ท่านอ๋องผู้โหดร้ายกับหมอปีศาจ - ตอนที่ 1957 การต่อสู้อันดุเดือดของบุตรแห่งสวรรค์
- Home
- All Mangas
- ท่านอ๋องผู้โหดร้ายกับหมอปีศาจ
- ตอนที่ 1957 การต่อสู้อันดุเดือดของบุตรแห่งสวรรค์
คราวนี้พวกเขาได้เตรียมตัวเอาไว้นานแล้ว ส่วนกำลังคนก็เตรียมเอาไว้พร้อมแล้ว รับประกันได้ว่าไร้ข้อผิดผลาด และไม่มีทางพ่ายแพ้ให้กับคนของพวกสมาคมการค้าเฮยอวิ๋นกับสำนักหลางซิงเหล่านี้อย่างแน่นอน
ฉงหมิงได้พาคนเข้าโจมตีพวกเขา แม้ว่าจะไม่เร็วเท่ากับฝ่ายของมู่เฉียนซี แต่ก็สามารถเอาชนะพวกเขาได้อย่างรวดเร็วเช่นกัน
แต่ในตอนที่เขากำลังจะคว้าชัยชนะครั้งใหญ่มาได้นั้น จู่ ๆ ก็มีกลุ่มของผู้แข็งแกร่งปรากฏตัวขึ้นมาอย่างกะทันหัน
กลุ่มคนของสำนักหลางซิงเมื่อเห็นว่ามีคนมาก็ตื่นเต้นเป็นอย่างมาก ”พวกเจ้า….พวกเจ้ามาช่วยพวกข้าใช่หรือไม่?”
“ฝ่าบาทส่งพวกเรามาที่นี่”
แสงเย็นยะเยือกสว่างวาบในแววตาของฉงหมิง คนเหล่านี้เป็นคนที่มู่หลินหลางส่งมานั่นเอง
เขาออกคำสั่งอย่างรวดเร็วและเฉียบขาด ”วางค่ายกล โจมตี! ปล่อยอาวุธลับ!”
ฟิ้ว ฟิ้ว ฟิ้ว!
คนเหล่านี้ไม่สามารถเก็บเอาไว้ได้แน่นอนอยู่แล้ว
ปัง ปัง ปัง!
แต่ทว่าการโจมตีของพวกเขาถูกขวางเอาไว้ได้
ผู้บำเพ็ญภูตพลังขั้นภูตศักดิ์สิทธิ์ระดับสูงสุด และอีกฝ่ายมีกระทั่งยอดฝีมือระดับผู้บำเพ็ญภูตพลังขั้นราชันวิญญาณอีกด้วย ซึ่งเป็นเรื่องที่เหนือความคาดหมายของพวกเขามากทีเดียว
เสียงที่ดูแก่ชราเสียงหนึ่งดังขึ้นมา ”เจ้าพวกเด็กน้อยสำนักหลางซิง เด็กสาวที่ชื่อว่ามู่เฉินซีผู้นั้นอยู่ที่ใดกัน? ข้อมูลที่พวกเจ้าเผยแพร่ออกมาไม่ใช่ที่นี่อย่างนั้นหรือ?”
สายตาที่ขุ่นมัวกวาดไปทั่ว และพวกเขาก็ค้นพบว่าสถานที่แห่งนี้ไม่มีสาวน้อยที่ชื่อว่ามู่เฉินซีคนนั้นเลย
“พวกเจ้านี่ช่างกล้าหาญเสียจริง ๆ! คิดไม่ถึงเลยว่าจะกล้าหลอกลวงฝ่าบาท”
ในเวลานี้คนของสำนักหลางซิงที่ถูกโจมตีจนบาดเจ็บสาหัส ได้กล่าวขึ้นมาอย่างร้อนรนว่า ”นายท่าน พวกข้าไม่กล้าหลอกลวงฝ่าบาทของพวกท่านอย่างแน่นอน เพียงแต่ข้อมูลที่พวกเราได้รับมีความผิดพลาด เดิมทีแล้วมู่เฉินซีไม่ได้อยู่ที่นี่ และขอเพียงแค่จับคุณชายฉงหมิงให้ได้เท่านั้น มู่เฉินซีผู้นั้นก็จะหนีไปไม่รอดแล้ว”
ชายชราผู้นั้นกล่าวด้วยเสียงที่ทุ้มต่ำว่า ”คุณชายฉงหมิงอย่างนั้นหรือ? คนผู้นี้ไม่ได้อยู่ภายใต้การดูแลของราชวงศ์ ฉะนั้นควรฆ่าทิ้งเท่านั้น!”
