ท่านอ๋องผู้โหดร้ายกับหมอปีศาจ - ตอนที่ 2020 เหมือนตรงไหน
“ไม่มีอะไรที่จะต้องคุยกัน มู่หลินหลาง อยากจะฆ่าจะแกงก็ตามใจเจ้า แต่หากอยากที่จะควบคุมข้าแล้วละก็! ข้าขอบอกเจ้าเอาไว้เลยว่า ฝันไปเสียเถอะ!”
แม้ว่าจะต้องถูกควบคุมโดยคนอื่น แต่จิตสังหารของเขาก็ยังไม่ลดลงแต่อย่างใด
มู่เฉียนซีกล่าวว่า “นี่พี่ชาย ข้าเหมือนผู้หญิงคนนั้น มู่หลินหลาง ที่ตรงไหนกัน?”
ซูอี้ชิงจ้องมองไปที่ใบหน้านั้นของมู่เฉียนซี จากนั้นมู่เฉียนซีก็ได้ปลดการแปลงโฉมออกและไม่ได้ปลอมตัวอีกต่อไป ซึ่งก็ได้เปิดเผยให้ซูอี้ชิงได้มองนางอย่างเต็มตา
ถึงผู้หญิงที่อยู่ตรงหน้าจะมีรูปร่างหน้าตาที่งดงามอย่างหาที่เปรียบไม่ได้ แต่ถึงอย่างไรซูอี้ชิงก็ชื่นชมไม่ลงและยังมีแต่ความรังเกียจอีกด้วย
ไม่ใช่สิ!
แววตาของซูอี้ชิงเปล่งประกาย เขาสามารถมองทะลุการปลอมตัวของผู้คนได้ แต่แน่นอนว่าไม่เคยมีฝ่ายตรงข้ามที่ปลดการแปลงโฉมของตนเองออก และให้เขาได้เห็นใบหน้าที่แท้จริงเช่นนี้
ด้วยวิธีการเช่นนี้ ซูอี้ชิงจึงได้ค้นพบส่วนที่แตกต่างกันแล้ว ถึงแม้ว่ามันจะเหมือนกันอย่างมากก็ตาม!
“ข้าย่อมรู้ดีอยู่แล้วว่าใบหน้านี้ของข้าเหมือนกับมู่หลินหลางมากแค่ไหน เช่นนั้นข้าจึงได้แปลงโฉมเพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาที่จะเกิดขึ้น ใครจะไปรู้ว่าจะได้พบคนที่แปลกประหลาดเช่นเจ้า ที่ไล่ล่าข้าอย่างไม่ลดละเช่นนี้ อีกทั้งยังไม่ยอมฟังคำอธิบายใด ๆ อีกด้วย”
นอกจากนี้ท่าทางและอารมณ์ก็แตกต่างจากมู่หลินหลางอย่างสิ้นเชิง องค์หญิงหลินหลางที่อยู่เหนือผู้อื่นผู้นั้นไม่มีทางที่จะทำตามสบายเช่นนี้แน่นอน และนี่ก็เป็นเรื่องหนึ่งที่ซูอี้ชิงมั่นใจ
“ถึงเจ้าจะไม่ใช่มู่หลินหลางจริง ๆ แต่เจ้ากับมู่หลินหลางดูคล้ายกันมากถึงเพียงนี้ เจ้ากล้าพูดหรือไม่ว่าพวกเจ้าไม่มีความเกี่ยวข้องกัน?”
“มีความเกี่ยวข้องกันสิ! นางก็คือศัตรูของข้า เป็นคนที่จะต้องฆ่าให้ได้!” มีรอยยิ้มบาง ๆ ปรากฏขึ้นบนมุมปากของมู่เฉียนซี อีกทั้งแววตาที่แฝงไปด้วยเจตนาฆ่าของนางก็ไม่ได้ถูกปิดบังแต่อย่างใด
แม้ว่าจิตสังหารของคนผู้นี้จะไม่ใช่ของนักฆ่าก็ตาม แต่ซูอี้ชิงก็สามารถสัมผัสได้ว่าความมุ่งมั่นที่จะสังหารมู่หลินหลางให้ได้ของผู้หญิงคนนี้นั้นไม่ได้อ่อนแอไปกว่าเขาเลย
เพียงแต่บนโลกที่มีทั้งความจริงและเท็จปะปนกันไปใบนี้ ทำให้นักฆ่าอันดับหนึ่งแห่งดินแดนทางทิศตะวันออกไม่สามารถเชื่อใครง่าย ๆ ได้
หลังจากที่คลี่คลายความเข้าใจผิดเรื่องจำคนผิดได้แล้ว ซูอี้ชิงก็กล่าวอย่างเย็นชาว่า “ข้ารับภารกิจในการฆ่าเจ้ามาแล้ว แต่ตอนนี้ข้าได้พ่ายแพ้ให้เจ้าเพราะมีความสามารถที่สู้เจ้าไม่ได้ เช่นนั้นเจ้าจะจัดการลงโทษข้าอย่างไรล่ะ?”
