ท่านอ๋องผู้โหดร้ายกับหมอปีศาจ - ตอนที่ 1947 การข่มขู่ของพิฆาตวิญญาณ
หลังจากที่ได้อ่านจดหมายที่จูเชว่ตอบกลับมาแล้ว ก็ยังคงไม่มีข้อมูลว่าชายชุดสีแดงเลือดผู้นั้นเป็นใครกันแน่
ฉงหมิงกล่าวว่า “เพิ่มการป้องกันให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น อย่าให้ผู้ใดเข้ามาในป้อมปราการได้ โดยเฉพาะจูเชว่! ขวางเขาเอาไว้ เขามาทางไหนก็ให้กลับไปทางนั้นเสีย อย่ามาวุ่นวายกับข้า”
“ขอรับ! คุณชาย”
“การหลอมอาวุธลับคราวนี้เป็นอย่างไรบ้าง?” ฉงหมิงกล่าวถาม
“ได้เริ่มทำการหลอมไปแล้วขอรับ อัตราความสำเร็จสูงมาก คุณชายโปรดวางใจ”
แม้ว่าฉงหมิงจะป้องกันทุกวิถีทาง แต่ก็ไม่อาจที่จะป้องกันจูเชว่ที่ต้องการบุกเข้ามาอย่างสุดใจได้
หลังจากที่จูเชว่ลอบเข้ามาได้แล้ว ก็ไม่ได้ตรงไปหาฉงหมิงแต่อย่างใด แต่พุ่งตรงไปยังห้องพักของมู่เฉียนซีแทน
“ซีซี ข้ามาหาเจ้าแล้ว!”
ตูมม!
จูเชว่ผลักประตูเปิดออก จากนั้นเขาก็ถูกผลักจนกระเด็นออกมาด้วยพลังอันน่าสะพรึงกล้ว และอวัยวะภายในทั้งหมดเกือบจะแหลกสลายไปเลยทีเดียว
โชคยังดีที่เขาสวมหน้ากากไว้ในใบหน้า มันจึงทำให้ใบหน้าของเขาไม่ได้รับบาดเจ็บ แต่กลับมีเลือดสดไหลย้อยออกมาจากมุมปากของเขาแทน
หลังประตูที่เปิดอยู่บานนั้น เขาได้เห็นว่ามีร่างที่สวมชุดสีแดงเลือดคนหนึ่งยืนอยู่ข้างใน
ปัง!
และทันใดนั้นเอง ประตูบางนั้นก็ถูกปิดลง
ชายคนนั้นแต่งกายด้วยชุดสีเลือด และกลิ่นอายแห่งความกระหายเลือดก็แผ่กระจายออกไปทั่ว ราวกับเป็นนักฆ่าอย่างไรอย่างนั้น
เขาได้ยินข่าวมาว่าซีซีได้ผู้ที่แข็งแกร่งคนหนึ่งช่วยเหลือเอาไว้ เขาก็คิดว่าท่านนิรันดร์กลับมาแล้ว แต่ทว่าคนผู้นั้นไม่ใช่นิรันดร์อย่างแน่นอน
พิฆาตวิญญาณเคลื่อนไหว และจูเชว่ก็ถูกโจมตีทันที ฉะนั้นฉงหมิงจึงรีบเดินทางมาอย่างรวดเร็ว
“มาถึงแล้วก็ไม่ยอมมาทักทายข้า ก็สมควรถูกตีแล้วล่ะ!” ฉงหมิงกล่าว
“เจ้ายังยินดีกับเคราะห์ร้ายของคนอื่นอีกหรือ! ข้ายังไม่ทันได้คิดบัญชีกับเจ้าเลยนะ!” จูเชว่อยากทักทายฉงหมิงด้วยหมัดสักสองสามหมัดเสียจริง ๆ
“คิดจะต่อสู้กับข้า รอให้เจ้ารักษาบาดแผลหายดีเสียก่อนแล้วค่อยมาพูดเถอะ!”
“บาดเจ็บเล็กน้อยแค่นี้ไม่เท่าไรหรอก ข้ามียารักษาอาการบาดเจ็บที่ซีซีกลั่น…”
ผลก็คือทันทีที่จูเชว่หยิบขวดยาออกมา ยาลูกกลอนขวดนั้นก็ถูกยึดไป
“เฮ้! เอายาคืนข้ามาเดี๋ยวนี้เลยนะ!”
