ท่านอ๋องผู้โหดร้ายกับหมอปีศาจ - ตอนที่ 2017 รับมือยากมาก
“พลังวายุทำลาย ดาวกระจาย!” พัดวิหคเฟิงหลิงกางออกอย่างกะทันหัน มู่เฉียนซีคิดอยากที่จะสกัดกั้นอันตรายจากกระบี่ทั้งหลายเล่มนั้นเอาไว้
“เสี่ยวโม่โม่ ระวัง!”
กระบี่เหล่านี้ไม่ได้โจมตีนางเท่านั้น แต่มันยังโจมตีปีกทั้งสองข้างของเสี่ยวโม่โม่ด้วย
ฉัวะ!
คมกระบี่ที่ราวกับลูกธนูอันแหลมคมทำให้เกิดรอยแผลขึ้นที่ปีกทั้งสองข้างของเสี่ยวโม่โม่ และมันก็ทำให้เสี่ยวโม่โม่รักษาสมดุลอยู่กลางอากาศเอาไว้ได้ยาก
มู่เฉียนซีเป็นห่วงเสี่ยวโม่โม่ จึงกล่าวว่า “เสี่ยวโม่โม่ ลงไปซะ!”
“แต่ว่านายท่าน…”
“อย่างมากที่สุดก็แค่ต่อสู้กัน เจ้าจะต้องไปพักผ่อนเพื่อรักษาบาดแผลเสียก่อน นี่คือคำสั่งของข้า”
“เจ้าค่ะ!”
เสี่ยวโม่โม่ทำได้เพียงแค่ร่อนลงไปที่ป่าแห่งนั้นเท่านั้น
ในตอนที่พวกเขาเผชิญหน้ากันอยู่ด้านบน จิตสังหารนั้นของซูอี้ชิงที่ได้ระเบิดออกมา และมันก็ทำให้ทั้งคนและสัตว์ที่อยู่ในป่าแห่งนั้นหลบไปซ่อนตัวอยู่ในที่ห่างไหลกันจนหมด
เห็นได้ชัดว่าเขาเป็นคนที่มีจิตสังหารที่น่าสะพรึงกลัวเช่นนี้ แต่กลับสามารถซ่อนมันเอาไว้ได้อย่างสมบูรณ์แบบ ฉะนั้นเขาจึงเป็นนักฆ่าที่น่าหวาดกลัวมากจริง ๆ
เมื่อตอนที่มู่เฉียนซีไปถึงป่าแห่งนั้น ที่นี่ก็ไม่มีคนเหลืออยู่อีกแล้ว และถึงเสี่ยวโม่โม่จะปฏิเสธการกลับไปยังมิติแต่ก็ถูกมู่เฉียนซีบังคับให้กลับเข้าไปอยู่ดี
ร่างเงาสีขาวนั้นร่อนลงมาจากกลางอากาศ และลงมือทันทีอย่างไม่พูดไม่จาอะไรเลยสักคำเดียว
พลังที่เย็นยะเยือกของกระบี่นั้นได้สร้างระลอกคลื่นที่น่าสะพรึงกลัวขึ้นในอากาศ จากนั้นพลังกระบี่นับไม่ถ้วนก็ได้พุ่งเข้าจู่โจมมู่เฉียนซี
มู่เฉียนซีหมุนเวียนพลังมิติเพื่อหลบหลีกอย่างรวดเร็ว แต่กระบี่ของอีกฝ่ายได้ทำให้มิติเกิดการบิดเบี้ยว จนค่อย ๆ สามารถผนึกมู่เฉียนซีได้ทีละขั้น
กระบวนท่าต่าง ๆ ของกระบี่นั้นได้วางกรอบกับดักอยู่โดยรอบมู่เฉียนซี
นี่มันจะรับมือยากเกินไปแล้ว!
ในบรรดาผู้บำเพ็ญภูตพลังขั้นภูตศักดิ์สิทธิ์ระดับต่ำที่นางเคยได้เห็นมา แน่นอนว่าคนผู้นี้เป็นคนที่น่ากลัวที่สุด
มู่เฉียนซีกล่าวว่า “คนที่จ้างเจ้าเสียเงินไปเท่าไรเพื่อให้เจ้ามาฆ่าข้า ข้าจะจ่ายให้สิบเท่า ยี่สิบเท่าไปเลย เจ้าบอกจำนวนมาเถอะ!”
