ท่านอ๋องผู้โหดร้ายกับหมอปีศาจ - ตอนที่ 1941 ลอบโจมตีระหว่างทาง
ฉงหมิงกล่าวว่า “ข้ามีอะไรที่ไม่วางใจกัน! ข้าแค่กลัวว่าหากผู้หญิงคนนั้นตายไป เจ้าจิ้งจอกบ้านั่นจะมาอาละวาดถึงที่นี่! นางจะอยู่หรือตายก็ไม่เกี่ยวกับข้า อย่างไรเสียอาวุธลับที่นางรู้จักก็ได้บอกข้าไว้หมดแล้ว”
“ขอรับ! ข้าน้อยเข้าใจแล้วขอรับ!”
ด้วยเหตุนี้ฉงหมิงจึงกลับไปศึกษาวิจัยอาวุธลับใหม่อีกครั้ง และในเวลานี้มู่เฉียนซีกับกองขนส่ง ก็ได้มาถึงเหมืองแร่เรียบร้อยแล้ว
เหมืองแร่จิ่วโกวทั้งหมดมีขนาดใหญ่มาก อีกทั้งมันยังถูกปูให้เต็มไปด้วยหินแร่ระดับสูงที่คัดแล้ว
แร่ซวนระดับสูงเป็นวัตถุดิบทั่วไปที่ใช้ในการหลอมอาวุธวิญญาณทุกชนิด และแน่นอนว่าเป็นสิ่งของที่ไม่สามารถขาดได้อีกด้วย
หินแร่ที่ขุดออกมาได้ครั้งนี้ ทั้งหมดถูกใส่เอาไว้ภายในช่องว่างมิติที่เป็นวงแหวนมิติขนาดใหญ่ และจากนั้นก็ได้ส่งมอบให้กับมู่เฉียนซีที่เป็นหัวหน้าผู้รับผิดชอบในครั้งนี้
ทั่วทั้งเหมืองแร่ถูกปกคลุมไปด้วยค่ายกล นอกจากคนของตนเองแล้ว ไม่ว่าผู้ใดก็ไม่สามารถเข้าไปข้างในได้
มู่เฉียนซีกล่าวว่า “ตรวจสอบแร่ซวนแล้วไร้ข้อผิดพลาด พวกเราออกเดินทางกันเถอะ!”
“ขอรับ!”
หลังจากที่ออกจากเหมืองแร่มาได้สักพักแล้ว ในแววตาของมู่เฉียนซีก็มีแสงสีดำวาบผ่าน
“มีคนซุ่มโจมตีอยู่ข้างหน้า เตรียมตัวต่อสู้ให้พร้อม! จำนวนของศัตรูมีประมาณร้อยกว่าคน จำนวนคนของพวกมันมีมากกว่าพวกเรา แต่ความสามารถไม่ต่างจากพวกเจ้าเท่าไรนัก!” มู่เฉียนซีกล่าวกับพวกเขา
พวกเขาต่างตะลึงงันไปครู่หนึ่ง “มีคนหรือ เหตุใดพวกเราถึงไม่รู้เลยล่ะ!”
มีคนหนึ่งในนั้นปล่อยจิตรับรู้ออกไป มู่เฉียนซีจึงกล่าวว่า “เงียบซะ ข้าคือหัวหน้า ทำตามคำสั่งของข้าก็พอแล้ว! อย่าแผ่จิตรับรู้ออกมาอีก เพราะมันจะเป็นการแหวกหญ้าให้งูตื่น!”
“ส่วนพวกเจ้าบางคน ให้รีบอ้อมผ่านไปให้เร็ว! เมื่ออ้อมไปถึงข้างหลังพวกเขาแล้ว ก็เตรียมตัวลอบโจมตี!” มู่เฉียนซีหยิบเอาแผนที่ออกมา และชี้ไปยังเส้นทางหนึ่ง
“หากแม่นางมู่ตัดสินใจผิดพลาดขึ้นมาละก็ จำนวนคนก็ยิ่งเหลือน้อยและพวกเราก็คงจะย้อนกลับมาช่วยเหลือไม่ทัน เมื่อถึงเวลานั้นมันจะยิ่งอันตรายนะขอรับ” มีคนกล่าวขึ้น
“ข้าคือหัวหน้า พวกเจ้าแค่ทำตามคำสั่งก็พอแล้ว!” มู่เฉียนซีกล่าวอย่างดุดัน
ถึงแม้ว่าพวกเขาจะไม่พอใจ แต่ก็ยังเชื่อฟังคำสั่งของนาง และคนที่เหลือก็ติดตามมู่เฉียนซีต่อไป
หลังจากที่เดินมาได้ระยะหนึ่ง ก็ยังไม่มีใครอยู่เลย ทำให้พวกเขาเริ่มรู้สึกมีความสงสัยในตัวของมู่เฉียนซี นางตัดสินใจผิดพลาด ทั้งยังออกคำสั่งตามอำเภอใจด้วย
เนื่องจากว่าระยะทางที่ว่านี้ มันเกินขอบเขตของการตรวจจับที่ผู้แข็งแกร่งระดับผู้บำเพ็ญภูตพลังขั้นภูตศักดิ์สิทธิ์จะสามารถทำได้แล้ว
และเมื่อเดินหน้าต่อไป ก็มีกลุ่มคนจำนวนมากกว่าร้อยคนกระโจนออกมา จากนั้นก็โจมตีพวกเขาทันที
“มีศัตรูลอบโจมตี โต้กลับ! โต้กลับ!”
