ท่านอ๋องผู้โหดร้ายกับหมอปีศาจ - ตอนที่ 1956 ฉงหมิงตกอยู่ในอันตราย
หากเป็นเพียงกองกำลังเดียว พวกเขายังพอสามารถร่วมมือกันต่อสู้ได้ และสถานการณ์คงจะดีกว่านี้มาก
แต่การมาจากสองกองกำลัง เมื่ออยู่ในช่วงที่อันตรายเช่นนี้ เพื่อผลประโยชน์ของตนเองแล้ว ก็ง่ายที่จะแตกแยกกันเป็นอย่างมาก!
เมื่อการร่วมมือกันภายในเกิดความวุ่นวาน ต่อมาพวกเขาก็ยิ่งแย่มากขึ้นไปอีก!
ผู้นำสมาคมเฮยก็โกรธจนแทบอยากจะกระอักเลือดออกมา เจ้าสำนักสือเหมินกล่าวว่า ”อย่าคิดจะให้ข้าไปเป็นเหยื่อล่อเลย หากจะป้องกันก็มาป้องกันไปด้วยกัน หากจะต่อสู้ก็มาต่อสู้ไปด้วยกัน หากว่าข้าจะต้องตายเจ้าก็อย่าคิดว่าจะหนีไปได้ รอฝังไปพร้อมกับข้าเสียเถอะ!”
“บัดซบเอ้ย!”
การต่อสู้ที่ดุเดือดนี้ สมาคมการค้าเฮยอวิ๋นและสำนักสือเหมินได้สูญเสียคนไปครึ่งหนึ่งแล้ว
การต่อสู้ของพวกเขาต้องมีคนเสียสละเป็นธรรมดา เมื่อครั้งนี้ได้รับโอกาสที่จะหนีออกไป ทุกคนต่างแยกย้ายกันหลบหนี และแบ่งกองกำลังออกเป็นยี่สิบกว่ากลุ่มเลยทีเดียว
มู่เฉียนซีกล่าวว่า ”ไล่ตามไป! อย่าปล่อยให้หนีไปได้ มิเช่นนั้นคงทนรับความโกรธของคุณชายของพวกเจ้าไม่ไหวหรอก!”
“ขอรับ!”
พวกเขาแยกย้ายกันไปเป็นกลุ่มเล็ก ๆ อย่างเป็นระเบียบมาก และไล่ตามคนที่หลบหนีเหล่านั้นไป
จากนั้นมู่เฉียนซีก็พาคนไล่ตามผู้นำสมาคมของสมาคมการค้าเฮยอวิ๋นไป
ผู้นำสมาคมเฮยหลบหนีไปได้ภายใต้การคุ้มครองของลูกน้องตนเอง อีกทั้งยังพาลูกสาวอย่างเฮยอู่เสียที่ตกใจกลัวจนขาอ่อนหนีมาด้วย
ด้วยสถานะของเขาตอนหลบหนีควรที่จะมียอดฝีมืออยู่ด้วยเยอะที่สุดถึงจะถูก แต่ในความจริงแล้วมันไม่ใช่เลย แม้ว่ายอดฝีมือจะมีความแข็งแกร่งมาก แต่ในสถานการณ์ที่เสียเปรียบเช่นนี้ พวกเขาก็หวงแหนชีวิตของตนเองได้เช่นกัน
ด้วยร่างกายที่ใหญ่โตเช่นนี้ของผู้นำสมาคมการค้าเฮยอวิ๋นทำให้เป็นเป้าการโจมตีของอีกฝ่ายได้ง่าย และแน่นอนว่านั่นเป็นสิ่งที่อันตรายมากที่สุด ซึ่งพวกเขาจึงไม่สามารถที่หนีไปด้วยกันกับผู้นำสมาคมได้
ดังนั้นข้างกายของผู้นำสมาคมเฮยในตอนนี้จึงมีเพียงคนสนิทที่จริงใจเท่านั้น และยังไม่มียอดฝีมือคนอื่นอยู่เลย
มู่เฉียนซีพาคนไล่ตามพวกเขาไปอย่างรวดเร็ว และขวางทางพวกเขาเอาไว้
ผู้นำสมาคมเฮยกล่าวว่า ”มู่เฉินซี ที่จริงแล้วฉงหมิงให้ประโยชน์อะไรแก่เจ้ากันแน่? ข้าจะให้เจ้าสองเท่า หรือสามเท่าเลยก็ได้ ขอเพียงแค่ปล่อยข้าไป เจ้าอย่าได้ขายชีวิตเพื่อเขาเลย”
มู่เฉียนซีกล่าวว่า ”ประโยชน์ที่ฉงหมิงให้ข้า ผู้นำสมาคมเฮยอย่างเจ้าให้ข้าไม่ได้หรอก”
“ให้ตายเถอะ ในเมื่อเจ้าไม่รู้ผิดชอบชั่วดี เช่นนั้นก็อย่าหาว่าข้าไม่เกรงใจก็แล้วกัน ถึงแม้ว่าข้าจะต้องตาย ข้าก็จะลากเจ้าฝังไปกับข้าด้วย!”
