ท่านอ๋องผู้โหดร้ายกับหมอปีศาจ - ตอนที่ 1970 ตัดตรงนั้นไปแล้ว
ความจริงแล้วคนของตระกูลเมิ่งนี้ก็ดูถูกมู่เฉียนซีเกินไปหน่อยเช่นกัน การต่อสู้กับเมิ่งเสี้ยวผู้นั้น พวกเขาคิดว่านางจะใช้ไม้ตายทั้งหมดแล้วอย่างนั้นหรือ?
“แสงปีศาจพินาศ!” ลูกบอลแสงขนาดเท่ากำปั้นที่ไม่เล็กไม่ใหญ่ลูกหนึ่ง พุ่งเข้าโจมตีไปที่หน้าอกของมู่เฉียนซี
ความเร็วนั้นรวดเร็วมาก และเขาก็มั่นใจมากว่าอีกฝ่ายต้องหมดหนทางหลบหลีกอย่างแน่นอน
แต่ทว่า เพียงชั่วพริบตาเดียวนั้น มู่เฉียนซีก็มาปรากฏตัวอยู่เบื้องหลังของเขาเสียแล้ว
เขามั่นใจในตนเองมากเกินไปแล้ว และเขาก็ไม่ได้เตรียมตัวป้องกันมู่เฉียนซีเอาไว้เลย ดังนั้นมู่เฉียนซีจึงฉวยโอกาสนี้โจมตีกลับ
“พลังวายุทำลาย ดาวกระจาย!”
โครมมม!
ร่างของคุณชายรองเมิ่งลอยกระเด็นออกไป ต้องขอบคุณการคุ้มครองที่ยอดเยี่ยมของพลังปีศาจ จึงทำให้เขาไม่ได้รับบาดเจ็บสาหัส และมีเพียงแค่เลือดไหลออกมาจากมุมปากเพียงเล็กน้อยเท่านั้น
“เจ้า…เป็นไปได้อย่างไรกัน?” คุณชายรองเมิ่งกล่าวด้วยความตื่นตะลึง
“หรือว่าเจ้าเตรียมมาแค่การเพิ่มความเร็วเท่านั้น เจ้าไม่เชื่ออย่างนั้นหรือ? มีความเร็วระดับผู้บำเพ็ญภูตพลังขั้นภูตศักดิ์สิทธิ์แล้วอย่างไรล่ะ? ตอนนี้ข้าก็ยังเร็วกว่าเจ้าอยู่ดี” มู่เฉียนซีกล่าวอย่างเยาะเย้ย
“ดีมาก! ดีจริง ๆ คิดไม่ถึงเลยว่าเจ้าจะกล้าทำร้ายข้า ข้าจะฉีกเจ้าเป็นชิ้น ๆ แน่!”
พลังปีศาจที่น่าสะพรึงกลัวทำให้มิติของบริเวณโดยรอบเริ่มบิดเบี้ยวขึ้นมา พร้อมกันนั้นกระบวนท่าของทักษะสังหารก็กำลังถูกเขาร่ายออกมาอีกด้วย
พลังอันน่าสะพรึงกลัวนี้ราวกับว่าสามารถทำให้ยอดเขาราบเป็นหน้ากองได้อย่างไรอย่างนั้น หากใช้ความเร็วตามปกติของนางคงหมดหนทางที่จะหลบหลีกได้ แต่หากใช้การเคลื่อนย้ายภายในชั่วพริบตาแล้วละก็ การหลบหลีกสิ่งนี้ก็ไม่ใช่ปัญหาเลย
ตูมมม!
มีเสียงดังสะนั่นหวั่นไหวเกิดขึ้น และการโจมตีของคุณชายรองเมิ่งก็ล้มเหลวอีกครั้ง
การโจมตีในครั้งนี้ทำให้เกิดหลุมขนาดใหญ่ขึ้นมาบนพื้น และทันใดนั้นอาวุธลับก็พุ่งเข้ามาโจมตีจากทั่วทุกทิศทาง
มันแน่นขนัดและน่าสะพรึงกลัวเป็นอย่างยิ่ง จนคุณชายรองเมิ่งเกิดความสับสนขึ้นในใจ หากเขาไม่มีพลังมากพอที่จะหลบหลีกการโจมตีนี้ละก็ เขาจะต้องโดนโจมตีอย่างแน่นอน
แต่ทว่าในเวลานี้เอง มู่เฉียนซีได้เข้ามาใกล้…
“พลังวายุทำลาย ดาวกระจาย!”