ทันใดนั้น สีหน้าของทุกคนก็เปลี่ยนไปเป็นอย่างมาก
ความสามารถของพวกเขาต่างก็ไม่ได้อ่อนแอ จึงสามารถโต้กลับได้อย่างรวดเร็ว และสามารถสังหารเหล่าศัตรูลงได้
จำนวนของศัตรูและจำนวนที่หัวหน้ากองได้คาดการณ์ไว้เท่ากันไม่มีผิด แต่ทว่าระยะห่างที่ไกลถึงเพียงนี้ อันที่จริงแล้วนางรับรู้มันได้อย่างไรกัน?
มู่เฉียนซีหยิบเอาพัดวิหคเฟิงหลิงออกมา และจากนั้นก็เข้าร่วมการต่อสู้ด้วยเช่นกัน!
คนเหล่านั้นหัวเราะเยาะแล้วกล่าวว่า “ฮ่า ฮ่า ฮ่า! คุณชายฉงหมิงของพวกเจ้าไม่มีลูกน้องแล้วอย่างนั้นหรือ? แม้แต่ผู้บำเพ็ญภูตพลังขั้นมหาจักรพรรดิแห่งภูตระดับแปดยังส่งออกมาด้วยเช่นนี้!”
“ผู้บำเพ็ญภูตพลังขั้นมหาจักรพรรดิแห่งภูตระดับแปดแล้วอย่างไร? ก็เอาชีวิตของเจ้าได้เช่นกัน!”
พัดวิหคเฟิงหลิงกางออกทันที และพลังธาตุวายุที่บ้าคลั่งก็โหมกระหน่ำเข้าไป
“อ๊ากกก!” และคนที่หัวเราะเยาะมู่เฉียนซีก่อนหน้านี้ก็กรีดร้องออกมาอย่างน่าเวทนา
คนอื่น ๆ ต่างตะลึงงันไปแล้วเช่นกัน ผู้บำเพ็ญภูตพลังขั้นมหาจักรพรรดิแห่งภูตระดับแปดผู้นี้จะไม่แข็งแกร่งอย่างไร้เหตุผลไปหน่อยหรือ!
มู่เฉียนซีกล่าวว่า “ฆ่ามัน! อย่าให้หนีไปได้แม้แต่คนเดียว!”
ทั้งสองฝ่ายต่อสู้กันอย่างรวดเร็ว ทว่าจำนวนของอีกฝ่ายมีมากกว่าพวกเขามากมายนัก มันจึงทำให้พวกเขาจำต้องทุ่มเทพลังต่อสู้อย่างสุดกำลัง
“พวกเจ้านำเอาแร่ซวนออกมาให้อย่างเชื่อฟังเถอะ แล้วข้าจะให้ทางรอดแก่พวกเจ้า มิเช่นนั้นพวกเจ้าจะต้องตายอย่างไม่เหลือซากแน่! รู้จักคิดกันสักหน่อยเถอะ!” ฝ่ายตรงข้ามกล่าวอย่างลำพองใจ
“ให้ยอมแพ้ โจรอย่างพวกเจ้ากำลังฝันกลางวันอยู่สินะ!”
