ท่านอ๋องผู้โหดร้ายกับหมอปีศาจ - ตอนที่ 1938 ชมเชยฉงหมิง
ฉงหมิงกล่าวด้วยเสียงทุ้มต่ำว่า “หากเจ้าต้องการร่วมมือกับข้าแน่นอนว่ามันต้องมีต้นทุน ไปคุยกันที่ห้องหนังสือเถอะ!”
“ไม่มีปัญหา!”
ลูกน้องของฉงหมิงต่างก็รู้ว่าก่อนหน้านี้พวกเขาต่อสู้กันดุเดือดมากเพียงใด แต่ตอนนี้ทั้งสองกลับเดินออกมาอย่างกลมเกลียว อีกทั้งแม่นางมู่ก็ไม่ได้รับบาดเจ็บอะไรเลยด้วย?
มันแปลกมากจริง ๆ! ปาฏิหาริย์เหลือเกิน!
ฉงหมิงนั่งลง แล้วกล่าวว่า “เจ้าพูดก่อน”
“ได้!” มู่เฉียนซีพยักหน้าเล็กน้อย
“ข้าสามารถแนะนำอาวุธลับอีกหลายสิบชนิดที่เหมือนขนปีกหงส์ทมิฬและยังมีแมงมุมพิษพันกรงเล็บให้เจ้าได้ และยังสามารถบอกวิธีการหลอมกับเจ้าทีละขั้นตอนได้ อีกทั้งยังสามารถแบ่งมรดกของนักหลอมอาวุธระดับเทวะให้กับเจ้าได้ด้วย”
ฉงหมิงกล่าวว่า “ข้าต้องยอมรับว่า ข้าหวั่นไหวมากจริง ๆ! เช่นนั้นเจ้าต้องการให้ข้าทำอะไรกันล่ะ?”
“หอหมอปีศาจต้องการที่จะมาเปิดสาขาที่ดินแดนทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ เจ้าจำเป็นที่จะต้องให้ความร่วมมืออย่างเต็มที่! แน่นอนว่าอาวุธลับหากมีพิษเป็นส่วนประกอบก็จะให้ผลที่ดียิ่งขึ้นไปอีก ดังนั้นหลังจากนี้การสร้างพิษของอาวุธลับจะจัดการตามคำแนะนำของหอหมอปีศาจของข้า และให้หอหมอปีศาจของพวกข้าทำกำไรไปด้วย” มู่เฉียนซีกล่าวอีกครั้ง
“ความต้องการของเจ้าคงไม่เรียบง่ายขนาดนี้หรอกใช่ไหม?” ฉงหมิงกล่าวถาม
“ข้าต้องการที่จะสอบถามข้อมูลบางอย่าง จูเชว่บอกว่าข้าต้องไปพบกับผู้ที่อยู่เบื้องหลังของพวกเจ้าถึงจะสามารถรู้ได้ และหากต้องการที่จะไปพบเขาก็ไม่ใช่เรื่องง่ายเช่นกัน! อีกทั้งข้าจะต้องได้รับการยอมรับและความเชื่อถือจากเจ้าเสียก่อน”
ฉงหมิงกล่าวอย่างเย้ยหยันว่า “เชื่อถือเจ้ารึ เจ้าวางแผนกับเจ้าจิ้งจอกบ้านั่นขุดหลุมพรางข้า คนอย่างเจ้ามันเจ้าเล่ห์ยิ่งกว่าเขาเสียอีก หากข้าเชื่อถือเจ้า ข้าก็คงจะเป็นคนโง่เง่าคนหนึ่ง ข้าไม่มีทางปล่อยให้คนที่มีความคิดชั่วร้ายเช่นเจ้ามีโอกาสเข้าใกล้พ่อบุญธรรมเป็นอันขาด”
เดิมทีฉงหมิงคิดว่าเมื่อเขาพูดไปเช่นนี้มู่เฉียนซีจะต้องโมโหเป็นแน่ แต่ผลก็คือมู่เฉียนซียังคงสงบนิ่งอยู่มาก นางกล่าวว่า “เช่นนั้นข้อที่สองก็ให้เป็นแบบนี้ไปก่อนเถอะ! ข้าต้องการที่จะเร่งคุยเรื่องความร่วมมือของหอหมอปีศาจกับคุณชายฉงหมิงอย่างเจ้ามากกว่า”
นางรู้อยู่แล้วว่า หากต้องการให้เขาตอบรับตอนนี้ มันคงเป็นเรื่องที่ดูเป็นไปไม่ได้มากเกินไป
ฉงหมิงไม่เหมือนกับจูเชว่และไป๋เจ๋อ ถึงอย่างไรนางก็เป็นผู้มีพระคุณที่ช่วยชีวิตของพวกเขาทั้งสอง แต่กับฉงหมิงนั้นไม่มี
“เจ้าจะยอมแพ้ไปเช่นนี้อย่างนั้นหรือ? หากเจ้าได้รับการยอมรับจากพ่อบุญธรรมจริง ๆ ไม่ว่าจะอยู่ในฐานะที่ร่ำรวยขนาดไหนก็สามารถหาข้อมูลมาให้เจ้าได้เลยนะ”
มู่เฉียนซีกล่าวว่า “เจ้ามองข้าอย่างไม่สบายใจเช่นนี้ ข้าก็ไม่อาจจะบีบบังคับเจ้าให้เชื่อถือได้! การบีบบังคับคนให้มาเชื่อจะถือว่าเป็นการเชื่อถือได้อย่างไรล่ะ?”