ผู้นำสมาคมเฮยกัดฟันจ้องมองไปที่มู่เฉียนซี และเขาก็พุ่งทะยานเขาไปอย่างไม่สนอะไรทั้งนั้น
“ลงมือได้!”
ผู้นำสมาคมเฮยพุ่งเข้ามาอย่างดุดัน แต่ทว่ามู่เฉียนซีกลับไม่กลัวเขา เขาก็เป็นแค่พ่อค้าคนหนึ่ง และไม่เชี่ยวชาญการฝึกฝนเท่าไรนัก
แม้ว่าเขาจะมีอายุมากและทรัพยากรมากมายแค่ไหน แต่ก็เป็นเพียงแค่ผู้บำเพ็ญภูตพลังขั้นภูตศักดิ์สิทธิ์ระดับสามคนหนึ่งเท่านั้น
ตูมมม โครมมม!
และคนที่อยู่ข้างกายนางก็ขวางผู้คุ้มกันของผู้นำสมาคมเฮยเหล่านั้นเอาไว้
มู่เฉียนซีไม่ได้ปล่อยให้พวกเขามาคุ้มครองนาง แต่เมื่อเห็นผู้นำสมาคมเฮยพุ่งเข้ามาอย่างดุดันเช่นนั้น พวกเขาก็อดที่จะเป็นห่วงไม่ได้
แต่ทว่ามู่เฉียนซีกลับหลบหลีก…
กระบี่มังกรเพลิงพิฆาตวิญญาณถูกมู่เฉียนซีหยิบออกมา ทันใดนั้นพลังธาตุอัคคีที่น่าสะพรึงกลัวก็ระเบิดออกมา
“เพลิงสังหารซิวหลัว!”
ผู้นำสมาคมเฮยตะลึงงั้น ”จอมภูตพลังธาตุอัคคี เจ้าไม่ใช่จอมภูตพลังธาตุวายุอย่างนั้นหรือ?”
“ถูกต้อง!” มู่เฉียนซีกล่าวด้วยรอยยิ้ม และนางก็ได้ใช้ธาตุวายุเคลื่อนเข้ามาใกล้ผู้นำสมาคมเฮยราวกับปีศาจร้ายอย่างไรอย่างนั้น
เมื่อใช้พลังระดับผู้บำเพ็ญภูตพลังขั้นภูตศักดิ์สิทธิ์เป็นเกาะป้องกัน ทำให้ผู้นำสมาคมเฮยไม่ได้รับบาดเจ็บจากการโจมตีของมู่เฉียนซี
บนใบหน้าของเขาเผยสีหน้าที่ดุร้ายออกมา จากนั้นก็พุ่งเข้าโจมตีมู่เฉียนซีอย่าบ้าคลั่ง
“ตายซะเถอะนางเด็กน้อย เจ้าไปตายซะเถอะ! ตายไปซะ!”
พลังของผู้บำเพ็ญภูตพลังขั้นภูตศักดิ์สิทธิ์ระดับสามผู้มีชีวิตที่อยู่ดีกินดีอย่างเขาดูเหมือนว่าจะอ่อนแอมากไปเสียหน่อย และการโจมตีครั้งแล้วครั้งเล่าของเขาก็ไม่อาจที่จะสัมผัสร่างกายของมู่เฉียนซีได้เลยด้วยซ้ำ
มู่เฉียนซีรับมือกับเขา แม้ว่าอีกฝ่ายจะมีอายุมากกว่านางมาก แต่ทว่าประสบการณ์การต่อสู้ของนางสูงกว่าของผู้นำสมาคมเฮยมากมายนัก
“จับตัวเอาไว้! คราวนี้ ดูซิว่าเจ้าจะหนีไปได้อย่างไร?”