ทันใดนั้น พัดวิหคเฟิงหลิงก็กางออก และทิ้งรอยแผลฉกรรจ์ที่ลึกจนเห็นกระดูกไว้บนตัวของเขาสองสามแห่ง เลือดสด ๆ พลันสาดกระเซ็นออกมา
คุณชายรองเมิ่งยังคงไม่ยอมแพ้ เขาพุ่งทะยานออกไปแล้วกล่าวว่า “ข้าจะสู้กับเจ้า!”
เขาพุ่งทะยานไปทางมู่เฉียนซี เพื่อพยายามที่จะใช้พลังปีศาจล่วงล้ำเข้าไปในร่างของมู่เฉียนซี และยังต้องการที่จะใช้พลังปีศาจทำลายพลังวิญญาณของมู่เฉียนซีอีกด้วย
แต่ทว่าด้วยร่างกายของมู่เฉียนซีเคยผ่านการฝึกฝนจากสายฟ้าที่รุนแรงนานาชนิดมาซ้ำแล้วซ้ำเล่า มันจึงทำให้พลังปีศาจที่ครึ่ง ๆ กลาง ๆ นี้ไม่สามารถใช้งานใด ๆ ได้เลย
ร่างทั้งสองสว่างวาบขึ้น จากนั้นก็ปะทะเข้าด้วยกันราวกับสายฟ้าอย่างไรอย่างนั้น คุณชายรองเมิ่งยากที่จะจินตนาการออกว่าคนที่เขาต่อสู้ด้วยนั้นเป็นเพียงผู้บำเพ็ญภูตพลังขั้นมหาจักรพรรดิแห่งภูตระดับแปดคนหนึ่งเท่านั้น ซึ่งเรื่องนี้มันเป็นไปไม่ได้เลย
เขารู้สึกถึงเลือดที่พลุ่งพล่านไปทั่วร่างกาย แต่ทว่าสถานที่แห่งนี้กลับไม่มีเรื่องอะไรเกิดขึ้นเลยแม้แต่น้อย
“เหตุใดเจ้าถึงไม่เป็นอะไรเลยล่ะ? นี่มันเป็นไปไม่ได้…”
“ที่จริงแล้วเจ้าใช้วิธีไหนในการป้องกันกันแน่?”
มู่เฉียนซีกล่าวว่า “ถึงแม้ว่าทักษะวิญญาณของเจ้าจะทรงพลังและแข็งแกร่งมาก แต่ก็สูญเสียพลังวิญญาณไปมากแล้วเช่นกัน และข้าก็รู้สึกว่าตอนนี้เจ้าน่าจะใช้พลังไปจนหมดแล้ว เช่นนั้น พวกเรามาจบมันกันเถอะ!”
แผ่นหลังของเขารู้สึกว่าร้อนผะผ่าวขึ้นมาทันที และในเวลานี้เสี่ยวโม่โม่ก็ปรากฏตัวอยู่เบื้องหลังของเขาแล้ว
“ในเมื่อนายท่านบอกว่าจบแล้ว มันก็ต้องจบ!”
พรึ่บ!
เปลวเพลิงสีดำห่อหุ้มคุณชายรองเมิ่งขึ้นมา
เขาคำรามกล่าวว่า “ไอ้พวกสวะเอ้ย!”
คนที่เขาส่งให้ไปขวางเสี่ยวโม่โม่เหล่านั้นต่างก็ยิ้มออกมาอย่างขมขื่น พวกเขาก็หมดหนทางแล้วเช่นกัน เพราะสัตว์เทพตัวนี้วิปลาสยิ่งกว่าสัตว์เทพทั่วไปมากนัก
ปัง ปัง ปัง!
ส่วนคนอื่น ๆ ก็ถูกหุ่นเชิดจัดการแล้วเช่นกัน
หุ่นเชิดระดับสูงนั้นต้องใช้ผนึกซวนจำนวนมาก แต่ทว่าหอหมอปีศาจไม่มีทางขาดผนึกซวนเหล่านี้อยู่แล้ว พวกเขาเพียงแค่ใช้พวกมัน และปล่อยให้พวกมันต่อสู้ตามใจชอบเพียงเท่านั้นเอง
คุณชายรองเมิ่งร้องคำรามออกมาว่า “มู่เฉินซี เจ้ารีบให้เจ้าสัตว์เทพนี่ดับไฟเร็วเข้า เร็ว ๆ เลย…”
“หากมีเรื่องร้ายเกิดขึ้นกับข้า แน่นอนว่าข้าไม่มีทางปล่อยเจ้าไปแน่!”