ฉงหมิงกล่าวว่า “เห็นว่าเจ้าสามารถรักษาร่างกายของไป๋เจ๋อให้หายดีได้ ข้าก็เลยจะให้โอกาสเจ้าสักครั้ง! หากอาวุธลับและเคล็ดวิชาหลอมอาวุธของเจ้า อีกทั้งพิษของหอหมอปีศาจของเจ้าให้ผลเป็นที่น่าพอใจแล้วละก็ บางทีข้าอาจจะเปลี่ยนความคิดของเข้าก็ได้!”
มู่เฉียนซีคลี่ยิ้มอย่างมั่นใจพลางกล่าวว่า “เช่นนั้นข้าจะรอตอนที่เจ้าเปลี่ยนความคิดก็แล้วกัน!”
“เจ้าอย่าได้คิดฝันสวยหรูไปนักเลย แม้แต่จูเชว่ยังหาข้อมูลความเป็นมาเป็นไปของเจ้าอย่างแน่ชัดไม่ได้ และข้าก็ยังคงไม่วางใจอยู่มากด้วย” ฉงหมิงกล่าวเตือน
หากสามารถตรวจสอบรายละเอียดสถานะออกมาได้ว่าเป็นคนที่ไม่มีปัญหา เขาคงจะไม่ป้องกันตัวมากขนาดนี้ แต่ทว่าไม่สามารถตรวจสอบอะไรได้เลย ซึ่งมันก็ออกจะแปลกประหลาดเกินไปสักหน่อย
แม้แต่คนที่สุขุมอย่างไป๋เจ๋อ และคนที่เจ้าเล่ห์อย่างจูเชว่ยังสามารถทำเรื่องผิดพลาดอย่างการฝ่าฝืนเช่นนี้ได้ ฉะนั้นเขาไม่มีทางที่จะฝ่าฝืนอีกแน่นอน!
มู่เฉียนซีกล่าวว่า “ห้องหลอมอาวุธอยู่ที่ใด ข้าจะหลอมขนปีกหงส์ทมิฬและแมงมุมพิษพันกรงเล็บอีกครั้ง เจ้าอยากดูหรือไม่!”
“อยาก!” ฉงหมิงลุกขึ้นยืนทันที
ดังนั้นพวกเขาทั้งสองจึงรีบรุดเข้าไปในห้องหลอมอาวุธ มู่เฉียนซีให้ความร่วมมืออย่างจริงใจ และไม่มีการปิดบังเอาไว้แต่อย่างใด อีกทั้งยังอธิบายรายละเอียดทุกขั้นตอนด้วย
ยิ่งฉงหมิงได้ยินก็ยิ่งหวาดกลัวมากขึ้นไปอีก “ที่จริงแล้วนี่เป็นการคิดค้นของนักหลอมอาวุธท่านไหนกัน แม้จะในอดีตกาล ข้าไม่เคยได้ยินว่าจะมีนักหลอมอาวุธที่เก่งกาจเช่นนี้มาก่อนเลย”
มู่เฉียนซีกล่าวว่า “นั่นมันแน่นอนอยู่แล้ว สิ่งนี้เป็นของที่ถังเหมินผลิตออกมา เป็นการสืบทอดมาจากรุ่นสู่รุ่น อีกทั้งสร้างการพัฒนาของอาวุธลับออกมาด้วย”
การที่ช่วยคนผู้นั้น ในตอนแรกไม่ได้เป็นเพราะเขากำลังจะตาย แต่นอกจากนางแล้วก็ไม่มีผู้ใดช่วยเขาได้อีกแล้ว และยังไม่สามารถหยิบเอาสมบัติที่แสนล้ำค่าของสำนักตนเองออกมาได้อีกด้วย
เมื่อหลอมอาวุธลับทั้งสองชนิดเสร็จเรียบร้อยแล้ว ฉงหมิงก็เตรียมตัวลงมือลองอย่างกระตือรือร้น มู่เฉียนซีกล่าวว่า “เช่นนั้นเจ้าก็ค่อย ๆ ลองศึกษาไป ข้าขอออกไปก่อน!”