ผู้นำสมาคมเฮยพยายามอย่างเต็มที่ เพื่อจะสกัดกั้นหนทางหนีของมู่เฉียนซีให้ได้
ทันทีที่กวัดแกว่งดาบ มันก็ได้กระแทกเข้ากับมู่เฉียนซี
“แม่นางมู่ ระวังด้วย!”
“เกราะพลังวายุ!”
ทักษะนี้ไม่สามารถที่จะป้องกันเอาไว้ได้ และพลังอันน่าสะพรึ่งกลัวก็กระทบเข้ากับร่างกายของมู่เฉียนซี
ด้วยพละกำลังเช่นนี้ หากบนร่างกายของมู่เฉียนซีมีช่องโหว่สักหน่อย มันจะต้องเต็มไปด้วยเลือดเพิ่มขึ้นมา และนางก็คงไม่ตื่นขึ้นมาอีกเป็นแน่!
ตูมมม!
เสียงที่น่าสะพรึงกลัวระเบิดออกมา นางถูกพลังที่แข็งแกร่งพุ่งเข้าโจมตี แต่มู่เฉียนซีดูเหมือนว่าจะไม่เป็นอะไรเลย และยังมีแรงมากพอที่จะโจมตีอีกฝ่ายได้อีกด้วย
“เพลิงเผาดาราพิฆาต!”
นางรวบรวมพลังวิญญาณธาตุอัคคีทั้งหมดเอาไว้ และกวาดทักษะธาตุอัคคีของกระบวนท่านั้นออกไป ซึ่งมันก็ทำให้สีหน้าของผู้นำสมาคมเฮยเปลี่ยนไปอย่างมาก!
“นี่มันทักษะอะไรกัน!”
เขาพยายามทำทุกวิถีทางเพื่อป้องกัน และหลบหลีก จนไม่กล้าที่จะเสียสมาธิเลย
และในตอนนี้เอง มู่เฉียนซีก็พบจุดป้องกันที่อ่อนแอที่สุดของเขา จากนั้นจึงใช้ขนปีกหงส์ทมิฬในการลงมือ
พรวด!
เข็มอันเล็กสีดำฝังลงไปบนผิวหนังของเขา
ชั่วขณะหนึ่ง เขาไม่สามารถควบคุมพลังวิญญาณได้ และเขาก็ทำได้เพียงจ้องมองตัวเขาเองถูกเปลวเพลิงอันน่าสะพรึงกลัวนั้นกลืนกินเข้าไป
“อ๊ากกก!” มีเสียงกรีดร้องที่น่าเวทนาดังขึ้นมา และผู้นำสมาคมเฮยก็ได้กลายเป็นคนพิการไปอย่างสมบูรณ์ ทั่วทั้งร่างกายของเขาไม่มีส่วนไหนที่สมบูรณ์อยู่เลย
“ท่านผู้นำสมาคม!” ขนาดผู้นำสมาคมเฮยยังลงเอยเช่นนี้ จึงทำให้คนอื่น ๆต่างก็ตื่นตระหนกอย่างที่สุดเช่นกัน และคนอื่นก็เริ่มพ่ายแพ้ไปทีละคน
“ท่านพ่อ! ท่านพ่อ!” เฮยอู่เสียกรีดร้องออกมาด้วยความเสียใจ
คนอื่นต่างถูกจัดการไปหมดแล้ว ตอนนี้เหลือเพียงคุณหนูเฮยเพียงคนเดียวที่ไม่ได้รับบาดเจ็บและกำลังร้องห่มร้องไห้อยู่บนพื้น
ด้วยความสามารถของนางจึงทำให้ไม่กล้าที่จะเข้าร่วมต่อสู้ และทำได้เพียงแค่ถูกปกป้องเท่านั้น
ตอนนี้คนที่คอยปกป้องนางต่างก็ถูกกวาดล้างไปจนหมดสิ้นแล้ว และมันก็ทำให้นางรู้สึกหวาดกลัวมากกว่าปกติ
เฮยอู่เสียกล่าวว่า ”มู่เฉินซี จะ…เจ้าจะต่ำช้าเกินไปแล้ว เจ้าทำเช่นนี้กับท่านพ่อของข้าได้อย่างไรกัน?”
