ท่านอ๋องผู้โหดร้ายกับหมอปีศาจ - ตอนที่ 1971 ศิษย์พี่ตัวน้อย
ผลการวินิจฉัยของนักปรุงยาก็คือ “คุณชายรอง ยังโชคดีที่ช่วยไว้ได้ทันเวลา ทำให้เขาไม่ได้พิการอย่างสมบูรณ์! แต่ทว่าภายในสามปีนี้ ท่านห้ามแตะต้องผู้หญิงเด็ดขาด!”
“สามปีเลยหรือ!” คุณชายรองเมิ่งถูกทำให้โกรธจนช้ำในไปหมดแล้ว
“ท่านแม่ น้องสาว เจ้าต้องคืนความยุติธรรมให้ข้าให้ได้นะ! มู่เฉินซีคนนั้นบ้าคลั่งเกินไปแล้วจริง ๆ”
เมิ่งเสี่ยวชิงกล่าวอย่างอ่อนโยนว่า “ท่านพี่รองโปรดวางใจแล้วพักรักษาตัวเถอะ!”
เพียงแต่ตอนที่ไปหามู่เฉียนซีกลางดึก ลูกน้องของมู่เฉียนซีกลับบอกว่านางพักผ่อนไปแล้ว และไม่อยากพบใคร!
ดังนั้นเมิ่งเสี่ยวชิงจึงทำได้เพียงแค่รอไปหาในวันรุ่งขึ้นเท่านั้น
ทันทีที่เมิ่งเสี่ยวชิงเดินเข้ามา และยังไม่ทันรอให้นางได้เอ่ยปาก มู่เฉียนซีก็แย่งพูดขึ้นมาก่อนว่า “คุณหนูใหญ่เมิ่ง หากมีชายหนุ่มที่หน้าตาน่าเกลียดคนหนึ่งมาหยอกล้อเจ้ากลางดึก เจ้าคิดว่าเจ้าควรจะทำเช่นไร? กำจัดทิ้ง หรือไม่ก็ทำให้เขาเป็นผู้ชายต่อไปไม่ได้ ซึ่งนั่นก็ถือว่าเบามากแล้ว ถูกหรือไม่?”
ใบหน้าของเมิ่งเสี่ยวชิงแข็งทื่อไปเล็กน้อย นางไม่คาดคิดมาก่อนเลยว่ามู่เฉินซีจะชิงลงมือก่อนเช่นนี้!
นางกล่าวว่า “แต่ว่าแม่นางมู่ลงมือโหดร้ายเกินไป! ท่านพี่รองเกือบจะ เกือบจะไม่มีความสามารถในการสืบสกุลได้อีกแล้ว”
“ข้าลงมืออย่างโหดเหี้ยมเสมอ และนี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่แม่นางเมิ่งได้รู้นี่” มู่เฉียนซีกล่าวด้วยรอยยิ้ม
เหลิ่งหนิงจือกล่าวว่า “เจ้ารู้หรือไม่ว่าเจ้านายของข้าคือผู้ใดกัน? เจ้านายของข้าเป็นคนที่สำคัญมากของหอหมอปีศาจ อีกทั้งสถานะก็ไม่ได้ต่ำกว่าคุณชายโม่ซวนเลยด้วย แล้วจะให้มาถูกคนลวนลามตามใจชอบเช่นนี้ได้อย่างไร”
มู่เฉียนซีหยิบหินก้อนหนึ่งออกมาแล้วกล่าวว่า “นี่คือหลักฐาน ข้าได้บันทึกเอาไว้แล้ว คำพูดที่เขาเคยพูดเหล่านั้น แน่นอนว่ามันคือเป็นความอัปยศสำหรับข้า! แต่เมื่ออยู่ในอาณาเขตของพวกเจ้า ข้าก็ต้องมีคำอธิบายให้พวกเจ้าแน่นอนอยู่แล้ว เพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้ถูกพวกเจ้ามารังแกได้”
ทันทีที่เมิ่งเสี่ยวชิงได้ยินสิ่งที่อยู่ในศิลาบันทึกเสียงนั้น สีหน้าของนางก็เย็นชาขึ้นมาทันที
ช่างเป็นคนที่มือไม่พายแต่เอาเท้าราน้ำเสียจริง ๆ คิดไม่ถึงว่าจะไปทำตัวเจ้าชู้ใส่มู่เฉินซี แล้วยังถูกอีกฝ่ายจับจุดอ่อนไว้เล่นงานเช่นนี้อีก