ทันทีที่มู่เฉียนซีเดินออกไป ก็เห็นคนใช้แววตาที่เต็มไปด้วยความเลื่อมใสศรัทธาจ้องมองมาที่มู่เฉียนซี
“แม่นางมู่ ท่านทำได้อย่างไรกัน? ห้องหลอมอาวุธของคุณชาย ไม่ว่าผู้ใดก็ไม่อาจเข้าไปได้! แต่ว่าท่านกลับเข้าไปข้างใน และไม่ถูกโยนออกมาด้วย”
“หรือว่าในที่สุดคุณชายก็รู้แจ้งแล้ว!”
มุมปากของมู่เฉียนซีกระตุกยิ้มเล็กน้อย พลางกล่าวว่า “พวกเจ้าคิดมากไปแล้ว วันนี้ข้ายุ่งมาทั้งวัน ข้าหิวแล้วล่ะ! รีบไปเตรียมสำรับอาหารมาเร็ว”
“ขอรับ!”
หลังจากที่รอถึงสามวัน มู่เฉียนซีก็พึ่งจะได้เห็นฉงหมิง
ใต้ตาของฉงหมิงในเวลานี้ดำคล้ำ บนใบหน้าก็เต็มไปด้วยความเหนื่อยล้า แต่ทว่าแววตาคู่นั้นกลับเปล่งประกายจนน่าทึ่ง
“ข้าหลอมอาวุธลับสองอันนี้ออกมาได้แล้ว เจ้าลองตรวจดูสิ!”
ทันที่ที่มู่เฉียนซีหยิบเอาอาวุธลับทั้งสองมาดู ก็ค้นพบว่าเขาหลอมมันได้สำเร็จแล้วจริง ๆ อีกทั้งไม่ได้แย่ไปกว่าของนางเลยด้วย แต่ถึงอย่างไรนางก็เป็นนักหลอมอาวุธมาได้ครึ่งทางเท่านั้น
มู่เฉียนซีพยักหน้าพลางกล่าวว่า “ยอดเยี่ยมมาก! เจ้านี่ช่างเป็นนักหลอมอาวุธที่เก่งกาจจริง ๆ!”
เขาที่ถูกมู่เฉินซีทำให้โมโห และต้องต่อสู้กันมาตลอด แต่เวลานี้เมื่อฉงหมิงถูกชื่นชมเขากลับรู้สึกกระสับกระส่ายไปทั้งตัว หลังจากนั้นใบหูของเขาก็แดงระเรื่อขึ้นมาทันที
เขากล่าวอย่างอวดดีเป็นอย่างยิ่งว่า “นั่นมันแน่นอนอยู่แล้ว! ให้รู้เสียบ้างว่าข้าฉงหมิงนั้นคือผู้ใดกัน?”
หากว่าหางของเขาสามารถงอกยาวออกมาได้แล้วละก็ คาดว่าหางนี้น่าจะยกสูงเสียดฟ้าได้เลยทีเดียว
“เจ้าบอกว่านอกจากสองอย่างนี้แล้ว ยังมีอาวุธลับอื่นอีก รีบหลอมออกมาให้ข้าดูเร็วเข้า” ฉงหมิงกล่าวอย่างตื่นเต้น
เห็นได้ชัดว่าหากเขาก้าวผิดจังหวะก็ไม่อาจยืนอย่างมั่นคงได้ แต่เจ้าหมอนี่ก็ยังคงตื่นเต้นอยู่ดี และเขาคงจะชอบหลอมอาวุธมากจริง ๆ!
