ท่านอ๋องผู้โหดร้ายกับหมอปีศาจ - ตอนที่ 1955 ส่งให้มาตาย
มู่เฉียนซีกล่าวว่า ”เจ้าคิดว่าเจ้าของขนาดเท่าเล็บมือนี้มีค่าขนาดนั้นเลยหรือ? หากไม่บอกข้าก็ช่างมันเถอะ”
พิฆาตวิญญาณกล่าวอย่างจนปัญญาว่า ”ทำไมลูกแมวน้อยถึงโหดร้ายเพียงนี้ เช่นนั้นข้าบอกเจ้าก็แล้วกัน สิ่งนี้ก็คือศิลาโกลาหลลึกลับ”
มู่เฉียนซีตะลึงงันไปครู่หนึ่ง ”ที่แท้ก็เป็นศิลาโกลาหลลึกลับนี่เอง”
“คิดไม่ถึงเลยว่าลูกแมวน้อยจะรู้จักศิลาโกลาหลลึกลับด้วย!” พิฆาตวิญญาณกล่าวด้วยรอยยิ้ม
“ข้าได้ยินมาว่าศิลาโกลาหลลึกลับเป็นสิ่งของเพียงสิ่งเดียวที่สามารถซ่อมแซมมหาวัตถุศักดิ์สิทธิ์นิรันดร์ได้”
“คิดไม่ถึงเลยว่าลูกแม้น้อยจะรู้แม้กระทั่งเรื่องนี้ด้วย ดูท่าแล้วคงจะห่วงใยข้ามากทีเดียว แต่เมื่อเทียบกับเจ้าหินผุพังนี้แล้ว จิตวิญญาณของลูกแมวน้อยเป็นอาหารที่ทำให้พวกเราซ่อมแซมตนเองได้สมบูรณ์มากที่สุด” รอยยิ้มของพิฆาตวิญญาณยิ่งน่าหลงใหลมากขึ้นไปอีก
“แน่นอนว่าไม่ได้เป็นห่วงเจ้า แต่ข้าเป็นห่วงพวกสุ่ยจิงอิ๋งและมังกรวารีต่างหาก” มู่เฉียนซีกล่าวตอบ
“ข้ารู้ ว่าลูกแมวน้อยเป็นคนปากร้ายแต่ใจดีแค่ไหน”
มู่เฉียนซีกล่าวถามว่า ”มันทำได้จริง ๆ หรือ?”
“ข้อมูลที่ลูกแมวน้อยได้รับมาคือเรื่องจริง เพียงแต่ว่าเจ้าสิ่งนี้มันเล็กมากจนใช้ประโยชน์ไม่ได้ โยนมันให้กับเสี่ยวถิงที่อยู่ภายในมิติสักสองสามหมื่นปีน่าจะโตขึ้นมาอีกหน่อยเองล่ะ! และความสามารถในการหลอมอาวุธของเจ้ายังไม่เพียงพอด้วย ดังนั้นลูกแมวน้อย สิ่งที่เร่งด่วนสำหรับเจ้าที่สุดในตอนนี้คือแข็งแกร่งให้มากยิ่งขึ้น และแข็งแกร่งให้มากขึ้นอีกหน่อย!”
มู่เฉียนซีกล่าวว่า “ข้าเข้าใจแล้ว”
หลังจากที่นางเอาศิลาโกลาหลลึกลับไปให้อาถิงที่อยู่ภายในมิติแล้ว ทันใดนั้นก็มีกลิ่นอายนับไม่ถ้วนกำลังใกล้เข้ามา
“มู่เฉินซี คิดไม่ถึงเลยว่าจะเป็นเจ้า”
“เจ้ามาอยู่ที่นี่ได้อย่างไรกัน?”
