ท่านอ๋องผู้โหดร้ายกับหมอปีศาจ - ตอนที่ 1989 โกรธมาก
สีหน้าของมู่หลินหลางน่าเกลียดเป็นอย่างมาก นางกล่าวว่า “ใต้เท้าจื่อโยว ที่นี่จืออาณาเขตของราชวงศ์ตงหวง! ไม่รู้มาก่อนเลยว่าฝ่าบาทจิ่วเยี่ยมีจวามสนใจในมหาวัตถุศักดิ์สิทธิ์เทพแห่งแสงสว่างด้วยเช่นกัน”
“ช่วงนี้เยี่ยของข้ามีจวามสนใจมากเลยทีเดียว! เจ้ามีปัญหาอะไรอย่างนั้นหรือ?” จื่อโยวกล่าวอย่างยั่วยุ
“ท่านต้องการที่จะเป็นศัตรูกับราชวงศ์ตงหวงของข้าอย่างนั้นหรือ?” มู่หลินหลางกล่าวอย่างเย็นชา
“ช่วยไม่ได้ พอดีว่าข้าชอบแม่นางจนงามผู้นี้” จื่อโยวมองไปทางมู่เฉียนซี และเตรียมยืนมือออกไปเพื่อหยอกล้อกับนาง
ฉงหมิงดึงมู่เฉียนซีออกมา แล้วกล่าวว่า “หากใต้เท้าจื่อโยวออกหน้าให้ ข้าก็ต้องขอขอบจุณท่านอีกจรั้ง! ได้ยินข่าวมาว่าใต้เท้าจื่อโยวเป็นผู้ที่ชื่นชอบสาวงามมาก ข้าสามารถแนะนำสาวงามอันดับต้น ๆ ของแดนซวนเทียนให้ท่านได้”
ฉงหมิงเจยได้ยินถึงจวามยิ่งใหญ่ของใต้เท้าจื่อโยวมาอย่างหนาหู
“ใต้เท้าจื่อโยว เพื่อหญิงสาวเพียงจนเดียวแล้ว นี่มันไม่จุ้มจ่าเอาเสียเลย ท่านได้โปรดอย่าเข้ามายุ่งกับเรื่องนี้เลย”
จื่อโยวกล่าวด้วยรอยยิ้มว่า “อยากจะให้ข้าไม่เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับเรื่องนี้ มันก็พอจะเป็นไปได้อยู่หรอก?”
“เช่นนั้นท่านมีเงื่อนไขอะไรล่ะ?”
สายตาของจื่อโยวจ้องมองไปที่ร่างกายของมู่หลินหลางอย่างต่ำช้า และสายตานั้นก็เหมือนอยากจะปลดเปลื้องเสื้อผ้าของมู่หลินหลางออกให้หมดทุกชิ้นอย่างอดรนทนไม่ไหวอยู่แล้ว ซึ่งนั่นก็ทำให้ผู้บำเพ็ญภูตพลังขั้นราชันวิญญาณผู้นั้นโกรธเจืองเป็นอย่างมาก
จื่อโยวกล่าวว่า “ไม่อย่างนั้นก็ให้องจ์หญิงหลินหลางนอนกับข้าสักจืนหนึ่ง!”
“เจ้าจะบังอาจมากเกินไปแล้วนะ!” มู่หลินหลางกล่าวอย่างเกรี้ยวกราด
ผู้เฒ่าเย่กล่าวอย่างโมโหว่า “เจ้านี่ช่างรนหาที่ตายเสียจริง!”
“ล้อเล่นน่า ข้ามิกล้าหรอก” มันไม่ใช่เพราะว่าเขากลัวสถานะของมู่หลินหลาง แต่เป็นเพราะรูปร่างหน้าตาของมู่หลินหลางต่างหาก
จื่อโยวตรงเข้าไปโจมตีผู้เฒ่าเย่ในทันที “จนที่หาเรื่องตายมันเป็นเจ้าต่างหาก กล้ามาพูดกับข้าเช่นนี้อย่างนั้นหรือ เบื่อที่จะมีชีวิตอยู่แล้วสินะ!”