นักฆ่ารับเงินแล้วจึงทำงาน แต่ทว่านักฆ่าเช่นเขาคงจะไม่แสวงหาผลกำไรจนทำลายชื่อเสียงของตนเองอย่างแน่นอน ฉะนั้นมู่เฉียนซีจึงไม่ได้คาดหวังอะไรมากมายนัก
นางเพียงแค่อยากที่จะเบี่ยงเบนความสนใจของเขาเท่านั้น แต่น่าเสียดายที่มันไม่ได้ผลเลยแม้แต่น้อย
คนผู้นี้มีความมุ่งมั่นที่จะสังหารนางเป็นอย่างมาก อีกทั้งเขายังหมายมั่นจะเอาชีวิตของนางเป็นพิเศษอีกด้วย
“พลังวายุทำลาย ดาวกระจาย!”
“พลังวายุทำลาย ดับสูญ!”
“……”
อีกฝ่ายได้ฉีกทักษะวิญญาณธาตุวายุของนางราวกับของเล่นอย่างไรอย่างนั้น และหากไม่ใช่ความเร็วในการหลบหลีกของนางเร็วมาก คาดว่านางคงจะต้องตายด้วยการโจมตีเพียงครั้งเดียวอย่างแน่นอน
นางไม่อยากที่จะเปิดเผยตัวตนว่าเป็นผู้บำเพ็ญภูตพลังธาตุสามธาตุเช่นกัน เช่นนั้นทางเลือกเดียวก็คือ…
มู่เฉียนซีกล่าวด้วยน้ำเสียงที่เย็นชาว่า “เจ้าคิดจริง ๆ หรือว่าจะรังแกข้าได้ง่าย ๆ น่ะ?”
มู่เฉียนซีพุ่งทะยานออกไป เมื่อมาถึงระยะที่ปลอดภัยแล้ว นางก็ระเบิดทักษะออกมาอย่างกะทันหัน!
“ทักษะซิวหลัว!”
ตูมมมม โครมมม!
ต้นไม้ที่อยู่โดยรอบบริเวณถูกทักษะนี้โจมตีจนล้มลง ต้นไม้จำนวนนับไม่ถ้วนล้มลงต่อหน้าของมู่เฉียนซี จนทำให้เกิดฝุ่นฟุ้งกระจายไปทั่ว
นางที่เป็นเพียงผู้บำเพ็ญภูตพลังขั้นมหาจักรพรรดิแห่งภูตระดับแปดได้ใช้พลังของทักษะซิวหลัวเช่นนี้ไม่ได้คาดหวังว่าจะสามารถจัดการกับนักฆ่าผู้นี้ได้ เพียงแต่นางต้องการให้มันส่งผลกระทบต่อการมองเห็นของเขาเท่านั้นเอง
เพียงไม่นาน เข็มยาจำนวนนับไม่ถ้วนก็ได้พุ่งออกไป และไม่ใช่แค่เพียงแค่เข็มยาเท่านั้น แต่อาวุธลับที่อยู่ในตัวมู่เฉียนซีที่สามารถใช้ได้นางก็ใช้มันทั้งหมด จากนั้นนางก็ทิ้งระเบิดไปที่คนผู้นั้นอย่าบ้าคลั่ง แล้วหนีออกมาอย่างรวดเร็ว!
พลังธาตุวายุหมุนวน และมู่เฉียนซีก็หลบหนีไปจากที่นี่ด้วยความเร็วสูงสุด
“นายท่าน ข้ายังสามารถบินได้อยู่!” เสี่ยวโม่โม่กล่าว
“เสี่ยวโม่โม่ เจ้าพักฟื้นไปก่อนเถอะ! สิ่งที่อีกฝ่ายขี่นั้นก็เป็นสัตวศักดิ์สิทธิ์ระดับสูงสุดเช่นกัน อีกทั้งยังมีความเชี่ยวชาญมากอีกด้วย พวกเราหนีมานานขนาดนั้นยังสลัดพวกเขาไม่ได้เลย ไม่สู่ข้าวิ่งตรงไปเรื่อย ๆ ดีกว่า ข้าไม่กลัวเขาหรอก”
จากนั้นก็มีเสียงแหวกอากาศดังขึ้นมาจำนวนนับไม่ถ้วน มู่เฉียนซีสัมผัสได้ว่าอีกฝ่ายใช้ทักษะการควบคุมกระบี่หลายสิบเล่มพุ่งเข้าโจมตีนางจากทางด้านหลัง และร่างเงาของมู่เฉียนซีเซไปมาด้วยความรวดเร็วเพื่อทำการหลบหลีกพวกมัน
พรึ่บ พรึ่บ พรึ่บ!