“มู่เฉินซี…”
น้ำเสียงของคุณชายรองเมิ่งเริ่มอ่อนแรงลงเรื่อย ๆ มุมปากของมู่เฉียนซีกระตุกยิ้มเล็กน้อย มีกลิ่นอายสองสามร่างที่หลบซ่อนอยู่ในความมืดมิด และพวกเขาก็เตรียมที่จะลงมือแล้ว คงจะกลัวนางฆ่าเจ้าหมอนี่ขึ้นมาจริง ๆ ล่ะสินะ
เพิ่งจะต่อสู้กันไปเพียงแค่รอบเดียวเท่านั้น และในเวลานี้นางก็ยังไม่อยากที่จะแตกหักกับตำหนักเทพวิญญาณหลับใหลอย่างสมบูรณ์ ถึงอย่างไรเสียตอนนี้นางก็ยังไม่รู้ถึงความล้ำลึกของพวกเขาเลย
มู่เฉียนซีกล่าวว่า “เสี่ยวโม่โม่ เรียกเปลวเพลิงคืนกลับมาเถอะ!”
“เจ้าค่ะ นายท่าน!”
ทันทีที่เสี่ยวโม่โม่เคลื่อนไหว เพลิงหงส์อมตะแห่งความมืดนั้นก็หายไปอย่างสมบูรณ์ มู่เฉียนซีพุ่งไปทางคุณชายรองเมิ่ง และใช้เท้าเหยียบลงไปบนปากแผลสีดำสนิทนั่น
“โอ้ยยย!” คุณชายรองเมิ่งส่งเสียงร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด
“เจ็บเหลือเกิน เจ็บจะตายอยู่แล้ว…”
“รีบปล่อยเร็วเข้า! เร็วสิ…”
“เจ้าอยากถูกฆ่าอย่างนั้นหรือ?”
มู่เฉียนซีกล่าวอย่างเย็นชาว่า “ตอบคำถามข้ามาข้อหนึ่ง ศิษย์พี่ของข้าอยู่ที่ใด? มิฉะนั้นจะถือว่าเจ้าไม่เอาแขนข้างนี้อีกแล้ว”
คุณชายรองเมิ่งกล่าวว่า “ข้าไม่รู้จริง ๆ ศิษย์พี่คนนั้นของเจ้าเป็นสมบัติที่ล้ำค่ายิ่งของน้องสาวของข้า นอกจากพี่ใหญ่ น้องสาวของข้าและท่านแม่แล้ว คนอื่นก็ไม่มีใครรู้หรอกว่าตอนนี้เขาไปอยู่ที่ไหน”
มู่เฉียนซีใช้แรงเหยียบลงไปหนักขึ้นอีก พลางถามว่า “เจ้าแน่ใจนะว่าเจ้าไม่รู้จริง ๆ”
“โอ้ยยยย…” เขากรีดร้องออกมาอย่างน่าเวทนามากกว่าปกติ
“เจ้าจะต้องเชื่อข้า เชื่อข้าสิ! ข้า…”
“เรื่องแค่นี้ก็ไม่รู้ แล้วเจ้าจะไปมีประโยชน์อะไรล่ะ?”
“เจ้าฆ่าข้าไม่ได้ ท่านแม่ของข้าไม่มีทางปล่อยเจ้าไปแน่” แม้ว่าเขาจะไม่ได้รับความโปรดปรานมากนัก แต่ถึงอย่างไรเขาก็เป็นลูกชายที่ท่านแม่คลอดออกมาด้วยตนเอง และจะให้คนนอกคนหนึ่งมาสังหารเขาในอาณาเขตของพวกเขาได้อย่างไร
มู่เฉียนซีพยักหน้าเล็กน้อยพลางกล่าวว่า “ได้! ข้าจะไม่ฆ่าเจ้า แต่คำเหล่านั้นที่เจ้าพูดออกมาในวันนี้ ข้าและเพื่อนของข้าไม่พอใจเป็นอย่างมาก ดังนั้น…”
ธาตุวายุได้เปลี่ยนจนกลายเป็นดาบวายุเล่มหนึ่ง และมันก็กวัดแกว่งเป็นมุมโค้งที่กลางอากาศ จากนั้นก็พุ่งตรงเข้าไปหาเขา…
“เจ้าต้องการจะทำอะไร? เจ้าบอกว่าเจ้าจะไม่ฆ่าข้าไม่ใช่หรือ?”
