ท่านอ๋องผู้โหดร้ายกับหมอปีศาจ - ตอนที่ 1944 แก้แค้นให้ข้าด้วย
ชายชราในชุดคลุมสีเทาคอยป้องกันคนอื่น แต่ทว่ากลับไม่ได้ป้องกันคนที่ตนเองต้องปกป้องด้วยชีวิตอย่างมู่เฉินซีเลยแม้แต่น้อย ดังนั้นมู่เฉียนซีจึงสามารถลงมือได้อย่างง่ายดาย
“แม่นางมู่ เจ้า…” เขามองไปที่มู่เฉินซีด้วยความประหลาดใจ จากนั้นพลังในร่างกายของเขาก็สงบลง และเขาก็ไม่สามารถที่จะระเบิดตัวเองได้อีกต่อไป
แต่เขาคิดไม่ออกเลยจริง ๆ ว่า เหตุใดแม่นางมู่ถึงได้ลงมือกับเขาในเวลาเช่นนี้ด้วย!
มู่เฉียนซีกล่าวว่า ”ท่านผู้อาวุโส เจ้าฉงหมิงนั่นส่งท่านมาคุ้มครองข้า หากมาทำให้ท่านตายอยู่ที่นี่ เจ้าหมอนั่นก็จะยิ่งไม่ยอมปล่อยให้เป้าหมายของข้าประสบความสำเร็จเป็นแน่ ดังนั้นท่านจะต้องมีชีวิตอยู่ต่อไป!”
ชายชราเหล่านั้นกล่าวว่า “มู่เฉินซี หากเจ้าทำให้ตนเองพิการอย่างเชื่อฟังแล้วละก็ ข้าจะปล่อยไอ้แก่นั่นไปก็ได้”
“ตาแก่อย่างพวกเจ้า ฝันไปเสียเถอะ!” มู่เฉียนซีพุ่งทะยานออกไป
“มังกรวารีจงบังเกิด!”
นางงัดเอาความสามารถทั้งหมดออกมาเพื่อต่อสู้กับพวกเขา ถึงจะสู้ไม่ได้ก็ไม่เป็นไร เพราะพวกเขาก็สังหารนางไม่ได้เช่นกัน!
“เพลิงสังหารซิวหลัว!”
“พลังวายุทำลายดารา!”
พลังธาตุทั้งสามชนิด ถูกมู่เฉียนซีดึงเอามาใช้อย่างบ้าคลั่ง และพวกเขาก็ต้องเผชิญหน้าการโจมตีที่รุนแรงของมู่เฉียนซีด้วย
“สามธาตุ คิดไม่ถึงเลยว่าจะเป็นผู้บำเพ็ญภูตพลังธาตุวิญญาณสามธาตุ!” ทุกคนต่างพากันตกตะลึง
สามธาตุ ดูเหมือนว่าทั่วทั้งแดนซวนเทียนจะไม่เคยมีผู้บำเพ็ญภูตพลังธาตุวิญญาณสามธาตุปรากฏตัวขึ้นมาก่อน
“มู่เฉินซี เจ้านับว่าเป็นอัจฉริยะที่พบเจอได้ยากในรอบหมื่นปี แต่ช่างน่าเสียดายจริง ๆ! หากไม่ใช่เพราะเจ้าไปล่วงเกินคนที่ไม่ควรล่วงเกินเข้าแล้วละก็ เจ้าก็คงไม่เป็นเช่นนี้หรอก!”
เมื่อได้เห็นพรสวรรค์ที่ยอดเยี่ยมเช่นนี้ของแม่สาวน้อยผู้นี้แล้ว แม้คนที่ยืนอยู่ฝ่ายตรงข้ามกับมู่เฉียนซีอย่างตาเฒ่าเหล่านี้ก็ยังอดที่จะเสียดายไม่ได้
มู่เฉียนซีกล่าวอย่างเยาะเย้ยว่า ”ขนาดกองกำลังระดับสี่ทั้งสอง ข้ายังสามารถทำให้ขุ่นเคืองใจได้! ตาเฒ่า พวกเจ้าเข้ามาสิ! มาดูกันว่าผู้ใดกันแน่ที่จะได้หัวเราะทีหลังน่ะ!”
“มังกรวารีสังหาร!”
นางเป็นผู้ที่สามารถใช้พลังวิญญาณธาตุทั้งสาม ได้อย่างอิสระ!
หากคนที่อยู่เบื้องหน้านี้เป็นผู้บำเพ็ญภูตพลังขั้นภูตศักดิ์สิทธิ์แล้วละก็ พวกเขาเหล่านี้คงไม่กล้าตั้งตัวเป็นศัตรูด้วย และรีบหันหลังหนีไปอย่างแน่นอน!