ทันใดนั้น ชายชราชุดดำผู้นั้นก็พุ่งตรงมาทางฉงหมิง
ด้วยแรงกดดันของระดับผู้บำเพ็ญภูตพลังขั้นราชันวิญญาณ ทำให้ฉงหมิงหมดหนทางที่จะเคลื่อนไหวได้เลย แต่ทว่าสีหน้าของเขากลับไม่เผยความหวาดกลัวออกมาเลยแม้แต่นิดเดียว
ในตอนที่ผู้บำเพ็ญภูตพลังขั้นราชันวิญญาณคนนั้นต้องการจะสังหารฉงหมิง ร่างสีขาวร่างหนึ่งก็ปรากฏตัวขึ้นมาอย่างกะทันหัน และขวางการโจมตีของผู้บำเพ็ญภูตพลังขั้นราชันวิญญาณผู้นี้เอาไว้
ตูมมมม!
พลังอันน่าสะพรึงกลัวทั้งสองปะทะเข้าด้วยกัน จนทำให้สะเทือนเลือนลั่นไปหมด
ผู้บำเพ็ญภูตพลังขั้นราชันวิญญาณชุดคลุมดำผู้นั้นกล่าวอย่างประหลาดใจว่า ”ผู้บำเพ็ญภูตพลังขั้นราชันวิญญาณ เจ้าเป็นใครกัน? คุณชายฉงหมิงผู้นี้เป็นใครกันแน่?”
ตอนนี้คนของสมาคมการค้าเฮยอวิ๋น อีกทั้งสำนักสือเหมิน รวมไปถึงคนของผู้นำตระกูลเซี่ยโหวเหล่านั้นต่างก็ตะลึงงันไปแล้วเช่นกัน ”ผู้บำเพ็ญภูตพลังขั้นราชันวิญญาณ คิดไม่ถึงว่าเบื้องหลังของคุณชายฉงหมิงจะมีผู้บำเพ็ญภูตพลังขั้นราชันวิญญาณคอยปกป้องอยู่ด้วย”
“หากพวกเรารู้ว่าเบื้องหลังของคุณชายฉงหมิงมีผู้บำเพ็ญภูตพลังขั้นราชันวิญญาณอยู่ด้วย พวกเราจะกล้าตั้งตัวเป็นศัตรูกับเขาได้อย่างกัน?”
ระดับสูงที่สุดของกองกำลังระดับสี่มีเพียงผู้บำเพ็ญภูตพลังขั้นภูตศักดิ์สิทธิ์ระดับสูงสุดเท่านั้นเอง ต่อให้ใช้ทั้งสำนักต่างไม่มีทางที่จะต่อต้านพลังของผู้บำเพ็ญภูตพลังขั้นราชันวิญญาณได้อยู่ดี
มีเพียงราชวงศ์ตงหวงเท่านั้นที่มีพลังของผู้บำเพ็ญภูตพลังขั้นราชันวิญญาณ อีกทั้งยังต้องมีพลังเกินกว่ากองกำลังระดับสี่ไปจนถึงระดับสี่ดาวครึ่งถึงจะมียอดฝีมือระดับผู้บำเพ็ญภูตพลังขั้นราชันวิญญาณได้ นอกจากนี้ยังมีตระกูลโบราณที่ซ่อนตัวอย่างสันโดษที่มีพลังเทียบเท่ากองกำลังสี่ดาวครึ่งไปจนถึงกองกำลังระดับห้าเหล่านั้นอีกด้วย
ชายชราในชุดคลุมขาวกล่าวว่า ”คุณชายของพวกเราเป็นใคร สุนัขรับใช้อย่างเจ้าไม่จำเป็นต้องรู้หรอก”
ตูมมม!
ทั้งสองต่างก็เป็นระดับผู้บำเพ็ญภูตพลังขั้นราชันวิญญาณเหมือนกัน ความแข็งแกร่งจึงสามารถเทียบเคียงกันได้
“ลงมือ!”
แต่ทว่าชายชุดดำไม่ได้มาต่อสู้เพียงลำพัง และคนอื่นก็เริ่มเคลื่อนไหวด้วยเช่นกัน
ตัวคุณชายฉงหมิงเองก็มีความสามารถอยู่ไม่น้อยเช่นกัน คนที่รับมือยากอย่างเจ้าหมอนี่ไม่ได้อยู่ภายใต้การควบคุมของราชวงศ์ แต่เบื้องหลังกลับมีผู้บำเพ็ญภูตพลังขั้นราชันวิญญาณคอยคุ้มครองอยู่ ต้องไม่ธรรมดาอย่างแน่นอน
คนผู้นี้ต้องจับกุมไปให้ได้ และถามให้ชัดเจนว่ากองกำลังไหนคือผู้อยู่เบื้องหลังของเขากันแน่?
ฉงหมิงกล่าวอย่างเย็นชาว่า “ข้าจะต้องกลัวพวกเจ้าด้วยหรือ? ลงมือได้!”
