ทะลุมิติไปเป็นแพทย์หญิงชาวสวนผู้มั่งคั่ง - บทที่ 96 ข้าไม่ใช่ขอทาน!
บทที่ 96 ข้าไม่ใช่ขอทาน!
ผูเว่ยชางเตรียมอาหารเย็นไว้สำหรับส่วนของตนและคนที่มาพักค้างแรมด้วย แม้ชายหนุ่มจะพูดว่าเขามีแต่ข้าวต้ม แต่ก็ยังขอให้ต้าเหนียนชุ่ยยี่ทำอาหารให้เหยียนเกอและทำกับข้าวเพิ่มอีกสองสามจาน
ส่วนใหญ่แล้วผูเว่ยชางจะลงมือทำอาหารเอง แต่วันนี้ที่บ้านเขามีแขก เขาจึงไม่อยากทำอาหารให้ไอ้หมองี่เง่าคนนี้!
ต้าเหยียนชุ่ยยี่ก็มีฝีมือทำอาหารที่ยอดเยี่ยมเช่นกัน เขานึ่งข้าวและทำของทอดหลายจาน แม้ไม่รู้ว่ามันจะมีรสชาติอย่างไร แต่เมื่อดูจากท่าทางตอนกินของเหยียนเกอแล้วก็รู้ได้ว่าฝีมือเขาก็เข้าท่าดี
“เจ้าจะอยู่แต่ในหมู่บ้านเล็ก ๆ นี้ตลอดไปหรือ?” เหยียนเกอถาม เขารู้ว่าผูเว่ยชางเคยเป็นแม่ทัพ เขาจึงคิดว่ามันน่าเสียดายที่แม่ทัพมากความสามารถเช่นเขาจะอยู่แต่ในหมู่บ้านเล็ก ๆ แห่งนี้
ผูเว่ยชางเหลือบมองเขาด้วยสีหน้าเคร่งขรึม ก่อนจะพูดอย่างเย็นชาว่า “แม้แต่การกินก็ไม่สามารถปิดปากเจ้าได้งั้นหรือ?”
เหยียนเกอถึงกับรีบหุบปากทันที และจ้องมองผูเว่ยชางอย่างขุ่นเคือง
ก๊อก ๆ
เสียงเคาะประตูดังขึ้นขัดจังหวะมื้ออาหารของพวกเขา ผูเว่ยชางจึงหันไปหาต้าเหนียนชุ่ยยี่เพื่อสั่งให้ไปดู
ต้าเหนียนชุ่ยยี่เดินไปที่ประตูและพบว่าเป็นฮูหยินอวิ๋น ผู้เป็นแม่ของอวิ๋นซิ่วชิง ซึ่งนางกำลังยืนรออยู่ข้างนอก
เขาจึงรีบไปรายงานผูเว่ยชาง “นายท่าน แม่ของแม่นางอวิ๋นมา”
เหยียนเกอมีความประทับใจครั้งแรกที่แย่มากกับฮูหยินอวิ๋น ยิ่งไปกว่านั้น เขามองออกว่าอวิ๋นซิ่วชิงและฮูหยินอวิ๋นไม่ได้มีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน ดังนั้นเมื่อได้ยินว่าอีกฝ่ายมาที่นี่ เขาก็เลิกคิ้วขึ้นและถามว่า “นางมาทำอะไรที่นี่?”
ผูเว่ยชางเองก็ขมวดคิ้วเช่นกัน แท้จริงแล้วชายหนุ่มก็ไม่ชอบฮูหยินอวิ๋นมากนัก แต่ตอนนี้หญิงชรากำลังที่รออยู่หน้าบ้าน ทั้งยังเริ่มตะโกนเรียกเขาเสียงแหลมว่า
“เจ้าอยู่บ้านหรือเปล่า?! ข้าถามว่าเจ้าอยู่บ้านหรือไม่?!!”
เหยียนเกอรู้สึกแสบแก้วหูเมื่อได้ยินเสียงของนาง เขารีบโบกมือและพูดกับผูเว่ยชางว่า “ผูเว่ยชาง เจ้าไปดูนางเถอะ มันน่ารำคาญมาก!”
