ท่านอ๋องผู้โหดร้ายกับหมอปีศาจ - ตอนที่ 2096 ออกมาสูดอากาศ
มู่เฟิงหลิงเดินออกมาจากซากปรักหักพัง พร้อมกับเลือดสด ๆ ก็ไหลออกมาจากบนหน้าฝากของเขา
ผู้บำเพ็ญภูตพลังขั้นราชันวิญญาณผู้นี้ประหลาดใจเล็กน้อยพลางกล่าวว่า “เจ้านี่โชคดีจริง ๆ ขนาดนี้แล้วยังไม่ตายอีก แต่ทว่าเจ้าบังอาจมาต่อต้านฝ่าบาทของพวกเรา ฉะนั้นเจ้าก็ยากที่จะหนีความตายได้พ้นอยู่ดี”
ทันใดนั้น ผู้บำเพ็ญภูตพลังขั้นราชันวิญญาณผู้นี้ก็ได้ระเบิดแรงกดดันแห่งการบดขยี้ออกมา จากนั้นก็พุ่งตรงเข้าไปโจมตีมู่เฟิงหลิงทันที
“วายุพัดคลั่งพิฆาต!”
การโจมตีด้วยดาบที่ฟาดฟันลงมานี้ ทำให้ผู้ที่อยู่ต่ำกว่าผู้บำเพ็ญภูตพลังขั้นราชันวิญญาณรู้สึกหวาดกลัวเป็นอย่างยิ่ง
“คนอย่างมู่หลินหลาง ข้ายังรังเกียจเกินกว่าที่จะเป็นศัตรูของนางเลยด้วยซ้ำ!”
“เจ้าบังอาจนัก!”
ลำแสงของดาบตัดทะลุผ่านอากาศ จากนั้นก็พุ่งเข้ามาอย่างหมายมาดที่จะตัดเลือดเนื้อบนร่างกายของมู่เฟิงหลิงอย่างรวดเร็ว
มู่เฟิงหลิงใช้พลังทั้งหมดในการหลบหลีก อีกทั้งยังใช้พลังของสายเลือดอีกด้วย และนี่ก็เป็นเหตุผลที่ว่าทำไมเขาถึงไม่ถูกสังหารโดยการโจมตีเพียงครั้งเดียวของผู้บำเพ็ญภูตพลังขั้นราชันวิญญาณผู้นี้
ดาบของมู่เฟิงหลิงเคลื่อนไหว หลังจากนั้นเขาก็ใช้พลังทั้งหมดในการพุ่งเข้าโจมตีศัตรูผู้นี้
ด้วยพลังของดาบเต็มไปด้วยความดุร้ายรุนแรง บวกกับความอ่อนช้อยที่แข็งแกร่ง ทำให้เขาตัดผ่านไปในความว่างเปล่า และพุ่งเข้าโจมตีคนผู้นั้นในทันที
“รนหาที่ตายนัก!”
มู่เฟิงหลิงที่สามารถโจมตีเขาได้ ทำให้ใบหน้าของผู้บำเพ็ญภูตพลังขั้นราชันวิญญาณผู้นี้แข็งทื่อไปเล็กน้อย จากนั้นเขาก็หมุนดาบอย่างรวดเร็ว และวังวนลมพายุก็โหมกระหน่ำเข้าไปอีกครั้ง
ตูมมม โครมม!
