ทะลุมิติไปเป็นแพทย์หญิงชาวสวนผู้มั่งคั่ง - บทที่ 94 แก้แค้น
บทที่ 94 แก้แค้น
เหยียนเกอตบหน้าอกและหันไปหาคนขับรถม้า “ไม่ คืนนี้ข้าจะไม่กลับไป ข้าจะค้างแรมที่นี่!”
คนขับรถม้ารับคำและกลับขึ้นไปอยู่ในรถม้าดังเดิม
“ผูเว่ยชาง หากคืนนี้เจ้าไม่เปิดประตูให้ข้า ข้าจะกลับไปที่คฤหาสน์ของอวิ๋นซิ่วชิงและค้างคืนที่นั่น คฤหาสน์ของนางต้องมีห้องมากมายแน่ ๆ และนางต้องเต็มใจให้ข้าพักอย่างแน่นอน!”
เขายืนอยู่หน้าประตูและตะโกนบอกผูเว่ยชาง ตอนนี้มืดมากแล้ว การที่เหยียนเกอจะสามารถเดินทางกลับเข้าเมืองได้ก็ต้องรอจนเช้าเท่านั้น เพราะหากระหว่างเดินทางเจอเข้ากับสัตว์ร้าย เขาจะทำอย่างไร?!
แม้ผูเว่ยชางจะปิดประตูบ้านไปแล้ว แต่ก็ยังได้ยินเสียงร้องตะโกนของเหยียนเกออยู่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อคนที่อยู่ข้างนอกตะโกนว่าจะไปนอนที่คฤหาสน์ตระกูลอวิ๋น ใบหน้าของชายหนุ่มก็ครึ้มลงทันที!
“นายท่าน ให้ข้าจัดการไล่หมอเหยียนออกไปหรือไม่?” ต้าเหนียนชุ่ยยี่ถามอย่างระมัดระวัง เพราะเขาเห็นผูเว่ยชางอารมณ์ไม่ดี
ผูเว่ยชางผุดตัวลุกขึ้นยืนโดยไม่พูดอะไรสักคำ เขาเดินไปเปิดประตูบ้านด้วยสีหน้าเย็นชา
เมื่อชายหนุ่มเปิดประตู เหยียนเกอก็โผล่มาทันทีตามที่คาดไว้
ใบหน้าของเหยียนเกอเต็มไปด้วยความสุข ในที่สุดผูเว่ยชางก็เปิดประตู เขาจี้จุดอ่อนได้ถูกจุดจริง ๆ ด้วย!
ผูเว่ยชางสาวเท้าเข้ามาและจ้องเหยียนเกออย่างเย็นชา แต่เหยียนเกอก็ยังคงยิ้มหน้าระรื่น “คืนนี้ข้าจะขอพักอยู่บ้านเจ้า พรุ่งนี้เช้าข้าถึงจะเดินทางกลับเมือง”
“ข้าคิดห้าสิบตำลึงสำหรับมื้ออาหารแต่ละมื้อที่เจ้ากิน และอีกห้าสิบตำลึงสำหรับเตียง และสามสิบตำลึงหากเจ้าเลือกนอนพื้น เจ้าเลือกเอา” ผูเว่ยชางพูดอย่างไร้อารมณ์
“ผูเว่ยชาง นี่เจ้ากำลังหลอกลวงผู้อื่น! แถมยังหน้าเลือดขูดรีดคนอีกด้วย ช่างตระหนี่ถี่เหนียวยิ่งนัก!” เหยียนเกอตะโกนด้วยดวงตาที่เบิกกว้าง
แม้ตัวเขาจะมีทรัพย์สินเงินทองมากมาย แต่ก็ไม่ได้โง่พอที่จะถูกหลอก และยิ่งไปกว่านั้น เขารู้ฐานะที่แท้จริงของผูเว่ยชางดีว่าสูงส่งเพียงใด แต่เขาแสร้งทำเป็นยากจนเมื่ออยู่ในหมู่บ้านนี้เท่านั้น!
“หากเจ้าไม่พอใจ ก็ไม่ต้องอยู่ที่นี่ก็ได้…”
ผูเว่ยชางกำลังจะปิดประตู
เหยียนเกอรีบคว้าบานประตูไม้ไว้ แล้วกัดฟันพูดว่า “เจ้าอย่าโหดร้ายนักได้หรือไม่? คอยดูเถอะ คืนนี้ข้าจะไปนอนที่คฤหาสน์ของอวิ๋นซิ่วชิง เจ้าจะต้องอิจฉาตาร้อนแน่!”