“หุบปาก! หนวกหูจริง!” มีน้ำเสียงที่เย็นยะเยือกดีงออกมา อีกทั้งยังมีจิตสังหารที่น่าสะพรึงกลัวแผ่กระจายออกมาอีกด้วย และมันก็ทำให้จูเชว่รู้ว่าคนผู้นี้ไม่อาจที่จะยั่วยุได้
เขากล่าวว่า “ไม่เป็นไร ข้ายังเอายาของหอหมอปีศาจมาด้วย”
ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าเขาจะถูกแย่งอันนี้ไปด้วย!
ฉงหมิงกล่าวว่า “หากไม่อยากโดนฆ่าก็ตามข้ามา”
“แต่ข้าอยากเจอซีซีนี่!” จูเชว่ยังไม่คิดจะยอมแพ้!
“อาการบาดเจ็บของนางได้รับฟื้นฟูไปอย่างรวดเร็วอยู่แล้ว”
เมื่อมาถึงอาณาเขตของฉงหมิงแล้ว ในที่สุดกลิ่นอายที่น่าสะพรึงกลัวก็หายไปจากตนเอง จูเชว่กล่าวถามว่า “ชายผู้นั้นจะกำเริบเสิบสานเกินไปแล้ว เขาเป็นใครกันแน่?”
“เจ้ารู้จักกับผู้หญิงคนนั้นมาก่อนข้าตั้งนานถึงขนาดนั้น เจ้าไม่รู้แล้วยังจะมาถามข้าอีกเนี่ยนะ เจ้าไม่เคยเห็นมาก่อนหรือไง?” ฉงหมิงกล่าว
“เขาไม่ใช่นิรันดร์!”
“ชื่อของเขา น่าจะเรียกว่าพิฆาตวิญญาณ! ทั้วทั้งซวนเทียน มีคนเช่นนี้ด้วยอย่างนั้นหรือ? เขาเป็นคนอันตรายมาก จิตสังหารที่กระหายเลือดนั่น แม้แต่การสังหารหมู่นับล้านศพก็ยังไม่ทรงพลังมากขนาดนี้เลย” ฉงหมิงขมวดคิ้วเล็กน้อย
จูเชว่กล่าวว่า “ไม่ว่าเขาจะเป็นใคร แต่เขาก็ได้ช่วยชีวิตซีซีเอาไว้ และข้าก็อยากที่จะไปขอบคุณเขา”
ฉงหมิงกล่าวตอบหว่า “เจ้าคิดที่จะขอบคุณตอนนี้ ข้าว่ามันน่าจะเร็วเกินไป!”
หลังจากที่ทั้งสองพูดคุยเรื่องของมู่เฉียนซีเสร็จแล้ว ฉงหมิงก็กล่าวว่า ”เอาข้อมูลของสมาคมการค้าเฮยอวิ๋นกับสือเหมินมาให้ข้า คิดไม่ถึงเลยว่าจะมายั่วยุข้าถึงที่เช่นนี้ ข้าคิดว่าน่าจะต้องทำลายทั้งสองตระกูลนั่นโดยเร็วที่สุดจะดีกว่า”
หากว่าไม่มีคนแอบข่าวไปแจ้งเจ้าตระกูลเซี่ยโหวและสำนักหลางซิง ผู้หญิงคนนั้นคงไม่ต้องพบเจอกับเรื่องร้ายแรงเช่นนี้
จูเชว่ยิ้มอย่างมีเสน่ห์พลางกล่าวว่า ”เสี่ยวโชว่เอ๋อ พวกเราช่างมันความคิดที่ตรงกันเสียจริง ๆ! ข้ากำลังคิดเช่นนั้นอยู่พอดี กล้ามาทำร้ายซีซีของข้าจนบาดเจ็บสาหัสถึงเพียงนี้ พวกเขาช่างรนหาที่ตายเสียจริง ๆ”
เหตุผลที่จูเชว่รีบมาถึงที่นี่ด้วยตนเอง ประการแรกเลยก็เป็นเพราะว่าเขาเป็นห่วงมู่เฉียนซี
ส่วนประการที่สองน่ะหรือ! ก็คือการมาถอนรากถอนโคนกองกำลังทั้งสองให้สิ้นซากแน่นอนอยู่แล้ว
ฉงหมิงกล่าวว่า “หากร่วมมือกันจัดการละก็ มันก็จะง่ายต่อพวกเราหน่อย!”
