ทะลุมิติไปเป็นแพทย์หญิงชาวสวนผู้มั่งคั่ง - บทที่ 93 หึงหวง!
บทที่ 93 หึงหวง!
เมื่อได้ยินเช่นนี้ อวิ๋นซิ่วชิงก็หัวเราะคิกคัก นางลุกขึ้นยืนและเทชาหนึ่งถ้วย พร้อมกับยื่นให้เขาด้วยความเคารพและเรียก “ท่านอาจารย์”
เหยียนเกอจิบชาด้วยรอยยิ้ม เขาหยิบตั๋วเงินออกจากกระเป๋าเสื้อแล้วมอบให้อวิ๋นซิ่วชิง “นี่คือซองแดงสำหรับลูกศิษย์ของข้า”
อวิ๋นซิ่วชิงรับมันไปโดยไม่ลังเล
“แต่เจ้าไม่ต้องเรียกข้าว่า ‘ท่านอาจารย์’ ก็ได้ ข้ายังคงอายุน้อย เจ้าสามารถเรียกข้าว่า ‘เหยียนเกอ’ เฉย ๆ และข้าจะเรียกเจ้าแค่ว่า ‘ชิงเหนียง’ มีเพียงเราสองคนเท่านั้นที่รู้ว่าพวกเราเป็นศิษย์และอาจารย์กัน”
เหยียนเกอไม่ต้องการถูกเรียกว่า ‘อาจารย์’ มันดูแก่เกินวัยของเขา เขายังอายุน้อยเมื่อเทียบกับปราชญ์การแพทย์คนอื่น และยังต้องการที่จะลิ้มรสความสนุกสนานในโลกใบนี้…
”พี่เหยียน…” อวิ๋นซิ่วชิงเรียกอีกฝ่ายอย่างอ่อนหวาน
เมื่อเห็นพฤติกรรมและท่าทางสนิทสนมที่อวิ๋นซิ่วชิงแสดงออกกับคนที่นางเพิ่งยกให้เป็นอาจารย์ ผูเว่ยชางก็เกิดความรู้สึกหึงหวงขึ้นมา…
เขาคิดผิดหรือถูกกันแน่ที่พาคนคนนี้มาที่คฤหาสน์ของนาง!
“ชิงเหนียง เจ้าพูดต่อเถอะ งูตัวนี้ยังใช้ทำอะไรได้อีก?” เหยียนเกอถามด้วยรอยยิ้ม
”พี่เหยียนอยากรู้อะไรเกี่ยวกับงูอีกหรือ? ยกเว้นดวงตาของงู ” อวิ๋นซิ่วชิงกล่าวด้วยรอยยิ้ม งูตัวนี้มีคุณสมบัติเป็นยาได้หลายชนิด ดังนั้นอวิ๋นซิ่วชิงจึงคิดว่ามันเหนื่อยเกินกว่าจะพูดถึงมันได้ครบ นางจึงขอให้เหยียนเกอคิดดี ๆ ก่อนว่าต้องการจะรู้เรื่องใดเป็นหลัก
เขาหัวเราะและคิดอยู่ครู่หนึ่ง “ข้าอยากรู้เกี่ยวกับน้ำมันงู”
“ง่ายมากเลยพี่เหยียน น้ำมันงูทำมาจากส่วนไขมันของงู สรรพคุณทางยาของไขมันงูนี้สามารถรักษาอาการบวม แผลไฟไหม้ และป้องกันแผลเปื่อยเน่า หากนำส่วนไขมันไปทำเป็นน้ำมันงูก็จะสามารถขายได้ในราคาสูงมาก ท่านสามารถลองนำไปทำได้ นอกจากนี้สรรพคุณของมันยังสามารถขจัดริ้วรอยย่นที่ใบหน้าได้อีกด้วย”
อวิ๋นซิ่วชิงคิดดูแล้วพบว่า ดูเหมือนคนในยุคนี้จะยังไม่รู้จักประโยชน์ของไขมันงู นางจึงบอกสรรพคุณส่วนนี้กับเหยียนเกอ
เหยียนเกอพยักหน้าด้วยความประหลาดใจ เขาไม่รู้ว่าน้ำมันงูจะมีประโยชน์เช่นนี้ และเขากำลังรู้สึกเจ็บใจที่โยนไขมันงูทิ้งไป
