ทะลุมิติไปเป็นแพทย์หญิงชาวสวนผู้มั่งคั่ง - บทที่ 72 ปลูกผัก
บทที่ 72 ปลูกผัก
ดวงตาคมกริบของผูเว่ยชางเหลือบมองไข่ทั้งสองฟองในมือของหลี่ฟู่หลานด้วยสายตาเย็นชา
เขาหันหลังให้หลี่ฟู่หลานอย่างไม่แยแส และตอบกลับไปว่า “เรื่องในวันนั้นข้าลืมไปหมดแล้ว และไม่ได้สนใจจะเอามาเป็นสาระด้วย เจ้ากลับไปได้แล้ว!”
ทันทีที่ผูเว่ยชางพูดจบ เขาก็เดินกลับเข้าไปในบ้านและปิดประตูใส่หญิงสาวทันที
เมื่อมองบานที่ประตูที่ปิดอยู่ หลี่ฟู่หลานก็รู้สึกหดหู่ใจจนเกือบร้องไห้ออกมา นางถือไข่ทั้งสองฟองไว้ในมือแน่น พลางพยายามกัดฟันเพื่อไม่ให้ตัวเองร้องไห้ออกมา ก่อนจะหันหลังกลับและจากไป
คนส่วนมากไม่มีโอกาสได้กินไข่กันง่าย ๆ ไข่สองฟองนี้จึงเป็นของขวัญล้ำค่าที่สุดที่นางจะหามาให้เขาได้แล้ว
แต่ผูเว่ยชางกลับไม่คิดจะมองดูมันด้วยซ้ำ! ทั้งที่ผู้ชายหลายคนในหมู่บ้านล้วนชอบนาง แต่ทำไมเขากลับ…?!!
เมื่อคิดมาถึงตรงนี้ หลี่ฟู่หลานก็ยิ่งนึกเกลียดชังอวิ๋นซิ่วชิงมากขึ้น ยิ่งเมื่อคิดถึงใบหน้าที่ยิ้มแย้มและการที่ทั้งผูเว่ยชางและนังหญิงอ้วนนั่นคุยกันอย่างสนิทสนม มันก็ยิ่งทวีความริษยาให้ปะทุขึ้นในใจหลี่ฟู่หลานมากกว่าเดิม
อวิ๋นซิ่วชิง…ต้องเป็นเพราะนังหญิงอ้วนอัปลักษณ์นั่นแน่ ๆ! นางต้องพูดใส่ร้ายข้าให้เขาฟังอย่างแน่นอน ผูเว่ยชางถึงไม่สนใจข้า!
ในขณะที่อวิ๋นซิ่วชิงนั้น เมื่อกลับมาถึงบ้านก็ไปพบพ่อของนาง แต่เมื่อเห็นว่าเขาหลับอยู่ในห้อง นางก็กลับไปที่ห้องของตัวเองอย่างเงียบ ๆ
อวิ๋นซิ่วชิงปิดประตูและสอดด้วยสลักเกลียวไม้ก่อนเข้าห้องพร้อมเมล็ดพันธุ์พืชที่นางได้มาจากป้าจ้าว
หลังจากเข้าสู่พื้นที่มิติส่วนตัวของนาง อวิ๋นซิ่วชิงก็เดินไปที่ด้านข้างของเนินเขาที่เชิงน้ำพุแห่งจิตวิญญาณ
เมื่อหญิงสาวกำลังคิดจะขุดหลุม นางก็พบว่าไม่มีเครื่องมือ
อวิ๋นซิ่วชิงตบหัวตัวเองด้วยความรู้สึกงี่เง่า ก่อนจะรีบเปิดประตูและไปที่โกดัง
นางค้นหาเครื่องมือในโกดังหลายครั้ง และในที่สุดก็พบจอบและถังไม้
จากนั้น นางก็รีบกลับไปที่ห้องของตัวเองพร้อมกับจอบและถังไม้
ทันทีที่นางเข้าไปในห้อง อวิ๋นซิ่วชิงก็ปิดประตูและใส่สลักเกลียวไม้
และทันทีที่นางหลับตา นางก็เข้าไปในพื้นที่มิติส่วนตัวอีกครั้ง อวิ๋นซิ่วชิงถือจอบและถังไม้ไปที่เชิงเขา
นางเช็ดเหงื่อออกจากใบหน้า และเริ่มขุดหลุมเล็ก ๆ ด้วยจอบ จากนั้นก็หยิบเมล็ดกะหล่ำปลีออกมาแล้วใส่ลงในหลุม
และกลบดินอย่างระมัดระวัง…
หลังจากแผ่นดินถูกปกคลุม อวิ๋นซิ่วชิงก็นึกถึงสิ่งที่ป้าจ้าวพูดกับนาง นางควรเกลี่ยดินบ้างเล็กน้อย ไม่เช่นนั้นมันจะลึกเกินไปสำหรับเมล็ดที่จะงอกขึ้นมา
อวิ๋นซิ่วชิงไม่เคยทำงานนี้มาก่อน ไม่ว่าจะในชีวิตก่อนหน้า และชีวิตปัจจุบัน แน่นอนว่ามันทำให้นางรู้สึกทุกข์ทรมานมาก
นางไม่รู้ว่าดินถูกกลบไว้มากเกินไปหรือไม่ ดังนั้นนางจึงเกลี่ยดินออกเล็กน้อย แต่หญิงสาวก็ยังรู้สึกว่าตัวเองขุดดินไว้มากเกินไปอยู่ดี ดังนั้นนางจึงเกลี่ยดินอยู่หลายครั้งก่อนที่จะขุดหลุมและปลูกเมล็ดกะหล่ำปลี
อวิ๋นซิ่วชิงถอนหายใจ “ทำไมการปลูกผักจึงเป็นเรื่องยากอย่างนี้นะ?”
