน ไม่เพียงจะบีบบังคับลูกน้องของว่านซือเยี่ยนเท่านั้น แต่อยากที่จะเอาคนของเผ่าคำสาปกลับไปด้วยนั่นเอง
มู่เฉียนซีเดินออกไปแล้วกล่าวว่า “เจ้าอยากเจอข้าอย่างนั้นหรือ?”
ดวงตาที่เย็นยะเยือกราวกับน้ำแข็งคู่นั้นกวาดตามองไปที่มู่เฉียนซีพลางกล่าวว่า “เป็นเจ้าหรือ?”
กลิ่นอายของเผ่าคำสาป ไม่ได้เป็นเช่นนี้แน่นอน
“เช่นนั้น ให้ข้าลองให้ดูดีหรือไม่?”
มู่เฉียนซีรวบรวมพลังคำสาป และทันใดนั้น ดวงตาของเซี่ยซวีก็เปลี่ยนเป็นน่าสะพรึงกลัวขึ้นมาทันที
เขาได้เรียกหุ่นวิญญาณเหมันต์ระดับผู้บำเพ็ญภูตพลังขั้นราชันวิญญาณตัวหนึ่งมา และจากนั้นก็จู่โจมมู่เฉียนซีอย่างรวดเร็ว
ว่านซือเยี่ยนกล่าวว่า “ในเวลาเช่นนี้ เจ้าอย่าออกมาสร้างปัญหาด้วยพลังอันน้อยนิดของเจ้าได้หรือไม่?”
“ข้ามาช่วยเหลือเจ้าต่างหาก ไม่รู้จักความหวังดีของคนอื่นเสียบ้างเลย!”
“อาต้า! มาทำให้หัวหน้าเผ่าของพวกเจ้าใจเย็นลงหน่อยสิ”
อาถิงไปจำศีลแล้ว แน่นอนว่ามู่เฉียนซีไม่อาจจัดการกับหุ่นวิญญาณเหมันต์ที่มีระดับเป็นถึงผู้บำเพ็ญภูตพลังขั้นราชันวิญญาณได้อยู่แล้ว แต่ทว่าในมือของนางก็ยังมีไม้ตายอยู่
อาต้าพุ่งทะยานออกมา นัยน์ตาของเซี่ยซวีพลันหดลงทันที และการโจมตีของหุ่นวิญญาณเหมันต์ระดับผู้บำเพ็ญภูตพลังขั้นราชันวิญญาณตัวนั้นก็ถูกหยุดลงเช่นกัน
อาต้าคือหุ่นวิญญาณเหมันต์ที่อยู่เคียงข้างน้องชายของเขามานานมากที่สุด อีกทั้งน้องชายของเขายังรักมันมากอีกด้วย ฉะนั้นเขาจึงไม่อยากที่จะทำลายมัน
เซี่ยซวีพุ่งขึ้นไปกลางอากาศ จนเสื้อคลุมของเขาปลิวว่อน และน้ำเสียงที่เย็นยะเยือกของเขาก็แทบจะทำให้สะเก็ดน้ำแข็งล่วงหล่นลงมาได้อยู่แล้ว
“เจ้าทำอะไรกับอาหนิงกันแน่? เหตุใดอาต้าถึงมาติดตามเจ้าเช่นนี้?”
มู่เฉียนซีกล่าวว่า “เจ้าน่าจะมีความเข้าใจในหุ่นวิญญาณเหมันต์มากกว่าข้านะ! เช่นนั้นคำถามนี้ยังจำเป็นอยู่หรือไม่?”
เซี่ยซวีผงะไปครู่หนึ่ง เพราะหุ่นวิญญาณเหมันต์นั้นอยู่เคียงข้างพวกเขามาตั้งแต่กำเนิด แน่นอนว่าย่อมต้องเข้าใจมันอยู่แล้ว
เว้นแต่จะเป็นคำสั่งของอาหนิง มิฉะนั้นอาต้าไม่มีทางที่จะฟังคำพูดของผู้หญิงคนนี้อย่างแน่นอน
“เจ้าคือนักเล่นคาถาอาคม แน่นอนว่าเจ้าจะต้องมีวิธีการที่พิเศษในการควบคุมอาต้าอยู่แล้ว” เซี่ยซวียังคงสงสัย
“เช่นนั้นเจ้าก็ลองดูสิ ว่าบนตัวของอาต้าถูกวิชาคำสาปหรือไม่?”
พลังจิตวิญญาณของเซี่ยซวีกวาดไปทั่วร่างของอาต้า ซึ่งมันก็ไม่มีจริง ๆ
“ที่อาต้าตามข้ามา นั่นก็เป็นเพราะตอนที่พวกข้าไปหาบัวหิมะเก้าเซียนได้เจอกับเซี่ยหนิงเข้า ซึ่งตอนนั้นเขาออกมาจากเผ่าเพื่อตามหาเจ้า และหลังจากนั้นเขาก็ได้ฝากฝังให้ว่านซือเยี่ยนมาตามหาเจ้าแทน” มู่เฉียนซีกล่าวกับเขา
“เจ้าเด็กนั่น!” เซี่ยซวีกล่าวด้วยเสียงทุ้มต่ำ
ว่านซือเยี่ยนกล่าวว่า “หัวหน้าเผ่าราชันย์แห่งเหมันต์ พวกเราไม่ได้มีเจตนาร้าย เพียงแค่ต้องการบัวหิมะเก้าเซียนในมือของเจ้าไปช่วยชีวิตคนก็เท่านั้น”
เซี่ยซวีกล่าวว่า “ข้าสามารถมอบบัวหิมะเก้าเซียนให้ได้อยู่แล้ว และข้าก็ไม่ต้องการเงินทองด้วย แต่ข้ามีเพียงคำขอเดียวเท่านั้น นั่นก็คือช่วยถอนคำสาปให้กับคนในเผ่าของข้า”
“ผู้หญิงคนนั้นคือนักเล่นคาถาอาคม หากสามารถทำได้ ข้าก็จะยอมตกลงทุกอย่าง! แต่หากนางทำไม่ได้ แม้ว่าข้าจะต้องทำลายบัวหิมะเก้าเซียนและต่อสู้กับพวกเจ้าจนถึงที่สุด ก็จะไม่ยอมประนีประนอมแน่นอน”
เซี่ยซวีทุ่มสุดตัวไปกับการเดิมพันในครานี้ แม้เขาจะรู้สึกว่ากลิ่นอายของหญิงสาวที่อยู่ตรงหน้าผู้นี้จะไม่เหมือนกับคนของเผ่าคำสาป แต่เพราะอายุน้อยมากเกินไป จึงไม่รู้ว่าจะมีความสามารถนั้นหรือไม่?
ในเวลานี้ มู่เฉียนซีกล่าวกับว่านซือเยี่ยนว่า “คุณชายว่านซื่อ เช่นนั้นก็คงต้องขออวยพรให้พวกเราร่วมมือกันอย่างมีความสุขไว้ล่วงหน้าแล้วล่ะ”
“เจ้าสามารถถอนได้อย่างนั้นหรือ?” ว่านซือเยี่ยนกล่าวอย่างตื่นตกใจ
“แน่นอนอยู่แล้ว เพราะหากแม้แต่คำสาปลักชะตาระดับนี้ยังไม่สามารถถอนได้ ข้าก็ไม่รู้ว่าจะต้องตายด้วยน้ำมือของสัตว์ประหลาดอย่างคนจากเผ่าคำสาปเหล่านั้นไปกี่รอบแล้วเช่นกัน” มู่เฉียนซีกล่าวพลางคลี่ยิ้มอย่างมั่นใจ