ท่านอ๋องผู้โหดร้ายกับหมอปีศาจ - ตอนที่ 2078 ยังไม่ยอมแพ้
คนของสำนักหมอทมิฬประคองท่านผู้อาวุโสที่ได้รับบาดเจ็บคนนั้นไว้ และไม่กล้าที่จะพุ่งเข้าไปโจมตีคุณชายชิงหลงอย่างไม่เกรงกลัว อีกทั้งยังยอมพาคนล่าถอยไปอย่างไม่เต็มใจเท่าไรอีกด้วย
และหลังจากที่มู่เฉียนซีกล่าวลาเพื่อนของนางเรียบร้อยแล้ว ก็ตามคนของคุณชายชิงหลงจากไปอย่างปลอดภัย
มู่เฉียนซีกล่าวกับชิงหลงด้วยรอยยิ้มว่า “ขอบคุณคุณชายชิงหลงมากที่ออกโรงช่วยอย่างมีน้ำใจเช่นนี้!”
“ถึงข้าจะไม่ออกโรง ก็เกรงว่าเจ้าคงจะไม่เกิดเรื่องอะไรอยู่ดีไม่ใช่หรือ?”
“นั่นมันไม่เหมือนกัน อาถิงและสุ่ยจิงอิ๋งของข้า หากไม่จำเป็นต้องเปิดเผยก็ไม่ต้องเปิดเผยเลยจะดีกว่า นอกจากนี้ระดับเช่นนี้ ก็ไม่มีคุณสมบัติมากพอที่จะให้พวกเขาเคลื่อนไหวได้หรอก”
ซูอี้ชิงกล่าวอย่างเย็นชาว่า “ข้าเพียงแค่ไม่อยากให้จูเชว่มารบกวนข้าเท่านั้นแหละ หวังว่าเจ้าจะไสหัวออกไปจากดินแดนทางทิศตะวันออกโดยเร็ว! เพื่อที่ข้าจะได้ไม่ต้องถูกรบกวนอีก”
“ในเมื่อเจ้าไม่ต้อนรับข้าถึงเพียงนี้ มันก็ยิ่งทำให้รู้สึกว่าข้าควรจะอยู่ต่ออีกสักหน่อย”
“เจ้ายังไม่ยอมแพ้เรื่องข้าอีกหรือ?”
“ข้าไม่ได้บอกว่าข้าไม่ยอมแพ้เสียหน่อย! ข้าแค่รู้สึกว่าทิวทัศน์ของดินแดนทางทิศตะวันออกค่อนข้างดีเท่านั้น ข้าเลยคิดว่าอยากจะฝึกฝนหาประสบการณ์อยู่ที่นี่ให้นานขึ้นอีกหน่อย เพราะอย่างไรเสียข้าก็เพิ่งได้โอกาสเลื่อนขั้นมาพอดี” มู่เฉียนซีกล่าวพลางคลี่ยิ้มจนตาหยี
“สร้างปัญหาซะใหญ่โตถึงขนาดนี้เจ้ายังคิดอยู่ต่อ นี่เจ้าหาเรื่องตายอยู่อย่างนั้นหรือ?”
“คุณชายชิงหลงออกโรงปกป้องข้าในที่สาธารณะแล้วไม่ใช่หรือ? ข้าคิดว่าไม่ว่าผู้ใดก็ไม่กล้าทำอะไรบุ่มบ่ามหรอก”
ทั้งสองคนปะทะคารมกันไปตลอดทั้งทาง และคนที่ติดตามพวกเขาอยู่ข้างกายก็แค่แสร้งทำเป็นไม่ได้ยินเท่านั้น
พวกเขาทำได้เพียงแค่ถอนหายใจ แม่นางมู่หน้าตางดงามอีกทั้งยังมีพรสวรรค์ที่ยอดเยี่ยมถึงเพียงนี้ เหตุใดคุณชายของพวกเขาถึงไม่ตรัสรู้เสียทีนะ!