“ถ้าอย่างนั้นเจ้าก็ตอบคำถามข้ามาอย่างหนึ่งก่อน เจ้าคือใคร?” มู่เฉียนซีกล่าวถาม
“ซูอี้ชิง!” ตัวตนของเขาไม่ได้เป็นความลับ ถึงอย่างไรเสียทั่วทั้งดินแดนทางทิศตะวันออกของราชวงศ์ตงหวง นักฆ่าที่สามารถสังหารคนด้วยกระบี่โดยไม่ทิ้งร่องรอยไว้ก็มีเพียงแค่เขาซูอี้ชิงคนเดียวเท่านั้น
“นักฆ่าอันดับหนึ่งของดินแดนทางทิศตะวันออกแห่งราชวงศ์ตงหวงซูอี้ชิงอย่างนั้นสินะ! ข้ารอคอยที่จะพบเจ้ามานานแล้ว” มู่เฉียนซียิ้มตาหยีพลางมองไปที่เขา
หลังจากที่ถูกไล่ล่ามาเป็นเวลานานถึงเพียงนี้ นางก็แน่ใจว่าผู้ชายคนนี้จะต้องเป็นนักฆ่าอันดับต้น ๆ ของราชวงศ์ตงหวงอย่างแน่นอน แต่ก็ไม่แน่ใจว่าเขาจะใช่ซูอี้ชิงหรือไม่?
“ข้าเคยได้ยินมาว่านักฆ่าอันดับหนึ่งอย่างซูอี้ชิงมักจะพิถีพิถันในการเลือกเป้าหมายเป็นอย่างมาก ข้าเป็นเพียงผู้บำเพ็ญภูตพลังขั้นมหาจักรพรรดิแห่งภูตระดับแปดที่ไร้ชื่อคนหนึ่งเท่านั้น แต่เจ้ากลับรับคำจ้างวานของข้า ซึ่งมันน่าแปลกมากจริง ๆ! ฉะนั้นเจ้ากับสำนักหมอทมิฬมีความสัมพันธ์กันอย่างไรกันแน่?”
กระบี่มังกรเพลิงพิฆาตวิญญาณจ่อลงบนต้นคอของซูอี้ชิง แต่ใบหน้านั้นก็ยังคงไร้ความรู้สึกอย่างหาตัวจับได้ยากอยู่ดี
นางค่อนข้างชอบในความสามารถของซูอี้ชิง แต่หากเขามีความพัวพันกับสำนักหมอทมิฬ ไม่ว่าจะมีความสามารถมากแค่ไหน นางก็สามารถที่จะกำจัดเขาทิ้งไปได้อย่างโหดเหี้ยม
คนผู้นี้ไม่ได้เพียงแต่มีความแค้นกับมู่หลินหลางเท่านั้น ทว่าความแค้นที่มีต่อสำนักหมอทมิฬก็ไม่ได้ตื้นเขินเช่นกัน
ซูอี้ชิงกล่าวอย่างเรียบเฉยว่า “ข้าเป็นเพียงนักฆ่าคนหนึ่ง ที่สนใจในเป้าหมายของภารกิจนี้เท่านั้น ในเมื่อรับเงินมาแล้วก็ต้องทำงาน! ตราบใดที่อีกฝ่ายสามารถจ่ายเงินได้มากพอ ไม่ว่าอีกฝ่ายจะเป็นคนที่มีความสามารถสูงมากแค่ไหน ข้าก็รับการว่าจ้างทั้งนั้นแหละ”
“เช่นนั้นดูท่าว่าข้อมูลที่ข้าได้รับมาจะผิดพลาดอย่างนั้นสินะ! ในข่าวลือเจ้าไม่ได้เป็นคนเช่นนี้เลย” มู่เฉียนซีค่อย ๆ กล่าวอย่างช้า ๆ
ข้อมูลที่จูเชว่ให้นางมานั้นละเอียดมาก และสิ่งที่ละเอียดที่สุดคาดว่าน่าจะเป็นตำนานของนักฆ่าอันดับหนึ่งผู้นี้
คนผู้นี้เป็นอัจฉริยะในโลกของนักฆ่า อีกทั้งยังไม่ใช่คนเห็นแก่เงินจนสังหารคนไม่เลือกหน้าอีกด้วย
ข้อมูลชุดนี้ดูแล้วไม่ได้แตกต่างไปจากคนอื่นมากเท่าไรนัก แต่เพราะรายละเอียดที่ดูพิเศษของข้อมูลชุดนี้ทำให้นางสงสัยว่าจูเชว่กำลังบอกใบ้อะไรนางบางอย่าง!
