ทะลุมิติไปเป็นแพทย์หญิงชาวสวนผู้มั่งคั่ง - บทที่ 90 เตรียมขายงู
บทที่ 90 เตรียมขายงู
ในขณะเดียวกัน เหยียนเกอก็มองอวิ๋นซิ่วชิงสลับกับผูเว่ยชางด้วยใบหน้าที่แสร้งทำเป็นเศร้า ก่อนจะพูดขึ้นว่า “พวกเจ้าสองคนหยุดจีบกันก่อนได้ไหม? สนใจข้าก่อน แม่นางอวิ๋น เจ้าลืมคำพูดของเจ้าเมื่อครู่ไปหรือเปล่า?”
อวิ๋นซิ่วชิงหันหลังกลับและพูดด้วยน้ำเสียงสบาย ๆ ว่า “ไม่ต้องห่วง ท่านเหยียนเกอ”
เหยียนเกอถึงกับพูดไม่ออก เขายังคงมองผูเว่ยชางเพื่อขอความช่วยเหลือ แต่ชายหนุ่มไม่มองเขาเลยด้วยซ้ำ
“เจ้าไม่อยากได้งูของข้าหรือ? ไปที่ห้องของข้าเพื่อดูงูก่อน จะได้ไปทำข้อตกลงเรื่องซื้อขาย แล้วค่อยคุยกันเรื่องอื่น”
จากนั้นอวิ๋นซิ่วชิงก็เดินออกจากครัว
เหยียนเกอและผูเว่ยชางตามนางไปทันที
ทันทีที่อวิ๋นซิ่วชิงเดินออกจากครัวของบ้าน ตามด้วยเหยียนเกอและผูเว่ยชาง พวกเขาเห็นฮูหยินอวิ๋นถือชามเปล่าสองใบ ซึ่งในชามนั้นเต็มไปด้วยเศษอาหารเหลือทิ้ง
สีหน้าของอวิ๋นซิ่วชิงก็ครึ้มลงทันที แม้จะให้อาหารกับนาง แต่นางเฒ่าหน้าเหม็นคนนี้กลับโยนชามข้าวไปยังที่ล้างจานโดยไม่คิดจะล้างเองเลยสักนิด!
ฮูหยินอวิ๋นเดินมาหานางอย่างโอหัง ทำราวกับไม่เห็นความโกรธในแววตาลูกสาวตัวเอง นางยัดชามสกปรกทั้งสองใส่มือของอวิ๋นซิ่วชิงแล้วพูดว่า “ล้างซะ…”
จากนั้นนางก็หันหลังกลับและกำลังจะจากไป แต่อวิ๋นซิ่วชิงคว้าแขนนางไว้เสียก่อน!
ฮูหยินอวิ๋นหันไปมองอวิ๋นซิ่วชิงด้วยใบหน้าเย็นชา และถามด้วยน้ำเสียงที่แผดขึ้นจนแหลม “เจ้าคิดจะทำอะไร นังลูกสาวอกตัญญู? ปล่อยข้าเดี๋ยวนี้!”
อวิ๋นซิ่วชิงจ้องนางด้วยแววตาคล้ายกับจะกินเลือดกินเนื้อ ทันใดนั้นนางก็เขวี้ยงชามสกปรกสองชามลงพื้นจนชามแตกกระจาย
ฮูหยินอวิ๋นตกใจกับท่าทางดุร้ายของอวิ๋นซิ่วชิง จึงจ้องและถามขึ้นว่า “เจ้าทำอะไรของเจ้านังลูกไม่รักดี?! วิปลาสไปแล้วหรือไง?!”
อวิ๋นซิ่วชิงเถียงกลับว่า “นางเฒ่าหน้าเหม็น! อย่าคิดว่าข้าจะเป็นเหมือนเมื่อก่อนที่จะใจอ่อนและคิดจะข่มเหงรังแกอย่างไรก็ได้ หากเจ้าเข้าไประรานท่านพ่ออีกครั้ง ข้าจะให้ท่านพ่อหย่ากับเจ้า และขับไล่เจ้าออกไปจากคฤหาสน์หลังนี้แน่!”