“……”
คนของสมาคมการค้าเฮยอวิ๋นและสำนักสือเหมิน กำลังแอบซุ่มโจมตีอยู่ด้านหน้า และรอให้ฉงหมิงปรากฏตัว
แต่ทว่าเมื่อรอไปสักพักก็ไม่เห็นว่าจะมีใครมา แต่ทว่ากลับสัมผัสได้ถึงความผันผวนของธาตุอัคคีที่แข็งแกร่งมากเบื้องหน้าของพวกเขาแทน
คุณชายฉงหมิงเป็นจอมภูตพลังธาตุอัคคีคนหนึ่ง ดังนั้นพวกเขาจึงไม่สงสัยเลยว่าเขาอยู่ที่นี่หรือไม่ แต่ผลก็คือเมื่อตอนที่พวกเขารีบมา กลับค้นพบว่าคนที่อยู่ที่นี่ก็คือมู่เฉินซีนั่นเอง
เมื่อเห็นพวกเขา มู่เฉียนซีก็กล่าวอย่างเฉยเมยว่า ”ในเมื่อพวกเจ้ามากันหมดแล้ว เช่นนั้นข้าก็ไม่จำเป็นที่จะต้องไปที่นั่นอีกแล้ว”
เฮยอู่เสียกล่าวว่า “มู่เฉินซี ที่เจ้าพูดมามันหมายความว่าอย่างไรกันแน่?”
มู่เฉียนซีกล่าวอย่างเยาะเย้ยว่า “ความหมายก็คือ พวกเจ้าในค่ำคืนนี้ จะไม่ได้กลับไปอีกแล้วน่ะสิ”
“ลงมือได้แล้ว”
ทันทีที่คำพูดของมู่เฉียนซีสิ้นสุดลง คนที่แอบอยู่มากมายก็ปรากฏตัวออกมา แม้ว่าจำนวนคนจะไม่มากเท่ากับของสมาคมการค้าเฮยอวิ๋นและสำนักสือเหมิน แต่ทุกคนล้วนแล้วแต่เป็นหัวกะทิทั้งนั้น อีกทั้งยังมีการเตรียมตัวมาอย่างดีด้วย!
ผู้นำสมาคมของสมาคมการค้าเฮยอวิ๋นและเจ้าสำนักของสำนักสือเหมินต่างก็ตะลึงงันไป ”นี่มันเป็นไปได้อย่างไร? บัดซบเอ้ย ไม่คิดเลยว่าเจ้าคนทรยศนั่นจะทรยศพวกเรา และแจ้งข่าวปลอมมาให้พวกเราเช่นนี้”
“พวกเราถูกหลอกแล้ว คนที่มาทางนี้ไม่ใช่คุณชายฉงหมิง แต่กลับเป็นมู่เฉินซี! และคนส่วนใหญ่ของพวกเราต่างก็ไปอีกทางกันหมดแล้ว”
เมื่อรู้ว่าตนเองถูกหลอก สีหน้าของพวกเขาต่างก็บูดเบี้ยวเป็นอย่างมาก
เฮยอู่เสียกล่าวว่า ”ท่านพ่อ ท่านลุงสือ นี่มันก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรเลย! หากพวกเราร่วมมือกันจะจัดการมู่เฉินซีคนเดียวไม่ได้เชียวหรือ?”
เมื่อเทียบกับความโกรธเคืองของคนอื่นแล้ว เฮยอู่เสียค่อนข้างที่จะตื่นเต้นมากเลยทีเดียว สามารถเห็นมู่เฉินซีพ่ายแพ้อย่างย่อยยับและถูกจัดการอย่างโหดร้ายด้วยตาตนเองได้ ช่างเป็นเรื่องที่ยอดเยี่ยมเสียจริง ๆ
ผู้นำสมาคมเฮยกวาดสายตามองไปที่มู่เฉียนซีและพรรคพวก แม้ว่าอีกฝ่ายจะเตรียมตัวมาอย่างดีและยากที่จะจัดการได้ แต่พวกเขาก็ไม่มีทางพ่ายแพ้อย่างแน่นอน
จัดการมู่เฉินซียังดีกว่าการจัดการฉงหมิงมากนัก เพราะอย่างไรเสียมู่เฉินซีก็เป็นเพียงผู้บำเพ็ญภูตพลังขั้นมหาจักรพรรดิแห่งภูตคนหนึ่งเท่านั้น
ผู้นำสมาคมเฮยกล่าวอย่างเคร่งขรึมว่า ”ต้องบอกว่าคุณชายฉงหมิงมีวิธีการที่ดีเลยทีเดียว เขาเข้ามาล้อเล่นให้พวกเราหัวหมุน แต่เขาก็ยังดูถูกข้าอยู่ดี ถึงขนาดส่งคนมาทางนี้มากมายถึงเพียงนี้ แต่กลับปล่อยให้สาวน้อยเช่นเจ้าเป็นผู้นำเสียได้! นี่มันเป็นการส่งเจ้าให้มาตายโดยเฉพาะ”
“ลงมือซะ ฆ่าพวกมันให้หมด ไว้ชีวิตมู่เฉินซีเอาไว้”
“ขอรับ!”
