ท่านอ๋องผู้โหดร้ายกับหมอปีศาจ - ตอนที่ 1948 ต้องลงโทษเจ้า
“หากวิธีข่มขู่มันมีประโยชน์ เจ้าคิดว่าข้าจะโง่เง่าถึงได้ไม่ใช้ประโยชน์จากมันอย่างนั้นหรือ!” มู่เฉียนซีเอ่ยปากกล่าว
กระบี่ที่อยู่ในมือของพิฆาตวิญญาณเล่มนั้นก็ได้มาตกอยู่ในมือของนาง และมู่เฉียนซีก็ใช้กระบี่โขกไปที่ศีรษะของพิฆาตวิญญาณโดยตรง
โป้ก!
นางลงมือหนักอย่างไม่ธรรมดา แต่กลับไม่ได้ทำให้เจ้าหมอนี่บาดเจ็บเลย
พิฆาตวิญญาณหันกลับมามองมู่เฉียนซีแล้วกล่าวว่า “ลูกแมวน้อย ศีรษะของบุรุษไม่ใช่สิ่งที่จะเคาะได้ส่งเดชหรอกนะ”
มู่เฉียนซีกล่าวว่า “ทั้งเนื้อทั้งตัวของเจ้าตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้าต่างก็เป็นของข้า มีตรงไหนที่ข้าจะเคาะไม่ได้บ้าง?”
เมื่อได้ยินเช่นนี้ พิฆาตวิญญาณก็คลี่ยิ้มออกมาอย่างกะทันหัน
“อื้ม! ที่ลูกแมวน้อยกล่าวมาก็ไม่ผิด ทั้งหมดนี้ล้วนเป็นของเจ้า”
และตอนนี้จูเชว่ก็กล่าวออกมาด้วยท่าทางที่เหลือเชื่อ “ซีซี เจ้าหมอนี่พูดอะไรน่ะ? เขาพูดว่าอะไร?”
มู่เฉียนซีกล่าวว่า “เขาเป็นทาสของข้า ดังนั้นเขาก็คือของของข้าแน่นอนอยู่แล้ว”
จูเชว่ประหลาดใจเป็นอย่างมาก ท่าทางที่เจ้าหมอนี่มีต่อซีซี เป็นเหมือนทาสตรงไหนกัน
นางกล่าวว่า “หากไม่อยากกลับไปแล้วละก็ อย่าทำอะไรโดยไม่ได้รับอนุญาต เจ้าคิดว่าเจ้ามีความสามารถในรักษาของนิรันดร์หรือ!”
“แม้แต่คนเจ้าชู้ข้าก็ยังเทียบไม่ได้อีกอย่างนั้นหรือ?” พิฆาตวิญญาณกล่าวอย่างไม่เต็มใจนัก
“ใช่ แม้ว่านิรันดร์จะน่ารำคาญไปเสียหน่อย แต่เขาก็ยังปรุงยาได้นะ!”
“ข้าสามารถฆ่าคนได้!”
“แต่ข้ามีความสนใจต่อการปรุงยามาก และไม่ค่อยชอบฆ่าคนเท่าไรนัก”
พิฆาตวิญญาณรู้สึกอึกอัด! สู้คนเจ้าชู้อย่างเจ้าหมอนั่นไม่ได้หรือ สายตาของเจ้าลูกแมวน้อยเป็นอะไรไปน่ะ!
มู่เฉียนซีมองไปทางจูเชว่และฉงหมิงพลางกล่าวว่า “เรามาคุยหัวข้อก่อนหน้านี้กันต่อเถอะ จูเชว่ ฉงหมิง พวกเจ้าคิดว่าอย่างไรบ้าง? ต้องการจะจัดการกับพวกเขาอย่างไร?”