“มีทั้งพยานและหลักฐาน ข้าหวังว่าตำหนักเทพวิญญาณหลับใหลของพวกเจ้าคงไม่คิดทำเพื่อเจ้าคนนิสัยไม่ดีคนนั้น แล้วมารังแกแขกอย่างข้าหรอกนะ!” มู่เฉียนซีกล่าวพลางยิ้มบาง ๆ
“แน่นอนว่าไม่มีทางอยู่แล้ว!” เมิ่งเสี่ยวชิงกล่าวตอบอย่างพ่ายแพ้
พรุ่งนี้ก็เป็นวันแต่งงานของเมิ่งเสี่ยวชิงแล้ว ดังนั้นวันนี้จึงมีแขกมาร่วมงานอีกมากมาย
แน่นอนว่ากองกำลังที่มีความแข็งแกร่งที่แท้จริงอย่างจื่อฉงอัน ก็จะมาถึงงานตามฤกษ์มงคลในวันพรุ่งนี้เท่านั้นเช่นกัน
ไป๋เจ๋อ จูเชว่และฉงหมิงในเวลานี้ได้มาถึงเมืองเมิ่งหุยเรียบร้อยแล้ว
ทว่ามู่เฉียนซีกลับให้พวกเขามาในวันพรุ่งนี้ เพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้คนของตำหนักเทพวิญญาณหลับใหลตึงเครียดเกินไป
พวกเขารอคำสั่งอยู่ที่เมืองเมิ่งหุย และหากคนของตำหนักเทพวิญญาณหลับใหลกล้าจัดการมู่เฉินซี พวกเขาจะบุกเข้าไปทันทีอย่างแน่นอน
ข่าวนี้ทางตำหนักเทพวิญญาณหลับใหลก็รู้แล้วเช่นกัน และได้ยินมาว่ามู่เฉินซีมีความสัมพันธ์ที่ดีกับทั้งสามคนนี้อีกด้วย
แม้ว่าพวกเขาจะอายุน้อย แต่พลังทั้งหมดของพวกเขาก็ไม่สามารถที่จะมองข้ามได้เช่นกัน
“เอาเจ้าตาแก่นั่นส่งไปซะ”
“ขอรับ! ท่านเจ้าตำหนัก”
ตำหนักเทพวิญญาณหลับใหลได้ส่งคนมา และพวกเขาก็ยังหามคนอีกคนหนึ่งเข้ามาด้วย ซึ่งเป็นชายวัยกลางที่มีสีหน้าที่ซีดเซียวเป็นอย่างมาก เขาคนนี้ก็คือเจ้าสำนักฉู่ของสำนักลั่วเยว่ ผู้เป็นอาจารย์ของมู่เฉียนซีและฉู่หลีนั่นเอง
มู่เฉียนซีกล่าวอย่างเย็นชาว่า “นี่มันเกิดเรื่องอะไรขึ้นกันแน่?”
เมิ่งเสี่ยวชิงกล่าวว่า “แม่นางมู่ ท่านอย่าพึ่งโมโห ตอนที่พวกเราเจอเจ้าสำนักฉู่ เขาก็ได้กลายเป็นเช่นนี้ไปแล้ว”
“เจ้าแน่ใจว่านี่ไม่ใช่ฝีมือคนของตำหนักเทพวิญญาณหลับใหลของพวกเจ้าอย่างนั้นหรือ?”
“แม่นางมู่ ท่านทำผิดที่มาโทษพวกเราเช่นนี้ หากไม่ใช่เพราะพวกเราหาเจอได้ทันเวลา บางที่ท่านเจ้าสำนักฉู่คงถูกสัตว์วิญญาณตัวไหนสักตัวกินไปแล้วก็ได้ ข้ารู้ว่าแม่นางมู่ต่างก็มีอคติกับข้า แต่อีกไม่นานข้าก็จะกลายเป็นภรรยาของท่านพี่ฉู่หลีแล้ว ฉะนั้นข้าจะไปทำร้ายอาจารย์ที่เลี้ยงดูเขามาจนเติบใหญ่ได้อย่างไร” เมิ่งเสี่ยวชิงกล่าวด้วยสีหน้าที่จริงใจ
มู่เฉียนซีกล่าวว่า “ข้าได้เจอคนแล้ว ตอนนี้พวกเจ้าก็ไสหัวออกไปได้แล้ว!”
