ท่านอ๋องผู้โหดร้ายกับหมอปีศาจ - ตอนที่ 1949 ลงโทษอย่างโหดร้าย
“ข้าขอปฏิเสธ!” มู่เฉียนซีเดาไม่ออกว่าเจ้าหมอนี่ต้องการเล่นอะไรแผลง ๆ กันแน่ ฉะนั้นนางจึงเลือกที่จะปฏิเสธอย่างง่ายดาย
พิฆาตวิญญาณกล่าวว่า “ลูกแมวน้อย เจ้าไร้เดียงสาเกินไปแล้ว ข้าไม่ให้โอกาสเจ้าได้ปฏิเสธหรอกนะ!”
ทันใดนั้น แววตาคู่นั้นของพิฆาตวิญญาณก็เปลี่ยนเป็นกระหายเลือดและอันตรายมากขึ้นทันที
พลังนั้นได้ระเบิดออกมาอย่างกะทันหัน และพุ่งเข้าโจมตีมู่เฉียนซี
มู่เฉียนซีใช้การเคลื่อนย้ายภายในชั่วพริบตาเพื่อหลบหลีก
ปังง!
และมันก็ทำให้เบาะนุ่มที่นางนอนอยู่เมื่อครู่ อีกทั้งต้นไม้ที่อยู่ด้านหลังนั่นหายไปภายในชั่วพริบตาเดียว
สีหน้าของมู่เฉียนซีเคร่งขรึมขึ้นมาทันที “พิฆาตวิญญาณ เจ้าคิดจะฆ่าเจ้านายหรือ?”
พลังวิญญาณรวมตัวกันทันที หากพิฆาตวิญญาณคิดที่จะฆ่าเจ้านายจริง ก็ไม่รู้ว่าใครจะเป็นฝ่ายแพ้หรือใครจะเป็นฝ่ายชนะกันแน่!
พิฆาตวิญญาณโบกมืออย่างแผ่วเบา และกระบี่มังกรเพลิงพิฆาตวิญญาณก็ปรากฏขึ้นมาในมือของเขา
เขาโยนกระบี่เล่มนั้นออกไป แล้วกล่าวกับมู่เฉียนซีว่า “ฆ่าเจ้านายหรือ ข้าทำไม่ได้หรอก! เจ้าคือเจ้านายเพียงคนเดียวของข้าพิฆาตวิญญาณนะ!”
มู่เฉียนซีถือกระบี่เอาไว้ และนางก็สามารถสัมผัสได้ถึงมังกรเพลิงที่กำลังสั่นเทา
มังกรเพลิงกล่าวว่า “นายท่าน ข้าสามารถปกป้องท่านได้! ข้าจะไม่ยอมปล่อยให้พิฆาตวิญญาณมาทำตัวเหลวไหลกับท่านได้แน่ และจะไม่ยอมให้มันมาลงโทษท่านได้อย่างแน่นอน”
อย่างไรเสียก่อนหน้านี้พิฆาตวิญญาณก็เคยลงโทษมันอย่างน่าสะพรึงกลัวมาก่อน และมันก็ไม่อยากให้นายท่านถูกปฏิบัติอย่างโหดร้ายเช่นนั้นจริง ๆ
แต่ความสามารถของเขาอ่อนแอถึงเพียงนี้ อีกทั้งเขาก็ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของพิฆาตวิญญาณมาแต่ไหนแต่ไรแล้วด้วย ฮืออออ…
เปลวเพลิงแห่งราชันระเบิดออกมา และมันก็ได้โหมกระหน่ำใส่มู่เฉียนซี จากนั้นมู่เฉียนซีจึงกล่าวว่า “เกราะพลังวายุ!”
พิฆาตวิญญาณจ้องมองไปทางมู่เฉียนซีแล้วกล่าวว่า ”เพราะนิรันดร์ตื่นก่อนข้า ทำให้พลังวิญญาณธาตุวายุและการโจมตีของลูกแมวน้อยก้าวหน้าไปอย่างรวดเร็วมาก! อีกทั้งยังละเลยพลังธาตุอัคคี ซึ่งมันทำให้ข้าไม่พอใจมากทีเดียว!”
“สู้กับข้าสักรอบเถอะ! ช่วงนี้ข้ารู้สึกคันไม้คันมือเหลือเกิน”
มู่เฉียนซีมองไปทางพิฆาตวิญญาณแล้วกล่าวว่า “นี่คือการลงโทษที่เจ้าพูดถึงอย่างนั้นหรือ!”
