ทะลุมิติไปเป็นแพทย์หญิงชาวสวนผู้มั่งคั่ง - บทที่ 88 กระโดดลงไปในหลุมพรางกับดัก
- Home
- All Mangas
- ทะลุมิติไปเป็นแพทย์หญิงชาวสวนผู้มั่งคั่ง
- บทที่ 88 กระโดดลงไปในหลุมพรางกับดัก
บทที่ 88 กระโดดลงไปในหลุมพรางกับดัก
เหยียนเกอถอนมือออกมาและพูดอย่างเคร่งขรึมว่า “ตอนนี้ร่างกายของท่านผูแข็งแรงมาก แต่ว่า…”
“แต่อะไร…?” อวิ๋นซิ่วชิงรู้สึกได้ว่าวิชาการจับชีพจรเป็นศาสตร์การแพทย์ที่อัศจรรย์อย่างมาก หากนางสามารถเรียนรู้วิธีนี้ได้ นางก็จะสามารถวินิจฉัยอาการเจ็บป่วยเบื้องต้นได้
“แต่เขาไม่ได้มีสุขภาพที่ดี…” เหยียนเกอยังคงขมวดคิ้ว
เมื่อได้ยินเช่นนี้ หญิงสาวก็ขมวดคิ้วราวกับมีบางอย่างที่เลวร้ายเกิดขึ้น ความสงสัยนี้ทำให้นางเลือกที่จะถามออกไปตามตรง “แค่จับชีพจรก็รู้แล้วอย่างนั้นหรือ?”
เมื่อเห็นว่านางกำลังตกหลุมพรางไปตามแผน เหยียนเกอก็ยิ้มกริ่มและปรายตามองนาง “แน่นอน ชีพจรลึกและตื้น แถมยังเต้นรัวและเร็วมาก การที่เราจะสามารถรู้ได้ถึงสุขภาพของคนคนนั้น สามารถดูได้จากจังหวะเต้นของชีพจรนั่นเอง อีกทั้งยังสามารถบอกได้ว่า คนคนนั้นเคยเป็นโรคชนิดใดมาก่อน และเขาเสี่ยงที่จะเป็นโรคอะไรในอนาคตได้อีก…”
อวิ๋นซิ่วชิงรู้สึกได้ว่าวิชาจับชีพจรช่างอัศจรรย์จริง ๆ
แม้นางจะเคยอ่านเจอวิธีวินิจฉัยอาการป่วยเบื้องต้นจากตำราในพื้นที่มิติส่วนตัว แต่นางก็ยังไม่เคยได้ลองปฏิบัติจริง นางไม่รู้ว่าการจับชีพจรนั้นทำอย่างไร?
“เจ้าพอจะบอกได้หรือไม่ว่าผูเว่ยชางเป็นอย่างไรบ้าง?” อวิ๋นซิ่วชิงเริ่มตกหลุมพรางกับดักแล้ว เพราะในใจของนางถูกขับเคลื่อนด้วยความอยากรู้อยากเห็น!
เมื่อเห็นอวิ๋นซิ่วชิงรู้สึกอยากรู้อยากเห็น เหยียนเกอก็ระงับความตื่นเต้นในใจ และพูดอย่างใจเย็นว่า “ท่านผูเคยถูกวางยาพิษมาก่อน และมันเป็นพิษเจ็ดสีซึ่งจัดเป็นพิษร้ายแรงมาก อีกทั้งยังไม่มียาถอนพิษชนิดนี้ได้ ดังนั้นผู้ถูกยาพิษนี้จึงได้แต่ต้องรอความตายมาเยือนเท่านั้น…”
อวิ๋นซิ่วชิงขมวดคิ้วกับคำพูดของเขา นางรู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติ
ครั้นเหลือบมองผูเว่ยชาง เหยียนเกอก็แสร้งทำเป็นอยากรู้อยากเห็นและถามว่า “ผูเว่ยชาง ใครเป็นคนล้างพิษให้เจ้า?”