ตูมม โครมมม!
ทั้งสองฝ่ายต่อสู้กันอย่างดุเดือด แต่คนของคุณชายฉงหมิงก็ไม่ได้โง่ จึงสามารถสกัดกั้นการโจมตีของพวกเขาไว้ได้
ร่างสีดำโหมกระหน่ำใส่พวกเขาราวกับพายุฝนที่บ้าคลั่งอย่างไรอย่างนั้น และพลังธาตุอัคคีของเขาก็ระเบิดออกมาก เพื่อเข้าต่อสู้กับพวกมัน
ตูมมมม!
ทั้งสองคนเข้าปะทะกัน และอีกฝ่ายก็ร่ายทักษะธาตุอัคคีออกมาด้วยเช่นกัน
ฉงหมิงกล่าวว่า ”จอมภูตธาตุอัคคีวายุ อีกทั้งยังเป็นผู้บำเพ็ญภูตพลังขั้นปราชญ์แห่งภูตระดับสูงสุด เหตุใดคนอย่างเจ้าถึงยังสามารถมีชีวิตอยู่แล้วกลายเป็นสุนัขรับใช้ของมู่หลินหลางได้ ช่างน่าแปลกเสียจริง! ทำไมมู่หลินหลางถึงไม่ได้ฆ่าเจ้ากัน?”
คนผู้นี้มีความสามารถที่แข็งแกร่งมาก แม้ว่าจะเคยเห็นคนที่แปลกประหลาดอย่างมู่เฉินซีแล้ว แต่ฉงหมิงก็ต้องชื่นชมคนผู้นี้จริง ๆ
น้ำเสียงที่เย็นยะเยือกและไม่มีความสั่นคลอนใด ๆ เลยดังขึ้น ”ผู้ที่ใส่ร้ายฝ่าบาท มันต้องตาย!”
“นั่นเรียกว่าใส่ร้ายอย่างนั้นหรือ? ข้าก็แค่พูดเรื่องจริงเท่านั้น สุนัขรับใช้ตัวนี้ช่างจริงใจเสียจริง ๆ” ฉงหมิงกล่าวเย้ยหยัน
สีหน้าของคนที่อยู่เบื้องหน้าเปลี่ยนเป็นเย็นชามาขึ้นทันที และแต่ละกระบวนท่านั้นหมายจะเอาชีวิต และไร้ความปรานีอย่างสิ้นเชิง!
“เงาวายุเพลิงพินาศ!”
พลังธาตุวายุที่เต็มไปด้วยจิตสังหารที่เข้มข้น พัดโหมกระหน่ำเข้าใส่ฉงหมิง
ฉงหมิงกล่าวว่า “ข้าจะต้องกลัวเจ้าด้วยอย่างนั้นหรือ?”
หอกยาวของฉงหมิงหมุนวน เปลวเพลิงสีแดงก่ำพุ่งทะยานออกไปราวกันลูกศรอย่างไรอย่างนั้น
เขาในฐานะที่เป็นนักหลอมอาวุธ มหาวัตถุศักดิ์สิทธิ์เทพของเขาเป็นอาวุธที่ดีที่สุด อีกทั้งยังสามารถทำให้เขาร่ายทักษะธาตุอัคคีในการโจมตีที่แข็งแกร่ง และรุนแรงมากที่สุดอีกด้วย!
แต่อีกฝ่ายก็ร่ายทักษะธาตุอัคคีด้วยเช่นกัน และเมื่อต่อสู้แบบตัวต่อตัวกับฉงหมิง เขาก็ใช้ธาตุวายุในการโจมตีจากทั่วทุกทิศทางอีกด้วย
“ผู้บำเพ็ญจอมภูตพลังธาตุคู่นี่มันน่ารำคาญจริง ๆ อีกทั้งยังรับมือยากมากด้วย!”
ตูมมมม!