“ใช่! ถูกต้องแล้วล่ะ! ลูกแมวน้อยเจ้าไม่ได้คิดว่าเคล็ดวิชาขัดเกลาร่างกายที่เจ้าเรียนมานั้นยอดเยี่ยมมากอย่างนั้นหรือ? หรือเจ้าไม่ได้คิดว่าทักษะปรุงยาที่นิรันดร์สอนเจ้ายอดเยี่ยมมากหรืออย่างไร? มันยอดเยี่ยมมากเสียจนไม่กลัวที่จะทำให้ตัวเองต้องบาดเจ็บสาหัสถึงเพียงนั้นเลยแม้แต่น้อย มันช่างดีเสียจริง ๆ!”
“แทนที่จะปล่อยให้ขยะเหล่านั้นมาทำร้ายเจ้า สู้ข้าเป็นคนลงมือสังหารเจ้านายที่ดีของข้าเองเสียยังจะดีกว่า” มุมปากของพิฆาตวิญญาณเผยรอยยิ้มที่กระหายเลือดออกมา
เปลวเพลิงนั้นพลันเปลี่ยนเป็นบ้าคลั่งขึ้นมาทันที มู่เฉียนซีกล่าวว่า ”ได้สิ! หลังจากที่ข้าผูกพันธสัญญากับเจ้า ดูเหมือนว่าข้าจะไม่ได้ต่อสู้กับเจ้าอีกเลย ข้าก็อยากสู้กับเจ้าสักรอบเช่นกัน!”
ตูมมมม โครมมม!
ธาตุอัคคีเดือดพล่าน และพลังที่น่าสะพรึงกลัวก็ปะทุออกมา เมื่อฉงหมิงและจูเชว่สัมผัสได้ถึงความผิดปกติก็รีบวิ่งมาอย่างรีบร้อนทันที
“นางผู้หญิงนั่น!”
“ซีซี!”
และพวกเขาก็ได้เห็นชายที่กระหายคนนั้น โจมตีมู่เฉียนซีอย่างรุนแรงครั้งแล้วครั้งเล่า
ถึงกระบี่มังกรเพลิงจะอยู่ในมือ แต่เมื่อมู่เฉียนซีเผชิญหน้ากับพิฆาตวิญญาณก็ยังคงยากที่จะเอาชนะอยู่ดี
ถึงแม้ว่าตอนนี้พิฆาตวิญญาณจะผนึกความแข็งแกร่งเอาไว้อยู่ก็ตาม
พรวด พรวด พรวด!
บนร่างกายของมู่เฉียนซีมีบาดแผลมากมายนับไม่ถ้วน ดูแล้วโหดร้ายอย่างที่สุด
จูเชว่และฉงหมิงตะลึงงันไปทันที “เขาบ้าไปแล้วหรือ?”
พวกเขาอยากที่จะเข้าไปช่วยเหลือ แต่มู่เฉียนซีกล่าวว่า “จูเชว่ ข้ากำลังเรียนรู้กับพิฆาตวิญญาณอยู่ พวกเจ้าอย่ายืนมือเข้ามายุ่ง”
พวกเขาทั้งสองคนตะลึงงันไป นี่คือการเรียนรู้อย่างนั้นหรือ?
จิตสังหารของชายผู้นี้คือเรื่องจริง และความโหดร้ายนั้นก็ไม่ใช่ของปลอมเลย เรียนรู้อะไรถึงได้ทำให้บาดเจ็บจนกลายเป็นเช่นนี้?
กระบี่มังกรเพลิงกวัดแกว่งไปมา และมู่เฉียนซีก็กล่าวอย่างเย็นชาว่า “เพลิงสังหารซิวหลัว!”
“เพลิงสังหารซิวหลัว!” พิฆาตวิญญาณก็ปล่อยกระบวนท่าเดียวกันออกมาเช่นกัน ซึ่งเป็นผลให้มู่เฉียนซีล่าถอยไปอย่างต่อเนื่อง
พรวด!
ร่างกายของมู่เฉียนซีได้รับบาดเจ็บมากขึ้นเรื่อย ๆ และเมื่อจูเชว่ได้เห็นก็ยิ่งเจ็บปวดใจเหลือเกิน แม้ว่ามู่เฉียนซีจะไม่ต้องการให้เขายืนมือเข้าไปยุ่ง แต่เขาก็ทนไม่ไหวอีกแล้ว
“ซีซี!”