ดาบวายุเล่มนั้น เกือบที่จะตัดลงไปที่คอของเขา สีหน้าของคุณชายรองเมิ่งซีดเผือด และเขาก็กลัวจนฉี่เกือบที่จะราดออกมาอยู่แล้ว
ซวบ!
ดาบวายุเล่มนั้นทิ้งรอยแผลไว้บนต้นคอของเขา แต่กลับไม่ได้ทำให้ถึงชีวิต
เขาไม่ได้สูญเสียชีวิตนี้ไป แต่ทว่าทันใดนั้นเอง ดวงตาของเขาก็ต้องเบิกกว้างขึ้น ทำไมข้างล่างมันเย็น…
“อ๊ากกกกก!” เสียกรีดร้องโหยหวนจวนจะขาดใจดังขึ้น เขาถูกตัดแล้ว ถูกตัดไปแล้ว…
“จะ…เจ้า…” เขาโกรธเกรี้ยวจนพูดอะไรไม่ออกแล้ว
มู่เฉียนซีกล่าวว่า “กล้ามาทำให้ข้าโมโห สมควรโดนแล้ว!”
การโจมตีเมื่อครู่นี้ ความจริงแล้วเป็นความคิดของพิฆาตวิญญาณ
หากนางไม่ทำให้เขาพิการแล้วละก็ เกรงว่าพิฆาตวิญญาณคงจะถลกหนังของผู้ชายคนนี้ทั้งเป็นแน่นอน
ตึง! คุณชายรองเมิ่งหมดสติไปทันที
เหลิ่งหนิงจือกล่าวว่า “นายท่านทำถูกแล้ว จะจัดการกับคนใจกล้าอย่างเจ้าหมอนี่ นี่คือวิธีที่ควรทำแล้ว ”
“ไปกันเถอะ! คาดว่าวันนี้พวกเราคงจะไม่ได้อะไรแล้วล่ะ ที่เมิ่งเสี่ยวชิงกล้าปล่อยให้ข้าเข้ามาที่ตำหนักเทพวิญญาณหลับใหล คงจะมั่นใจเต็มร้อยว่าข้าไม่มีทางที่จะหาศิษย์พี่เจอ คืนนี้พักผ่อนกันก่อนเถอะ หลังจากนี้ค่อยรอดูสถานการณ์อีกที” มู่เฉียนซีกล่าวตอบ
“เจ้าค่ะ นายท่าน!”
หลังจากที่มู่เฉียนซีจากไปแล้ว คนอื่น ๆ ก็เข้ามาช่วยเหลือคุณชายรองเมิ่งอย่างรีบร้อน ในตอนที่พวกเขารู้ว่าคุณชายรองเมิ่งได้รับบาดเจ็บสาหัสตรงส่วนไหนแล้ว ทุกคนต่างยืนแข็งทื่ออยู่ตรงนั้นทันที
ไม่น่าแปลกใจเลยที่คุณชายรองเมิ่งกรีดร้องอย่างน่าเวทนาเช่นนั้น คิดไม่ถึงว่าเจ้าสิ่งนั้นจะถูกตัดออกไปแล้ว ผู้หญิงคนนั้นโหดเหี้ยมเกินไปหน่อยแล้ว!
“เร็วเข้า!”
“หากสายกว่านี้อีกนิดจะไม่ทันการแล้ว”
“…”
พวกเขารีบลากคนออกไปอย่างรีบร้อน และเมื่อข่าวคราวนี้รู้ไปถึงหูของเจ้าตำหนักเมิ่ง ใบหน้าที่อ่อนโยนของเจ้าตำหนักเมิ่งก็เป็นมืดมนขึ้นมาทันที
“มู่เฉินซี หากไม่ใช่เพราะตอนนี้ข้ามีเรื่องที่ต้องกังวลบางอย่าง คงไม่ปล่อยให้เจ้าเอาหุ่นเชิดผู้บำเพ็ญภูตพลังขั้นภูตศักดิ์สิทธิ์ระดับสูงสุดเพียงแค่ไม่กี่ตัวนั่นมาทำเป็นอวดดีในตำหนักเทพวิญญาณหลับใหลของข้าได้หรอก!”
.