เมื่อได้ยินคำถามจากเหยียนเกอ อวิ๋นซิ่วชิงก็ลุกขึ้นยืนและพูดกับพ่อเฒ่าอวิ๋นซึ่งกำลังอยากรู้คำตอบนี้เช่นกัน “ท่านพ่อ ได้เวลาทานยาแล้ว ข้าจะนำมาให้ท่าน”
ทันทีที่พูดจบ นางก็เดินออกจากห้องด้วยความเร่งรีบ…
ก่อนที่พ่อของนางจะทันได้พูดอะไรออกมา อวิ๋นซิ่วชิงก็จากไปแล้ว พ่อเฒ่าอวิ๋นจึงพูดกับผูเว่ยชางและเหยียนเกอว่า “ข้าขอโทษด้วยจริง ๆ อาชิงค่อนข้างใจร้อนน่ะ”
ผูเว่ยชางเหลือบมองพ่อเฒ่าอวิ๋นและเหยียนเกอ จากนั้นก็พูดว่า “ไม่เป็นไร ไม่ใช่เรื่องสำคัญอะไรหรอก”
ในเวลานี้ อวิ๋นซิ่วชิงกำลังอุ่นยาด้วยความรีบร้อน คำถามของเหยียนเกอทำให้นางนึกกลัวเล็กน้อย นางช่วยเขาเพียงเพราะไม่อยากสร้างปัญหา
หากเหยียนเกอถามเขาต่อหน้า และรู้ว่านางเป็นคนที่ช่วยล้างพิษให้ผูเว่ยชาง นางจะอธิบายวิธีรักษาได้อย่างไร?
นอกจากนี้ พ่อเฒ่าอวิ๋นก็ยังนั่งอยู่ข้าง ๆ หากจะแก้ตัวว่าเป็นสูตรยาลับที่สืบทอดมาจากตระกูลอวิ๋นก็จะยิ่งมีพิรุธไปใหญ่
อวิ๋นซิ่วชิงขมวดคิ้วและมองยาในหม้อ นางรู้สึกอยากจะมุดดินหนีจากการถูกสงสัยและจ้องจับผิดเช่นนี้ นางจะไปรู้ได้อย่างไรว่าพิษของผูเว่ยชางนั้นรุนแรงมาก?
หากนางรู้ตั้งแต่แรกว่าพิษในร่างกายของผูเว่ยชางรุนแรงมาก นางก็ควรช่วยเขาเพียงให้พอทุเลาเท่านั้น นางจะได้ไม่ต้องมากังวลเช่นนี้…!
หลังจากนั้น ผูเว่ยชางก็เดินเข้าไปในครัวพร้อมกับถ้วยชามที่เหลือ หญิงสาวหันหลังกลับมาตามเสียง และรับจานชามจากมือเขา “ข้าจะล้างเอง เจ้ากลับไปนั่งที่ห้องโถงเถอะ”
ผูเว่ยชางส่ายหัว “ไม่ต้องกังวล ข้าจะช่วยเจ้าล้างเอง เจ้าต้มยาให้พ่อเจ้าต่อเถอะ”
อวิ๋นซิ่วชิงรู้สึกว่าคำพูดของเขาดูแปลกประหลาด
“ผูเว่ยชาง เจ้าบอกเหยียนเกอหรือว่าข้าเป็นคนล้างพิษให้เจ้า?”
อวิ๋นซิ่วชิงรู้สึกกังวลที่คิดว่านางอาจเปิดเผยความสามารถของตัวเองมากเกินไป หากผู้อื่นรู้ว่านางสามารถล้างพิษที่ร้ายแรงในยุคนี้ได้ ตัวนางจะยิ่งโดนเพ่งเล็งยิ่งกว่าเดิม จนสุดท้ายต้องความแตกแน่นอน!
ผูเว่ยชางวางจานชามเพื่อเตรียมล้าง เขาแสร้งทำเป็นไม่เข้าใจว่านางพูดเรื่องอะไร “ข้าบอกเขาแล้ว มีอะไรงั้นหรือ?”
เมื่อมองใบหน้าของผูเว่ยชางที่ดูใสซื่อ อวิ๋นซิ่วชิงก็แทบเข่าอ่อน นางไม่อาจโทษเขาได้ เขาไม่รู้เรื่องพื้นที่มิติส่วนตัวที่เป็นความลับของนาง หรือแม้เขาจะอยากรู้ นางก็ไม่กล้าบอกเขาอยู่ดี!
“เอาเถอะ…แต่เจ้าอย่าไปบอกใครอีกนะว่าข้าล้างพิษให้เจ้า เจ้าจะทำให้ข้าเดือดร้อนทีหลัง…”
เมื่ออวิ๋นซิ่วชิงพูดอย่างจริงจังเช่นนี้ ผูเว่ยชางก็ถึงกับขมวดคิ้วด้วยความสงสัย
ทำไมกันล่ะ?