ท่านอ๋องผู้โหดร้ายกับหมอปีศาจ - ตอนที่ 1980 ศิษย์พี่ผู้แข็งแกร่ง
“ข้าไม่อยากจะพูดจาไร้สาระกับพวกเจ้าอีกแล้ว!” ทันใดนั้นมู่เฉียนซีก็ทำให้พวกเขาหมดสติไป ก่อนจะกล่าวกับเสี่ยวโม่โม่ว่า “พาพวกเขาไป!”
“เจ้าค่ะ นายท่าน!”
หลังจากที่พวกเขาจากไปได้ไม่นานนัก ปีศาจแห่งฝันร้ายที่มีเครื่องสังเวยไม่พอก็ระเบิดโมโหออกมา
ครืนนนน!
มีลำแสงสีแดงจำนวนนับไม่ถ้วนตกลงมาจากกลางท้องฟ้า จากนั้นมันก็ได้ปกคลุมเหล่าสิ่งมีชีวิตที่อยู่บริเวณโดยรอบไปจนหมดสิ้น
ไม่เพียงแต่มนุษย์เท่านั้น แม้แต่สัตว์วิญญาณและสัตว์ร้ายทั่วไปมันก็ไม่ละเว้น
ในตอนที่ลำแสงนั้นกำลังจะปกคลุมมู่เฉียนซีเอาไว้ มู่เฉียนซีก็ถูกพิฆาตวิญญาณดึงเอาไว้เสียก่อน
กระบี่มังกรเพลิงพิฆาตวิญญาณกวัดแกว่งออกไป และได้ทำลายลำแสงเหล่านี้ไปจนสิ้น
ภายในแววตาของพิฆาตวิญญาณฉายแววอันตรายออกมา “กล้ามาแย่งอาหารของข้า ช่างใจกล้าเสียจริง ๆ”
และสิ่งที่อยู่ภายใต้การปกคลุมของลำแสงอย่างอดีตเจ้าตำหนักผู้นั้น ก็หวาดกลัวอย่างหาที่เปรียบไม่ได้
แน่นอนว่านางคุกเข่าลงบนพื้นแล้วกล่าวว่า “นายท่าน เหตุใดเล่า? นายท่านปีศาจแห่งฝันร้าย เพราะอะไรกัน? พวกเราคอยเลี้ยงดูท่านมาเนิ่นนานขนาดนี้ นานขนาดนี้แล้ว…ถึงจะแก่ชราแล้วแต่ก็ยังมีประโยชน์อยู่ ท่านจะเอาข้าไปเป็นเครื่องสังเวยไม่ได้นะ! ข้ายังไม่อยากตาย…”
พวกเขาวางแผนมอบคนมากมายเช่นนี้ให้เป็นเครื่องสังเวยของปีศาจแห่งฝันร้าย แต่กลับไม่คาดคิดว่าไฟจะลามมาถึงตนเองเช่นนี้ได้ เจ้าปีศาจแห่งฝันร้ายตัวนี้ไม่ละเว้นแม้แต่พวกเขาด้วยซ้ำ
“มนุษย์อย่างพวกเจ้า ก็เป็นแค่อาหารของข้าเท่านั้น สามารถกลายเป็นคนที่แข็งแกร่งด้วยความช่วยเหลือของข้า นั่นก็ถือว่าเป็นเกียรติของพวกเจ้าแล้ว”
มุมปากของมู่เฉียนซีคลี่ยิ้มเยาะเย้ยขึ้นมา นี่มันมันเรียกว่ากรรมตามสนองอย่างนั้นสินะ!
หญิงสาวของตำหนักเทพวิญญาณหลับใหลเหล่านี้เคยพูดเช่นนี้กับคนอื่นมาก่อน แต่ทว่าตอนนี้ถึงคราวที่คนอื่นจะพูดกับพวกนางบ้างแล้ว
พวกนางถูกเหยียบย่ำราวกับมดปลวก และสิ้นหวังอย่างที่สุด
พรวด!
กระบี่ถูกกวาดออกไป และเลือดสด ๆ ก็สาดกระเซ็น พิฆาตวิญญาณเริ่มเคลื่อนไหวแล้ว
“แม้ว่ามันจะแย่ไปสักหน่อย แต่นี่ก็เป็นอาหารของข้า!”
พิฆาตวิญญาณลากมู่เฉียนซีไปเก็บเกี่ยวชีวิตของผู้อื่น เพียงไม่นานคนของตำหนักเทพวิญญาณหลับใหลก็ถูกพิฆาตวิญญาณสังหารไปไม่น้อยแล้ว
วิญญาณแต่ละวิญญาณถูกดูดกลืนไปจนหมดสิ้น และปีศาจแห่งฝันร้ายก็หมดหนทางในการรับเครื่องสังเวยของมัน!