เมื่อเห็นสภาพเช่นนี้ของอาจารย์ฉู่ ภายในใจของมู่เฉียนซีในเวลานี้ก็ลุกโชนด้วยความโกรธ และไม่มีความเกรงใจพวกเขาอีกแล้ว
“คนเหล่านี้คือนักปรุงยาที่ข้าให้ตามมาด้วย สามารถดูแลท่านเจ้าสำนักฉู่ได้!” เมิ่งเสี่ยวชิงกล่าว
“ไสหัวไปเถอะ! คนของเจ้า คิดว่าข้าจะวางใจหรือไง?” มู่เฉียนซีกล่าวอย่างเยาะเย้ย
“ดูท่าว่าข้าจะยุ่งมากเกินไป เช่นนั้นรบกวนแม่นางมู่ดูแลท่านอาจารย์ฉู่ให้ดีด้วย ได้ยินข่าวมาว่าทักษะการปรุงยาของหมอปีศาจแห่งหอหมอปีศาจนั้นอยู่ในระดับที่สุดยอดมาก หากสามารถเชิญหมอปีศาจมาได้ บางทีอาจจะสามารถทำให้ท่านเจ้าสำนักฉู่ฟื้นขึ้นมาก็ได้ และข้าคิดว่าท่านพี่ฉู่หลีจะต้องดีใจมากหากท่านเจ้าสำนักฉู่สามารถมาร่วมงานแต่งเขาด้วยตัวเองได้” เมิ่งเสี่ยวชิงกล่าว
คำพูดจากส่วนลึกของหัวใจประโยคนั้นของนางดูจริงใจมาก แต่ผลกลับทำให้มู่เฉียนซีกล่าวอย่างรังเกียจว่า “ทำไมยังไม่ไสหัวไปอีก?”
“เช่นนั้นเสี่ยวชิงขอตัวก่อน” และเมิ่งเสี่ยวชิงก็ยังคงรักษารอยยิ้มที่จอมปลอมนั้นเอาไว้ได้
เมื่อนางหันหลังกลับไปแล้ว ใบหน้าที่เต็มไปด้วยความอ่อนโยนของนางนั้นก็บูดบึ้งและบิดเบี้ยวขึ้นมาทันที
ไม่เคยมีผู้ใดกล้าทำกับนางเช่นนี้มาก่อน! มู่เฉินซี เจ้ากล้านักนะ กล้าดีจริง ๆ!
พรุ่งนี้ รอให้นางกลายเป็นภรรยาของท่านพี่ฉู่หลีก่อนเถอะ และเมื่อนั้นทุกคนก็จะได้เห็นความเก่งกาจของตำหนักเทพวิญญาณหลับใหลของนางจนต้องตกตะลึง จากนั้นนางก็จะทำให้พวกมันเหล่านั้นต้องตายทั้งเป็นอย่างแน่นอน
“พาท่านอาจารย์เข้าไปในห้อง เบา ๆ หน่อย” มู่เฉียนซีออกคำสั่ง
“ขอรับ!”
มู่เฉียนซีเริ่มตรวจสอบร่างกายของอาจารย์ฉู่ “ไม่มีการใช้ยาพิษ และก็ไม่ได้รับบาดเจ็บด้วย แต่ท่านอาจารย์กลับหมดสติจนไม่ยอมตื่น นี่มันเป็นเพราะอะไรกันแน่?”
นางคิดไปถึงวิธีการพิเศษของตำหนักเทพวิญญาณหลับใหล และมันก็คือวิธีการที่สามารถทำให้คนตกอยู่ในความฝัน ซึ่งเกรงว่าท่านอาจารย์กำลังตกอยู่ในห้วงแห่งความฝันเข้าเสียแล้ว
ราวกับตกอยู่ในห้วงแห่งความฝันอย่างนั้นหรือ?
ดูเหมือนว่านิรันดร์จะทำยาลูกกลอนเล่น ๆ ออกมาอย่างหนึ่ง ทันทีที่มู่เฉียนซีค้นดู ก็พบว่ามันก็มีอยู่จริง ๆ!