คิดไม่ถึงเลยว่าจะบังคับให้ผู้หญิงคนหนึ่งยอมแพ้เรื่องของเขาจริง ๆ นี่มันไม่เย็นชาและไร้หัวใจเกินไปหน่อยหรือ?
มู่เฉียนซีและชิงหลงไม่ทันได้สังเกตเห็นว่าจินตนาการในจิตใจของคนอื่นนั้นได้บินออกไปไกลแสนไกลแค่ไหนแล้ว
วันรุ่งขึ้น จูเชว่ก็ได้ทำการคัดลอกรายชื่ออัจฉริยะของดินแดนทางทิศตะวันออกออกมาแล้วเช่นกัน
ชื่อของมู่เฉินซีอยู่ในตำแหน่งบนสุดของรายการ ส่วนที่สองแน่นอนว่าต้องเป็นชื่อของเฮยฮั่นนายน้อยของสำนักหมอทมิฬอยู่แล้ว
ปัง ปัง ปัง!
ทันทีที่รายชื่อนี้ออกมา ก็ทำให้เฮยฮั่นที่รักษาอาการบาดเจ็บจนดีขึ้นมาเพียงเล็กน้อยอย่างยากลำบากได้ระเบิดโทสะขึ้นมาอีกครั้ง
“ให้พวกเจ้าไปเชิญนางเด็กสาวนั่นมาก็ทำไม่สำเร็จ คิดไม่ถึงว่าจะปล่อยให้คุณชายชิงหลงตัดหน้าไปเสียได้! แม้ว่าจะเป็นคุณชายชิงหลงแต่ก็อย่าคิดว่าจะมายุ่งวุ่นวายเรื่องของสำนักหมอทมิฬของพวกเราได้” เฮยฮั่นกล่าวอย่างเคร่งขรึม
“ท่านเจ้าสำนักก็มีความมุ่งมั่นต่อแม่สาวน้อยมู่เฉินซีผู้นั้นมาก! แก่นเลือดของสาวน้อยผู้มีพรสวรรค์เช่นนี้จะต้องเป็นตัวช่วยที่ยอดเยี่ยมต่อความสำเร็จอันยิ่งใหญ่ของท่านเจ้าสำนักเป็นแน่! และตอนนี้ท่านเจ้าสำนักก็ได้ส่งคนไปคอยจับตาดูทางด้านของคุณชายชิงหลงเอาไว้แล้ว หากมีโอกาส พวกเราไม่มีทางปล่อยสาวน้อยผู้นั้นไปแน่นอนอยู่แล้ว”
เฮยฮั่นกล่าวว่า “ผู้หญิงคนนั้นหนีไม่รอดแน่นอน หากไม่ใช่เพราะอาการบาดเจ็บของข้ายังไม่หายดี ข้าจะไปนำตัวนางมา เพื่อลบล้างความอัปยศนี้ด้วยตนเองเป็นแน่”
หลังจากงานชุมนุมอัจฉริยะ มู่เฉียนซีก็เริ่มมีชื่อเสียงมากยิ่งขึ้น และคนที่ต้องการจะเอาชีวิตของนางก็ไม่น้อยเช่นกัน
ชิงหลงส่งคนมาคอยคุ้มครอง เพื่อให้มู่เฉียนซีจัดการเรื่องของหอหมอปีศาจให้เรียบร้อย
เมื่อมีเสี่ยวเหลิ่งอยู่ด้วยเรื่องทั้งหมดก็ถือว่าราบรื่นแล้ว ดังนั้นมู่เฉียนซีจึงได้เตรียมหาสถานที่ในการฝึกฝนหาประสบการณ์ครั้งต่อไป
“เจ้าไม่รู้หรือว่ามีคนมากมายแค่ไหนที่อยากจะฆ่าเจ้า คิดไม่ถึงว่าตอนนี้ยังเตรียมตัวไปฝึกฝนอีก! ถึงแม้จะเป็นคำร้องขอของจูเชว่ แต่ข้าก็ยังมีเรื่องมากมายที่จะต้องทำนะ และแน่นอนว่าไม่อาจเปลืองคนคอยติดตามเจ้าได้มากเกินไปนัก” เมื่อได้รู้ว่ามู่เฉียนซีกำลังจะจากไป น้ำเสียงของชิงหลงก็ดูจะไม่ดีเป็นอย่างมาก