มุมปากของพิฆาตวิญญาณยกยิ้มเล็กน้อย “เหลืออยู่สองคนแล้ว ลูกแมวน้อย เจ้าอยากให้ทำเช่นไรดีล่ะ? โดยเฉพาะคนนั้น ข้าคร้านเกินกว่าที่จะลงมือเสียด้วยซ้ำ”
พิฆาตวิญญาณชี้ไปที่เมิ่งเสี่ยวชิง อย่างเต็มไปด้วยความรังเกียจ
เมิ่งเสี่ยวชิงจ้องมองไปที่ฆาตกรที่หัวเราะไปด้วยขณะคร่าชีวิตของผู้คนไปด้วย และกล่าวกับพิฆาตวิญญาณผู้กระหายเลือดและโหดเหี้ยมว่า “ไอ้ปีศาจ เจ้ามันเป็นปีศาจที่ฆ่าคนโดยไม่กระพริบตาเลยด้วยซ้ำ เจ้า…เจ้าอย่าเข้ามานะ”
เจ้าตำหนักเมิ่งกล่าวว่า “นายท่าน ช่วยด้วย! ช่วยข้าด้วย ท่านปีศาจแห่งความฝันจะต้องโค่นผู้ที่ช่วยเหลือมู่เฉินซีผู้นี้ ท่านจะต้องช่วยพวกเราสองแม่ลูกได้อย่างแน่นอน! ขอเพียงท่านช่วยพวกเราสองแม่ลูกได้ พวกเราจะทำงานอย่างหนักเพื่อตอบแทนท่านแน่”
ต่อหน้าชายผู้ทรงพลังอย่างหาที่เทียบมิได้ผู้นี้ นี่คือฟางชีวิตเส้นสุดท้ายของพวกเขาแล้ว และไม่ว่าอย่างไรเจ้าตำหนักเมิ่งก็จะคว้าทั้งหมดเอาไว้ให้ได้
พิฆาตวิญญาณกล่าวอย่างเย็นชาว่า “ช่างน่าเบื่อเสียจริง ๆ”
“ลูกแมวน้อย สองคนนี้แล้วแต่เจ้าจะจัดการเถอะ ข้าจะเชื่อฟังเจ้าทุกอย่าง”
“เช่นนั้นก็ให้พวกเขากลายไปเป็นเครื่องสังเวยของปีศาจแห่งฝันร้ายเถอะ! ข้าก็ขี้เกียจเกินกว่าจะลงมือเช่นกัน”
พิฆาตวิญญาณมองขึ้นไปกลางอากาศ พลางกล่าวว่า “คาดว่า พวกนางคงไม่มีโอกาสได้กลายเป็นเครื่องสังเวยแล้วล่ะ”
ตูมมม!
มีเสียงระเบิดดังสั่นขึ้น และปีศาจแห่งฝันร้ายที่น่าสะพรึงกลัวนั้นก็ร่วงหล่นลงมาจากท้องฟ้า จากนั้นก็ตกลงไปบนพื้นจนเกิดหลุมขนาดใหญ่หลุมหนึ่ง
ต่อมาลำแสงของปีศาจแห่งความฝันที่ควบคุมเจ้าตำหนักเมิ่งและเมิ่งเสี่ยวชิงก็ได้หายไป พวกนางได้รับการช่วยเหลือแล้ว แต่เนื่องจากว่าร่างกายบาดเจ็บสาหัสจึงไม่มีเรี่ยวแรงที่จะหลบหนีไปได้อีก
ร่างเงาสีดำร่างหนึ่งลอยลงมาจากกลางอากาศ เมิ่งเสี่ยวชิงและเจ้าตำหนักเมิ่งกล่าวด้วยความตื่นตกใจว่า “เป็นไปได้อย่างไร? มันจะเป็นไปได้อย่างไร? เหตุใดท่านปีศาจแห่งฝันร้ายถึงพ่ายแพ้ได้ อีกทั้งยังพ่ายแพ้ให้กับฉู่หลีอีกด้วย”
ฉู่หลีเป็นใครกันแน่? สิ่งที่พวกนางได้รับรู้มา เขาเป็นเพียงอัจฉริยะที่มีพรสวรรค์อันแข็งแกร่งคนหนึ่งเท่านั้น และโชคดีที่ได้รับพรสวรรค์ของพลังปีศาจมาก็เท่านั้นเอง
คนเช่นนี้ จะสามารถที่จะเอาชนะท่านปีศาจแห่งฝันร้ายที่ตำหนักเทพวิญญาณหลับใหลของพวกนางเลี้ยงดูมานับหลายพันปีได้อย่างไร
พรวด!