พวกเขารู้สึกว่าการจัดการกับมู่เฉินซี มันมีโอกาสที่จะชนะเป็นอย่างมาก
มู่เฉียนซีกล่าวว่า ”ลงมือได้ ตีโอบทั้งซ้ายและขวา อย่าปล่อยไปแม้แต่คนเดียว”
“ขอรับ แม่นางมู่”
ตูมมม!
ทั้งสองฝ่ายเข้าปะทะกัน และช่องว่างระหว่างทั้งสองฝ่ายก็ปรากฏขึ้นมาให้เห็นทันทีที่การต่อสู้เริ่มขึ้น
บางทีความสามารถของทางฝ่ายมู่เฉียนซีอาจจะไม่ได้สูงไปกว่าพวกเขามากมายนัก หรืออาจจะอ่อนแอกว่าเล็กน้อยด้วยซ้ำ แต่ทว่าอาวุธศักดิ์สิทธิ์ในมือของพวกเขานั้นสูงกว่ามากนัก
พวกเขารู้ว่าคุณชายฉงหมิงเริ่มมาจากกิจการขายพลังวิญญาณ แต่เขาก็ไม่ได้นำอาวุธศักดิ์สิทธิ์ระดับสูง มหาวัตถุศักดิ์สิทธิ์ครึ่งเทพ หรือแม้กระทั่งมหาวัตถุศักดิ์สิทธิ์เทพมารังแกคนอื่นถึงเพียงนี้
แน่นอนว่าอาวุธวิญญาณที่อยู่ที่นี่จำนวนมากไม่ใช่ของฉงหมิง ส่วนหนึ่งต่างก็เป็นอาวุธที่นางยึดมาได้จากการต่อสู้ ซึ่งมันเหมาะที่จะเอามาใช้จัดการสมาคมการค้าเฮยอวิ๋นและสำนักสือเหมินเป็นที่สุด
ตูมมม โครมมม!
ทั้งสองฝ่ายต่อสู้กันอย่างโกลาหล และรุนแรงอย่างที่สุด
พวกเขาต้องการที่จะกำจัดมู่เฉินซี แต่ทว่าความเร็วของมู่เฉินซีก็ทำให้พวกเขายากที่จะไล่ตามได้ทันจริง ๆ
หากใช้ความพยายามอย่างสุดความสามารถในการไล่ตามมู่เฉินซี ก็จะต้องถูกลอบโจมตีจนบาดเจ็บสาหัสอย่างแน่นอน ซึ่งมันได้ไม่คุ้มเสียเลย
มู่เฉียนซีกล่าวว่า “ถอย!”
“กลุ่มที่สองเตรียมตัว โจมตีได้!”
“กลุ่มที่หนึ่งคอยช่วยเหลือ”
กลยุทธ์ของทางฝ่ายมู่เฉียนซีเปลี่ยนแปลงไปอย่างกะทันหัน ซึ่งมันก็ทำให้พวกเขามีลางสังหรณ์ที่ไม่ดีเป็นอย่างมาก
ฟิ้วว!
พรึ่บ พรึ่บ พรึ่บ!
“……”
อาวุธลับที่น่าสะพรึงนานาชนิดพุ่งออกมาจากความมืดมิด อีกทั้งคนที่พวกเขากำลังต่อสู้อยู่ก็ใช้อาวุธต่าง ๆ ในการโจมตีระยะประชิดเช่นกัน
การต่อสู้ของพวกเขาก่อนหน้านี้ เป็นเพียงแค่การอุ่นเครื่องเท่านั้น และตอนนี้ก็ถึงเวลาอาหารเรียกน้ำย่อยแล้ว
พรึ่บ พรึ่บ พรึ่บ!