สนามการต่อสู้ทางฝั่งของมู่เฟิงหลิงนั้น มีความอันตรายเป็นอย่างยิ่ง และเห็นได้ชัดว่าอีกฝั่งนั้นดีกว่ามากทีเดียว
เนื่องจากว่ารองเจ้าสำนักของสำนักหลินเยว่ได้ถูกฆ่าไปแล้ว และเพราะพวกเขาไม่ได้ให้ความร่วมมือกับองครักษ์สีเงินอย่างเหมาะสม จึงทำให้พวกเขาต้องสูญเสียกำลังคนไปไม่น้อยเลยทีเดียว
ส่วนคนของชิงหลงก็ได้จัดการคนที่เหลือเหล่านี้ ซึ่งมันก็เป็นไปอย่างง่ายดายเป็นอย่างมาก
และการต่อสู้ระหว่างมู่เฟิงหลิงกับผู้บำเพ็ญภูตพลังขั้นราชันวิญญาณผู้นี้ พวกเขาก็ไม่รู้ว่าต้องเข้าไปช่วยเหลืออย่างไร!
เพราะถึงแม้ว่าจะยื่นมือเข้าไปยุ่ง ถ้าไม่เกะกะก็คงจะต้องกลายเป็นเถ้าถ่านเป็นแน่ และการต่อสู้เช่นนี้ก็ไม่ใช่สิ่งที่พวกเขาจะสามารถเข้าไปเข้าร่วมได้อีกด้วย
“คุณชายล่ะ? คุณชายไปอยู่ที่ใด?”
“คุณชายต้องซ่อนตัวอยู่แน่ พวกเราก็ไม่รู้เช่นกัน! หรือว่าคุณชายอยาก...”
พวกเขาเหลือบมองไปยังวังวนพลังอันน่าสะพรึงกลัวนั้น และหัวใจของพวกเขาก็ต้องกระตุกวูบไปครึ่งจังหวะเลยทีเดียว
คุณชายมีความสามารถมากพอที่จะหาโอกาสในการลอบสังหารยอดฝีมือระดับผู้บำเพ็ญภูตพลังขั้นภูตศักดิ์สิทธิ์ระดับเก้าขั้นสูงสุดได้ ถึงแม้ว่าจะเทียบผู้บำเพ็ญภูตพลังขั้นภูตศักดิ์สิทธิ์ระดับเก้าขั้นสูงสุดกับผู้บำเพ็ญภูตพลังขั้นราชันวิญญาณแล้ว มันก็แตกต่างกันเพียงแค่ระดับเดียวเท่านั้น แต่มันกลับมีความต่างชั้นกันเป็นอย่างมากอยู่ดี
คุณชายอย่าคิดที่จะเสี่ยงเป็นอันขาด!
ต้องหยุด! แต่พวกเขาไม่รู้แม้แต่ที่ซ่อนตัวของเขา แล้วจะให้ไปหยุดได้เช่นไรเล่า!
นอกจากชิงหลงที่กำลังอำพรางตัวแล้ว ก็ยังมีมู่เฉียนซีที่กำลังซ่อนตัวอยู่ด้วยเช่นเดียวกัน
จากนั้นมู่เฉียนซีก็มาปรากฏตัวอยู่ข้างหลังชิงหลงอย่างไม่ทันได้รู้ตัว และในตอนที่นางกำลังจะยืนมือไปตบที่ไหล่ของเขา เขากลับคว้ามือนางเอาไว้เสียก่อน
ทันใดนั้น ชิงหลงก็ผงะไปครู่หนึ่ง และเขาก็รีบคลายมือออกทันที จากนั้นก็หันหน้ากลับมากล่าวว่า “เจ้าจะทำอะไรน่ะ?”