การโจมตีเหล่านั้นล้มเหลว ซึ่งมันก็ทำให้สีหน้าของซูอี้ชิงเคร่งขรึมมากขึ้นเรื่อย ๆ และร่างเงาสีขาวนั้นไล่ตามมู่เฉียนซีมาราวกับสายฟ้าแลบอย่างไรอย่างนั้น
ไม่เคยมีเป้าหมายในภารกิจใดหนีรอดไปต่อหน้าต่อตาของเข้าได้ ยิ่งไม่ต้องพูดถึงคนอย่างนาง…
คนที่อยู่ข้างหลังนี้ไล่ตามติดนางราวกับเป็นกอเอี๊ยะหนังสุนัขอย่างไรอย่างนั้น ในฐานะของนักฆ่าคนหนึ่ง มู่เฉียนซีให้คะแนนถึงเก้าสิบเก้าคะแนนในพลังการไล่ล่าของเขา และที่ให้น้อยไปหนึ่งคะแนนนั้น เพราะกลัวเขาจะภูมิใจมากเกินไปนั่นเอง
หลังจากนั้นมู่เฉียนซีก็ถูกไล่ล่าอีกครั้ง ซูอี้ชิงกวัดแกว่งกระบี่อย่างหมายให้เป็นอันตรายถึงชีวิต และแม้ว่าสีหน้าของเขาที่ยังคงดูไร้อารมณ์มาตั้งแต่แรกจนถึงตอนนี้ แต่มู่เฉียนซีกลับสัมผัสได้ว่าตอนนี้เขากำลังคิดอะไรบางอย่างอยู่!
นั่นก็คือต้องการจะให้นางตาย!
ความน่าสะพรึงกลัวของพายุนั้นน่าหวาดกลัวเป็นอย่างมาก แม้ว่ามู่เฉียนซีจะระเบิดพลังวิญญาณธาตุวายุทั้งหมดออกมาป้องกัน ก็ยังคงได้รับบาดเจ็บอยู่ดี
เนื่องจากว่าพลังวิญญาณธาตุมิติยังคงอ่อนแอ ทำให้ไม่สามารถใช้การเคลื่อนย้ายภายในชั่วพริบตาอย่างต่อเนื่องได้ แต่ทว่าตอนนี้ถูกเจ้าหมอนี่บีบบังคับจนตกอยู่ในสถานการณ์ที่อันตรายแล้ว ฉะนั้นก็ไม่สามารถที่จะตระหนี่เกินไปได้อีกแล้ว
ตูมมม โครมมม!
หลังจากที่ถูกมู่เฉียนซีหนีไปได้ถึงสองครั้งแล้ว คราวนี้แม้แต่การหลบหลีกซูอี้ชิงก็ไม่ให้โอกาสเลยด้วยซ้ำ
รอให้หลังจากนางใช้พลังของอาวุธวิญญาณมิติในการเพิ่มความเร็วไปจนหมดสิ้นเสียก่อน ตอนนั้นเขาก็สามารถที่จะเด็ดหัวนางได้แล้ว
“นายท่าน อาการบาดเจ็บของข้าหายดีแล้ว ข้าต้องการช่วยท่าน! ข้าอยากช่วยท่าน!”
ฤทธิ์ยาในการรักษาของมู่เฉียนซีนั้นได้ผลดีเป็นอย่างมาก อีกทั้งพลังในการฟื้นฟูร่างกายที่แข็งแกร่งของสัตว์เทพ ทำให้ตอนนี้มันสามารถฟื้นฟูได้พอสมควรแล้ว
และเมื่อเห็นว่าเจ้านายถูกนักฆ่าที่น่ารังเกียจผู้นี้กดขี่ข่มเหงอย่างหนัก เสี่ยวโม่โม่ก็ไม่สามารถยอมที่จะไม่ช่วยอะไรเลยไม่ได้
“เสี่ยวโม่โม่ จงออกมา!”
เพลิงหงส์อมตะแห่งความมืดระเบิดออกมา ซูอี้ชิงก็ชักกระบี่ออกมาจัดการมู่เฉียนซีและเสี่ยวโม่โม่เช่นเคย ถึงจะเป็นการต่อสู้แบบหนึ่งต่อสอง แต่เขาก็ยังคงสงบนิ่งเป็นอย่างมาก
ตูมมม โครมมม!
ถึงอย่างไรเสียเสี่ยวโม่โม่ก็เป็นถึงสัตว์เทพระดับหนึ่ง อีกทั้งได้เพลิงหงส์อมตะแห่งความมืดมาครอบครอง แม้ว่าความสามารถของนักฆ่าที่อยู่เบื้องหน้านี้จะวิปลาสเล็กน้อย แต่ในที่สุดมันก็ทำให้มู่เฉียนซีหายใจได้อย่างโล่งอกขึ้นมาบ้าง
แต่ถึงอย่างไรนางก็ยังไม่กล้าผ่อนคลายแน่ เพราะนักฆ่าระดับนี้หากเปิดเผยข้อบกพร่องไปแม้เพียงเล็กน้อย เขาก็จะสามารถหาโอกาสส่งเป้าหมายไปลงนรกได้อย่างแน่นอน
ตูมมม!