ความเร็วของอาวุธลับนั้นรวดเร็วมาก อีกทั้งยังมีความหนาแน่นเป็นอย่างมากด้วย และสิ่งที่จัดการยากยิ่งกว่านั้นก็คือยาพิษที่ถูกทาเอาไว้บนบนอาวุธลับเหล่านั้น เพราะหากสัมผัสเพียงแผ่วเบา ก็เกรงว่าอาจจะทำให้ใช้งานไม่ได้เลยทีเดียว
“พวกเจ้ามันคนต่ำช้า!” ผู้นำสมาคมเฮยกล่าวด้วยความโกรธ
“ต่ำช้าหรือ ใช้ความสามารถของตนเองในการจัดการกับศัตรูอย่างพวกเจ้า เขาเรียกว่ามีไหวพริบต่างหาก!” มู่เฉียนซีกล่าวด้วยรอยยิ้ม
ผู้นำสมาคมเฮยกล่าวว่า ”ทะลวงออกไป ไม่สามารถต่อสู้กับพวกเขาที่นี่ได้อีกแล้ว พวกเขาได้เตรียมซุ่มโจมตีอยู่ที่นี่มาตั้งแต่แรกแล้ว”
ไม่แปลกใจเลยที่คนของพวกเขาดูมีจำนวนน้อย ที่แท้เป็นเพราะยังมีคนที่แอบซ่อนตัวอยู่มากมาย พวกเขาถูกหลอกแล้ว
เจ้าสำนักสือเหมินกล่าวว่า “ทะลวงออกไป!”
อีกฝ่ายใช้อาวุธลับอันตรายชนิดต่าง ๆ ที่พวกเขาไม่เคยเห็นมาก่อน หากพวกเขายังอยู่ที่นี่ต่อไปต้องตายเป็นแน่ แต่หากสู้จนสุดชีวิตแล้วละก็ คงจะฝ่าวงล้อมออกไปได้ และพวกเขาก็ยังพอที่จะทำได้
มู่เฉียนซีกล่าวด้วยรอยยิ้มว่า ”ข้าได้วางตาข่ายดักไว้ที่นี่อย่างแน่นหนาแล้ว ถึงพวกเจ้าอยากที่จะทะลวงออกไป ก็เป็นไปไม่ได้หรอก!”
ฟิ้วว ฟิ้วว ฟิ้วว!
อาวุธลับตกลงมาอย่างแน่นขนัด และมันก็ได้ปิดผนึกทุกสถานที่ที่สามารถหลบหนีได้เอาไว้
บนหน้าผากของผู้นำสมาคมเฮยและเจ้าสำนักสือเหมินเหงื่อแตกพลั่ก พวกเขาคำรามกล่าว ”ป้องกัน ตั้งวงล้อมเพื่อป้องกัน! ยังมีอาวุธป้องกันศักดิ์สิทธิ์อยู่ เอาทั้งหมดออกมาใช้ เร็วเข้า!”
ปัง ปัง ปัง!
พวกเขาพยายามป้องกันอย่างสุดความสามารถ ในที่สุดก็สามารถสกัดกั้นเอาไว้ได้ แต่ทว่าก็ยังคงใจคอไม่ดีอยู่ดี
มู่เฉียนซีสั่งการว่า ”โจมตีระยะประชิด และโจมตีเข้าไปอย่างรุนแรง ลงมือได้!”
“ขอรับ แม่นางมู่!”
หลังจากที่การโจมตีด้วยอาวุธลับรอบที่หนึ่งสิ้นสุดลง เงาร่างจำนวนนับไม่ถ้วนก็พุ่งทะยานเข้าใส่พวกเขา
ตูมมมม!
อาวุธป้องกันศักดิ์สิทธิ์ และมหาวัตถุศักดิ์สิทธิ์เทพสามารถสกัดกั้นอาวุธลับได้ แต่ทว่าเมื่อเผชิญหน้ากับการโจมตีที่รุนแรง ก็จะทำให้เกิดช่องโหว่ขึ้น
ผู้นำสมาคมเฮยกล่าวว่า ”ท่านพี่สือ พวกเรารับผิดชอบในการป้องกัน คนของสำนักสือเหมินของพวกท่านรับหน้าที่ในการโจมตี เร็วเข้า! มิเช่นนั้นไม่ทันการณ์แน่”
เจ้าสำนักสือเหมินกล่าวว่า ”เหตุใดเจ้าถึงไม่รับผิดชอบในการโจมตี และข้ารับผิดชอบในการป้องกันล่ะ”
ภายใต้สถานการณ์เช่นนี้ เห็นได้ชัดว่าเป็นฝ่ายป้องกันจะปลอดภัยกว่ามาก หากเป็นคนโจมตีก็ไม่รู้ว่าคนของสมาคมการค้าเฮยอวิ๋นจะสามารถปกป้องได้หรือไม่? และเมื่อถึงตอนนั้นพวกเขาคงจะต้องตายด้วยอาวุธลับอย่างแน่นอน