เปลวเพลิงได้ห่อหุ้มเฮยอู่เสียเอาไว้ และมู่เฉียนซีก็กล่าวว่า ”ใช่! ข้าไม่เพียงแต่จะทำเช่นนี้กับพ่อของเจ้า แต่ข้าจะทำเช่นนี้กับเจ้าด้วย!”
“เจ้าฆ่าข้าไม่ได้ หากเจ้าฆ่าข้าละก็ พ่อของข้าไม่มีทางปล่อยเจ้าไปแน่ สมาคมการค้าเฮยอวิ๋นจะไม่มีทางปล่อยเจ้าไปอย่างแน่นอน”
“คุณหนูเฮย เจ้ายังไม่ตระหนักถึงสถานการณ์ตอนนี้อีกหรือ ตอนนี้พ่อของเจ้าจะปกป้องตนเองยังเป็นเรื่องยากเลย ส่วนสมาคมการค้าเฮยอวิ๋นอีกไม่นานมันก็จะไม่มีอยู่อีกแล้วล่ะ”
“เจ้าโกหก!” คุณหนูเฮยคำรามร้องอย่างเศร้าโศก
เวลานี้มันได้กลายเป็นเรื่องจริงแล้ว แต่นางก็ยังไม่กล้าที่จะเชื่อเลย
ก่อนหน้านี้นางยังเป็นคุณหนูใหญ่ของสมาคมการค้าเฮยอวิ๋นที่อยากได้อะไรก็มีได้ทุกอย่างอยู่เลย แล้วนางจะกลายเป็นคนจนที่ไม่เหลืออะไรเลยได้อย่างไรกัน
นางกล่าวด้วยเสียงที่สั่นเครือว่า ”เจ้าฆ่าข้าไม่ได้ หากเจ้าฆ่าข้า ท่านพี่มู่หรงของข้าจะต้องไม่ปล่อยเจ้าไปแน่”
“ท่านพี่มู่หรง เจ้ากำลังพูดถึงมู่หรงโช่วอย่างนั้นหรือ?”
“ใช่แล้ว! คือมู่หรงโช่ว ข้าก็คือคู่หมั้นของท่านพี่มู่หรง”
“ในเวลาเช่นนี้คุณหนูเฮยควรจะเลิกฝันกลางวันได้แล้ว ข้าว่ามู่หรงโช่วคงยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเจ้าเป็นใคร”
มู่เฉียนซีทำลายภาพเพ้อฝันของเฮยอู่เสียอย่างไร้ความปราณี และใบหน้าของเฮยอู่เสียก็เปลี่ยนเป็นดุร้ายขึ้นมาทันที
“มู่เฉินซี ข้าจะสู้กับเจ้า ข้าต้องการจะให้เจ้าตายไปซะ!”
โชคยังดีที่นางเป็นผู้บำเพ็ญภูตพลังขั้นปราชญ์แห่งภูตระดับที่หนึ่ง และนางก็พยายามเต็มที่ที่จะต่อสู้ด้วยท่าทางที่ดูดุร้าย แต่ทว่าไม่คิดมาก่อนว่า มู่เฉียนซีจะทำแค่เพียงโบกมืออย่างแผ่วเบาเท่านั้น!
“พลังวายุจันทราไร้คู่!”
ปัง!
ตัวของคุณหนูเฮยลอยกระเด็นออกไป จากนั้นก็ต้องกระอักเลือดออกมา และเส้นเอ็นทั้งหมดของนางก็ถูกทำลาย
มู่เฉียนซีกล่าว่า “จัดการเรียบร้อยแล้ว”
ทางด้านของพวกเขา จัดการคู่ต่อสู้ได้อย่างสมบูรณ์แบบ และเชลยที่ยังมีชีวิตอยู่เหล่านั้นให้คนส่งกลับไป เพื่อรอฉงหมิงมาจัดการ
มู่เฉียนซีกล่าวว่า ”ไปกันเถอะ! ไปทางฉงหมิงกัน ข้าต้องเร็วกว่าเขา เพราะเขากำลังจะแพ้แล้ว!”
ตอนที่มู่เฉียนซีกำลังมุ่งหน้าไปยังสนามรบของทางฝั่งฉงหมิง ในเวลานี้ฉงหมิงก็กำลังเผชิญหน้าอยู่กับวิกฤติที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนเสียแล้ว