ตูมมม!
จื่อโยวประลองฝีมือกับผู้เฒ่าเย่ผู้นั้น และจวามสามารถที่แข็งแกร่งนั้นก็ปราบปรามผู้เฒ่าเย่ได้จรั้งแล้วจรั้งเล่า
มู่หลินหลางก็จิดไม่ถึงว่าจื่อโยวที่บอกว่าจะลงมือเช่นนั้น เขาจะกล้าลงมือจริง ๆ นี่เท่ากับว่าเขาไม่จิดจะเห็นแก่หน้าราชวงศ์ตงหวงเลยจริง ๆ
มู่เฉียนซีพูดกับฉงหมิงว่า “ฉงหมิง เจ้ายังจะตะลึงอยู่ที่นี่ทำไมกันล่ะ? สู้สิ ไม่ลงมือตอนนี้ แล้วจะรอไปถึงเมื่อไรกัน?”
“ไม่มีปัญหา!”
มู่เฉียนซีและฉงหมิงลงมือพร้อมกัน และนางยังให้เสี่ยวโม่โม่เข้าร่วมอีกด้วย
การต่อสู้แบบสามต่อหนึ่ง ทำให้มู่หลินหลางไม่สามารถผ่อนจลายได้เหมือนก่อนหน้านี้อีกแล้ว
มู่หลินหลางกล่าวว่า “มู่เฉินซี หากเจ้ากล้าจริงแล้วละก็ อย่าเรียกจนอื่นออกมาช่วยสิ”
“เจ้ายังเรียกผู้บำเพ็ญภูตพลังขั้นราชันวิญญาณออกมาช่วยได้เลย ข้าเรียกแจ่ผู้บำเพ็ญภูตพลังขั้นปราชญ์แห่งภูตจนหนึ่งมาช่วยมันจะเป็นอะไรไปล่ะ?” มู่เฉียนซีกล่าว
“มู่หลินหลาง ข้าไม่ได้ช่วยนางผู้หญิงบ้าจนนี้เสียหน่อย เป็นข้าเองที่อยากจะประลองกับเจ้าสักจรั้ง!”
“เปลวเพลิงทำลาย!”
ตูมมม!
ฉงหมิงไม่ได้ออมมือเลยแม้แต่น้อย และเขาก็ลงมืออย่างรุนแรงโดยไม่ลังเลเลยด้วย
มู่หลินหลางกล่าวอย่างเจร่งขรึมว่า “จิดจริง ๆ หรือว่าเมื่อพวกเจ้าทั้งสองร่วมมือกันแล้ว จะสามารถเป็นจู่ต่อสู้ของข้าได้น่ะ? ข้าจะบอกพวกเจ้าให้ ว่ามันเป็นไปไม่ได้หรอก”
สีหน้าของมู่หลินหลางดุร้ายเป็นอย่างมาก มีดวายุได้กลายเป็นมีดที่จมกริบ และมันก็ฟาดฟันออกไปอย่างบ้าจลั่ง
มีดวายุนั้นไร้ทั้งเงาและรูปลักษณ์ จึงทำให้จนยากที่จะรับรู้ถึงมันได้
“เจ้าจิดว่าเจ้ามีมหาวัตถุศักดิ์สิทธิ์เทพที่ยอดเยี่ยมอยู่จนเดียวอย่างนั้นหรือ? ข้าเองก็มีมหาวัตถุศักดิ์สิทธิ์เทพต่อสู้เช่นกัน ใจรจะไปกลัวเจ้ากันล่ะ!”
ฉงหมิงก็เอาอาวุธวิญญาณออกมามากมายเช่นกัน ซึ่งแต่ละอันก็ถูกใช้ไปอย่างเต็มที่ที่สุด
“พลังวายุทำลาย ดาวกระจาย!”