แม้แต่ลูกน้องที่คุ้นเคยกับเขามากที่สุดยังไม่สามารถหาที่ซ่อนของเขาเจอเลย คิดไม่ถึงเลยว่านางจะหามันเจอด้วย
มู่เฉียนซีกล่าวว่า “ข้าจะมาบอกเจ้า ว่าห้ามเจ้าลงมือเป็นอันขาด อารองของข้า ฉะนั้นข้าจะช่วยเขาเอง! หากเจ้าต้องการจะไปละก็ ไม่แน่ว่าเจ้าอาจจะต้องอยู่ในสถานการณ์ที่น่าสังเวชจนทำให้ข้าต้องเข้าไปช่วยอีกก็ได้”
ชิงหลงกล่าวตอบว่า “ข้าเพียงต้องการที่จะฆ่าผู้บำเพ็ญภูตพลังขั้นราชันวิญญาณของราชวงศ์ตงหวงคนหนึ่ง เพื่อเพิ่มระดับบันทึกการต่อสู้ของข้าเท่านั้น ไม่ได้คิดที่จะช่วยเหลืออะไรใครสักหน่อย เจ้าอย่าได้คาดเดาส่งเดช”
“อย่างนั้นก็ไม่ได้ นั่นเป็นเหยื่อของอารองของข้า”
“ข้าไม่จำเป็นที่จะต้องเชื่อฟังเจ้าสักหน่อย!”
“หืม! ไม่จำเป็นต้องฟังข้าจริง ๆ หรือ?” มู่เฉียนซีเลิกคิ้วกล่าว
ชิงหลงสัมผัสได้ว่าแขนของตนเองถูกเข็มเล่มบาง ๆ จี้ไว้อย่างแผ่วเบา และชิงหลงก็รู้ดีว่าเข็มยาของหญิงสาวผู้นี้ต่างก็มีพิษทั้งนั้น
“เจ้าจะเอายังไงกันแน่?”
“เจ้าหาโอกาสที่แม่นยำในการใช้อาวุธลับที่ฉงหมิงมอบให้เจ้า และข้าคิดว่าเจ้าสามารถตัดสินใจด้วยตนเองได้ว่าเจ้าจะต้องใช้มันเมื่อใด ฉะนั้นนี่คือภารกิจที่ข้าจะมอบให้กับเจ้า” มู่เฉียนซีกล่าวตอบ
อาวุธลับของฉงหมิง เมื่อรวมกับทักษะการตีขึ้นรูปและการออกแบบที่ประณีตงดงามนั้นทรงพลังเป็นอย่างมาก ทว่าอีกฝ่ายเป็นถึงผู้บำเพ็ญภูตพลังขั้นราชันวิญญาณ แม้จะเพิ่มทักษะการลอบสังหารของเขาเข้าไปด้วย แต่หากคิดว่ามันจะทำร้ายคนผู้นั้นได้ ก็เป็นเพียงแค่ความฝันเท่านั้น
ในตอนที่เขากำลังจะพูดอะไรสักอย่าง มู่เฉินซีก็ได้หายสาบสูญไปแล้ว
มู่เฟิงหลิงได้ระเบิดพลังแห่งสายเลือดออกมา และการยืนหยัดมาจนถึงตอนนี้ มันก็ได้มาถึงจุดที่สิ้นสุดความแข็งแกร่งของเขาแล้ว ผู้แข็งแกร่งระดับผู้บำเพ็ญภูตพลังขั้นราชันวิญญาณผู้นี้ ช่างแข็งแกร่งมากเลยจริง ๆ
ท่ามกลางการต่อสู้ที่น่าหวาดเสียวเช่นนี้ ไม่ใช่ว่ามู่เฟิงหลิงจะไม่ได้รับอะไรเลย เพราะเขาสัมผัสได้ว่าตนเองใกล้ที่จะบรรลุถึงเป็นผู้บำเพ็ญภูตพลังขั้นภูตศักดิ์สิทธิ์ระดับเก้าขั้นสูงสุดแล้ว
ผู้บำเพ็ญภูตพลังขั้นราชันวิญญาณผู้นั้นก็รู้สึกว่าเจ้าหนุ่มน้อยผู้นี้แปลกประหลาดเป็นอย่างยิ่ง ถึงเขาจะเผชิญหน้าจนได้รับบาดเจ็บสาหัสครั้งแล้วครั้งเล่า แต่ความปั่นป่วนทางพลังวิญญาณของเขากลับแข็งแกร่งมากขึ้นเรื่อย ๆ
“เจ้าหนู ข้าชื่นชมเจ้ามากจริง ๆ หากนิสัยของเจ้าดีกว่านี้สักหน่อยบางทีข้าอาจจะรับเจ้ามาเป็นลูกน้องก็ได้ น่าเสียดายที่เจ้าเป็นคนที่เกรี้ยวกราดและหัวแข็งมากเกินไปหน่อย เช่นนั้นข้าก็ทำได้เพียงฆ่าเจ้าเท่านั้น”
จิตสังหารอันน่าสะพรึงกลัวได้แผ่กระจายออกมา ดูเหมือนว่าหลังจากนี้เขาคิดที่จะเอาชีวิตของมู่เฟิงหลิงอย่างจริงจังแล้ว
และตั้งแต่แรกจนถึงตอนนี้ ชิงหลงก็ยังไม่สามารถหาโอกาสที่จะใช้อาวุธลับได้เลย
“ราชันย์หมาป่าพิฆาต!”