จูเชว่เริ่มเคลื่อนไหว และฉงหมิงก็เริ่มเคลื่อนไหวด้วยเช่นกัน
ปัง ปัง ปัง!
แต่ทว่าทั้งสองคนยังไม่ทันจะเข้าไปใกล้ขอบเขตของการต่อสู้ กลับถูกพลังนั้นทำให้หมดสติไปเสียแล้ว
เมื่อตัวปัญหาหายไปสองคน พิฆาตวิญญาณก็ทำการลงโทษมู่เฉียนซีต่อไป
ระดับที่พิฆาตวิญญาณใช้โจมตีมู่เฉียนซี แข็งแกร่งกว่าพลังป้องกันทางกายภาพของมู่เฉียนซีมากมายนัก
แต่การฟื้นฟูอาการบาดเจ็บของมู่เฉียนซี ก็ยังฟื้นฟูได้เร็วกว่าการใช้สมุนไพรวิญญาณเป็นอย่างมาก
บาดเจ็บอย่างรุนแรง พลังวิญญาณถูกใช้ไปจนหมด อีกทั้งยังเสียเลือดไปมาก ร่างกายของมู่เฉียนซีเซไปเซมา และไม่สามารถที่จะต่อสู้ต่อไปได้อีกแล้ว
มังกรเพลิงออกมาประคองมู่เฉียนซีพลางกล่าวว่า “พิฆาตวิญญาณ นี่คือนายท่าน นี่คือนายท่านนะ เจ้าทำร้ายนายท่านจนบาดเจ็บขนาดนี้ได้อย่างไร”
พิฆาตวิญญาณยกมังกรเพลิงขึ้นแล้วโยนออกไป ตอนนี้หัวสมองของมู่เฉียนซีนั้นว่างเปล่า และทั่วทั้งร่างกายก็ไร้เรี่ยวแรง
พิฆาตวิญญาณกล่าวอย่างเคร่งขรึมว่า “ลูกแมวน้อย เจ็บหรือไม่? จำความเจ็บปวดเหล่านี้เอาไว้ และจากนี้อย่าได้รับบาดเจ็บมั่วซั่วอีก!”
มู่เฉียนซีล้มตัวลงไปบนพื้น และพิฆาตวิญญาณก็หามคนเจ็บออกไปรักษา
หลังจากที่จูเชว่ฟื้นขึ้นมาสิ่งแรกที่เขาทำก็คือตามไล่ล่าพิฆาตวิญญาณ แต่ทว่าแม้แต่ห้องของมู่เฉียนซีเขาก็ไม่อาจเข้าไปได้
“บัดซบเอ้ย! เจ้าหมอนั่นมันเป็นอะไรกันแน่?” พิฆาตวิญญาณทุบหินด้วยมือเดียวได้ตั้งแต่อายุเท่าไรกัน
รสชาติของการรักษาอาการบาดเจ็บไม่ได้รู้สึกดีเลยแม้แต่น้อย หลังจากที่รอให้รักษาอาการบาดเจ็บดีขึ้นแล้ว พิฆาตวิญญาณก็กล่าวว่า ”ลูกแมวน้อย เจ้าคิดว่าการลงโทษแค่ครั้งเดียวเพียงพอแล้วหรือยัง? คิดว่าหากอยากให้เจ้าจำได้นานขึ้นอีกหน่อย จะต้องต่อสู้กันอีกสักสองสามรอบดีหรือไม่?”
มู่เฉียนซีปีนป่านขึ้นมาด้วยท่าทางที่ไม่ยอมแพ้พิฆาตวิญญาณ นางกล่าวว่า “เจ้าคิดว่าข้าจะกล้วเจ้าหรือ?”
และมู่เฉียนซีก็ถูกพิฆาตวิญญาณทรมานอีกครั้งหนึ่ง นางกล่าวว่า ”พิฆาตวิญญาณ สักวันหนึ่งข้าจะทรมานเจ้ากลับไปบ้าง! และจะไม่ใช้พลังของพันธสัญญา แต่ข้าจะใช้พลังของตนเองนี่แหละ”
พิฆาตวิญญาณคลี่ยิ้มออกมา สาวงามที่กระหายเลือดนั้นน่าหลงใหลเสียจริง และเขาก็หัวเราะอย่างขึ้นมาอย่างงดงาม
“ได้สิ! ข้าจะรอให้วันนั้นมาถึงนะ!”