ผูเว่ยชางจ้องมองเขาด้วยแววตาเย้ยหยัน “ก็ลองดูสิ”
เหยียนเกอลอบกลืนน้ำลายเมื่อได้สบสายตาคมกริบและน้ำเสียงเย็นชาของอีกฝ่าย
เขาไม่อาจทำให้ผูเว่ยชางขุ่นเคืองได้ เมื่อชายหนุ่มถูกวางยาพิษ เขาย่อมไม่ทำอะไรเหยียนเกอ แต่ตอนนี้พิษเจ็ดสีได้ถูกล้างไปแล้ว ดังนั้นร่างกายของชายหนุ่มจึงกลับมาแข็งแกร่งดังเดิม หรืออาจจะมากกว่าเดิมเสียด้วยซ้ำ เหยียนเกอไม่อาจล้อเล่นกับอีกฝ่ายได้อีก เพราะหากผูเว่ยชางโกรธคงจะฆ่าเขาแน่…
เหยียนเกอท่องในใจว่า ‘ชีวิตสำคัญที่สุด ชีวิตสำคัญที่สุด และชีวิตสำคัญที่สุด…!’
ผูเว่ยชางยืนรอฟังคำตอบจากเหยียนเกอ
”ตกลง…” เหยียนเกอกัดฟันตอบออกไปในที่สุด
เมื่อได้ยินดังนั้น ผูเว่ยชางก็หัวเราะคิกคัก จากนั้นจึงก้าวออกจากประตู
”แล้วคนขับรถม้าของข้าล่ะ?” เหยียนเกอมองผูเว่ยชางอย่างไม่พอใจพลางเท้าสะเอว
ทว่าก่อนที่ผูเว่ยชางจะพูดอะไร คนขับรถม้าก็โบกมือและพูดว่า “ข้านอนบนแคร่ได้ ข้ามาพร้อมกับผ้าห่ม มันไม่หนาวหรอก”
แท้จริงแล้วคนขับรถม้าอยากจะบอกว่าเขาไม่สามารถซื้อห้องราคาแพงเช่นนี้ได้…
ในที่สุดผูเว่ยชางก็เข้าไปในบ้านพร้อมกับเหยียนเกอ
เหยียนเกอนั่งอยู่บนโต๊ะ เขาหันไปหาผูเว่ยชางแล้วถามว่า “ค่ามื้ออาหารมื้อละห้าสิบตำลึง ข้าอยากกินเป็ดนึ่งกับหมูย่าง และเจ้าก็ล่าสัตว์บนภูเขามาทั้งวัน คงจะมีอาหารสองอย่างนี้ใช่ไหม?”
“ถ้าอย่างนั้นเจ้าคงต้องไปบ้านของคนอื่นเพื่อหากินอาหารแบบที่เจ้าว่า ข้าไม่มีอะไรอย่างอื่นนอกจากข้าวต้ม”
ผูเว่ยชางพูดอย่างไม่รีบร้อน
เหยียนเกอตบโต๊ะอย่างแรง เขาลุกขึ้นยืนด้วยใบหน้าที่บิดเบี้ยวเพราะความโกรธ “ข้าจะไม่พักบ้านเจ้าอีกต่อไป เดี๋ยวข้าไปพักบ้านอวิ๋นซิ่วชิงก็ได้!”
ผูเว่ยชางนั่งอยู่บนม้านั่ง ชายหนุ่มพูดโดยไม่แม้แต่จะมองเหยียนเกอว่า
“เจ้าไม่มีสิทธิ์ออกไปข้างนอกแล้วหลังจากที่เข้ามาในบ้านของข้า!”
ทันทีที่ผูเว่ยชางพูดจบ เขาก็เดินออกจากห้องและปิดประตู ก่อนจะยืนบังเอาไว้ราวกับสิ่งศักดิ์สิทธิ์เฝ้าประตู
”เอาอย่างนี้ก็ได้! แต่ข้าขอเตือนเจ้าเอาไว้! คราวหน้าเจ้าก็อย่าหลงไปถูกพิษเข้าอีกล่ะ ข้าจะไม่รักษาเจ้าและจะฆ่าเจ้าด้วย!”
เหยียนเกอขู่ผูเว่ยชาง
ผูเว่ยชางถอนหายใจเฮือกใหญ่และพูดด้วยน้ำเสียงเหยียดหยามว่า “เจ้าไม่สามารถแม้แต่จะล้างพิษเจ็ดสีได้ และแม้ต่อไปข้าจะถูกพิษเข้าอีก ข้าจะไม่ไปรักษากับเจ้า! หมอไร้ประโยชน์!”
ตอนนี้เหยียนเกออยากได้มีดมาแทงผูเว่ยชางยิ่งนัก เขากำลังโกรธอีกฝ่ายมากจริง ๆ “อย่างน้อยข้าก็ยังดีกว่าเจ้า เจ้าชอบนางแต่ก็ไม่กล้าแม้แต่จะเรียกชื่อเล่นของนางด้วยซ้ำ!”