มิติได้ถูกปิดกั้นเอาไว้ และมู่เฟิงหลิงก็ถูกคุมขังเอาไว้เช่นกัน ซึ่งกระบวนท่านี้ ไม่มีผู้ใดสามารถหลบหนีได้
และในตอนที่การฟันครั้งนี้กำลังทำลายเกาะป้องกันของมู่เฟิงหลิงได้นั้น ร่างสีม่วงร่างหนึ่งก็ปรากฏขึ้นมาอย่างกะทันหัน
“ซีเอ๋อร์!”
สีหน้าของมู่เฟิงหลิงเปลี่ยนไปอย่างมาก แต่เขากลับเห็นว่ามู่เฉียนซีเผยรอยยิ้มให้เขาอย่างปลอบโยน
ตูมมม!
พลังนั้น ได้กลืนกินมู่เฉียนซีและมู่เฟิงหลิงไปอย่างสมบูรณ์
“สังหารคนทั้งสองคนได้เพียงอึดใจเดียว สะดวกสบายดีจริง ๆ! นางช่างเป็นสาวน้อยที่หาเรื่องตายดีนัก”
ชิงหลงก็ตะลึงงันไปชั่วขณะหนึ่งเช่นกัน แต่เขาก็กลับมามีสติอย่างรวดเร็ว หญิงสาวคนนั้นจะตายง่าย ๆ ได้อย่างไรกัน
ในตอนนี้ เป็นโอกาสที่ดีที่สุดในการลงมือแล้ว
ชิงหลงจึงได้ใช้อาวุธลับชุดนั้นทันที เมื่ออาวุธลับหลากหลายชนิดบินออกไป ก็ราวกับเทพธิดากำลังโปรยดอกไม้อย่างไรอย่างนั้น
ฟิ้ว ฟิ้ว ฟิ้ว!
อาวุธลับเหล่านี้ ได้ทำให้ผู้บำเพ็ญภูตพลังขั้นราชันวิญญาณรู้สึกขบขันเป็นอย่างมาก
พวกเขาเข้าตาจนแล้วอย่างนั้นหรือ? คิดไม่ถึงเลยว่าจะใช้ของเล่นเช่นนี้ในการทำร้ายเขา
“เป็นคุณชายชิงหลงอย่างนั้นหรือ? เช่นนั้นคนที่จะโดนจัดการคนต่อไป เป็นเจ้าก็แล้วกัน!”
พลังที่มืดฟ้ามัวดินได้เอ่อล้นออกมา ถึงต้องเผชิญหน้ากับผู้แข็งแกร่งที่น่าสะพรึงกลัวเช่นนี้ แต่แววตาของชิงหลงก็ยังคงสงบนิ่งอยู่ อีกทั้งยังไม่เผยท่าทางที่หวาดกลัวออกมาเลยแม้แต่น้อย
“เป็นคนที่กล้าหาญดีนี่!”