“ตอนนี้เจ้าจำเป็นที่จะต้องพักผ่อน!”
“สติของข้าสมบูรณ์ดี มีตรงไหนที่ต้องการพักผ่อนกัน! หรือว่าเจ้าไม่อยากทำตามข้อตกลง หากไม่บอกวิธีสร้างอาวุธลับอื่นกับข้า! เช่นนั้นข้าก็ไม่อยากร่วมมือด้วยแล้ว” ฉงหมิงกระวนกระวายใจ
ฟึ่บ! มู่เฉียนซีหยิบเข็มยาออกมา จากนั้นมันก็ตรงเข้าไปปักลงบนคอของเขา
ฉงหมิงกล่าวด้วยความโกรธเคืองว่า “ให้ตายเถอะ! เจ้าลอบโจมตีข้าอีกแล้วนะ!”
“นี่เจ้าวางยาพิษอะไรข้ากันแน่? ทำไมง่วงเช่นนี้!”
มู่เฉียนซีดึงเข็มกลับมาจากนั้นก็สะบัดมือพลางกล่าวว่า “ข้าจะพูดจาไร้สาระกับเจ้าให้โง่ไปทำไม ลงมือทำเลยจะดีกว่า! พลังจิตวิญญาณถูกใช้จนหมด ไหนจะพลังวิญญาณถูกใช้ไปอีก ไม่หลับไม่นอนตลอดสามวันสามคืน คิดไม่ถึงว่ายังจะดึงดันอยู่อีก หาเรื่องตายชัด ๆ!”
ตึง!
ฉงหมิงล้มลงไปบนพื้น จากนั้นก็มีคนเดินเข้ามา
มู่เฉียนซีกล่าวว่า “ลากคุณชายของพวกเจ้ากลับไปแล้วให้เขานอนสักตื่นหนึ่ง”
พวกเขาค้นพบว่าคุณชายของพวกเขาได้หลับไปแล้วจริง ๆ และจากนั้นก็มองไปที่มู่เฉินซีด้วยความซาบซึ้งแล้วกล่าวว่า “หากคุณชายของพวกเราหมกมุ่นอยู่กับการหลอมอาวุธก็จะไม่ดูแลร่างกายเลย โชคดีที่คนที่เอาใจใส่อย่างแม่นางมู่อยู่ที่นี่ด้วย”
พวกเขาพาฉงหมิงออกไปอย่างเคารพนบนอบ และขบคิดอยู่ภายในใจว่า คุณชายของพวกจะต้องมีผู้หญิงมาดูแลจริง ๆ!
แต่ทว่าหลายปีมานี้คุณชายของพวกเขาไม่มีความสนใจในหญิงสาวเลย ในสายตาของเข้าหินแร่ก้อนหนึ่งยังดีกว่าหญิงสาวเสียอีก
หลังจากที่นอนไปแล้ววันหนึ่ง ท่าทางของฉงหมิงก็กระปรี้กระเปร่ามีชีวิตชีวาขึ้นมาทันที เขาพุ่งตัวเข้ามาแล้วกล่าวว่า “เจ้าลอบโจมตีข้าโดยไม่ได้รับความยินยอมจากข้าอีกแล้วนะ!”
“พรืดด! หากต้องผ่านการเห็นชอบของเจ้า เช่นนั้นมันจะเรียกว่าลอบโจมตีหรือ? ” มู่เฉียนซีกล่าวพลางหัวเราะออกมา
“ตอนนี้เจ้าจะสอนอาวุธลับที่เหลืออีกสองสามชนิดนั้นให้ข้าได้แล้วหรือยัง!” ฉงหมิงกล่าวถาม
เขาแทบจะทนรอไม่ไหวแล้วจริง ๆ อาวุธลับที่แสนลึกลับมากเช่นนี้ พบเจอได้ยากยิ่งนัก
มู่เฉียนซีกล่าวว่า “พรสวรรค์ในการหลอมอาวุธของเจ้าแข็งแกร่งมาก นอกจากนี้ยังได้รับการอบรมการหลอมอาวุธมาอย่างถูกต้อง และยังมีประสบการณ์การหลอมอาวุธมาอย่างโชกโชน แต่ทว่ายังขาดอะไรบางอย่าง? จำเป็นต้องเพิ่มอะไรสักหน่อย?”
ฉงหมิงกล่าวถามว่า “ข้ายังขาดอะไรอีก?”
.