มู่เฉียนซีให้เหลิ่งหนิงจือคอยคุ้มกัน จากนั้นนางก็เริ่มหลอมยาลูกกลอนออกมา และเอายาเม็ดนั้นวางไว้ภายในห้อง จนกลิ่นหอมจาง ๆ ลอยคละคลุ้งไปทั่ว
มู่เฉียนซีรวบรวมพลังจิตวิญญาณ และเข้าไปในความฝันของท่านอาจารย์ฉู่
“อาจารย์ฉู่ ข้าทำเพราะต้องช่วยท่าน หากไม่ทันระวังจนไปเห็นความลับของท่าน ก็โปรดยกโทษให้ข้าด้วย”
มู่เฉียนซีมองเห็นความฝันของเจ้าสำนักฉู่ และก็ได้เห็นเจ้าก้อนแป้งขาวก้อนหนึ่งที่หน้าตาเหมือนกับศิษย์พี่ของนางมาก แต่กลับไม่มีความเย็นชาและหน้าตาที่เฉยเมยกับทุกเรื่องเหมือนกับศิษย์พี่เลย อีกทั้งยังน่ารักมากอีกด้วย!
แม้แต่มู่เฉียนซีก็ยังอดที่จะถูกดึงดูดไปด้วยไม่ได้ ผลก็คือศิษย์พี่ตัวน้อยผู้นี้ติดท่านอาจารย์เป็นอย่างมาก และเมื่อท่านอาจารย์ฉู่เดินไปไหนเขาก็ไล่ตามไปด้วยอย่างไม่หยุดหย่อนเลยทีเดียว
“ท่านอาจารย์…ท่านอาจารย์…”
“ท่านอาจารย์อุ้ม!”
“……”
เมื่อได้เห็นความสัมพันธ์ที่ดีของศิษย์และอาจารย์ทั้งสอง มุมปากของมู่เฉียนซีก็ยกขึ้นเล็กน้อย นางมั่นใจเลยว่าศิษย์พี่ในตอนที่ยังเด็กจะต้องไม่ได้เป็นเช่นนี้แน่นอน และนี่ก็คงเป็นสาเหตุที่ทำให้ท่านอาจารย์หลงใหลอยู่ในความฝันเช่นนี้ เพราะเป็นดินแดนแห่งความฝันมันถึงเปลี่ยนไปได้ขนาดนี้นั่นเอง
มู่เฉียนซีลองพยายามติดต่ออาจารย์ฉู่ “ท่านอาจารย์ฉู่ ท่านตื่นขึ้นมาเถิด ท่านถูกคนลอบทำร้ายจนเข้ามาอยู่ในดินแดนแห่งความฝันนานมากแล้ว หากท่านยังไม่ตื่นขึ้นมา ศิษย์พี่จะต้องถูกบังคับให้แต่งงานกับนางผู้หญิงจอมปลอมใจอำมหิตนั่นเป็นแน่”
“อะไรนะ? ลูกศิษย์ของข้าจะแต่งงานอย่างนั้นหรือ แล้วไม่บอกข้าเนี่ยนะ เจ้าเด็กบ้านี่ ชักจะไม่เข้าท่าไปกันใหญ่แล้ว”
แม้ความสามารถของอาจารย์ฉู่จะไม่ได้แข็งแกร่งมากนัก แต่ทว่าจิตใจและกำลังใจของเขานั้นกลับไม่เลวเลยทีเดียว และเขาก็จะตื่นขึ้นมาด้วยความช่วยเหลือของมู่เฉียนซี
“ศิษย์น้อย ข้าจะตื่นเดี๋ยวนี้ เดี๋ยวนี้เลย…”
“พวกเจ้าไม่ต้องกังวลไปนะ!”
ในตอนที่อาจารย์ฉู่พยายามที่จะตื่นขึ้นมาให้ได้นั้น ก็ได้มีสิ่งมืดมิดอย่างหนึ่งพุ่งเข้ามาจู่โจมมู่เฉียนซี และจ้องมองไปยังคนที่จะทำลายเรื่องดี ๆ ของมันอย่างดุร้าย
“ศิษย์น้อย ระวัง! คือเจ้าสิ่งนี้ เจ้าสิ่งนี้ทำร้ายจนข้าตกอยู่ในห้วงแห่งความฝันเช่นนี้ อย่าให้มันมาแตะต้องตัวได้เป็นอันขาด” ความทรงจำของอาจารย์ฉู่เริ่มกลับมาแล้ว และเขาก็ได้กล่าวเตือนมู่เฉียนซีอย่างอกสั่นขวัญแขวน
แต่เจ้าสิ่งนี้ช่างรวดเร็วกมาเหลือเกิน ภายในความฝันนี้คือเขตแดนของมัน และมันสามารถทำได้ตามที่ใจปรารถนา อยากจะเร็วมากขึ้นเท่าไรก็ย่อมได้ ดังนั้นมันจึงเข้ามาพัวพันกับมู่เฉียนซีได้อย่างราบรื่นเช่นนี้