ท่านอ๋องผู้โหดร้ายกับหมอปีศาจ - ตอนที่ 1951 สัตว์เทพสามตัว
พิฆาตวิญญาณกล่าวตอบว่า ”ความสามารถยังอ่อนแอมากเกินไป พละกำลังที่ปล่อยออกไปยังไม่มากเท่าที่ควร แม้แต่ผู้บำเพ็ญภูตพลังขั้นปราชญ์แห่งภูตระดับเก้าก็ยังสู้ไม่ได้เลย! เพียงแต่ในบรรดาทักษะทั้งสามชนิดที่ลูกแมวน้อยใช้ ทักษะวิญญาณธาตุอัคคีของข้าแข็งแกร่งมากที่สุดแล้ว ถึงความสามารถยังไม่พอก็เถอะ”
และในเวลานี้ มีคนนำข่าวมาแจ้งกับฉงหมิง
ฉงหมิงชะงักไปครู่หนึ่ง นี่ยังเรียกว่าความสามารถไม่พออีกหรือ ผู้ชายคนนี้จะมีความต้องการต่อสู้เกินไปแล้ว
“คุณชายขอรับ เมืองลี่ตูทางตะวันตกเฉียงใต้มีการจัดงานประมูลหินแร่ใต้ดินขึ้น นี่คือจดหมายเชิญที่โรงประมูลส่งมาให้ท่านขอรับ”
งานประมูลในครั้งนี้เป็นโอกาสที่ดีที่จะซื้อหินแร่แสนล้ำค่าได้ และฉงหมิงก็ไม่เคยพลาดเลยสักครั้ง
แน่นอนว่า หลังจากที่ได้รับจดหมายเชิญ ทางจูเชว่ก็ได้ส่งข่าวมาด้วยเช่นกัน
“สมาคมการค้าเฮยอวิ๋น สำนักสือเหมิน สำนักหลางซิง และตระกูลเซี่ยโหวอาจจะมีการเคลื่อนไหวในงานประมูลคราวนี้”
ฉงหมิงกล่าวว่า “หากพวกเขาลงมือ หรือว่าพวกข้าจะลงมือไม่ได้อย่างนั้นหรือ ข้าจะให้คนไปเตรียมตัวเดี๋ยวนี้”
มู่เฉียนซีกล่าวว่า ”ฉงหมิง ช่วงไม่กี่วันมานี้ข้ายุ่งจนลืมบอกเจ้าไปเรื่องหนึ่ง ข้าสงสัยว่าจะมีคนทรยศอยู่ภายในหมู่คนของพวกเจ้าอย่างแน่นอน! ดังนั้นถึงได้รู้เส้นทางการส่งหินแร่ของพวกเจ้า เจ้าเคยหาคนทรยศคนนั้นบ้างหรือไม่?”
ฉงหมิงกล่าวว่า “ข้าเคยสงสัยอยู่ แต่ก็หาคนนั้นไม่เจอเช่นกัน”
“เช่นนั้นเราก็จงใจปล่อยข่าวไปบางส่วน หากมีคนทรยศละก็ สุดท้ายแล้วข่าวก็จะถูกส่งออกไป”
“หากเป็นการส่งผ่านทางกระแสจิตละก็คงป้องกันไม่ได้แน่!”
“ข้าจำได้ว่าท่านผู้อาวุโสท่านนั้นเหมือนจะมีอาวุธวิญญาณที่สามารถกักกระแสจิตเอาไว้ได้ชิ้นหนึ่ง ลองไปหลอมดูก็ได้ ส่วนวัตถุดิบก็น่าจะมีแล้ว”
ฉงหมิงกล่าวว่า “ใช่แล้ว! ข้าลืมสิ่งนี้ไปได้อย่างไรกัน”
ด้วยความสามารถของฉงหมิงทำให้หลอมอาวุธชิ้นนั้นออกมาได้อย่างรวดเร็ว เขาบอกกับทุกคนว่าทำอาวุธวิญญาณเช่นนี้ออกมา และประกาศแผนการที่จะจัดการกับสมาคมการค้าเฮยอวิ๋นและสำนักสือเหมินออกไป
หลังจากนั้น ก็ส่งคนเฝ้ารออยู่ในแต่ละทางออกของป้อมปราการ
มู่เฉียนซีกล่าวว่า “แม้ว่าจะเป็นข่าวปลอม แต่เพื่อที่จะจับคนทรยศ จะให้ข้าช่วยหาผู้ช่วยมาเพิ่มอีกสักสามคนหรือไม่?”