น่าเสียดายที่แม่สาวน้อยผู้นี้อายุยังน้อยเกินไป อีกทั้งยังครอบครองเพียงความสามารถของผู้บำเพ็ญภูตพลังขั้นมหาจักรพรรดิแห่งภูตระดับแปดเท่านั้น ถึงจะมีพรสวรรค์ราวกับปีศาจ หรือมีทักษะวิญญาณที่เก่งกาจ นางก็ไม่มีทางที่จะเอาชนะพวกเขาได้อยู่ดี
“ลงมือ! จัดการให้รวดเร็วและฉับไว อย่าล่าช้าจนทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงได้ในภายหลัง!”
“ขอรับ!”
ตูมมม โครมมม!
พวกเขากำลังเผชิญหน้ากับการโจมตีของผู้บำเพ็ญภูตพลังขั้นมหาจักรพรรดิแห่งภูตคนหนึ่ง นี่มันช่างน่าเหลือเชื่อจริง ๆ
หากเป็นผู้บำเพ็ญภูตพลังขั้นมหาจักรพรรดิแห่งภูตคนอื่น อย่าว่าแต่ผู้บำเพ็ญภูตพลังขั้นมหาจักรพรรดิแห่งภูตเลย แม้แต่ผู้บำเพ็ญภูตพลังขั้นปราชญ์แห่งภูตเมื่อต้องพบเจอกับพวกเขา ก็คงต้องลงไปคุกเข่าร้องขอความเมตา และคงถูกพวกเราสังหารไปตั้งแต่แรกแล้ว
แต่ทว่ามู่เฉินซียังสามารถต่อต้านได้ อีกทั้งยังต่อต้านโดยไม่คำนึงถึงชีวิตตนเองด้วยซ้ำ
“ให้ตายเถอะ แม่สาวน้อยนี่ต่อสู้เช่นนี้ อยากตายถึงเพียงนี้เลยหรืออย่างไร?”
“นางรู้ว่าพวกเราไม่สามารถฆ่านางได้จึงจงใจทำเช่นนี้ ไม่ต้องไปสนใจ ทำให้พิการให้ได้ก่อนค่อยว่ากัน!”
ตูมม!
การโจมตีของผู้บำเพ็ญภูตพลังขั้นภูตศักดิ์สิทธิ์กระแทกเข้าที่ร่างกายของมู่เฉียนซีอย่างแรง ทำให้มู่เฉียนซีตกลงมาจากกลางอากาศราวกับว่าวที่สายป่านขาดสะบั้น
คนที่บาดเจ็บสาหัสคือมู่เฉียนซี แต่คนที่เป็นกังวลมากกว่ากลับเป็นพวกเขา!
“เมื่อกี้ลงมือหนักไปแล้ว นางเด็กนั่นคงยังจะยังไม่ตายหรอกใช่หรือไม่?”
ภายในหลุมขนาดใหญ่ มู่เฉียนซีได้ลุกยืนขึ้นมา พร้อมกับมือที่กำกระบี่มังกรเพลิงเอาไว้แน่น ซึ่งแน่นอนว่านางไม่ได้มีอันตรายถึงชีวิตแต่อย่างใด และหลังจากที่ดื่มยาน้ำไปขวดหนึ่งแล้ว นางก็สามารถกลับมาต่อสู้ได้อีกครั้งทันที
ในตอนที่มู่เฉียนซีพุ่งทะยานออกมานั้น ทุกคนต่างก็เบิกตาโพลงด้วยความตกใจ “นี่มันจะเป็นไปได้อย่างไรกัน? ไม่ตายก็ไม่เท่าไร แต่นางเด็กน้อยนี่ยังมีแรงพอให้ต่อสู้ต่ออีกอย่างนั้นหรือ!”
“ดูท่าแล้วข้าจะลงมือเบาเกินไปสินะ!”
ตูมมม!
มู่เฉียนซียังคงต่อสู้อยู่กับปีศาจเฒ่าเหล่านี้ อีกทั้งยังต่อสู้กันอย่างรุนแรงมากอีกด้วย
หากไม่ใช่เพราะพวกคนเหล่านี้ต้องการให้นางมีชีวิตอยู่ หรือหากนางไม่มีการป้องกันที่สมบูรณ์แบบของสุ่ยจิงอิ๋งเป็นไพ่ใบสุดท้าย คาดว่านางน่าจะตายเป็นร้อยเป็นพันรอบไปแล้วก็ได้
พรวด!