“เรื่องที่เจ้าบอกว่ารู้ อาจจะไม่แม่นยำก็เป็นได้!” ซูอี้ชิงกล่าวตอบ
“ในเมื่อเจ้าไม่ยอมพูด ถึงตัดคอเจ้าไปเจ้าก็ไม่อาจพูดได้อยู่ดี เช่นนั้นเจ้าลองเดาดูสิว่าข้าจะจัดการเจ้าอย่างไร?” มู่เฉียนซีกล่าวถาม
“การแสดงออกของเจ้านั้นชัดเจนอยู่แล้ว เจ้าอยากจะเก็บข้าเอาไว้ใช้งานสินะ” มีผู้คนมากมายที่มีความคิดเช่นนี้ แต่สุดท้ายแล้วก็ไม่มีใครทำสำเร็จเลยแม้แต่คนเดียว
เขาไม่อาจปล่อยให้คนที่มีหน้าตาเหมือนมู่หลินหลางมากขนาดนี้ประสบความสำเร็จอย่างแน่นอน เมื่อเห็นใบหน้านี้ของนางแล้ว ถึงแม้จะรู้ว่านางไม่ใช่มู่หลินหลางแต่ก็ทำให้อารมณ์ไม่ดีได้เช่นกัน
มู่เฉียนซีกล่าวด้วยรอยยิ้มว่า “เช่นนั้นการตัดสินใจของเจ้าล่ะ?”
“ข้าขอปฏิเสธ!” ซูอี้ชิงกล่าวปฏิเสธอย่างตรงไปตรงมา
“ถึงจะปฏิเสธก็ไม่เป็นไร เพราะข้ามีวิธีการมากมายที่จะทำให้เจ้าปฏิเสธไม่ได้”
ด้วยเหตุนี้มู่เฉียนซีจึงหยิบเอายาพิษมากมายออกมาจากภายในห้วงมิติ และซูอี้ชิงก็กล่าวขึ้นมาด้วยสีหน้าที่ยังคงนิ่งสงบว่า “วางยาพิษอย่างนั้นหรือ?”
“ใช่แล้วล่ะ!”
ความสามารถในการต้านพิษของซูอี้ชิงนั้นแข็งแกร่งมาก ไม่ว่าจะทุกข์ทรมานมากเพียงใดก็สามารถกัดฟันทนจนผ่านพ้นไปได้ ช่างสมกับเป็นลูกผู้ชายคนหนึ่งจริง ๆ
แน่นอนว่านางมีวิธีอื่นที่สามารถควบคุมคนให้ไม่ต่างจากหุ่นเชิดได้อย่างสมบูรณ์แบบ แต่หากทำเช่นนี้แล้วละก็ การทำให้เขายอมจำนนคงจะไม่มีความหมายมากเท่าไรนัก
เดิมทีซูอี้ชิงก็บาดเจ็บสาหัสอยู่แล้ว และยังถูกมู่เฉียนซีส่งไปยังประตูผีซ้ำแล้วซ้ำเล่าอีกหลายครั้ง แต่ชีวิตของเขาก็ถูกช่วยให้กลับมาอีกครั้งราวกับปาฏิหาริย์
“เจ้ายังไม่ยอมแพ้อีกอย่างนั้นหรือ!” เสียงในลำคอของซูอี้ชิงเปลี่ยนเป็นแหบแห้งไปหมดแล้ว
“อย่าเปลืองแรงอีกเลย หากเจ้าไม่ฆ่าข้า เมื่อไรที่ข้าสามารถหาโอกาสหลบหนีได้ ข้าก็จะเอาชีวิตของเจ้าแทน”
“ยิ่งเจ้าจัดการได้ยากมากเท่าไร ข้าก็ยิ่งมีความสนใจมากขึ้นเท่านั้น!” มู่เฉียนซีกล่าวพลางคลี่ยิ้มหวาน
หลังจากที่รักษาอาการบาดเจ็บและพันแผลให้ซูอี้ชิงแล้ว ซูอี้ชิงก็ไม่รู้ว่าที่จริงแล้วนางใช้ยาอะไรกันแน่ ถึงทำให้อาการบาดเจ็บของเขาฟื้นตัวได้รวดเร็วอย่างไม่ธรรมดาถึงเพียงนี้
แต่ถึงกระนั้น พลังวิญญาณและพลังกายของเขาก็แทบจะเป็นศูนย์อยู่ดี อีกทั้งสิ่งของที่อยู่บนตัวของเขาก็ถูกริบไปหมดแล้วด้วย และมันก็ทำให้หมดหนทางที่จะหนีไปจากเงื้อมมือของผู้หญิงคนนี้ได้
“หญิงอัปลักษณ์ คิดไม่ถึงว่าวิธีการของเจ้าจะมีช่วงเวลาที่ล้มเหลวด้วยเช่นกัน!” อาถิงกล่าวขณะที่ยืนดูการแสดงอยู่อีกด้านหนึ่ง
“เจ้าไม่คิดที่จะช่วยเหลือแล้วยังมาหัวเราะเยาะข้าอีก คงอยากโดนทุบสินะ!”