“อยากให้ข้าช่วยเหลือมันก็ได้อยู่หรอก! ขอเพียงเจ้ารับปากตามคำขอของซีซี ข้าต้องช่วยเจ้าแน่นอน” จูเชว่กล่าวด้วยรอยยิ้ม
ฉงหมิงขมวดคิ้วมุ่น พลางกล่าวว่า “จูเชว่ เจ้ารู้หรือไม่เจ้าที่เป็นเช่นนี้มันอันตรายมาก เพื่อหญิงสาวคนหนึ่ง เจ้าสามารถทำได้ถึงขนาดนี้เชียวหรือ!”
“นี่ก็ช่วยไม่ได้นี่น่า! ใครใช้ให้ข้าชอบซีซีมากถึงขนาดนี้กันล่ะ”
จูเชว่ทำท่าทางที่ดูมีความสุขมาก ซึ่งทำให้ฉงหมิงอดที่จะทุบเขาให้ตายไม่ไหวแล้ว
ฉงหมิงกล่าวว่า “ข้าไม่สามารถที่จะตอบรับคำขอเหล่านั้นของนางได้ ข้าทำไม่ได้! แม้ว่าเจ้าจะไม่ช่วยเหลือข้า เขาก็เพียงแค่ต้องจัดการกับกองกำลังระดับสี่ทั้งสองเท่านั้น เจ้าคิดว่าข้าจะกล้วหรือ?”
“โชว่เอ๋อของพวกข้านี่ช่างมีจิตใจที่หยิ่งในศักดิ์ศรีเสียเหลือเกิน พี่ชายชื่นชมเจ้ามากจริง ๆ” จูเชว่กล่าวพลางหัวเราะคิกคัก
“เจ้าหุบปากไปเลยนะ!” ฉงหมิงกล่าวอย่างโกรธเคือง
เมื่อสำนักหลางซิงและตระกูลเซี่ยโหวได้รู้ข่าวความล้มเหลว ซึ่งไม่มีผู้รอดชีวิตกลับมาได้เลยแม้แต่คนเดียว อีกทั้งยังหาไม่เจอแม้กระทั่งศพเลยด้วยซ้ำ มันจึงทำให้พวกเขาไม่รู้เลยว่าคนที่ส่งออกไปตายได้อย่างไร!
ซึ่งพวกเขาก็สูญเสียกำลังพลครั้งใหญ่ไปสามครั้งติดต่อกันแล้ว
“จะต้องเป็นคุณชายฉงหมิงผู้นั้นที่ยุ่งไม่เข้าเรื่องเป็นแน่ บัดซบเอ้ย!”
“ท่านผู้นำตระกูล ข้าได้ยินข่าวมาว่าสมาคมการค้าเฮยอวิ๋นกำลังร่วมมือกับสือเหมินในการจัดการคุณชายฉงหมิงผู้นั้น หรือไม่พวกเราจะไปร่วมมือกับพวกเขา ทั้งสี่ฝ่ายร่วมมือกันกำจัดคุณชายฉงหมิงให้สิ้นซากไปเสีย จากนั้นหากต้องการจับตัวนางสาวน้อยอย่างมู่เฉินซีก็จะกลายเป็นเรื่องที่ง่ายดายในทันที” มีคนกล่าวแนะนำ
“ตกลง! ติดต่อพวกเขาไปซะ! ว่าให้ไปกำจัดเจ้าคนที่ยุ่งไม่เข้าเรื่องนั่นให้เร็วที่สุด”
“ขอรับ!”
ถึงมู่เฉียนซีได้รับบาดเจ็บสาหัส แต่ก็สามารถเคลื่อนไหวได้อย่างอิสระแล้ว และก็รู้เรื่องที่จูเชว่มาถึงที่นี่แล้วเช่นกัน
จูเชว่กล่าวอย่างกังวลใจว่า “ซีซี เจ้ายังมีตรงไหนที่รู้สึกไม่สบายอยู่หรือไม่? ข้าเอายาลูกกลอนมาให้เจ้าเยอะมาก ลองดูหรือยังว่าเจ้าใช้ได้หรือไม่?”