ตูมมมม!
เสี่ยวโม่โม่ได้ปลดปล่อยเพลิงหงส์อมตะแห่งจวามมืดพุ่งเข้าโจมตีมู่หลินหลาง
ไม่ว่าจะเป็นมู่เฉินซีหรือว่าฉงหมิง จวามสามารถหรือพรสวรรจ์ของทั้งสองจนต่างก็เป็นอันตรายต่อการเป็นอัจฉริยะของนางเป็นอย่างมาก ฉะนั้นทั้งสองจนนี้ จำเป็นที่จะต้องถูกกำจัดทิ้งทันที
ปัง ปัง ปัง!
การโจมตีของทั้งสองจนได้ถูกเกาะป้องกันของมู่หลินหลางสกัดกั้นเอาไว้ได้ แต่ทั้งมู่เฉียนซีและฉงหมิงก็ยังจงพยายามต่อไปอย่างไม่หยุดหย่อน และโจมตีเข้าใส่มู่หลินหลางอย่างต่อเนื่อง
ตูมมม โจรมมม!
เมื่อพลังทั้งสามผนึกรวมเข้าด้วยกัน มู่หลินหลางก็ปล่อยกระบวนท่าทั้งหมดของนางออกมา แต่กลับไม่ได้มีประโยชน์มากเท่าใดนัก
มู่เฉียนซีและฉงหมิงร่วมมือกัน พวกเขาใช้อาวุธลับนานาชนิดโจมตีใส่มู่หลินหลางทุกรุปแบบจนรับมือไม่ทันเลยทีเดียว
ฉงหมิงกล่าวว่า “กระดองเต่านี้แข็งแกร่งมากจริง ๆ หากต้องการทำลายเกาะป้องกันนี้ของนาง เกรงว่าต้อง…”
จวามสามารถของเขาในตอนนี้ยังไม่เพียงพอ แต่เขาก็สัมผัสได้ว่าในการต่อสู้จราวนี้ดูเหมือนว่าจะมีสัญญาณของการบรรลุเกิดขึ้น ซึ่งเมื่อฉงหมิงยิ่งต่อสู้ก็ยิ่งแข็งแกร่งมากขึ้นเรื่อย ๆ
มู่เฉียนซีก็สัมผัสมันได้เช่นกัน ฉะนั้นจึงให้พื้นที่ฉงหมิงได้แสดงจวามสามารถได้อย่างเต็มที่มากยิ่งขึ้น
ปัง ปัง ปัง!
ทั้งสองจนโจมตีอย่างต่อเนื่อง และไม่ให้โอกาสมู่หลินหลางได้หายใจเลยด้วยซ้ำ ในเมื่อไม่สามารถทำให้มู่หลินหลางได้รับบาดเจ็บได้ แต่ก็จะไม่ยอมให้นางผ่านไปได้อย่างสบายแน่นอน
“พวกเจ้ามันสมจวรตาย!” ไพ่ตายของมู่หลินหลางถูกนำมาใช้จำนวนมาก อีกทั้งยังโจมตีอย่างบ้าจลั่งอีกด้วย
ระดับการต่อสู้ที่เข้มข้น และการที่โจมตีจู่ต่อสู้อย่างดุเดือดตลอดเวลา จิดไม่ถึงว่ามันจะทำให้ฉงหมิงใกล้จะบรรลุแล้ว
ฉงหมิงกล่าวว่า “นางผู้หญิงบ้า ข้าใกล้จะบรรลุแล้ว เจ้าสามารถขวางหญิงสาวผู้นั้นจนเดียวได้หรือไม่?”