ฮูหยินอวิ๋นได้ยินดังนั้นก็แทบจะหัวร่อจนตัวโยน
“อวิ๋นซิ่วชิง เจ้าคิดว่าเจ้าเป็นใคร? เจ้าสามารถสั่งให้พ่อของเจ้าหย่ากับข้าได้หรือ? คิดว่าจะสามารถขับไล่ข้าได้หรืออย่างไร? ตอนนี้มันไม่เหมือนเมื่อก่อนแล้ว ลูกชายของข้า อวิ๋นหมิงเซียวเป็นหัวหน้าครอบครัวนี้ และเป็นเจ้าของทรัพย์สินทั้งหมดในตระกูลอวิ๋น ไม่ใช่พ่อบังเกิดเกล้าของเจ้า!”
เมื่อเอ่ยถึงอวิ๋นหมิงเซียว ฮูหยินอวิ๋นก็ยิ่งหยิ่งผยองมากขึ้น
อวิ๋นซิ่วชิงมองหญิงชราตรงหน้าอย่างเย็นชา ไม่ได้คิดตามถ้อยคำที่นางพ่นออกมา
แม่ของนางไม่มีแม้แต่สมอง ทั้งที่เพิ่งโดนนางสั่งสอนบทเรียนไปแล้วแท้ ๆ แต่ตอนนี้กลับกล้าที่จะอวดดี…
“เจ้าก็ลองดูสิ” อวิ๋นซิ่วชิงพูดอย่างใจเย็น
เมื่อฮูหยินอวิ๋นกำลังจะด่าทอลูกสาวตัวเองอีกครั้ง ทันใดนั้นนางก็เห็นผูเว่ยชางตบไหล่ของอวิ๋นซิ่วชิง
จากนั้นอวิ๋นซิ่วชิงก็ตระหนักได้ว่ามีแขกคนอื่นอยู่ที่นี่ นางจึงไม่สนใจฮูหยินอวิ๋นอีก และไปที่ห้องของนางกับผูเว่ยชาง ตามมาด้วยเหยียนเกอ
เมื่อฮูหยินอวิ๋นเห็นผูเว่ยชางก็ขมวดคิ้วและพูดกับตัวเองว่า “ดูเหมือนหมิงเซียวลูกรักของข้าจะยังไม่ได้กินอาหารเย็น แต่ก็ให้เขาไปบ้านของผูเว่ยชางก็ได้นี่นา ชายรูปงามผู้นี้ดูเป็นคนใจดี ย่อมไม่ปฏิเสธแน่นอน”
ยิ่งไปกว่านั้น ฮูหยินอวิ๋นยังรู้สึกว่าชายผู้นี้ต้องแอบชอบนังลูกสาวตัวเองอยู่แน่…
เมื่อคิดได้เช่นนี้ หญิงชราก็เบะปากด้วยความขยะแขยง
นังลูกสาวที่ไม่มีดีอะไรอย่างอวิ๋นซิ่วชิงเนี่ยนะจะเป็นที่ต้องการของบุรุษรูปงามเช่นนี้? สวรรค์คงตาบอดแน่นอน!
หรือเขาเป็นพวกรสนิยมประหลาดกัน?
อวิ๋นซิ่วชิงนำผูเว่ยชางและเหยียนเกอเข้ามาในห้องของตัวเอง นางยกกรงที่ใส่งูขึ้นมาจากพื้นและวางไว้บนโต๊ะ จากนั้นจึงเลิกผ้าสีดำขึ้นมาและปล่อยให้เหยียนเกอดู
“ตอนนี้งูกำลังหลับอยู่ ข้าไม่แน่ใจว่ามันจะเป็นวัตถุดิบยาหรือไม่?” หญิงสาวนั่งห่างออกไปและพูดอย่างไม่แยแส
เหยียนเกอต้องการทราบวิธีล้างพิษจากหญิงสาว แต่อวิ๋นซิ่วชิงพยายามเบี่ยงเบน
ยิ่งไปกว่านั้น ข้ออ้างของนางคืองูตัวนี้ ดังนั้นแม้ว่าเขาอยากจะถาม แต่ก็ไม่สามารถถามออกมาได้
ตอนนี้เหยียนเกอจึงทำได้แค่มองดูงูอย่างระมัดระวัง