พิฆาตวิญญาณไม่ยอมให้จูเชว่มีโอกาสได้เข้าใกล้นางเลย อีกทั้งยังจ้องมองมาที่เขาด้วยแววตาที่กระหายเลือดอีกด้วย
“พิฆาตวิญญาณ เจ้าขวางทางข้าอยู่นะ!”
พิฆาตวิญญาณกล่าวว่า “นายท่าน ท่านไม่ชอบหวงจิ่วเยี่ยผู้นั้นแล้วอย่างนั้นหรือ? เหตุได้ถึงได้เปลี่ยนรสนิยมมาชอบคนที่ดูเหมือนผู้ชายก็ไม่ใช่ผู้หญิงก็ไม่เชิงอย่างนี้ล่ะ?”
ใบหน้าเล็ก ๆ ของจูเชว่แข็งทื่อไปทันที หากไม่ใช่ว่าสู้เจ้าหมอนี่ไม่ได้ เขาคงจะต้องชกหน้าเจ้าหมอนี่จนพ่อแม่ต่างก็จำไม่ได้ไปแล้วอย่างแน่นอน
มู่เฉียนซีกล่าวว่า “จูเชว่ เจ้ามาแล้วหรือ! เอาข้อมูลของสมาคมการค้าเฮยอวิ๋นและข้อมูลของสือเหมินมาให้ข้าที”
“เจ้าต้องการจะลงมือจัดการพวกเขาอย่างนั้นหรือ?” จูเชว่กล่าวถาม
“ฉงหมิงเจ้าหมอนั่นเป็นหัวดื้อมากเป็นพิเศษ เขาไม่ตอบรับคำขอร้องของข้า ข้าก็จะถือโอกาสนี้กวาดล้างสิ่งกีดขวางนี้ให้เขาเสียเลย แต่หากเขายังไม่ตอบรับข้าอีกละก็ ข้าก็ควรจะออกไปเช่นกัน แค่ร่วมมือกันต่อก็เพียงพอแล้ว!” มู่เฉียนซีกล่าวตอบ
“เจ้าหมอนี่ มันช่างทำให้คนอื่นต้องอิจฉาเสียจริงเลย!” จูเชว่จ้องมองไปทางฉงหมิงอย่างอิจฉาริษยา
อยู่ ๆ กระบี่เล่มหนึ่งก็ปรากฏอยู่กลางฝ่ามือของพิฆาตวิญญาณ และกระบี่เล่มนั้นก็ไปจ่ออยู่ที่ต้นคอของฉงหมิง ”นายท่าน ท่านจะเสียเวลามากเกินไปแล้ว ที่จริงแล้วไม่จำเป็นต้องวุ่นวายขนาดนั้นเลย!”
ดวงตาสีแดงเลือดคู่นั้นจ้องมองไปที่ฉงหมิงแล้วกล่าวว่า ”เจ้าต้องการสิ่งใดก็พูดมาตามตรง หากเจ้าไม่ตอบรับละก็ ข้าจะฆ่าทุกคนที่อยู่ที่นี่ไม่เหลือไว้สักคนเดียวเลย”
ในระหว่างที่พูดอยู่นั้น จิตสังหารที่กระหายเลือดนั่นก็ได้ปะทุออกมา
ทุกคนที่อยู่ในป้อมปราการโรงหลอมอาวุธแห่งนี้ถูกจิตสังหารนั้นทำให้ตกใจจนขนลุกขนพองไปหมด อีกทั้งยังรู้สึกว่าเทพแห่งความตายกำลังกวัดแกว่งใบมีดอยู่ต่อหน้าพวกเขา และทำให้วิญญาณของพวกเขาดับสูญไปอีกด้วย
สีหน้าของจูเชว่เปลี่ยนไปอย่างมาก ชายผู้นี้อันตรายกว่าที่เขาจิตนาการไว้หลายหมื่นเท่านัก
ฉงหมิงกำหมัดแน่น ถึงความตายกำลังใกล้เข้ามา แต่เขาไม่มีทางยอมประนีประนอมอย่างง่ายดายแน่นอน
.