ต้าเหนียนชุ่ยยี่หลบซ่อนตัวเองมาเสมอนับตั้งแต่อยู่กับผูเว่ยชาง เขาอยู่ในหมู่บ้านเล็ก ๆ นี้มาเป็นเวลาสองปี และไม่เคยปรากฏตัวให้ใครเห็น
โดยปกติแล้ว ต้าเหนียนชุ่ยยี่จะปรากฏตัวต่อหน้าผูเว่ยชางเท่านั้น แต่วันนี้เหยียนเกอมาที่นี่ เขาจึงไม่จำเป็นต้องซ่อนตัวเพราะเป็นคนรู้จักกันมาตลอด แต่หากมีคนนอกอยู่ด้วย เขาจำเป็นต้องซ่อนตัวเพื่อรอคำสั่งจากผูเว่ยชาง
“เดี๋ยวข้าออกไปดูเอง” ผูเว่ยชางพูด จากนั้นก็ผุดตัวลุกขึ้นยืนและเดินไปที่ประตู
ขืนปล่อยให้นางแหกปากโวยวายอีกครั้ง หมาป่าจะได้เข้ามากินนางแน่!
เมื่อเห็นผูเว่ยชางเดินออกมา ฮูหยินอวิ๋นจึงหยุดตะโกน
เมื่อผูเว่ยชางเปิดประตูออกมา และเหลือบมองลงมาเห็นชามของฮูหยินอวิ๋นจึงขมวดคิ้วถาม “เจ้าเป็นขอทานหรือ?”
“นี่เจ้ากำลังพูดเรื่องอะไร??!! เจ้าคิดว่าข้าเป็นขอทานหรือ??!!” เมื่อฮูหยินอวิ๋นได้ยินอีกฝ่ายถามเช่นนี้ นางก็โหยหวนเสียงแหลม
ผูเว่ยชางขมวดคิ้ว “แล้วทำไมเจ้าถึงได้ถือชามข้าวเปล่ามาที่นี่ล่ะ? แล้วจะให้ข้าคิดเป็นอย่างอื่นได้อย่างไร?”
ฮูหยินอวิ๋นสำลักคำพูดของเขา ก่อนจะพยายามปรับสีหน้ายิ้มแย้มและพูดว่า “ข้าไม่อยากเถียงกับเจ้า ข้าไม่ได้มาขอทาน แต่ข้าหิว”
ผูเว่ยชางมองหญิงชราตรงหน้าอย่างไร้อารมณ์ หากนางเป็นตาแก่คนหนึ่ง เขาคงจะทุบตีนางจนตายหากพบว่าเป็นโจร
ทว่านางเป็นผู้หญิง และยังเป็นแม่ของอวิ๋นซิ่วชิง อีกทั้งตัวเขายังเป็นผู้ชายและเป็นถึงแม่ทัพ ด้วยเหตุนี้ ในฐานะลูกผู้ชาย เขาจึงไม่สามารถทะเลาะกับผู้หญิงได้ และยิ่งเป็นหญิงชราเช่นนี้ด้วยแล้วก็ยิ่งเป็นไปไม่ได้ใหญ่เลย
เขาจะถือเสียว่าเป็นการสร้างบุญกุศล เพราะอย่างน้อย ๆ ฮูหยินอวิ๋นจะได้ไม่รบกวนเขาอีก ดังนั้นเขาจึงเอื้อมมือออกไปรับชามข้าวเปล่าจากนาง
ฮูหยินอวิ๋นมอบชามให้ผูเว่ยชางอย่างมีความสุข จากนั้นก็หยิบจานใบใหญ่ให้เขาอีกใบ และพูดอีกว่า “ข้าได้กลิ่นเนื้อ ข้าขอเนื้อเพิ่มได้ไหม?”
ผูเว่ยชางไม่สนใจนางและเข้าไปข้างในทันที
ผูเว่ยชางเข้าไปในห้องและแบ่งอาหารให้กับฮูหยินอวิ๋น แต่เขาไม่คิดว่าเหยียนเกอจะซ่อนอาหารไว้ รวมถึงต้าเหนียนชุ่ยยี่ก็เช่นกัน
แต่เขาทำเช่นนั้นไม่ได้ ดังนั้นจึงเดินไปที่ห้องครัวซึ่งยังมีอาหารเหลืออยู่มากมาย ชายหนุ่มค่อย ๆ ตักอาหารให้ฮูหยินอวิ๋น