หากทำตัวราวกับว่าอยากรนหาเรื่องตายเช่นนี้ สู้เขาเป็นคนจบชีวิตของนางด้วยตนเองเสียยังดีกว่า
“ข้าก็มีแผนการของตนเองเช่นกัน! ตายไม่ได้หรอก ตอนนี้ข้าได้กลายเป็นผู้บำเพ็ญภูตพลังขั้นมหาจักรพรรดิแห่งภูตระดับเก้าแล้ว แน่นอนว่าจำเป็นที่จะต้องฝึกฝนอย่างเข้มข้นให้มากขึ้นกว่านี้ เพื่อที่จะบรรลุไปถึงผู้บำเพ็ญภูตพลังขั้นปราชญ์แห่งภูตให้เร็วที่สุด เมื่อกลายเป็นผู้บำเพ็ญภูตพลังขั้นปราชญ์แห่งภูตแล้ว ตอนนั้นข้าก็จะมีความมั่นใจเต็มร้อยในการจัดการมู่หลินหลาง และทำลายกลิ่นอายอัจฉริยะอันดับหนึ่งนั่นของนางไปเสีย” มู่เฉียนซีกล่าว
“เหอะ! เจ้าคิดว่าเจ้าแค่เอาชนะมู่หลินหลาง และกลายเป็นอัจฉริยะอันดับหนึ่งของดินแดนทางทิศตะวันออก เจ้าก็จะสามารถกลายเป็นองค์หญิงแห่งราชวงศ์ตงหวงได้อย่างนั้นหรือ? มู่เฉินซีเจ้าอย่าคิดให้มันมากเกินไปนักเลย เจ้ายังไม่รู้สถานะที่แน่ชัดของมู่หลินหลางในราชวงศ์ตงหวงเลยด้วยซ้ำ แล้วยังจะมีตัวตนของแม่แท้ ๆ ของนางอีก! หากไม่อยากตายแล้วละก็ เจ้าก็อย่าได้ทำอะไรที่มันบุ่มบ่ามนักเลย” ชิงหลงกล่าวอย่างเย็นชา
ด้วยใบหน้าที่คล้ายกันของทั้งสอง หากชิงหลงไม่มโนไปเองก็ถือว่าแปลกมากแล้ว
มู่หลินหลางผู้นี้เป็นถึงองค์หญิงแห่งตระกูลมู่ที่มีชื่อเสียงมากที่สุดของราชวงศ์ตงหวง แต่มันก็ไม่ได้หมายความว่าจะมีนางเป็นองค์หญิงเพียงแค่คนเดียว
ถึงตระกูลมู่จะสร้างชายที่อุทิศตนเพื่อความรักมาตั้งแต่สมัยโบราณแล้ว แต่ทว่าฮ่องเต้หวงในสมัยปัจจุบันก็ได้ทำลายมันไปจนสิ้นแล้ว เพราะที่วังหลังของเขามีสาวงามอยู่มากมายนับไม่ถ้วนเลยทีเดียว
เมื่อได้ยินคำนี้ของชิงหลง มู่เฉียนซีก็รู้สึกได้เลยว่าในสมองของเจ้าหมอนี่กำลังนึกถึงเรื่องการต่อสู้กันภายในราชวังเป็นแน่ ซึ่งมันก็ทำให้มุมปากของมู่เฉียนซีกระตุกเล็กน้อย จากนั้นนางจึงกล่าวว่า “ข้าจะบอกอะไรให้นะอี้ชิงน้อย เจ้ายังเด็กนักอย่าคิดให้มันมากเกินไปนักเลย เดี๋ยวก็แก่เร็วหรอก!”