จูเชว่กล่าวว่า “ข้าเชื่อฟังซีซีทุกอย่าง ซีซีอยากไปสู้ที่ไหนข้าก็จะไปสู้ที่นั่น แน่นอนว่าไม่คิดเล็กคิดน้อยอยู่แล้ว”
ฉงหมิงดูถูกจูเชว่อยู่ภายในใจอย่างที่สุด ก่อนหน้านี้ต้องบีบบังคับเขา และถึงจะพูดจนปากเปียกปากแฉะก็ไม่รับปากว่าจะให้ความร่วมมือ
แต่ตอนนี้เพียงแค่ผู้หญิงคนนี้พูด เขาก็ตอบรับอย่างมีความสุขเช่นนี้แล้ว
ฉงหมิงมองไปที่มู่เฉียนซีพลางกล่าวว่า “เจ้าลองคิดดูให้ดี แม้ว่าเจ้าจะทำข้าก็ไม่อาจรับปากเจ้าได้ เช่นนั้นเจ้าก็จะเสียเวลาไปอย่างสูญเปล่า”
“ข้าไม่เสียเวลาเปล่าหรอก เพราคนของพวกเขาแอบส่งข่าวออกไปเลยทำให้ข้าต้องบาดเจ็บสาหัสเช่นนี้ ข้าจัดการพวกเขาเพื่อแก้แค้นให้ตนเองไม่ได้อย่างนั้นหรือ?” มู่เฉียนซีกล่าวว่าตบ
“ฮึ! ถึงอย่างไรข้าก็อยากจะพูดไว้ตรงนี้เลย เพราะเมื่อถึงตอนนั้นเจ้าจะได้ไม่ผิดหวังเกินไป” ฉงหมิงอย่างเย็นชา
“ในเมื่อต้องการที่จะจัดการวกเขา ทั้งอาวุธ กำลังและยาลูกกลอนต่างก็เป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้”
“เรื่องนี้ข้ารู้ดี อาวุธลับต่าง ๆ ข้าได้ให้คนหลอมออกมาแล้ว กำลังคนก็เรียกให้มารวมตัวทันที ส่วนยาลูกกลอน ไม่ใช่ว่าร่วมมือกับหอปีศาจของพวกเจ้าอย่างนั้นหรือ? ข้าแค่ซื้อมันก็จบแล้ว”
“หากเป็นยาลูกกลอนก็ไม่ต้องซื้อหรอก พวกเจ้าไปเตรียมสมุนไพรวิญญาณให้พร้อม ข้าจะกลั่นมันเอง” มู่เฉียนซีกล่าว
“เจ้าจะบ้าไปแล้วหรือไง! ยามากมายขนาดนั้นเจ้าจะกลั่นออกมาคนเดียวได้อย่างไร มีพลังขนาดนี้ สู้เจ้าไปหลอมอาวุธลับอีกสองสามชิ้นเสียยังจะดีกว่า”
“เช่นนั้นอาวุธลับข้าก็สามารถหลอมได้ ยาข้าก็ทำได้เช่นกัน จะพูดจาไร้สาระให้มากมายไปเพื่ออะไรกัน? รีบไปเตรียมตัวเร็วเข้าเถอะ!”
พวกเขาเลือกที่จะร่วมมือ และเริ่มปรึกษาหารือกันทันที
สำหรับเรื่องนี้แล้ว พิฆาตวิญญาณไม่มีความสนใจเลยสักนิด
แน่นอนว่าเขาใช้ความสามารถในการทำลายล้างศัตรูมาโดยตลอด และไม่จำเป็นต้องเสียเวลาเช่นนี้เลย
จูเชว่ต้องทำหน้าที่ในการจับตามองความเคลื่อนไหวของคนจากทั้งสองกองกำลังนั่น ส่วนมู่เฉียนซีกับฉงหมิงก็เตรียมอาวุธลับให้มากยิ่งขึ้นกว่านี้อีก
แต่ทว่ามู่เฉียนซีกลับถูกพิฆาตวิญญาณลากตัวกลับมา พิฆาตวิญญาณกล่าวอย่างอันตรายว่า ”ลูกแมวน้อยของข้า อาการบาดเจ็บยังไม่หายดี อย่ากระโดดไปนู้นมานี่ส่งเดช ระวังไว้เพราะข้าอาจจะฉีกแขนหักขาเจ้าเสีย!”