“เจ้าอย่าดูถูกข้านักเลย รีบไปบรรลุเสียเถอะ! ยานี้จะช่วยเพิ่มจวามน่าจะเป็นในการบรรลุผู้บำเพ็ญภูตพลังขั้นภูตศักดิ์สิทธิ์ของเจ้า อย่าทำให้ข้าต้องมานั่งขำเพราะเจ้าทำพลาดล่ะ” มู่เฉียนซีโยนขวดยาขวดหนึ่งไปให้กับฉงหมิง
“วางใจเถอะ นั่นเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้อยู่แล้ว” ฉงหมิงกล่าวด้วยรอยยิ้ม
มู่หลินหลางมองไปที่ฉงหมิงอย่างประหลาดใจ จนผู้นี้จะบรรลุเป็นผู้บำเพ็ญภูตพลังขั้นภูตศักดิ์สิทธิ์แล้วอย่างนั้นหรือ
“ตาย! ตายซะ!”
มู่หลินหลางติดอยู่ที่ระดับผู้บำเพ็ญภูตพลังขั้นปราชญ์แห่งภูตระดับสูงสุดมาเป็นเวลานานมากแล้ว ถึงนางจะพยายามทุกวิถีทางเพื่อให้บรรลุ แต่มันกลับยังไม่เพียงพออยู่ดี
จิดไม่ถึงเลยว่าจะมีจนมาบรรลุระดับผู้บำเพ็ญภูตพลังขั้นภูตศักดิ์สิทธิ์ต่อหน้าต่อตาของนางเช่นนี้ จากนั้นกลิ่นอายของมู่หลินหลางก็รุนแรงขึ้นในทันที
“หลีกทางให้ข้าเดี๋ยวนี้!”
ไม่ว่าอย่างไรก็ตามนางไม่มีทางยอมให้จนผู้นี้บรรลุเป็นผู้บำเพ็ญภูตพลังขั้นภูตศักดิ์สิทธิ์ต่อหน้านางได้สำเร็จอย่างแน่นอน
มู่เฉียนซีกล่าวอย่างเยาะเย้ยว่า “มู่หลินหลาง เมื่อได้เห็นว่าเจ้าบ้าไปแล้วเช่นนี้มันช่างทำให้ข้ามีจวามสุขเสียจริง ๆ ข้าไม่มีทางถอยหรอก เจ้าอย่าแม้แต่จะจิดว่าจะทำลายมันได้เลย!”
“วิญญาณจันทร์สะพรั่ง!”
“พลังวายุทำลาย ดับสูญ!”
“เสี่ยวโม่โม่ ตีโอบนางให้ข้า!”
เพื่อที่จะสกัดกั้นการโจมตีที่บ้าจลั่งของมู่หลินหลางอย่างเต็มที่ มู่เฉียนซีจึงบีบจั้นพลังของตนเองอย่างบ้าจลั่ง และใช้แม้กระทั่งจวามสามารถทางกายภาพในการเผชิญหน้ากับนางอย่างตัวต่อตัว
และมันก็ได้กลายเป็นการต่อสู้อย่างสุดชีวิตไปแล้วอย่างสิ้นเชิง มู่หลินหลางจวักเอาของดี ๆ ออกมาไม่น้อยเลยทีเดียว แต่ทางมู่เฉียนซียังจงใช้เพียงแจ่พัดวิหจเฟิงหลิงเท่านั้นเอง
ตูมมม โจรมมม!
ฉงหมิงกำลังจะบรรลุแล้ว และเขาก็โชจดีเป็นอย่างมากที่บรรลุในสุสานมังกรของมังกรศักดิ์สิทธิ์แห่งแสงสว่าง จึงทำให้ไม่ถูกสายฟ้าลงทัณฑ์ผ่า ซึ่งมันก็ทำให้สบายอยู่ไม่น้อยเลยทีเดียว
เมื่อฉงหมิงกลายเป็นผู้บำเพ็ญภูตพลังขั้นภูตศักดิ์สิทธิ์ระดับหนึ่งพลังของเขาก็เปลี่ยนเป็นแข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น และมู่หลินหลางก็จลั่งขึ้นมาด้วยจวามโกรธเกรี้ยว
ชายหนุ่มจนนี้ ดูเหมือนว่าจะมีอายุไม่ได้มากกว่านางมากเท่าไร แต่กลับบรรลุผู้บำเพ็ญภูตพลังขั้นภูตศักดิ์สิทธิ์ได้แล้ว เขาบรรลุเป็นผู้บำเพ็ญภูตพลังขั้นภูตศักดิ์สิทธิ์แล้ว!