ผู้ช่วยอีกสามคน ผู้หญิงคนนี้จะไปเอาผู้ช่วยอีกสามคนมาจากที่ใด?
“อู๋ตี้ เสี่ยวหง เสี่ยวโม่โม่ พวกเจ้าออกไปเล่นกันเถอะ! และคอยเฝ้าแต่ละทางเข้าออกหลักไว้ อย่าปล่อยให้คนออกไปได้แม้แต่คนเดียว”
“ขอรับ/เจ้าค่ะ! นายท่าน”
ตอนที่สัตว์พันธสัญญาทั้งสามตัวปรากฏกายออกมา ซึ่งแต่ละตัวต่างก็เป็นสัตว์เทพทั้งนั้น ฉงหมิงก็ได้กล่าวว่า “ทั้งสามตัวนี้เป็นของเจ้าหรือ?”
ไม่แปลกใจเลยที่ผู้หญิงคนนี้สามารถเป็นทั้งนักปรุงยาและนักหลอมอาวุธได้ในเวลาเดียวกัน เพราะนางผู้นี้มีพลังวิญญาณที่น่าสะพรึงกลัวเป็นอย่างมาก และยังผูกสัญญากับสัตว์เทพถึงสามตัวด้วย มันยังมีอะไรที่น่าแปลกประหลาดกว่านี้ได้อีกล่ะ?
มู่เฉียนซีชี้ไปที่พิฆาตวิญญาณแล้วกล่าวว่า “ยังมีนี่อีกตัวด้วย”
“ข้าไม่ไปสนใจเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ เหล่านั้นหรอก”
คนผู้นี้ก็เป็นสัตว์พันธสัญญาของนางหรือ ไม่เหมือนเลยสักนิด จิตสังหารที่กระหายเลือดเช่นนั้น แม้แต่สัตว์ร้ายที่อยู่ในตำนานก็อาจจะไม่มีเลยด้วยซ้ำ
อีกทั้งยังไม่เคยได้ยินมาก่อนเลยว่ามีสัตว์ร้ายสามารถที่จะทรมานเจ้านายตนเองจนเกือบตายได้ด้วย
ที่มุมหนึ่งภายในห้อง มีใครบางคนกำลังสาปแช่งอย่างแผ่วเบาว่า ”บัดซบเอ้ย อาวุธวิญญาณที่ฉงหมิงทำขึ้นมามีประสิทธิภาพมากจริง ๆ ตอนนี้ติดต่อคนอื่นไม่ได้แล้ว”
“ดูท่าแล้วคงต้องหาวิธีออกไป โชคยังดีที่สามารถหาเส้นทางแอบซ่อนตัวออกไปได้”
เมื่อตอนที่ท้องฟ้ามืดมิดมากขึ้นเรื่อย ๆ ในฐานะที่เป็นคนทรยศที่ยอดเยี่ยม เขารู้ตำแหน่งของคนเฝ้ายามของป้อมปราการทั้งในสถานที่แจ้งและที่ลับทุกแห่งได้เป็นอย่างดี
เขาหลีกเลี่ยงยามเหล่านี้ได้อย่างชาญฉลาด และเกือบที่จะไปถึงทางออกแล้ว
“ทางนี้ถูกปิดกั้นแล้ว” มีเสียที่ทุ้มต่ำเสียงหนึ่งดังขึ้น และเงาขนาดมหึมาก็ปกคลุมเขาอย่างกะทันหัน
เงามืดนี้ดูราวกับสัตว์ร้ายอย่างไรอย่างนั้น และดูเหมือนว่ามันกำลังจะกลืนกินเขาเข้าไป
ท่ามกลางความมืดมิด เขามองไม่ออกว่าสิ่งนี้คืออะไรกันแน่ และรู้สึกเพียงแค่ว่ามันมีขนาดใหญ่โตมาก
“อ๊ากกก! สัตว์ประหลาด!” เขาร้องออกมาด้วยความตกใจ
“เจ้าแมวโง่นี่โชคดีเสียจริง! คิดไม่ถึงเลยว่าเจ้าจะเจอมันก่อน แต่คนที่ได้ลงมือเป็นคนแรก จะต้องเป็นข้าผู้นี้อยู่แล้ว!”