เดิมทีมันเป็นของนางอยู่แล้ว และนางก็ไม่จำเป็นที่จะต้องเอาชนะมู่หลินหลางถึงจะได้มันมาด้วยซ้ำ
“เจ้า…” ชิงหลงจ้องมองไปที่มู่เฉียนซีด้วยแววตาที่ดุดัน
ในเมื่อมู่เฉียนซีต้องการที่จะไป แน่นอนว่าชิงหลงก็ขวางนางไว้ไม่ได้อยู่แล้ว
กำลังคนของคุณชายชิงหลงยังด้อยกว่าสำนักหมอทมิฬอยู่เล็กน้อย การจากไปของมู่เฉียนซีนั้นไม่อาจหลบซ่อนได้ เพราะถึงอย่างไรก็ถูกคนของสำนักหมอทมิฬจับตามองอยู่แล้ว
“แม่สาวนี้ผู้นี้ไม่รู้จักฟ้าสูงแผ่นดินต่ำเอาเสียเลย! ในเมื่อทำให้สำนักหมอทมิฬของพวกเราขุ่นเคืองใจไม่ใช่ว่าต้องซ่อนตัวให้ดีเหมือนหนูในคูน้ำอย่างนั้นหรือ คิดไม่ถึงเลยว่านางจะกล้าออกมาปรากฏตัวอยู่ในตลาดเช่นนี้”
“รอให้คนของคุณชายชิงหลงแยกตัวออกไปก่อนค่อยลงมือ พวกเราจะได้ไม่ต้องเปลืองแรงมากเกินไปนัก”
“ขอรับ!”
แน่นอนว่ามู่เฉียนซีต้องสังเกตเห็นอยู่แล้วว่ามีคนกำลังติดตามนางอยู่ ด้วยพลังในการต่อสู้อย่างก้าวกระโดดของมู่เฉียนซีสามารถเอาชนะนายน้อยของพวกเขาได้ ฉะนั้นคนที่สำนักหมอทมิฬส่งมาล้วนมีความสามารถอยู่ในระดับผู้บำเพ็ญภูตพลังขั้นปราชญ์แห่งภูตระดับเก้าขั้นสูงสุดขึ้นไปทั้งนั้น
พวกเขาส่งมาทั้งหมดสี่คน มีผู้บำเพ็ญภูตพลังขั้นปราชญ์แห่งภูตระดับเก้าขั้นสูงสุดหนึ่งคน ผู้บำเพ็ญภูตพลังขั้นภูตศักดิ์สิทธิ์ระดับสามสองคน และผู้บำเพ็ญภูตพลังขั้นภูตศักดิ์สิทธิ์ระดับหกหนึ่งคน
ด้วยการวางกำลังพลเช่นนี้ การจับตัวมู่เฉียนซีก็ไม่ใช่ปัญหาเลย
แน่นอนว่าสำนักหมอทมิฬยังส่งคนอื่นมาคอยตรึงคนของคุณชายชิงหลง เพื่อป้องกันไม่ให้คนของคุณชายชิงหลงไปช่วยเหลือมู่เฉียนซีได้อีกด้วย
มู่เฉียนซีทำราวกับว่าไม่รู้ตัวว่าถูกคนอื่นตามอยู่อย่างไรอย่างนั้น อีกทั้งยังให้เสี่ยวโม่โม่บินผ่านไปยังจุดหมายปลายทางของนางต่อไปอีกด้วย
ในตอนที่อยู่เหนือป่าอันห่างไกลแห่งหนึ่ง ผู้ที่แอบติดตามมาเหล่านั้นก็กล่าวว่า “ลงมือได้แล้ว”
แรงกดดันของผู้บำเพ็ญภูตพลังขั้นภูตศักดิ์สิทธิ์ระดับกลางได้พุ่งตรงมาที่มู่เฉียนซี และสีหน้าของมู่เฉียนซีก็เปลี่ยนไปทันที นางกล่าวว่า “เสี่ยวโม่โม่ ร่อนลง!”