ฉู่หลีเหยียบลงไปบนร่างของมัน
พลังปีศาจบนร่างกายของฉู่หลีในเวลานี้อ่อนแอกว่าพลังสูงสุดของปีศาจแห่งฝันร้ายเพียงเล็กน้อยเท่านั้น และการเหยียบลงไปครั้งนี้ ทำให้กรงเล็บข้างหนึ่งของมันหักลงโดยตรง
ดวงตาของมู่เฉียนซีเบิกกว้าง นางไม่ได้มองผิดไปใช่หรือไม่! คิดไม่ถึงว่าศิษย์พี่จะเก่งกาจถึงขนาดนี้
เมิ่งเสี่ยวชิงและเจ้าตำหนักเมิ่งคิดว่าพวกนางยังคงกำลังหลับฝันอยู่ แล้วยังไม่ตื่นขึ้นมาอย่างนั้นสินะ?
“นายท่าน โปรดไว้ชีวิตด้วย! ไว้ชีวิตข้าด้วย! ข้ายังไม่อยากตาย มันไม่ง่ายเลยกว่าข้าจะฟื้นพลังจนออกมาได้”
แกร่ก!
ยิ่งเหยียบลงไป กรงเล็บก็ยิ่งหักมากขึ้นอีก
“นายท่าน ข้ายอมเป็นสัตว์พันธสัญญาของท่าน จะให้ข้าผูกพันธสัญญาทาสก็ย่อมได้” ปีศาจแห่งฝันร้ายนี้ร้องขอความเมตตาอย่างถ่อมตัว
หลายปีมานี้ ตำหนักเทพวิญญาณหลับใหลของพวกนางบูชาเจ้าสิ่งนี้ราวกับบูชาบรรพบุรุษอย่างไรอย่างนั้น อีกทั้งยังคอยระมัดระวังเป็นอย่างดี ผลสุดท้ายตอนนี้กลับกลายเป็นเด็กน้อยต่อหน้าฉู่หลีไปเสียแล้ว
เมื่อเจ้าตำหนักเมิ่งครุ่นคิดว่านางกล้าบีบบังคับผู้ชายเช่นนี้มาแต่งงานกับลูกสาวของนางได้อย่างไร สีหน้าของนางซีดเผือดไปหมดแล้ว หากรู้อย่างนี้ตั้งแต่แรก ไม่ว่าอย่างไรนางจะไม่ยอมให้ลูกสาวของนางไปยั่วยุคนเช่นนี้แน่
ปีศาจแห่งฝันร้ายยังคงถ่อมตัวอย่างที่สุด แต่ผลสุดท้ายฉู่หลีกลับกล่าวว่า “น่ารำคาญจะตายอยู่แล้ว!”
ทันทีที่ฉู่หลีลงมือ เขาก็ได้เริ่มสูบพลังปีศาจทั้งหมดของปีศาจแห่งฝันร้ายอย่างบ้าคลั่ง
“อ๊ากกกกกก!”
“เจ้า…ทะ…ท่านคือ…”
ยังไม่ทันที่ปีศาจแห่งฝันร้ายจะพูดทั้งหมดจนจบ พลังปีศาจของมันก็ไม่เหลืออยู่อีกแล้ว จากนั้นร่างกายของมันก็สลายหายไปในทันที
ในตอนที่มันกำลังจะสลายไป และด้วยการแสดงออกที่เกินจริงนั้น ดูเหมือนว่ามันได้พบเห็นสิ่งที่น่าเหลือเชื่ออย่างหนึ่ง อีกทั้งยังเป็นเรื่องที่น่าหวาดกลัวเป็นอย่างมากอีกด้วย
พลังปีศาจทั่วทั้งร่างของฉู่หลี เป็นความทรงพลังที่ค่อนข้างน่าสะพรึงกลัวเลยทีเดียว และฟ้าร้องฟ้าแลบที่อยู่กลางอากาศนั่นก็คืออัสนีลงทัณฑ์ที่มู่เฉียนซีคุ้นเคยเป็นอย่างดี
พิฆาตวิญญากล่าววพลางหัวเราะราวกับจะทำให้ทั้งโลกวุ่นวายไปเลยยว่า “ฮ่า ฮ่า ฮ่า! เจ้าคนจอมขี้เกียจ จะต้องถูกฟ่าผ่าตายแน่ หากถูกฟ้าผ่าตายเจ้าจะได้ตายเร็วขึ้นอีกหน่อย”
มู่เฉียนซีกล่าวอย่างเป็นกังวลว่า “ศิษย์พี่ ท่านไม่เป็นไรใช่หรือไม่?”