บุตรแห่งสวรรค์ทั้งสอง ภายในชั่วพริบตาเดียวก็เข้าปะทะกันหลายรอบรอบแล้ว
เสื้อคลุมของฉงหมิงขาดวิ่น เขากล่าวอย่างโกรธเคืองว่า ”เจ้าหมอนี่ลงมือได้โหดเหี้ยมจริง ๆ เลย! หากข้าไม่ได้เตรียมอาวุธวิญญาณป้องกันมามากมายละก็ คงจะบาดเจ็บสาหัสจนเสียเลือดมากมายไปแล้ว”
เสื้อคลุมสีดำของอีกฝ่ายนั้นถูกเผาไหม้ และสีหน้าของเขาก็ดูซีดเผือดเล็กน้อย
ทั้งสองเข้าปะทะกันอีกครั้ง และเปลวเพลิงก็เข้าปะทะกันอย่างดุเดือด จนกลายเป็นดอกไม้ไฟที่ระเบิดขึ้นกลางอากาศ
ในเวลานี้มู่เฉียนซีกำลังตรงไปทางนั้นอย่างกล้าหาญ และค้นพบว่าธาตุอัคคีนั้นดูคุ้นเคยเป็นอย่างมาก มีของฉงหมิง และยังมีอีกคนที่รู้สึกคุ้นเคยมาก
สีหน้าของนางเปลี่ยนไปในทันที ”แย่แล้ว! มีผู้แข็งแกร่งระดับผู้บำเพ็ญภูตพลังขั้นราชันวิญญาณอยู่ด้วย พวกเราจะต้องรีบไปทางนั้นแล้ว”
สีหน้าของคนอื่นเปลี่ยนไปมากเช่นกัน ”แม่นางมู่ ท่านแน่ใจนะว่าไม่ได้รู้สึกผิดไปน่ะ! มีผู้แข็งแกร่งระดับผู้บำเพ็ญภูตพลังขั้นราชันวิญญาณ นี่มันเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้ไม่ใช่หรือ? กองกำลังทั้งสี่นั้นก็มีแค่เพียงกองกำลังระดับสี่เท่านั้นเอง แล้วผู้แข็งแกร่งระดับผู้บำเพ็ญภูตพลังขั้นราชันวิญญาณมาจากที่ไหนกัน?”
“บางทีอาจจะไปเชิญให้มาช่วยมาจากข้างนอกก็ได้ สถานการณ์เปลี่ยนไป เพิ่มความเร็วให้มากขึ้นอีก!”
“แต่อีกฝ่ายมีผู้แข็งแกร่งระดับผู้บำเพ็ญภูตพลังขั้นราชันวิญญาณ พวกเราไปก็มีแต่จะไร้ประโยชน์ เราต้องคิดวิธีหากำลังเสริมแล้วล่ะ!”
ผู้แข็งแกร่งระดับผู้บำเพ็ญภูตพลังขั้นราชันวิญญาณ มีเพียงผู้บำเพ็ญภูตพลังขั้นราชันวิญญาณถึงจะจัดการได้ แต่ทว่าพวกเขาไม่มีผู้บำเพ็ญภูตพลังขั้นราชันวิญญาณเลย ฉะนั้นมันคือการไปตายอย่างไม่ต้องสงสัย
ผู้อาวุโสระดับผู้บำเพ็ญภูตพลังขั้นราชันวิญญาณที่คุ้มครองฉงหมิงอยู่ผู้นั้น จะลงมือก็ต่อเมื่อเขาเผชิญหน้าอยู่กับอันตรายถึงชีวิตเท่านั้น และเขาก็ไม่สนใจเรื่องอื่นเลย
มู่เฉียนซีกล่าวว่า “หากกลัวตายก็รออยู่ที่นี่ ใครไม่กลัวตายก็ตามข้ามา!”
แม้แต่สาวน้อยอย่างแม่นางมู่ยังไม่กลัว มันคงจะน่าขายหน้าเกินไปหากพวกเขายังลังเลอยู่เช่นนี้ และถ้าเกิดเรื่องกับคุณชายมันก็ไม่ได้เป็นผลดีอะไรกับพวกเขาเช่นกัน ไม่สู้ไปต่อสู้กับคุณชายจนถึงตอนสุดท้ายเสียยังดีกว่า
“พวกเราไป!”
“ถ้าอย่างนั้นก็เร็วหน่อย” ทักษะธาตุวายุหมุนวน และมู่เฉียนซีก็พุ่งทะยานไปอย่างรวดเร็ว
เมื่อมองระยะห่างที่ห่างกันมากของพวกเขากับมู่เฉียนซี ก็พูดขึ้นมาว่า ”เป็นความเร็วที่เร็วมากจริง ๆ เห็นอยู่ชัด ๆ ว่าแม่นางมู่เป็นเพียงผู้บำเพ็ญภูตพลังขั้นมหาจักรพรรดิแห่งภูตไม่ใช่หรือ!”
“ต้องเร็วแน่นอนอยู่แล้ว แม่นางมู่ไม่ใช่ผู้บำเพ็ญภูตพลังขั้นมหาจักรพรรดิแห่งภูตธรรมดาทั่วไปเสียหน่อย”
ฉงหมิงต่อสู้อยู่กับคนชุดดำ ทั้งคู่มีความสามารถในการต่อสู้เทียบเท่ากัน ทว่าอีกฝ่ายเป็นจอมภูตพลังธาตุคู่ที่มีความได้เปรียบอยู่ไม่น้อยเลย แต่ฉงหมิงก็เชื่อมั่นว่าตนเองจะไม่พ่ายแพ้ให้เขาอย่างแน่นอน
ทันใดนั้น ด้านหลังก็สัมผัสได้ถึงอันตรายบางอย่าง