“แล้วทำไมเจ้าไม่ทำเองล่ะ?” เมื่อรู้ว่าไขมันงูมีค่ามาก และมันก็มาจากความคิดของนางเอง เหยียนเกอที่แม้จะเป็นเจ้าของโรงหมอที่มีหัวการค้า แต่เขาก็ซื่อตรงพอที่จะไม่บังอาจขโมยผลงานและความคิดจากนางไปได้
“ไม่ล่ะ ข้าไม่ทำหรอก มันไม่ง่ายเลยที่ข้าจะได้มีอาจารย์ ดังนั้นข้าจะต้องซื่อสัตย์และมอบผลประโยชน์ให้ท่าน” อวิ๋นซิ่วชิงตอบด้วยวาจาหวานหูราวกับปากของนางฉาบด้วยน้ำผึ้ง ซึ่งนั่นทำให้เหยียนเกอหัวเราะออกมา
แท้จริงแล้วการสกัดไขมันงูมาเป็นยานั้นทำง่ายนิดเดียว แต่อวิ๋นซิ่วชิงไม่ต้องการทำ เพราะการจะทำไขมันงูมาเป็นยาได้จะต้องใช้งูหลายตัว นางไม่สามารถจับงูทั้งภูเขามาได้
หญิงสาวยังคงสนทนากับเหยียนเกอเพลินจนเวลาใกล้มืดค่ำ
ส่วนผูเว่ยชาง เขานั่งอยู่ระหว่างพวกเขาทั้งสองคนตลอดช่วงบ่าย ชายหนุ่มแทบจะสามารถนับคำที่ตัวเองพูดได้เลย เพราะส่วนมากมีเพียงนางกับเหยียนเกอที่สนทนากันทั้งหมด
เมื่อพวกเขาออกจากคฤหาสน์ตระกูลอวิ๋น ใบหน้าของผูเว่ยชางถึงกับมืดหม่นลงจนเหยียนเกอรู้สึกหวาดกลัว
“เจ้าจะโกรธข้าทำไมผูเว่ยชาง? ข้าไม่ได้จะแย่งนางไปจากเจ้าเสียหน่อย” เหยียนเกอกล่าวในขณะที่เดินตามแผ่นหลังของอีกฝ่าย
ผูเว่ยชางไม่ตอบกลับอะไรนอกจากหันไปมองเหยียนเกอด้วยสายตาเย็นชา เขารีบเดินกลับบ้านไปโดยไม่สนใจอีกฝ่ายที่ยังคงพยายามไล่ตามมา
เหยียนเกอไม่ใช่ผูเว่ยชางที่เป็นนักสู้มีวรยุทธ์ เขาเป็นเพียงเจ้าของโรงหมอเท่านั้น ดังนั้นจึงไม่ได้แข็งแรงและว่องไวเหมือนอีกฝ่าย เขาจึงตามชายหนุ่มแทบไม่ทัน
หลังจากที่ผูเว่ยชางกลับมาถึงบ้าน เขาก็รีบปิดประตูทันทีโดยไม่เหลียวมองเหยียนเกอที่อยู่ข้างหลัง
เหยียนเกอยืนพิงรั้วพลางหอบหายใจหนัก หลังจากที่เขาสงบลงก็ตะโกนขึ้นว่า “ผูเว่ยชาง ทำไมเจ้าถึงปิดประตู?!”
ผูเว่ยชางไม่สนใจเสียงตะโกนของเหยียนเกอ และกระแทกประตูที่ปิดอยู่ทันที
เหยียนเกอไม่คิดว่าผูเว่ยชางจะโหดร้ายเช่นนี้ เวลานี้คนขับรถม้าก็ยกม่านขึ้นมองดูก่อนจะรีบลงจากรถและถามว่า “ท่านเหยียน เราจะกลับคืนนี้เลยหรือไม่?”
เมื่อคนขับรถม้ามาถึงหมู่บ้าน เขาก็รออยู่นอกประตูบ้านของผูเว่ยชางอยู่ก่อนแล้ว อากาศข้างนอกหนาวจัด เขาจึงอยู่แต่ภายในรถม้าตลอดเวลา
เมื่อเขาได้ยินเสียงของเหยียนเกอ เขาก็รีบลงจากรถม้าทันที