“เจ้าตีข้าไม่ได้หรอก!”
“เช่นนั้นจะลองสู้ดูหน่อยไหมล่ะ!” และมู่เฉียนซีก็พุ่งทะยานออกไปในพริบตาเดียว
“ข้าก็ไม่ได้เคลื่อนไหวร่างกายมานานแล้วเช่นกัน เช่นนั้นข้าจะเล่นเป็นเพื่อนเจ้าเอง! วางใจได้ ข้าจะไม่ตีเจ้าแรงเกินไปนักหรอก”
ซูอี้ชิงที่ได้รับบาดเจ็บสาหัส ดูร่างเงาสีม่วงและสีเขียวพุ่งทะยานผ่านไปมากลางอากาศ ถึงทั้งสองคนจะดูเหมือนว่าไม่ชอบหน้ากัน อีกทั้งยังทะเลาะกันอย่างไม่มีใครยอมใคร แต่เขาก็สัมผัสได้ว่าพวกเขามีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน
เมื่อเห็นทั้งสองคนอยู่ด้วยกัน แววตาแห่งความคิดถึงก็ปรากฏขึ้นมาบนดวงตาที่สงบนิ่งคู่นั้นของเขา
แต่ภายในจิตใจของเขาตอนนี้ไม่ได้สงบถึงขนาดนั้น เพราะหากเขาต้องตกอยู่ในเงื้อมมือของผู้หญิงคนนั้นจริง ๆ แล้วละก็ เขาไม่มีทางยอมแน่!
หลังจากที่อาการบาดเจ็บของซูอี้ชิงดีขึ้นมากแล้ว เขาก็รู้สึกว่าผู้หญิงคนนี้เบื่อจนไม่อยากที่จะลงมืออีกแล้ว ผลสุดท้ายนางกลับวิ่งไปหยุดอยู่ข้างกายของหนุ่มน้อยผู้นั้นแล้วกล่าวว่า “อาถิง ช่วยข้าหน่อยสิ!”
“ขอร้องข้าสิ!”
“อาถิง ข้าไหว้ละ!”
“……”
ซูอี้ชิงไม่แน่ใจว่าพวกเขาทั้งสองกำลังคุยอะไรกันอยู่ แต่ดูเหมือนว่ามันจะเกี่ยวข้องกับเขา ซึ่งมันก็ทำให้เขารู้สึกได้ถึงลางสังหรณ์ที่ไม่ดีบางอย่าง
ทันใดนั้น ลำแสงสีเขียวอ่อนก็ปกคลุมร่างของซูอี้ชิงเอาไว้ และซูอี้ชิงก็สัมผัสได้ว่าร่างกายของตนเองมีความผิดปกติบางอย่าง พลันนั้นร่างกายของเขาก็ค่อย ๆ เปลี่ยนเป็นเล็กลง เล็กลง หลังจากนั้น…
“อุแว้ อุแว้ อุแว้!” หลังจากนั้น เขาก็พูดไม่เป็นภาษาอีกต่อไป อีกทั้งแขนขาของเขาก็เปลี่ยนเป็นเล็กลงไปอีกด้วย
ขนาดเท่านั้น เท่ากับเด็กทารกที่เพิ่งคลอดออกมาได้เดือนกว่าเลย
เขาแน่ใจว่าตนเองไม่ได้โดนยาพิษ แต่นี่เป็นฝีมือของหนุ่มน้อยนัยน์ตาสีเขียวผู้นั้น ซึ่งเขาสามารถทำให้คนกลายเป็นเด็กทารกได้ด้วยการโบกมือเพียงครั้งเดียวเท่านั้น
นี่มันคือพลังอะไรกันแน่?
.
.