ถึงร่างกายจะแข็งแกร่ง แต่ก็ไม่อาจทนการบาดเจ็บสาหัสอย่างต่อเนื่องได้ไหว
ถึงพลังในการฟื้นฟูของยาน้ำและยาลูกกลอนจะแข็งแกร่งมาก แต่ก็ไม่อาจฟื้นฟูอาการบาดเจ็บสาหัสไปตลอดได้ ฉะนั้นมู่เฉียนซีจึงได้กระอักเลือดออกมา
นางใช้กระบี่มังกรเพลิงพิฆาตวิญญาณประคองตัวยืนขึ้น จากนั้นก็ส่งกระแสจิตกล่าวกับชายชราชุดคลุมสีเทาว่า ”ท่านผู้อาวุโส ท่านหนีไปก่อนเถอะ ยังมีหนทางที่ข้าพอจะหนีได้! รีบไปซะ มิเช่นนั้นคงจะทำให้ท่านเดือดร้อนเป็นแน่”
พลังวิญญาณของเขาถูกใช้ไปจนไม่เหลือแล้วแม้แต่น้อย และด้วยร่างกายที่บาดเจ็บสาหัสนี้ ก็ทำให้ยากที่จะยืนไหว แต่ทว่าพลังวิญญาณของมู่เฉียนซียังคงเหลืออยู่อีกมากเลยทีเดียว
ชายชราชุดคลุมสีเทาแปลกใจเป็นอย่างมาก คิดไม่ถึงว่ามู่เฉินซีที่เป็นถึงขนาดนี้แล้ว ยังจะสามารถใช้พลังวิญญาณส่งกระแสจิตมาให้เขาได้ ช่างน่าเหลือเชื่อเกินไปแล้ว
“วางใจเถอะ! ข้ายังเด็กอยู่นะ! จะถูกตาเฒ่ากลุ่มนี้ฆ่าตายได้อย่างไรล่ะ ท่านไปก่อนเถอะ! เช่นนั้นข้าถึงจะปลีกตัวออกไปได้”
“ตกลง! ข้าเชื่อเจ้า หากแม่นางมู่เกิดเรื่อง เช่นนั้นข้าจะขอคุณชายชดใช้ด้วยความตายในภายหลังอย่างแน่นอน!”
ชายชราเชื่อมั่นในการตัดสินใจของมู่เฉินซี เพราะอัจฉริยะไร้เทียมทานที่สามารถเผชิญหน้าและต่อต้านกับผู้แข็งแกร่งระดับผู้บำเพ็ญภูตพลังขั้นภูตศักดิ์สิทธิ์มากมายเช่นนี้ได้อย่างไม่อ้อนข้อ อีกทั้งยังสามารถลอบส่งกระแสจิตมาให้เขาโดยหลีกเลี่ยงมิให้ผู้บำเพ็ญภูตพลังขั้นภูตศักดิ์สิทธิ์ที่มีอยู่มากมายเช่นนี้มิสามารถรับรู้ เช่นนั้นนางจะต้องไม่ตายง่าย ๆ อย่างแน่นอน
เนื่องจากว่าความสนใจทั้งหมดของพวกเขาได้ไปรวมกันอยู่ที่มู่เฉินซีเท่านั้น จึงทำให้ไม่มีผู้ใดสนใจไล่ตามชายชราชุดคลุมสีเทาไป และเขาก็หนีไปด้วยความเร็วอย่างสุดชีวิต ทำให้ตาเฒ่าพวกนี้ไม่อยากที่จะเปลืองแรงไล่ล่าคนที่ไม่มีความสำคัญเช่นนั้นไป
ถึงกองกำลังเสริมจะมาเวลานี้ ก็ไม่ทันการณ์อยู่ดี!
พวกเขาปิดล้อมมู่เฉินซีเอาไว้ เวลานี้ในสายตาของพวกเขา มู่เฉินซีเป็นเพียงลูกแกะตัวน้อยที่พวกเขาอยากจะฆ่าเมื่อไหร่ก็ย่อมได้ไปแล้ว
“มู่เฉินซี เจ้านี่ช่างน่าสงสารจริง ๆ คนที่ปกป้องเจ้าด้วยชีวิตก่อนหน้านี้ ตอนนี้กลับหนีไปเสียแล้ว” หนึ่งในบรรดาชายชราเหล่านั้นกล่าวเยาะเย้ย
“ข้าบอกได้เลยว่าเจ้านั้นน่าสะพรึงกลัวมาก คาดว่าแม้แต่พรสวรรค์ขององค์หญิงมู่หลินหลางก็คงจะเทียบได้ไม่ถึงครึ่งของเจ้าเป็นแน่ ทว่า เจ้าคงจะต้องหยุดอยู่เพียงเท่านี้แล้วล่ะ”
ในตอนที่ฉงหมิงพึ่งจะมาถึง เขาก็ได้เจอเข้ากับชายชราชุดคลุมสีเทาโดยบังเอิญ “ผู้เฒ่าซวน ท่าน…”
“นางผู้หญิงบ้าผู้นั้นล่ะ?” สีหน้าของฉงหมิงเปลี่ยนไปเป็นอย่างมาก
แม้แต่ผู้บำเพ็ญภูตพลังขั้นภูตศักดิ์สิทธิ์ระดับสูงอย่างผู้เฒ่าซวนยังบาดเจ็บสาหัสจนมีสภาพเช่นนี้ แล้วผู้หญิงคนนั้น…
ผู้เฒ่าซวนกล่าวว่า “คุณชาย แม่นางมู่ตกอยู่ในอันตราย เร็วเข้า รีบไปเร็วเข้า ข้ากลัวว่ามันจะไม่ทันการณ์…”
ฉงหมิงที่แต่เดิมมีความคล่องตัวที่ไม่เร็วมากเท่าไรนัก กลับใช้ความเร็วที่เร็วที่สุดในชีวิตพุ่งทะยานไปยังทิศทางที่มู่เฉินซีอยู่ และใบหน้าที่อยู่ภายใต้หน้ากากนั้นก็พลันซีดเผือดขึ้นมาอย่างกะทันหัน!