จูเชว่กล่าวว่า ”เสี่ยวโชว่เอ๋อร์ อาการบาดเจ็บของซีซียังไม่หายอย่างสมบูรณ์เลย เจ้าจะให้นางไปหลอมอาวุธอีกหรือ! คนอื่นล่ะ? เจ้าเลี้ยงดูนักหลอมอาวุธมากมายเหล่านั้นไปทำไมกัน? อย่างไรก็ตาม จนกว่าซีซีจะรักษาอาการบาดเจ็บให้หายได้อย่างสมบูรณ์ ห้ามให้นางทำงานโดยเด็ดขาด ”
ฉงหมิงคือผู้บริสุทธิ์ และเขาก็ไม่ได้เป็นคนบีบบังคับให้มู่เฉินซีมาหลอมอาวุธเสียหน่อย
หลังจากที่อาการบาดเจ็บของมู่เฉียนซีได้รับการรักษาอย่างสมบูรณ์แล้ว นางกับฉงหมิงทั้งสองคนก็ได้อุทิศตนเพื่อหลอมอาวุธลับชนิดต่าง ๆ ออกมามากมาย
สมุนไพรวิญญาณที่ต้องเตรียมก็ได้เตรียมไว้เรียบร้อยแล้ว ฉงหมิงกล่าวว่า“เจ้าไม่ได้บอกว่าจะปรุงยาอย่างนั้นหรือ? แล้วเตรียมกลั่นยาอย่างไร?”
มู่เฉียนซีกล่าวด้วยรอยยิ้ม “มันง่ายมากเลย! หลุนหุย จงออกมา! เรื่องหลอมยาของที่นี่ข้ามอบหน้าที่ให้เจ้าก็แล้วกัน”
หลังจากที่มู่เฉียนซีนำหม้อหลุนหุยแห่งความตายออกมาแล้ว แววตาของฉงหมิงก็เปล่งประกายขึ้นมาอีกครั้ง “นี่คือมหาวัตถุศักดิ์สิทธิ์เทพ มหาวัตถุศักดิ์สิทธิ์เทพ!”
เมื่อเห็นมหาวัตถุศักดิ์สิทธิ์เทพที่ยอดเยี่ยม ฉงหมิงก็อดที่จะตื่นเต้นไม่ได้ ดังนั้นหลุนหุยจึงยังไม่ได้เริ่มการเล่นกลเสียที
“อุ๊ย! เจ้าเด็กน้อยนี่จะกระตือรือร้นเกินไปแล้ว ข้ารู้สึกอายนะ” หลุนหุยกล่าวอย่างเขินอาย
“มีวิญญาณสถิตอีกแล้ว! วิญญาณสถิต” ฉงหมิงตื่นเต้นจนเกือบที่จะกระโดดขึ้นมาอยู่แล้ว
ทั่วทั้งแดนซวนเทียน มหาวัตถุศักดิ์สิทธิ์เทพที่มีวิญญาณสถิตนั้นมีน้อยมากถึงมากที่สุด แต่หลังจากที่เจอกับมู่เฉินซี เขาก็ได้พบเห็นมันถึงสองชิ้นแล้ว
มู่เฉียนซีกล่าวว่า “เอาล่ะ! ฉงหมิงเจ้าใจเย็นหน่อย หลุนหุยจะต้องกลั่นยาแล้ว อย่าไปรบกวนมันเลย”
“พิฆาตวิญญาณ ไหน ๆ เจ้าก็ไม่มีเรื่องอะไรให้ทำ เช่นนั้นเจ้าก็อยู่กำกับหลุนหุยเสียเถอะ! อย่าให้เขาแอบอู้งานได้” มู่เฉียนซีกล่าวพลางมองไปที่พิฆาตวิญญาณ
หลุนหุยตกใจเป็นอย่างมาก ”ฮืออออ! นายท่าน อย่านะ! ข้าจะไม่อู้งานแน่นอน ท่านอย่าให้ท่านพิฆาตวิญญาณคอยกำกับงานข้าเด็ดขาดเลยนะ! ข้ากลัวมากเหลือเกิน ข้ากลัวว่าเมื่อถึงตอนนั้นยาที่กลั่นออกมาจะมีแต่ยาเสียทั้งหมดมากกว่า”
ท่านพิฆาตวิญญาณเป็นอาวุธที่โหดร้ายมาก อีกทั้งยังโหดเหี้ยมทารุณเป็นที่สุดอีกด้วย ซึ่งเขากลัวมันมากจริง ๆ!
“เจ้าก็ลองกลั่นยาเสียออกมาดูสิ?” พิฆาตวิญญาณกล่าวอย่างเย็นชา
หลุนหุยได้เงียบเสียงลงไปแล้ว และมู่เฉียนซีก็คิดว่าเจ้านี่เป็นลมเพราะความหวาดกลัวไปแล้ว
มู่เฉียนซีกล่าวว่า “หลุนหุย ก่อนหน้านี้ข้าไม่เคยเห็นเจ้าขี้ขลาดเช่นนี้มาก่อนเลย!”