เสี่ยวโม่โม่ระเบิดกระบวนท่าสังหารที่แข็งแกร่งออกมา และเพลิงหงส์อมตะแห่งความมืดก็หมุนเคว้งออกไป และในที่สุดก็ทำให้อีกฝ่ายรู้สึกว่ารับมือได้ยากขึ้นเล็กน้อยแล้ว
มู่เฉียนซีพุ่งทะยานออกไป จากนั้นก็ระเบิดทักษะแห่งการทำลายล้างอันน่ากรงขามยิ่งออกมาอีกครั้ง
“ทักษะซิวหลัว!”
ตูมมมมม!
เขายังคงสามารถสกัดกั้นทักษะนี้ได้อีกครั้ง แต่ทว่ามันก็สามารถทำให้เขาต้องก้าวถอยหลังไปหลายสิบก้าวเลยเช่นกัน อีกทั้งยังทำให้ชุดคลุมสีขาวนี้ปลิวไสวได้อีกด้วย หลังจากนั้นเขาก็โจมตีเข้ามาอีกครั้ง
เมื่อเผชิญหน้ากับการโจมตีของทั้งเสี่ยวโม่โม่และมู่เฉียนซี เขาจึงใช้กระบี่ของตนเองเพื่อตอบโต้ทุกการเคลื่อนไหว
คนผู้นี้มีความคล่องแคล่วว่องไวเป็นอย่างมาก มู่เฉียนซีสามารถใช้เข็มยาและอาวุธลับในการลอบโจมตีคนอื่นได้ แต่หากต้องการจะใช้ของเล่นเหล่านี้ในการลอบโจมตีนักฆ่าผู้นี้ ก็อย่าแม้แต่จะคิดเลย เพราะมันมีแต่จะสิ้นเปลืองพลังไปเปล่า ๆ เท่านั้น
คนผู้นี้ไม่มีข้อบกพร่องเลยแม้แต่น้อย อีกทั้งความสามารถของนักฆ่าผู้นี้ยังแข็งแกร่งอย่างหาที่เปรียบไม่ได้อีกด้วย สำนักหมอทมิฬคงลงทุนไปมากจริง ๆ ถึงได้เชิญนักฆ่าที่ยอดเยี่ยมคนนี้มาได้
นางไม่สามารถที่จะพัวพันกับเขาต่อไปได้อีกแล้ว มู่เฉียนซีจึงได้หยิบยาขวดออกมาหลายขวด จากนั้นก็โยนออกไป
เพล้ง เพล้ง เพล้ง!
ขวดยาจำนวนนับไม่ถ้วนแตกออก และหมอกสีดำก็ปกคลุมไปทั่วทั้งบริเวณ และมันก็มืดจนมองไม่เห็นอะไรเลย
“เสี่ยวโม่โม่ พวกเราไปกันเถอะ!”
ในตอนที่มู่เฉียนซีกำลังจะจากไป ทันใดนั้นพลังกระบี่ไร้เงาจำนวนนับไม่ถ้วนจู่โจมเข้าใส่มู่เฉียนซี
“เกราะพลังวายุ!”
เสี่ยวโม่โม่ได้รับบาดเจ็บมาครั้งหนึ่งแล้ว ฉะนั้นมู่เฉียนซีจึงไม่อยากให้มันต้องได้รับบาดเจ็บอีกครั้ง นางจึงได้ระเบิดพลังวิญญาณธาตุวายุมาสกัดกั้นพลังกระบี่เหล่านี้เอาไว้ แต่ทว่าพลังกระบี่ที่บ้าคลั่งนี้ก็สามารถฉีกเกาะป้องกันของพลังธาตุวายุได้อยู่ดี
พรึ่บ พรึ่บ พรึ่บ!
พลังกระบี่เหล่านั้นพุ่งเข้าใจมู่เฉียนซี แม้ว่ามู่เฉียนซีจะมีพลังกายภาพที่วิปลาส แต่ในเวลานี้กลับถูกพลังกระบี่นี้ทำให้ได้รับบาดเจ็บเข้าจนได้
บาดแผลปรากฏขึ้นบนร่างกายของนางหลายแห่ง และมันก็ทำให้ชุดสีม่วงอ่อนของนางถูกย้อมจนกลายเป็นสีม่วงเข้มไปเลยทีเดียว
“พลังกระบี่นี้ช่างยอดเยี่ยมจริง ๆ แม้แต่การป้องกันทางกายภาพของข้าก็ยังไม่สามารถสกัดกั้นมันไว้ได้เลย” มู่เฉียนซีกล่าวด้วยเสียงทุ่มต่ำ
.
.