อย่าตายนะ!
แววตาของชายชราคนหนึ่งจับจ้องไปที่กระบี่มังกรเพลิงพิฆาตวิญญาณที่อยู่ในมือของมู่เฉียนซีเล่มนั้น ”ช่างเป็นกระบี่ที่ดีจริง ๆ! อีกทั้งยังแข็งแกร่งกว่ามหาวัตถุศักดิ์สิทธิ์ครึ่งเทพชิ้นนั้นของเจ้าเสียอีก เช่นนั้นวันนี้ข้าจะใช้กระบี่ที่ล้ำค่านี้ของเจ้า มาทำลายเส้นลมปราณของเจ้าก่อน ดีหรือไม่?”
คนอื่นกล่าวตอบว่า “พี่ใหญ่ นี่เป็นความคิดที่ไม่เลวเลยทีเดียว!”
ตอนที่ชายชราผู้นั้นกำลังจะจับกระบี่มังกรเพลิง ทันใดนั้นเปลวเพลิงที่น่าสะพรึงกลัวอย่างที่สุดก็ระเบิดออกมาจากตัวกระบี่ และมันก็ได้แผ่กระจายออกไปโดยมีกระบี่เป็นศูยน์กลาง
พลันนั้นมือของชายชราที่เตรียมจะหยิบกระบี่ไปผู้นั้นก็เกิดไฟลุกท่วมขึ้นมา สุดท้ายหลังจากกรีดร้องอย่างน่าเวทนาออกมา เขาก็รีบร้อนไปดับไฟในทันที
ปัง!
เปลวเพลิงนี้ทำให้พวกเขาไม่กล้าเข้าใกล้อีก มันช่างอันตรายเหลือเกิน!
สีหน้าที่แสดงถึงความไม่อยากจะเชื่อปรากฏขึ้นมาบนใบหน้าของพวกเขาแต่ละคน พลังเช่นนี้ไม่ใช่พลังที่มู่เฉินซีจะสามารถครอบครองเอาไว้ได้ นี่มันเกิดเรื่องอะไรขึ้นกันแน่!
ทันใดนั้น ก็ร่างของมนุษย์ร่างหนึ่งปรากฏขึ้นท่ามกลางเปลวเพลิงที่ลุกโชน มือเรียวคู่นั้นสัมผัสลงบนมือที่ถือกระบี่ของมู่เฉียนซี จากนั้นน้ำเสียงที่กระหายเลือดก็ดังขึ้น ”ลูกแมวน้อยของข้า เจ้าถูกรังแกอย่างนั้นหรือ!”
เส้นผมที่ยาวสลวยกำลังเริงระบำอยู่ในเปลวเพลิง และดวงตาสีแดงเลือดคู่นั้นก็ช่างดูเย้ายวนใจยิ่งนัก
มู่เฉียนซีกล่าวตอบว่า “ใช่แล้ว! ดังนั้นเจ้าก็จงแก้แค้นให้ข้าผู้เป็นเจ้านายของเจ้าเสีย พิฆาตวิญญาณ!”
“ลูกแมวน้อย นั่นมันแน่นอนอยู่แล้ว! ข้าเชื่อฟังนายท่านของข้าเสมอ”
พิฆาตวิญญาณประคองมู่เฉียนซีเอาไว้ จากนั้นกระบี่มังกรเพลิงพิฆาตวิญญาณก็มาอยู่ในมือของเขา และในเวลานี้พวกเขาก็ได้เห็นเงาร่างนั้นแล้ว เป็นชายเจ้าเล่ห์ที่ดูน่าสะพรึงกลัวคนหนึ่ง
“จะ…เจ้าเป็นตัวอะไรกันแน่?”