อวิ๋นซิ่วชิงขุดหลุมติดต่อกันอีกเก้าหลุม พร้อมกับใส่เมล็ดเก้าเมล็ดลงไปในนั้น ก่อนจะกลบเมล็ดด้วยดินอีกรอบ
คราวนี้นางเหงื่อออก…
อวิ๋นซิ่วชิงนั่งอยู่ที่นั่นครู่หนึ่ง ก่อนจะปีนขึ้นภูเขาพร้อมกับถังไม้ที่อยู่ด้านข้างน้ำพุจิตวิญญาณ และเทน้ำลงในหลุมแต่ละหลุมที่เชิงเขา
“เฮ้อ…ข้าเหนื่อยมากเลยตอนนี้” อวิ๋นซิ่วชิงบ่นพึมพำด้วยความเหนื่อยพลางขมวดคิ้วมองไปที่ถังเปล่าข้างตัว
หากปลูกกะหล่ำปลีไม่ได้ นางคงรู้สึกเสียใจเพราะนางใช้น้ำสะอาดจากน้ำพุแห่งจิตวิญญาณกว่าครึ่งหนึ่งในการรดน้ำให้กับเมล็ดพันธุ์นี้
แม้ว่าน้ำพุแห่งจิตวิญญาณจะไม่มีวันหมด ทว่าน้ำพุในบ่อครึ่งหนึ่งก็สามารถใช้ช่วยชีวิตผู้คนได้อีกมากมาย อีกทั้งยังมีคุณค่ามหาศาล ยิ่งคิด หญิงสาวก็ยิ่งรู้สึกใจเสียเป็นอย่างมาก
“รีบ ๆ งอกออกดอกออกผลเร็ว ๆ เข้าล่ะ ถ้างอกแล้ว ข้าจะรดน้ำพวกเจ้าด้วยน้ำพุแห่งจิตวิญญาณทุกวัน…” ทันทีที่นางพูดกับเหล่าเมล็ดพืชจบ นางก็โค้งคำนับท้องฟ้า
หลังจากบรรจุเมล็ดที่เหลือและเก็บเครื่องมือต่าง ๆ แล้ว อวิ๋นซิ่วชิงก็ปีนขึ้นไปบนภูเขาพร้อมกับล้างหน้าและเดินออกจากห้อง
เมื่ออวิ๋นซิ่วชิงออกจากพื้นที่มิติส่วนตัว ฟ้าบนโลกจริงตอนนี้ก็มืดเต็มทีแล้ว อวิ๋นซิ่วชิงพยายามปรับสายตาตัวเองให้ชินกับความมืด ภายใต้แสงจันทร์ที่สาดส่องมา หญิงสาวคลำหาโต๊ะเล็ก ๆ ข้างเตียงและจุดเทียนขึ้น
แสงเทียนพลันสว่างไสวไปทั่วห้องทันที
อวิ๋นซิ่วชิงเปิดหน้าต่างมองออกไป นางก็ขมวดคิ้วอีกครั้งเมื่อได้ยินเสียงท้องร้อง
จริงด้วยสิ หลังจากที่นางอยู่ในพื้นที่มิติส่วนตัวเป็นเวลานาน นางยังไม่ได้กินอาหารเย็นเลย
อวิ๋นซิ่วชิงลุกขึ้นยืนและตบท้องของนาง “ไม่ต้องกังวล ข้าจะเลี้ยงเจ้าเดี๋ยวนี้”
นางพูดกับท้องตัวเอง ก่อนจะเดินออกจากห้องพร้อมตะเกียงในมือ
เมื่อนึกถึงล่าโร่ว*[1] ที่นำกลับมาเมื่อเช้านี้ อวิ๋นซิ่วชิงก็เลียริมฝีปากของตัวเองอย่างตะกละตะกลาม
คืนนี้นางจะทอดล่าโร่วอย่างไรดีนะ?
[1] 腊肉 Làròu ล่าโร่ว คือ เนื้อหมูแดดเดียวตากน้ำค้าง หรือจะเรียกแบบง่าย ๆ ก็คือ แฮมยูนนาน โดยมากมักจะทำกันในช่วงปลายฤดูใบไม้ร่วงเข้าฤดูหนาว เพราะอากาศเย็น แห้ง เหมาะที่จะทำแล้วก็เก็บไว้ใช้ในโอกาสสำคัญและวันปีใหม่
ที่มาของภาพ : https://imgcache.dealmoon.com/fsvrugc.dealmoon.com/ugc/46b/57d/513/dce69a8d5fc18586bddaf44.jpg_1280_1280_3_247c.jpg
…
ข้อความจากผู้ดูแลนิยายเรื่องนี้ : ถ้าอยากจะเห็นภาพของแฮมยูนนานให้ชัดเจนกว่านี้ สามารถเข้า Youtube ไปดู หม่อมถนัดแดก ชื่อคลิป : หมูน้ำค้าง ปีละครั้ง Yunnan Pork Jerky Once a year ตามลิงก์ข้างล่างได้เลยค่ะ
https://www.youtube.com/watch?v=GOS__I7JQ0k