ทะลุมิติไปเป็นแพทย์หญิงชาวสวนผู้มั่งคั่ง - บทที่ 99 การสนับสนุน
บทที่ 99 การสนับสนุน
ผูเว่ยชางกำลังคิดว่าตัวเองควรซื้อรถม้าดีหรือไม่? เพื่อที่เขาจะได้สามารถพาอวิ๋นซิ่วชิงเข้าเมืองได้
เหตุผลนี้เหมาะมาก!
ผูเว่ยชางยังไม่ยอมกลับไป จนกระทั่งชายหนุ่มพานางกลับมาถึงคฤหาสน์อวิ๋น เขายืนอยู่ที่ประตูและเห็นรูปร่างสูงของตัวเองในความมืด
ขณะนั้นเอง อวิ๋นซิ่วชิงก็เรียกเขา “ผูเว่ยชาง”
เมื่อได้ยินเช่นนั้น ผูเว่ยชางก็หันหลังกลับและถามว่า “มีอะไรหรือ?”
อวิ๋นซิ่วชิงเดินไปหาผูเว่ยชางและมอบเสื้อคลุมให้เขา “ข้าคืนให้ เจ้าใส่มันเถอะ อากาศเริ่มหนาวแล้ว เดี๋ยวเจ้าจะไม่สบาย”
“ไม่จำเป็นหรอก” ผูเว่ยชางหยิบเสื้อคลุมมาคลุมร่างนางอีกครั้ง “ไม่ต้องห่วงข้าหรอก ข้ามีวรยุทธ์และมีร่างกายแข็งแรงพอสมควร ข้าเลยไม่รู้สึกหนาวเท่าไหร่ เจ้าสิต้องใส่มันไว้”
ตอนนี้เป็นเวลามืดมากแล้ว อวิ๋นซิ่วชิงมองใบหน้าของชายหนุ่มได้ไม่ชัดเจนมากนัก แต่นางก็ยังคงเห็นดวงตาดำขลับของเขาที่ส่องประกาย
ใบหน้าของอวิ๋นซิ่วชิงถึงกับร้อนผ่าววูบวาบ นางจึงรีบหลบตาอีกฝ่าย “ระหว่างทางกลับบ้าน ระวังตัวดี ๆ ล่ะ”
”ข้าจะดูเจ้าเดินเข้าไปในบ้านก่อน” ผูเว่ยชางกล่าวด้วยรอยยิ้ม
อวิ๋นซิ่วชิงพยักหน้าก่อนจะหันหลังกลับและเดินเข้าไปในบ้าน เมื่อไปถึงประตู นางก็โบกมือให้เขา และผูเว่ยชางก็พยักหน้าให้นาง
จากนั้นนางก็ปิดประตูด้วยหัวใจที่เต้นแรง ก่อนจะเดินไปที่ห้องของพ่อเฒ่าอวิ๋น
เมื่อเห็นประตูคฤหาสน์อวิ๋นปิดลงแล้ว ผูเว่ยชางก็เดินกลับบ้านของตัวเองไปโดยไม่หันหลังกลับมาอีก เพราะแน่ใจว่าหญิงสาวปลอดภัยดีแล้ว
หลังจากที่อวิ๋นซิ่วชิงกลับมาถึงก็พบว่าพ่อเฒ่าอวิ๋นกำลังรอนางอยู่
เมื่อนางเข้าไปในห้องของผู้เป็นพ่อ พ่อเฒ่าอวิ๋นก็ยิ้มและพูดขึ้นว่า “ชิงเหนียง เจ้ากลับมาแล้ว อาหารยังร้อนอยู่ มากินข้าวกันเถอะ”
”ท่านพ่อ ท่านกินยาแล้วหรือยัง?” อวิ๋นซิ่วชิงถามขณะนั่งอยู่ที่โต๊ะ
”กินแล้ว” ด้วยเหตุนี้เขาจึงยกชามขึ้น
อวิ๋นซิ่วชิงลองจับดูก็พบว่ามันยังร้อนอยู่
เมื่อนางอิ่ม นางก็เล่าให้พ่อของนางฟังว่าวันนี้นางเป็นศิษย์มีครูแล้ว
“ท่านพ่อ ข้ามีเรื่องจะบอกท่าน วันนี้ข้าคำนับเหยียนเกอเป็นอาจารย์แล้ว”
”เจ้าหมายความว่าอย่างไร?”