แสงสีแดงก่ำสว่างวาบผ่านไป ”เพลิงเผาสวรรค์!”
ทันใดนั้นคนผู้นั้นก็ถูกเปลวเพลิงสกัดกั้นเอาไว้ และเขาที่ใจเย็นลงแล้วในตอนนี้ก็กล่าวว่า ”เป็นสัตว์เทพหรือ? ที่นี่มีสัตว์เทพมาคอยเฝ้าอยู่ตั้งแต่เมื่อไรกัน?”
ถึงแม้ว่าเขาจะเป็นผู้บำเพ็ญภูตพลังขั้นภูตศักดิ์สิทธิ์คนหนึ่ง แต่ก็ไม่อยากจะต่อสู้กับสัตว์เทพทั้งสองตัวที่ไม่รู้ที่มาที่ไม่ชัดเจนเหล่านี้หรอก
เขากระโดดขึ้นไปกลางอากาศ และเตรียมตัวที่จะหนี แต่ทว่ากลับมีเงามืดอีกเงาปรากฏขึ้นกลางอากาศ เปลวเพลิงได้รวมกลุ่มกันและพุ่งเข้าโจมตีเขาราวกับฝนดาวตกอย่างไรอย่างนั้น
ตูมมม!
“สามตัว สัตว์เทพสามตัว!”
สีหน้าของเขาเปลี่ยนไปอย่างมาก ตอนนี้หากอยากจะหนีให้รอดก็เป็นไปไม่ได้แล้ว เช่นนั้นมีเพียง…
“สู้!”
เขากัดฟันลงมือ และอู๋ตี้ เสี่ยวหงอีกทั้งเสี่ยวโม่โม่ก็เริ่มโจมตีเขาเช่นกัน
มันเป็นการต่อสู้แบบสามต่อหนึ่ง ซึ่งพวกของอู๋ตี้ก็ทำราวกับว่าเป็นแมวกำลังเย้าหยอกหนูน้อยอยู่ก็มิปาน และเมื่อผ่านไปได้ครู่หนึ่งคนผู้นั้นก็ถูกโยนไปมาจนบอบช้ำไปทั้งตัวแล้ว
ตูมมมม!
การเคลื่อนไหวของสัตว์วิญญาณทั้งสามตัว ทำให้เกิดความปั่นป่วนขึ้นมาไม่น้อยเลย
มู่เฉียนซีต้องการให้สัตว์พันธสัญญาที่กำลังเบื่อหน่ายทั้งสามตัวของนางได้เล่นอย่างเต็มที่เสียหน่อย ฉงหมิงจึงส่งสัญญาณออกไป ว่าไม่ให้พวกเขายื่นมือเข้าไปยุ่ง ดังนั้นจึงไม่มีคนเข้าไปเลย
หลังจากที่ผ่านไปครู่หนึ่ง มู่เฉียนซีก็กล่าวกับฉงหมิงว่า “ได้เวลาแล้ว ไม่อย่างนั้นเจ้าหมอนั่นได้ตายแน่ ไปกันเถอะ!”
ฟิ้ว ฟิ้ว ฟิ้ว!
ถูกสัตว์เทพทั้งสามตัวทุบตีเกือบตาย ในที่สุดเขาก็เห็นว่ามีคนกำลังมาแล้ว และคนที่เดินมาข้างหน้าสุดก็คือคุณชายฉงหมิงนั่นเอง
หลังจากที่มองเห็นฉงหมิงแล้ว เขาก็รีบเข้าไปฟ้องก่อนที่เจ้าคนชั่วนั่นจะมา
“คุณชายขอรับ ไม่รู้ว่าเพราะเหตุใดที่นี่ถึงได้มีสัตว์เทพปรากฏตัวขึ้นมาถึงสามตัว อีกทั้งยังต้องการที่จะฆ่าข้าด้วย คุณชายโปรดช่วยชีวิตข้าด้วย!”
ฉงหมิงกล่าวว่า “ใช่แล้ว จะปล่อยให้คนทรยศตายไม่ได้หรอก เด็ก ๆ! มาจับเจ้านี่ไปซะ!”