“ฮือออออ! นายท่าน ท่านไม่เห็นหรือว่าคนที่ยืนอยู่เบื้องหน้าท่านเป็นผู้ใดกัน นั่นคือท่านพิฆาตวิญญาณนะ! ท่านพิฆาตวิญญาณ” หลุนหุยอยากร้องไห้แต่ไม่มีน้ำตา นายท่านไม่กลัว แต่พวกมันกลัวมากเลยนี่นา
มู่เฉียนซีไม่สนใจว่าภายในใจของหลุนหุยจะหม่นหมองมากมายแค่ไหน และหลุนหุยก็ทำได้เพียงปรุงยาต่อไปอย่างเชื่อฟัง
ฉงหมิงกล่าวอย่างประหลาดใจว่า ”หม้อเทพที่สามารถกลั่นยาได้ด้วยตนเองหรือ หากข้าสามารถหลอมหม้อเทพเช่นนี้ออกมาได้ หอหมอปีศาจของเจ้าคงมีอยู่ต่อไปไม่ได้แล้วเป็นแน่”
“พ่อหนุ่มน้อย บนโลกใบนี้หม้อยาเช่นนี้มีเพียงข้าเท่านั้น หากเจ้าจะหลอมหม้อเทพที่คล้ายข้า ก็ไปฝึกฝนอย่างยากลำบากสักหมื่นปีก่อนค่อยมาพูดเถอะ!”
หากหม้อยาเช่นนี้สามารถหลอมออกมาได้อย่างง่ายดาย ก็คงจะไม่มีคนตั้งใจเรียนทักษะการปรุงยาขนาดนั้น เพื่อจะได้กลายเป็นนักปรุงยาอีกแล้ว
ถึงแม้จะมีหม้อยาเช่นนี้อยู่ แต่การกลั่นยาของหลุนหุยก็ยังคงต้องการพลังวิญญาณอยู่ดี และก็ไม่ใช่ว่าใครก็จะสามารถมอบให้ได้
เมื่อหลุนหุยกลั่นยาได้อย่างราบรื่น พวกเขาก็กลับไปหลอมอาวุธต่อ
ก่อนที่จะลงมือต่อสู้ คนของพวกเขาแต่ละคนต่างมีอาวุธลับต่าง ๆ อยู่ในมือเรียบร้อยแล้ว ถึงแม้ว่าตอนนั้นจะสู้ไม่ได้ ก็จะสามารถสังหารพวกเขาได้เช่นกัน!
เมื่อเตรียมตัวได้พอประมาณแล้ว และเหลือเพียงโอกาสที่เหมาะสมเท่านั้น
มู่เฉียนซีกำลังพักผ่อนอยู่ด้านนอก ทันใดนั้นร่างทั้งร่างก็ถูกปกคลุมอยู่ท่ามกลางเงามืด มู่เฉียนซีลืมตาขึ้นแล้วกล่าวว่า ”พิฆาตวิญญาณ มีอะไรอย่างนั้นหรือ?”
พิฆาตวิญญาณกล่าวว่า “ลูกแมวน้อย เจ้าคงจะยังไม่ลืมใช่หรือไม่! ข้าช่วยเหลือเจ้าอีกทั้งยังแก้แค้นให้เจ้าด้วย หรือว่าเจ้าไม่ควรขอบคุณข้าอย่างนั้นหรือ?”
“กระบี่อย่างเจ้าเป็นของข้า ช่วยเหลือข้าหรือว่าไม่ใช่การช่วยเหลือตัวเองอย่างนั้นหรือ?”
“แต่ว่าหลังจากที่ข้าช่วยเจ้าลูกแมวน้อยอย่างเจ้าแล้ว ข้าก็ตัดสินใจว่าจะลงโทษเจ้า และข้าก็เลื่อนเวลามานานมากแล้ว ลูกแมวน้อยเจ้าเตรียมตัวรับการลงโทษมาพร้อมหรือยัง?” พิฆาตวิญญาณก้มต่ำลง และเข้ามากระซิบที่ข้างหูของมู่เฉียนซี
.