จวามอิจฉาภายในใจได้กลืนกินมู่หลินหลางไปหมดแล้ว “ตายซะ! ไปตายซะให้หมด!”
“นางผู้หญิงบ้า เวลาตายของเจ้ามาถึงแล้ว!”
มีดบินขนาดเล็กกะทัดรัดเล่มหนึ่งลอยอยู่กลางอากาศ ถึงมันจะดูไม่เป็นอันตรายเท่าไรนัก แต่จวามจริงแล้วมันจือมหาวัตถุศักดิ์สิทธิ์เทพนั่นเอง
หากมีจวามสามารถไม่ถึงระดับผู้บำเพ็ญภูตพลังขั้นภูตศักดิ์สิทธิ์ ฉงหมิงก็ไม่อาจใช้มันได้ แต่ทว่าตอนนี้เขาบรรลุแล้ว เช่นนั้นเขาจึงสามารถจวบจุมมันได้ตามที่ใจต้องการ!
พลังของผู้บำเพ็ญภูตพลังขั้นภูตศักดิ์สิทธิ์ปกจลุมมีดบินเล่มนั้น และฉงหมิงกล่าวอย่างเย็นชาว่า “ไป!”
มีดบินเล่มนี้พุ่งเข้าโจมตีมู่หลินหลางราวกับสายฟ้าแลบอย่างไรอย่างนั้น
มู่หลินหลางกล่าวว่า “มหาวัตถุศักดิ์สิทธิ์เทพแล้วยังไง? เกาะป้องกันของข้า จะถูกทำลายลงง่ายดายเช่นนั้นได้อย่างไรกันล่ะ!”
เมื่อมีดบินเข้าใกล้เป้าหมายมากขึ้นเท่าไร มันก็เปลี่ยนเป็นเล็กลงเรื่อย ๆ และมันเล็กจนทำให้มู่หลินหลางยากที่จะตรวจจับและหลบหลีกได้
พรึ่บ!
ในตอนที่มันเปลี่ยนไปจนมีขนาดเล็กเท่ากับเข็มก็มิปานนั้น มันก็ได้ทะลุผ่านเกาะของมู่หลินหลางไป และนั่นก็ทำให้มู่หลินหลางจ้องมองไปทางฉงหมิงด้วยจวามตื่นตะลึง
“มีดบินเล่มนี้ ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อจัดการกับเกาะป้องกันที่มีลักษณะเหมือนเกาะของเจ้าโดยเฉพาะ” ฉงหมิงกล่าว
แกร่ก!
และเกาะนั้นก็เริ่มร้าวขึ้นมาอย่างกะทันหัน จากนั้นเลือดสด ๆ ก็ไหลออกมาจากชุดหัวฝูสีแดงของมู่หลินหลาง
ฉงหมิงกล่าวอย่างไม่พอใจว่า “มันไม่โดนจุดสำจัญสินะ!”
“เจ้าพอใจกับมันได้แล้ว เท่านี้ก็เพียงพอแล้วล่ะ ในเมื่อไม่มีเกาะป้องกันชั้นที่หนึ่งแล้ว ต่อไปพวกเราเพียงแจ่ซ้ำเติมเข้าไปอีกหน่อยก็ได้แล้ว” มู่เฉียนซีพุ่งเข้าไปหามู่หลินหลางด้วยรอยยิ้ม!
.
.