เขากล่าวอย่างแสร้งโง่ว่า “คุณชาย? คนทรยศอะไรกันขอรับ?”
“ดึกดื่นยังออกมาเดินเพ่นพ่านไปทั่ว เจ้ากล้าพูดว่าเจ้าไม่ได้จะแอบออกไปอีกหรือ เจ้าต้องการจะแอบส่งข่าวไปให้คนที่อยู่เบื้องหลังเจ้าสินะ?” มู่เฉียนซีกล่าวอย่างเย็นชา
“นี่เจ้ากำลังใส่ร้ายข้า หรือว่าดึกดื่นเที่ยงคืนข้าจะออกมาเดินเล่นไม่ได้เลยอย่างนั้นหรือ?” เขายังคงเถียงข้าง ๆ คู ๆ ต่อไป
ฉงหมิงไม่อาจทนให้เขาพูดจาไร้สาระเช่นนั้นต่อไปได้อีกแล้ว เขากล่าวว่า ”ลากออกไป ทรมานจนกว่าจะสารภาพ! ดูซิว่าจะพูดหรือไม่?”
ในตอนที่ถูกคุมตัวไปเขาก็ยังคงร้องขอความเมตตาอย่างไม่ยอมแพ้ ”คุณชายขอรับ ท่านต้องเข้าใจผิดเป็นแน่! คุณชาย ข้าบริสุทธิ์! ที่มาของเจ้าสัตว์เทพทั้งสามตัวนี้ คุณชายจะต้องตรวจสอบนะขอรับ”
หลังจากที่คนถูกลากไปแล้ว มู่เฉียนซีก็กล่าวด้วยรอยยิ้มว่า ”เป็นอย่างไร? พันธมิตรของข้าค่อนข้างไว้ใจได้ใช่ไหมล่ะ! หากมีเพียงคนของเจ้า บางทีวันนี้อาจจะทำให้เขาหนีออกไปได้แล้วก็ได้”
ฉงหมิงกล่าวว่า “ข้าไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่าจะมีช่องโหว่เช่นนี้ได้”
กฏภายในของคุณชายฉงหมิงค่อนข้างที่จะโหดร้าย แต่ทว่าปากของอีกฝ่ายก็แข็งเกินไปเช่นกัน แม้ตายก็ไม่ยอมรับเป็นแน่
มู่เฉียนซีโยนยาขวดหนึ่งให้กับฉงหมิงพลางกล่าวว่า ”ลองเอาพิษนี้ไปใช้ดูสิ! เมื่อถึงเวลานั้นเจ้าจะรู้ว่าการร่วมมือกับหอหมอปีศาจ เป็นการกระทำที่ชาญฉลาดอย่างแน่นอน”
ทันทีที่ได้ใช้ยาพิษของท่านหมอปีศาจ อีกฝ่ายก็รับสารภาพมาตามตรง ว่าเขาคือหนอนบ่อนไส้ที่สมาคมการค้าเฮยอวิ๋นเป็นคนส่งมา
ไม่เพียงแต่ส่งข่าวเท่านั้น อีกทั้งยังส่งข้อมูลมากมายไปให้สมาคมการค้าเฮยอวิ๋นอีกด้วย
อย่างเช่นหลังจากที่เข้าร่วมงานประมูลในคราวนี้เสร็จแล้ว คุณชายฉงหมิงจะพาคนไปเท่าไร และแอบพาคนไปอีกเท่าไร
ยิ่งไปกว่านั้นก็คือ มู่เฉินซีก็จะไปที่นั่นด้วย ตอนที่พวกเขากลับน่าจะใช้สองเส้นทาง อีกทั้งบอกพวกเขาอย่างละเอียดเสียด้วย
หลังจากที่ได้รับข้อมูลนี้แล้ว ผู้นำสมาคมของสมาคมการค้าเฮยอวิ๋นก็ตื่นเต้นเป็นอย่างมาก
“รีบไปแจ้งสำนักหลางซิงและตระกูลเซี่ยโหวเร็วเข้า คราวนี้จะต้องกวาดล้างพวกเขาให้สิ้นซากได้อย่างแน่นอน และจะไม่ให้เหลือไว้แม้แต่คนเดียวเลย!”