ไม่ใช่ว่ามู่เฉียนซีจะถูกทำร้ายไปอย่างเปล่าประโยชน์ เพราะตอนนี้นางควบคุมพลังธาตุอัคคีได้แข็งแกร่งมากขึ้นแล้ว
จูเชว่ไม่สามารถที่จะขัดขวางการกระทำของมู่เฉียนซีได้ ฉงหมิงจึงกล่าวว่า “นางรนหาที่ตายก็ปล่อยให้นายไปตายก็พอแล้วนี่”
หลังจากที่ถูกพิฆาตวิญญาณทรมานถึงสามครั้ง พิฆาตวิญญาณก็เดินไปถึงเบื้องหน้าของมู่เฉียนซีที่เซไปเซมาแล้วกล่าวว่า ”มรดกทักษะวิญญาณที่เจ้าได้รับไปก่อนหน้านี้ เป็นเพียงแค่ของเด็กน้อยเท่านั้น วันนี้ข้าอารมณ์ดี ฉะนั้นข้าจะให้เจ้าได้เห็นมรดกทักษะวิญญาณของกระบี่มังกรเพลิงพิฆาตวิญญาณแห่งกระบี่ศักดิ์สิทธิ์นิรันดร์ที่แท้จริงเอง”
“ทักษะวิญญาณนี้ หากไม่ทำให้คนถูกต้อนจนมุมครั้งแล้วครั้งเล่า ก็ไม่มีทางเข้าใจได้! หากครั้งนี้เจ้าเรียนไม่สำเร็จ เจ้าจะต้องถูกข้าลงโทษอีกครั้งนะ!”
มู่เฉียนซีกำกระบี่มังกรเพลิงเอาไว้แน่นพลางกล่าวว่า “พิฆาตวิญญาณ เจ้าอย่าได้ดูถูกข้านักเลย!”
เปลวเพลิงกลายเป็นเสียงของกระบี่มังกรเพลิงพิฆาตวิญญาณ และทันใดนั้นเอง พลังธาตุอัคคีจากบริเวณโดยรอบก็มารวมตัวกันและฟาดฟันไปบนอากาศ
“เพลิงเผาดาราพิฆาต!”
ตูมมมม!
ทันทีที่พลังกระบี่ระเบิดออก ดูเหมือนว่าพลังนั้นสามารถระเบิดดาวเคราะห์ได้อย่างไรอย่างนั้น
ทักษะวิญญาณนี้ช่างแข็งแกร่งมากผิดปกติเสียจริง ๆ และแตกต่างจากทักษะวิญญาณธาตุอัคคีที่นางเคยเรียนมาก่อนหน้านี้ราวฟ้ากับดิน
พิฆาตวิญญาณหันกลับมามองมู่เฉียนซีพลางกล่าวว่า “ลูกแมวน้อยของข้า เรียนรู้อะไรได้บ้าง?”
มู่เฉียนซีถือกระบี่มังกรเพลิงเอาไว้ พลางกล่าวว่า “ข้าขอลองหน่อย!”
แม้ว่าพลังวิญญาณในร่างกายจะเหลืออยู่ไม่มาก แต่เมื่อเห็นทักษะวิญญาณที่ทรงพลังเช่นนี้แล้ว นางก็รู้สึกถึงเลือดที่เดือดพล่าน และไม่ว่าอย่างไรก็จะต้องลองให้ได้
นางใช้เคล็ดวิชาเดียวกับพิฆาตวิญญาณอย่างไม่ผิดเพี้ยน รวบรวมพลังธาตุอัคคี และฟาดฟันกระบี่ออกไปอย่างไม่ลังเล
“เพลิงเผาดาราพิฆาต!”
ปังง!
หากจะบอกว่าแรงระเบิดของกระบี่พิฆาตวิญญาณสามารถระเบิดดาวเคราะห์ดวงใหญ่ได้ เช่นนั้นการระเบิดดาวเคราะห์ของกระบี่มู่เฉียนซีนี้คงจะมีขนาดเท่าลูกบอลลูกหนึ่งเท่านั้น
พลังวิญญาณถูกใช้จนหมดสิ้น ทันใดนั้นดวงตาของมู่เฉียนซีก็มืดลง แต่พิฆาตวิญญาณก็ประคองนางเอาไว้ และไม่ปล่อยให้นางล้มลงไปบนพื้นได้แต่อย่างใด