ทั้งสองฝ่ายต่อสู้กันต่อเนื่องอย่างดุเดือด และถึงมู่เฉียนซีจะดูอ่อนแอมากที่สุด แต่อีกฝ่ายที่เป็นศัตรูกลับไม่มีผู้ใดทำอะไรนางได้เลย
เนื่องจากความเร็วของนางนั้นเร็วมากเกินไป จนสัมผัสไม่ได้แม้แต่ชายเสื้อของนางด้วยซ้ำ แล้วจะให้โจมตีได้อย่างไร
ด้วยจำนวนคนที่เหนือกว่า ทำให้พวกเขามีแนวโน้มที่จะล้อมคนของทางมู่เฉียนซีเอาไว้ได้ และไม่คิดที่จะปล่อยให้พวกเขาเหลือรอดไปสักคนเดียว
แต่ในเวลานี้มุมปากของมู่เฉียนซีก็ได้กระตุกยิ้มขึ้นมาเล็กน้อย ตำแหน่งเช่นนี้ คงจะไม่มีอะไรดีไปกว่านี้แล้วจริง ๆ และคนเหล่านี้ได้กลายเป็นโล่มนุษย์ไปอย่างสมบูรณ์แล้ว
มู่เฉียนซีไหลเวียนพลังธาตุวายุและกระโดดขึ้นไปบนท้องฟ้า หลังจากนั้นนางก็ตะโกนว่า “ลงมือได้แล้ว!”
คนที่แอบซุ่มโจมตีอยู่ในที่ลับได้เคลื่อนไหวเตรียมการมาก่อนหน้านี้แล้ว แต่ทว่ายังไม่ได้รับคำสั่งใด ๆ จากหัวหน้ากอง จึงยังไม่กล้าที่จะลงมือ
ทันทีที่ออกคำสั่ง พวกเขาก็เริ่มโจมตีในทันที อาวุธลับที่แข็งแกร่งเช่นนี้ในที่สุดก็สามารถนำมาใช้สังหารศัตรูได้แล้ว
ฟิ้ว ฟิ้ว ฟิ้ว!
อาวุธลับที่คาดเดาไม่ได้จำนวนมากพุ่งทะยานออกมาจากที่ลับตา อีกทั้งอาวุธลับที่แข็งแกร่งอย่างน่าประหลาดเหล่านี้ ยังทำให้พวกเขาไม่สามารถป้องกันได้อีกด้วย
พรึ่บ พรึ่บ พรึ่บ!
บนอาวุธลับมีพิษหลากหลายชนิดทาไว้อยู่ หากถูกทำให้ได้รับบาดเจ็บมันก็จะทำให้ศัตรูล้มลงอย่างไม่ต้องสงสัยเลย
พรวด!
แต่ละคนต่างกระอักเลือดสีดำออกมา และพวกเขาก็ไม่พอใจเป็นอย่างมาก
“พวกเจ้า…ไม่คิดเลยว่าพวกเจ้าจะแอบซุ่มโจมตีคนอื่นจริงอๆ!”
“นี่มันอาวุธลับอะไรกันแน่ เหตุใดถึงเร็วเช่นนี้!”
“พวกเจ้ามันต่ำช้า! ต่ำช้าที่สุด!”
มู่เฉียนซีกล่าวอย่างเย็นชาว่า “ต่ำช้ารึ! แล้วที่พวกเจ้าลอบโจมตีพวกข้าระหว่างทาง มันไม่ต่ำช้าเช่นนั้นหรือ? นี่คือสิ่งที่พวกเจ้ารนหาที่เอง”
“ฆ่ามัน!”
การโจมตีของอาวุธลับ ทำให้คนเหล่านั้นพ่ายแพ้ราบคาบ และบาดเจ็บล้มตายกันอย่างยับเยิน
ข้อได้เปรียบของการยอมแพ้ เวลานี้มันได้หายไปหมดสิ้นแล้ว ภายใต้การโจมตีครั้งแล้วครั้งเล่าของอีกฝ่าย ทำให้คนของพวกเขามีคนตายมากยิ่งขึ้นไปอีก
ทุกคนรีบหาทางหลบหนีแยกย้ายกันออกไป หลังจากนั้นจึงกล่าวว่า “หนีเร็ว!”
มู่เฉียนซีกล่าวว่า “ตามไป อย่าปล่อยให้พวกมันหนีไปได้!”
“ขอรับ!”
มู่เฉียนซีไล่ตามหนึ่งคนในคนพวกนั้นไป นางกล่าวว่า “เสี่ยวโม่โม่ จงออกมา ไล่ตามไป!”
แสงสีดำพุ่งไล่ตามคนที่หนีไปก่อนหน้านี้ไป จากนั้นก็ขวางทางของเขาเอาไว้
เขากล่าวด้วยน้ำเสียงมืดมนว่า “แม่สาวน้อย ปล่อยข้าไปเดี๋ยวนี้!”