ฉู่หลีกล่าวว่า “พลังปีศาจมากไปหน่อย ผนึกเอาไว้ก็ไม่เป็นอะไรแล้ว ศิษย์น้อง ข้าจำเป็นต้องกลับไปเก็บตัวแล้ว อีกเดี๋ยว…อีกเดี๋ยวข้าก็จะสามารถช่วยศิษย์น้องหาที่อยู่ของมังกรศักดิ์สิทธิ์แห่งแสงสว่างเจอแล้ว”
หลังจากที่ฉู่หลีทิ้งคำพูดนี้เอาไว้แล้วก็หายไปทันที เขาได้ไปหาสถานที่อันเงียบสงบในซากปรักหักพังของตำหนักเทพวิญญาณหลับใหล เพื่อเตรียมตัวในการเก็บตัวฝึกฝนผนึกและทำลายพลังปีศาจนี้
มู่เฉียนซีกล่าวว่า “ได้ ศิษย์พี่ ข้าจะรอท่าน!”
ในเวลานี้แม่ลูกตระกูลเมิ่งต่างก็หวาดกลัวจนเสียสติไปแล้ว พวกนางค่อย ๆ คืบคลานไปบนพื้นดินเพื่อหวังที่จะหนีไป
ฟิ้ว ฟิ้ว ฟิ้ว!
เข็มยาหลายเล่มฝังลงไปบนจุดฝังเข็มของพวกนาง
พวกนางกล่าวว่า “เจ้าต้องการที่จะทำอะไรกันแน่?”
“ตอนนี้ในตำหนักเทพวิญญาณหลับใหลนอกจากพวกข้าไม่กี่คน ก็ไม่มีผู้มีชีวิตรอดอีกแล้ว พวกเจ้าทั้งสองถือได้ว่าโชคดีมาก!”
“อย่าฆ่าข้าเลย เจ้าต้องการให้ข้าทำอะไรก็ได้ทั้งนั้น ในตำหนักเทพวิญญาณหลับใหลของข้ายังมีสมบัติอีกมากมาย นอกจากนี้…”
“ตกลง ข้าจะไม่ฆ่าเจ้า ทางที่ดีที่สุดคือเจ้าต้องพูดความจริงออกมา!”
ในเวลานี้เจ้าตำหนักเมิ่งหวาดกลัวมากจนไม่เหลือความเฉลียวฉลาดและมีความสามารถเหมือนก่อนหน้านี้อีกแล้ว อีกทั้งยังกลัวตายเป็นพิเศษ ดังนั้นนางจึงอธิบายทั้งหมดอย่างละเอียดถี่ถ้วนเลยทีเดียว
มู่เฉียนซีกล่าวด้วยรอยยิ้มว่า “ดีมาก!”
พลังปีศาจของทางนี้สูญหายไปจนหมดแล้ว และก็มีคนไม่น้อยที่ได้ยินข่าวนี้ ส่วนพวกของจูเชว่ก็กลับมาที่นี่อีกครั้ง
“สัตว์ประหลาดตัวใหญ่นั่นถูกจัดการไปแล้วอย่างนั้นหรือ?”
มู่เฉียนซีกล่าวว่า “ถูกจัดการไปแล้วล่ะ อีกอย่างเจ้าไปแจ้งข่าวดีแก่ทุกคนด้วยว่า ตอนนี้ปลอดภัยแล้ว คนของตำหนักเทพวิญญาณหลับใหลคนอื่น ๆ ได้ถูกจัดการไปหมดแล้ว แต่ทว่าตัวต้นเรื่องยังคงมีชีวิตอยู่ หากพวกเจ้ามีปัญหาอะไรก็สามารถมาขอชี้แนะนางได้”
“ตอนนี้นางได้ถูกข้าทำลายเส้นเอ็นไปแล้ว อีกทั้งยังโดนพิษ จึงไม่เป็นภัยคุกคามอีกต่อไปแล้ว ถือว่าเป็นการให้คำอธิบายแก่กองกำลังหลักได้!”
ทุกคนต่างมองไปที่เจ้าตำหนักเมิ่งและเมิ่งเสี่ยวชิง ดวงตาที่เต็มไปด้วยความเย็นชาของพวกเขา ไม่มีความเป็นมิตรเหมือนก่อนหน้านี้อีกแล้ว
เมิ่งเสี่ยวชิงและเจ้าตำหนักเมิ่งคำรามกล่าวว่า “มู่เฉินซี เจ้าโกหกพวกข้าหรือ? เจ้าโกหกพวกข้าอย่างนั้นหรือ?”
.
.