ทะลุมิติไปเป็นแพทย์หญิงชาวสวนผู้มั่งคั่ง - บทที่ 87 วางแผนจับพิรุธ
บทที่ 87 วางแผนจับพิรุธ
“ท่านเหยียนเกอ ช่วยตรวจชีพจรให้พ่อข้าหน่อย” อวิ๋นซิ่วชิงขอร้องอย่างจริงจัง
เมื่อเห็นว่าอวิ๋นซิ่วชิงยังคงยืนกรานเช่นนั้น พ่อเฒ่าอวิ๋นก็พยักหน้าอย่างเคร่งขรึม เขายอมเหยียดข้อมือออกให้เหยียนเกอตรวจชีพจร
หญิงสาวรู้สึกกังวลเมื่อเห็นเหยียนเกอจับชีพจรของพ่อเฒ่าอวิ๋นด้วยสีหน้าเคร่งเครียด นางสาบานกับตัวเองในใจว่าจะต้องหาทางเรียนรู้วิธีการจับชีพจรจากเขาให้ได้
น่าแปลกที่เมื่อจับชีพจรของพ่อเฒ่าอวิ๋นไว้แน่น แต่ชีพจรของเขานั้นคงที่และหัวใจของเขาก็เต้นรัวเร็ว เขาดูไม่เหมือนคนที่เพิ่งเป็นไข้หวัดมาเมื่อคืน แม้ว่าเขาจะกินยา แต่ก็ไม่น่าสามารถฟื้นตัวได้เร็วเช่นนี้…
“เป็นอย่างไรบ้าง?” อวิ๋นซิ่วชิงถามด้วยความเป็นห่วง
”ไม่มีอะไร ชีพจรของท่านลุงปกติมาก” เหยียนเกอพูดอย่างจริงจัง
”จริงหรือ?” อวิ๋นซิ่วชิงสงสัยในคำพูดของเหยียนเกอ ซึ่งขัดกับคิ้วที่อีกฝ่ายยังคงขมวดแน่น
”เขาสบายดีจริง ๆ ข้าขอยืนยัน” เขาพยักหน้าอย่างแน่วแน่
อวิ๋นซิ่วชิงพูดไม่ออก “แล้วทำไมเจ้าถึงทำหน้าแบบนั้น?”
“ข้าแค่กำลังสงสัยว่าท่านอวิ๋นดูไม่เหมือนคนที่เพิ่งเป็นไข้หวัด ทั้งที่วัยของเขาไม่น่าจะสามารถทุเลาได้เร็วเช่นนี้ หลังหายจากไข้หวัด ร่างกายของเขากลับร้อน ลมหายใจก็หนักหน่วงและมีความเจริญอาหาร อย่างน้อย ๆ ก็น่าจะมีผลข้างเคียงอย่างอาการอาเจียนบ้าง”
เหยียนเกอพูดถึงอาการข้างเคียงที่น่าจะเกิดขึ้นเฉพาะกับหนุ่มสาวเท่านั้น
อวิ๋นซิ่วชิงพยักหน้า เมื่อวานนี้นางใช้ยาสมัยใหม่ซึ่งเป็นยาตะวันตกที่นำมาจากพื้นที่มิติส่วนตัวเป็นครั้งแรกเพื่อลดไข้ให้ผู้เป็นพ่อ จากนั้นก็รักษาด้วยยาจีนและน้ำพุแห่งจิตวิญญาณ เพื่อรักษาม้ามและกระเพาะอาหารของเขา
หากนางใช้เพียงแค่ยาจากทางตะวันตก เขาคงไม่มีทางหายเร็วได้เช่นนี้แน่ ดูเหมือนว่าการรักษาควรเป็นการผสมผสานกันระหว่างการแพทย์แผนจีนและการแพทย์แบบตะวันตก
นางอาจจะคิดผิดตั้งแต่เริ่มที่คิดว่ายาตะวันตกไม่มีประโยชน์อันใด ดังนั้นมันก็ควรผสมผสานกันจะดีกว่า
“ตอนนี้ข้าสบายดี ต้องขอบคุณอาชิงที่ช่วยดูแลข้า” เมื่อมองไปที่อวิ๋นซิ่วชิง ดวงตาของพ่อเฒ่าอวิ๋นก็แสดงให้เห็นถึงความซาบซึ้งใจ
“ท่านพ่อ ท่านกำลังพูดเรื่องอะไร? ในฐานะลูก ข้าก็ควรกตัญญูต่อพ่อแม่ นั่นเป็นสิ่งที่ผู้เป็นบุตรพึงกระทำอยู่แล้ว”
อวิ๋นซิ่วชิงกล่าวด้วยรอยยิ้ม แม้นางจะพูดเช่นนั้น แต่ในกรณีของฮูหยินอวิ๋นที่เป็นแม่จอมลำเอียงของนางก็ถือเป็นข้อยกเว้น
ถึงอย่างไรนางก็ยังมีมุมมองที่ว่า ความกตัญญูควรตอบแทนให้ถูกคน แม่ของนางเพียงแค่เบ่งนางออกมาเท่านั้น แต่สิ่งที่นางประสบมาพร้อมกับรับรู้จากความทรงจำเจ้าของร่างเดิม แม่ของนางไม่เคยมอบความรักความอบอุ่นให้นางแม้แต่น้อย ซ้ำยังปฏิบัติกับนางเหมือนคำที่ว่า มีลูกสาวก็เหมือนมีส้วมหน้าบ้าน!