ดาบของเขาได้กวาดโค้งไปในอากาศ แต่ทว่าเขายังไม่ทันที่จะได้แสดงกระบวนท่านี้
ฉึก!
เข็มเล่มหนึ่งก็ปักลงมาบนหลังคอของเขาอย่างแม่นยำเสียก่อน
เขาตะลึงงันไปอย่างสมบูรณ์ คิดไม่ถึงว่าสาวน้อยที่ควรแหลกสลายเป็นผุยผงไปแล้วคนนั้นจะยังมีชีวิตอยู่ และยังสามารถลอบโจมตีเขาได้อีกด้วย
เขายอมแพ้ที่จะลงมือกับชิงหลง จากนั้นพลังที่แข็งแกร่งก็พุ่งตรงเข้าไปโจมตีมู่เฉียนซี เขาอยากจะรู้นักว่า คราวนี้แม่สาวน้อยคนนั้นจะตายหรือไม่?
และในตอนที่พลังนั้นกำลังจะจู่โจมมู่เฉียนซี ก็ได้มีมือคู่หนึ่งตรงเข้ามาคว้ามู่เฉียนซีเอาไว้ จากนั้นก็หลบหลีกการโจมตีนั้นอย่างรวดเร็ว และมันก็ได้ทำให้การโจมตีของผู้บำเพ็ญภูตพลังขั้นราชันวิญญาณผู้นั้นล้มเหลวไป
และคนที่มาช่วยแม่สาวน้อยผู้นั้นเอาไว้ก็คือเด็กหนุ่มคนหนึ่ง รูปร่างหน้าตาของเขามีความพิเศษเป็นอย่างมาก ซึ่งดูไม่เหมือนมนุษย์เลยแม้แต่น้อย
เขาจ้องมองไปที่เด็กน้อยอย่างถมึงทึง และเตรียมที่จะลงมือ แต่ทว่าร่างสีดำร่างหนึ่งกลับใกล้เข้ามา จากนั้นร่างสีดำร่างนั้นก็ใช้ดาบเล่มนั้นพุ่งเข้าไปฟันลงที่คอของเขา
“ตาเฒ่า กระบวนท่าของเจ้าเมื่อครู่นี้ไม่สามารถฆ่าข้าได้ เช่นนั้นหลังจากนี้คนที่จะต้องตายก็คือเจ้า”
จิตสังหารของมู่เฟิงหลิงรุนแรงมาก แม้ว่ากระบวนท่าเมื่อครู่จะไม่สามารถทำร้ายซีเอ๋อร์ได้แม้แต่น้อย แต่เขาก็ยังคงเดือดดาลมากอยู่ดี
ตูมม!
มู่เฟิงหลิงเผชิญหน้ากับผู้บำเพ็ญภูตพลังขั้นราชันวิญญาณนี้อีกครั้ง
อาถิงเหลือบมองไปทางมู่เฉียนซีพลางกล่าวว่า “ข้าแค่รู้สึกอึดอัดเลยออกมาสูดอากาศเท่านั้น และทันมาเห็นหญิงอัปลักษณ์อย่างเจ้าเกือบถูกบดขยี้จนกลายเป็นชิ้น ๆ เข้าพอดี! ข้าจะบอกเจ้าให้นะ มีข้าอยู่ด้วย ดังนั้นอย่าไปรบกวนท่านพี่ของข้า ให้ข้ามาก็จบแล้วไม่ใช่หรืออย่างไร?”
“เจ้ามาทำให้ท่านพี่ของข้าต้องเปลืองพลังอีกแล้ว พลังของท่านพี่ในตอนนี้ยังไม่สมบูรณ์ หากจะให้มาสิ้นเปลืองพลังเช่นนี้ ย่อมไม่เป็นผลดีเลย เจ้าเป็นถึงเจ้านายนะ ไม่รู้บ้างเลยหรืออย่างไรกัน?”
.