”ท่านพ่อ ข้าสนใจทักษะทางการแพทย์ ข้าจึงต้องการเป็นศิษย์ของเหยียนเกอ” อวิ๋นซิ่วชิงค่อย ๆ เล่าให้พ่อของนางฟัง
พ่อเฒ่าอวิ๋นพยักหน้า “เอาล่ะ หากเจ้าสนใจ เจ้าก็สามารถเรียนรู้ได้ ข้าสนับสนุนเจ้า”
”ขอบคุณท่านพ่อ” อวิ๋นซิ่วชิงกล่าวด้วยรอยยิ้ม
”ไม่ว่าเจ้าจะเป็นใคร เจ้าคงต้องทำงานหนักและอดทน ชิงเหนียง การศึกษาทักษะทางการแพทย์นั้นเจ้าจะต้องทำงานอย่างหนัก ข้าจะอยู่เคียงข้างเจ้าเสมอ”
พ่อเฒ่าอวิ๋นมีความสุขมากที่ลูกสาวของเขามีความทะเยอทะยานและมุมานะพยายามที่จะเรียนรู้วิชาการแพทย์
”ไม่ต้องห่วงนะท่านพ่อ ข้าจะตั้งใจศึกษา” อวิ๋นซิ่วชิงมั่นใจในเรื่องนี้
อวิ๋นซิ่วชิงและพ่อเฒ่าอวิ๋นคุยกันอยู่นาน จนกระทั่งพวกเขาเริ่มง่วง นางจึงไปที่ห้องครัวเพื่อล้างจาน จากนั้นก็ต้มน้ำร้อนเพื่อนำกลับไปที่ห้อง
หลังจากล้างจานแล้ว นางก็เข้าไปในพื้นที่มิติส่วนตัว
เมื่อนางมาถึงพื้นที่มิติส่วนตัวและกำลังจะขึ้นไปบนภูเขาเพื่อดื่มน้ำพุจิตวิญญาณ ทันใดนั้นนางก็เห็นบางสิ่งบางอย่างที่มีสีเขียวปรากฏขึ้นที่เชิงเขา
อวิ๋นซิ่วชิงวิ่งไปที่เชิงเขาด้วยความตื่นเต้น และเป็นไปตามที่นางคาดเดาไว้ ต้นกล้าสีเขียวต้นเล็ก ๆ เหล่านั้นงอกขึ้นมาแล้ว!
อวิ๋นซิ่วชิงมีความสุขยิ่งนักที่นางยังพอจะมีทางออก นางคิดเสมอว่าเมล็ดกะหล่ำปลีจะงอกภายในสามหรือสี่วันกันแน่ แต่ก็ไม่ได้คาดคิดว่ามันจะงอกออกมาภายในวันเดียว
คราวนี้นางจะได้มีผักสดไว้กินแล้ว!!!
อวิ๋นซิ่วชิงกวาดสายตามองดูพวกมันทีละต้น นางขุดหลุมไว้สิบหลุมและปลูกผักเพิ่มอีกสิบเมล็ด เมล็ดเหล่านั้นงอกออกมาทั้งหมด ซึ่งมันทำให้นางถึงกับตื่นเต้น
อวิ๋นซิ่วชิงไม่มีเวลาดื่มน้ำพุจิตวิญญาณในตอนนี้ นางยังคงปลูกเมล็ดกะหล่ำปลีและเมล็ดผักชี โดยที่แบ่งเป็นเมล็ดกะหล่ำปลีเจ็ดแถว และเมล็ดผักชีสามแถว หลังจากนั้นนางก็เริ่มเหนื่อยจนต้องดื่มน้ำพุจิตวิญญาณ
กลิ่นของพลังงานจิตวิญญาณจากน้ำพุจิตวิญญาณนั้นเย้ายวนยิ่งนัก อวิ๋นซิ่วชิงไม่สามารถต้านทานกลิ่นของมันได้ นางจึงปีนขึ้นไปบนภูเขาและนั่งอยู่ด้านข้างน้ำพุจิตวิญญาณ “แค่แช่น้ำ…ก็แค่แช่”
อวิ๋นซิ่วชิงถอดเสื้อผ้าของนางออก และแช่ตัวเองลงไปในน้ำพุจิตวิญญาณ
น้ำพุจิตวิญญาณที่แสนอบอุ่นค่อย ๆ ซึมผ่านร่างของอวิ๋นซิ่วชิง ส่งผลให้นางถึงกับต้องเปล่งเสียงครวญครางที่บ่งบอกถึงความสบายกายและสบายใจ