“เจ้าค่ะ! ในที่สุดพวกมันก็ลงมือแล้วสินะ!” เสี่ยวโม่โม่กล่าว
เมื่อต้องมาเผชิญหน้ากับศัตรูที่แข็งแกร่งกลับไม่มีความกังวลเลยแม้แต่น้อย และยังดูเหมือนว่ากำลังรอคอยมันมากกว่าอีกด้วย
ในตอนที่เสี่ยวโม่โม่ร่อนลงมาบนพื้น คนเหล่านั้นก็ไล่ตามมาด้วยเช่นกัน และผลก็คือมู่เฉียนซีได้หมุนเวียนพลังวิญญาณของเศษซากที่พังทลายพุ่งเข้าโจมตีผู้บำเพ็ญภูตพลังขั้นปราชญ์แห่งภูตระดับเก้าขั้นสูงสุดคนนั้น
“พลังวายุทำลาย ดาวกระจาย!”
พวกเขาคาดไม่ถึงเช่นกันว่าหลังจากที่มู่เฉียนซีร่อนลงมาบนพื้นแล้ว นางจะไม่หลบหนี แต่กลับรีบโจมตีพวกเขาก่อนก้าวหนึ่งเช่นนี้
ตูมมม!
เมื่อผู้บำเพ็ญภูตพลังขั้นปราชญ์แห่งภูตระดับเก้าขั้นสูงสุดผู้นั้นเผชิญหน้ากับการโจมตีอันแข็งแกร่งของเศษซากดาราทลายจนต้องถอยหลังไปหลายก้าว เขาก็กล่าวขึ้นมาอย่างประหลาดใจเล็กน้อยว่า “ไม่แปลกใจเลยที่เจ้าสามารถทำให้นายน้อยพ่ายแพ้ได้ การฝึกฝนทักษะวิญญาณธาตุวายุของเจ้าช่างยอดเยี่ยมมากจริง ๆ!”
“ลงมือพร้อมกันเสีย!”
ผู้บำเพ็ญภูตพลังขั้นภูตศักดิ์สิทธิ์สองสามคนเริ่มลงมือแล้ว และพลังวิญญาณสีดำก็แผ่กระจายออกมา ซึ่งบ่งบอกได้ถึงความน่าสะพรึงกลัวของพิษนั้นได้เป็นอย่างดี
พวกเขาคือคนสนิทของเจ้าสำนัก ฉะนั้นแน่นอนว่าการฝึกฝนเคล็ดวิชาพิษจึงมีความพิเศษมากอยู่แล้ว
“ทุกคนรีบไสหัวออกไปให้หมด!”
มีคนกลุ่มหนึ่งปิดล้อมมู่เฉียนซีเอาไว้ ส่วนเสี่ยวโม่โม่ที่เริ่มโกรธจัด ก็ได้ใช้เพลิงหงส์อมตะแห่งความมืดโจมตีไปทางพวกเขา
เปลวเพลิงที่ปกคลุมไปด้วยพลังแห่งความมืดนี้ อันตรายเป็นอย่างยิ่ง
“มู่เฉินซี อย่าคิดว่าสัตว์เทพระดับหนึ่งที่แข็งแกร่งเพียงเล็กน้อยเท่านี้จะสามารถทำให้เจ้ารอดพ้นจากความตายไปได้นะ!”
ผู้บำเพ็ญภูตพลังขั้นภูตศักดิ์สิทธิ์ระดับหกผู้นั้นสกัดกั้นเพลิงหงส์อมตะแห่งความมืดเอาไว้ และพุ่งเข้าโจมตีมู่เฉียนซีในทันที
“ในเมื่อตัวเดียวไม่ได้ผล เช่นนั้นก็หมดหนทางแล้วล่ะ! ข้าเพิ่มให้อีกตัว ดีหรือไม่?”
.
.