แต่นางก็ยังนึกสงสัยว่าหากลูกสาวอย่างนางเป็นเหมือนส้วมหน้าบ้าน แล้วอวิ๋นหมิงเซียว พี่ชายผีพนันจอมสร้างปัญหาจะเป็นอะไร? กองอาจมหรือไม่?
น่าจะเหม็นโฉ่ยิ่งกว่าอาจมของหมูที่อยู่ในคอกหลังคฤหาสน์นี้เสียอีก หรืออาจจะเปรียบกับอาจมไม่ได้ เพราะอาจมยังมีประโยชน์ในการใช้เป็นปุ๋ยในการเพาะปลูก แต่ไอ้พี่ผีพนันคนนี้กลับไม่มีประโยชน์อะไร นอกจากผลาญเงิน!
“เจ้าเป็นคนกตัญญูมาก” ผูเว่ยชางนั่งอยู่ข้าง ๆ เอ่ยชมอวิ๋นซิ่วชิง
เหยียนเกอกลอกตาและคิดว่า ตั้งแต่อวิ๋นซิ่วชิงสามารถล้างพิษให้ผูเว่ยชางได้ อาการเจ็บป่วยของท่านอวิ๋นก็คงถูกรักษาให้ทุเลาโดยนางเช่นกัน
ดังนั้น เหยียนเกิดจึงตัดสินใจจะวางแผนเพื่อค้นหาคำตอบที่ตัวเองสงสัยอีกครั้งโดยไม่ให้ใครสงสัย “แม่นางอวิ๋น เจ้าจ้างหมอคนไหนมาหรือ? เขาน่าจะเป็นคนเก่งมาก ข้าเองก็อยากรู้จักคนเก่ง ๆ เช่นนั้นเหมือนกัน”
เมื่อได้ยินคำถามของเหยียนเกอ มือของอวิ๋นซิ่วชิงซึ่งถือตะเกียบอยู่ก็หยุดลง นางยิ้มและพูดว่า “ส่วนใหญ่เป็นเพราะร่างกายของพ่อข้าแข็งแรงจนเขารอดชีวิตมาได้”
นางยังคงตอบออกมาอีกว่า “ส่วนใหญ่เป็นเพราะร่างกายของพ่อข้าแข็งแรง เพียงแค่พักผ่อนให้มาก อาการก็ทุเลาลงแล้ว ข้าเพียงช่วยดูแลเขาเล็ก ๆ น้อย ๆ เท่านั้น”
เวลานี้อวิ๋นซิ่วชิงไม่กล้าพูดอะไรอีก ยิ่งนางพูดมากเท่าไหร่ นางก็ยิ่งดูมีพิรุธมากขึ้นเท่านั้น
เหยียนเกอไม่คิดว่าหญิงสาวจะรู้ทันเล่ห์กลของเขา เขาจึงยิ้มและเอ่ยว่า “ตอนนี้ข้าไม่มีอะไรทำ ทำไมไม่ให้ข้าลองจับชีพจรของเจ้าดูล่ะ?”
อวิ๋นซิ่วชิงคิดว่าตัวเองคงไม่ถูกสงสัยแล้ว นางจึงลอบถอนหายใจด้วยความโล่งอก โดยไม่คิดว่าเหยียนเกอจะต้องการจับชีพจรของนางอีก
หลังจากคิดอยู่ครู่หนึ่ง อวิ๋นซิ่วชิงก็รู้สึกว่าคงไม่เป็นอันตรายต่อนาง จึงพยักหน้าและยื่นแขนให้อีกฝ่ายจับชีพจร
เมื่ออวิ๋นซิ่วชิงยินยอมแล้ว เหยียนเกอก็แลกที่นั่งกับผูเว่ยชางและเริ่มจับชีพจรของอวิ๋นซิ่วชิง
อวิ๋นซิ่วชิงไม่นึกกังวลอะไร นางดื่มน้ำจากน้ำพุแห่งจิตวิญญาณทุกวัน ดังนั้นร่างกายของนางจะมีปัญหาสุขภาพได้อย่างไร?
ตรงกันข้าม พ่อเฒ่าอวิ๋นกลับเป็นฝ่ายกังวลแทน เขากลัวว่าลูกสาวของตัวเองจะป่วยเป็นโรคอะไรบางอย่าง
“ท่านเหยียน ลูกสาวข้าสบายดีหรือไม่?” พ่อเฒ่าอวิ๋นถามด้วยความกังวล
“ไม่ต้องกังวลหรอกท่านอวิ๋น แม่นางอวิ๋นมีสุขภาพแข็งแรงดี”
พ่อเฒ่าอวิ๋นพยักหน้าและถอนหายใจด้วยความโล่งอก ชายชรายกมือขึ้นเพื่อเช็ดเหงื่อที่แตกพลั่กบนหน้าผาก
จากนั้น เหยียนเกอก็จับชีพจรของผูเว่ยชางและส่ายหัว
อวิ๋นซิ่วชิงซึ่งมีผูเว่ยชางเป็นเพื่อนเพียงคนเดียวก็รู้สึกเป็นห่วง เมื่อเห็นปฏิกิริยาของเหยียนเกอเป็นเช่นนั้น นางจึงถามด้วยความกังวลว่า “ท่านเหยียนเกอ เกิดอะไรขึ้นกับเขาหรือ?”