มู่เฉียนซีกล่าวด้วยรอยยิ้มว่า “เจ้าตายเมื่อไร ข้าจะจากไปแน่นอน แต่หากจะให้ไปตอนนี้ ก็ฝันไปเสียเถอะ!”
“ดูท่าเจ้าคงจะใช้ชีวิตมาจนเบื่อแล้วสินะ ช่างไม่รู้ฟ้าสู้แผ่นดินต่ำเสียจริง!” เขาคำรามออกมาอย่างเย็นชา ทันใดนั้นก็พุ่งเข้าโจมตีมู่เฉียนซี
เป็นถึงผู้บำเพ็ญภูตพลังขั้นภูตศักดิ์สิทธิ์ระดับสามคนหนึ่ง การจะจัดการกับแม่สาวน้อยผู้นี้ เขาคิดว่าแค่นี้ก็เหลือเฟือแล้ว
มู่เฉียนซีกล่าวว่า “เสี่ยวโม่โม่ ลงมือพร้อมกัน!”
“คิดว่ามีสัตว์เทพเพิ่มมาอีกตัว ก็จะสามารถฆ่าข้าได้แล้วอย่างนั้นหรือ? ช่างไร้เดียงสาเสียจริง!”
ตูมมม โครมมม!
“พลังวายุทำลาย ดาวกระจาย!”
ธาตุวายุระเบิดออกมา และสีหน้าที่จริงจังก็ปรากฏขึ้นมาบนใบหน้าของคนผู้นั้น
“จะ…เจ้าก็คือมู่เฉินซี!”
บนโลกใบนี้ไม่มีผู้บำเพ็ญภูตพลังขั้นมหาจักรพรรดิแห่งภูตที่วิปลาสเช่นนี้อีกแล้วอย่างแน่นอน ได้ยินมาว่านางถูกคนของคุณชายฉงหมิงจับไป ฉะนั้นจะมาขนส่งแร่คัดแล้วด้วยกันกับคนของคุณชายฉงหมิงก็ไม่ใช่เรื่องแปลกเลย
มู่เฉินซีกล่าวว่า “ดูเหมือนว่า ข้าค่อนข้างมีชื่อเสียงมากทีเดียว!”
“ดีมากจริง ๆ! ดูท่าเมื่อเสร็จสิ้นภารกิจในครานี้แล้ว คงจะได้รับรางวัลเพิ่มขึ้นด้วย! หากสามารถเอาหัวของเจ้าไปมอบให้กับผู้นำตระกูลเซี่ยโหวหรือสำนักหลางซิงได้ละก็ ข้าจะต้องได้รับประโยชน์มากมายอย่างแน่นอน!”
เสี่ยวโม่โม่กล่าวด้วยความเดือดดาลว่า “มีเสี่ยวโม่โม่อยู่ด้วย เสี่ยวโม่โม่ไม่มีทางปล่อยให้เจ้ามาทำร้ายนายท่านได้หรอก ไม่มีทางแน่นอน!”
ตูมมม โครมมม!
แม้ว่าจะเคยได้ยินข่าวลือของมู่เฉินซีมาก่อน แต่เขาก็รู้สึกว่าคนอื่นต่างยกยอผู้บำเพ็ญภูตพลังขั้นมหาจักรพรรดิแห่งภูตคนนี้มากเกินไปหน่อย จากนั้นเขาก็พุ่งหมัดไปทางมู่เฉียนซีพลางกล่าวว่า “ไปตายซะเถอะ!”
ปัง!
หมัดนั้นไม่สามารถทำอะไรมู่เฉียนซีได้เลย กลับเป็นไหล่ของตัวเขาเองที่ถูกเข็มพิษสีดำสนิทเล่มหนึ่งปักลงไปแทน
“เจ้า…ไม่คิดเลยว่าเจ้าจะไม่เป็นอะไร!” มู่เฉียนซีสกัดกั้นการโจมตีของเขาได้อย่างราบรื่นและปลอดภัย ซึ่งทำให้เขาประหลาดใจเป็นอย่างมาก และในตอนนี้เองเขาเพิ่งได้รู้ว่า มู่เฉินซีแปลกประหลาดยิ่งกว่าในข่าวลือนั่นเสียอีก
พรวด!
ร่างกายของเขาอ่อนแรงจากการโดนพิษ และกำลังจะตายในไม่ช้า!
“ถึงข้าจะต้องตาย ก็ไม่มีทางปล่อยผ่านเจ้าไปแน่! มู่เฉินซี!”