ทะลุมิติไปเป็นแพทย์หญิงชาวสวนผู้มั่งคั่ง - บทที่ 255+256 ตัวตนของผูเว่ยชางชิงเหนียงจะต้องเป็นของข้า
- Home
- All Mangas
- ทะลุมิติไปเป็นแพทย์หญิงชาวสวนผู้มั่งคั่ง
- บทที่ 255+256 ตัวตนของผูเว่ยชางชิงเหนียงจะต้องเป็นของข้า
บทที่ 255 ตัวตนของผูเว่ยชาง
เมื่อปีนขึ้นไปที่วัดจิงเหอ อวิ๋นซิ่วชิงก็นั่งลงบนพื้นอย่างเหนื่อยล้าและอ้าปากค้าง
ในทางตรงกันข้าม ผูเว่ยชางไม่ได้หอบหายใจด้วยซ้ำ
อวิ๋นซิ่วชิงยืนอยู่บนบันไดด้านบนและมองลงมา น่องของนางยังคงสั่นอยู่ โชคดีที่ผูเว่ยชางพยุงนางไว้ ไม่เช่นนั้นนางคงจะตายระหว่างทาง
ขณะเดียวกัน นายน้อยไฉ่ซึ่งหายใจไม่ออกก็มองผูเว่ยชางด้วยความประหลาดใจ
เขาฝึกฝนศิลปะการต่อสู้มาตั้งแต่เด็ก แต่ก็ยังหายใจไม่ออกเล็กน้อยเมื่อปีนภูเขาสูงตระหง่านเช่นนี้
ทว่าผูเว่ยชางทั้งประคองอวิ๋นซิ่วชิงด้วยมือข้างหนึ่งและร่มในอีกด้านหนึ่ง สิ่งที่ชายหนุ่มแบกอยู่นั้นหนักไม่น้อย แต่เขากลับไม่หอบหายใจเมื่อขึ้นไปบนภูเขา
สิ่งนี้ทำให้นายน้อยไฉ่ตกใจอย่างมาก และเริ่มสงสัยในตัวตนของผูเว่ยชาง
เดิมทีผูเว่ยชางเป็นคนไวต่อผู้คนหรือสิ่งต่าง ๆ รอบตัว เมื่อนายน้อยไฉ่มองเขา ผูเว่ยชางก็รู้สึกได้
”นายน้อยไฉ่ มีอะไรหรือ?” ผูเว่ยชางหันไปถาม
นายน้อยไฉ่ตกใจกับรังสีของผูเว่ยชาง จึงรีบปฏิเสธว่า “ไม่…ไม่มีอะไรเลย ข้าแค่คิดว่าความแข็งแกร่งทางร่างกายของเจ้าดีมาก เจ้าไม่แม้แต่จะหอบหายใจด้วยความเหนื่อย”
ผูเว่ยชางอธิบายอย่างใจเย็น “ข้าเคยเป็นนักล่าสัตว์ และข้าจะเข้าไปในภูเขาทุกวัน มันจึงไม่ใช่ปัญหาที่จะขึ้นบันไดเหล่านี้”
”อย่างนี้นี่เอง” หลังจากฟังคำอธิบายของผูเว่ยชาง นายน้อยไฉ่ก็พยักหน้าเข้าใจ
ผูเว่ยชางเกษียณตัวเองเพื่อเป็นนักล่าสัตว์ธรรมดา ๆ ในหมู่บ้าน เพื่อที่ว่าเมื่อผู้คนสงสัยในตัวตนของเขา เขาจะได้สามารถให้คำอธิบายที่สมเหตุสมผล
ผูเว่ยชางเคยเป็นสุดยอดแม่ทัพที่แข็งแกร่ง เถรตรง และซื่อสัตย์ แต่เขาทำให้หลายคนขุ่นเคืองในสนามรบเพราะความเข้มงวดของเขา
ตอนนี้ชายหนุ่มไม่กล้าบอกตัวตนที่แท้จริงของเขา เพราะจากสถานะที่ตัวเองเคยเป็นอยู่นั้น ศัตรูและคนที่ไม่ชอบหน้าเขามีจำนวนมากเกินไป
อวิ๋นซิ่วชิงนั่งอยู่บนบันไดเพื่อพักผ่อนท่ามกลางสายลมเย็น ๆ
เมื่อนางได้ยินบทสนทนาระหว่างผูเว่ยชางและนายน้อยไฉ่ นางก็รู้ว่าผูเว่ยชางต้องเคยเป็นวีรบุรุษผู้ยิ่งใหญ่มาก่อน
แต่เมื่อนางได้ยินว่าผูเว่ยชางบอกว่าเป็นนักล่าสัตว์ ก็ไม่รู้สึกแปลกใจแต่อย่างใด วีรบุรุษผู้ยิ่งใหญ่เป็นอัตลักษณ์ที่ผ่านมาของผูเว่ยชางอยู่แล้ว แต่ตอนนี้ผูเว่ยชางเป็นเพียงนักล่าสัตว์ และต่อไปนี้เขาจะเป็นพ่อค้านักธุรกิจแน่ ๆ!
”ชิงเหนียง เจ้ารู้สึกอย่างไรบ้าง? เจ้าต้องการให้ข้าอุ้มเจ้าไหม?” ผูเว่ยชางถามอวิ๋นซิ่วชิงอย่างกังวล
อวิ๋นซิ่วชิงส่ายหัว “ข้าสบายดี ตอนนี้ข้าสามารถเดินได้ด้วยตัวเอง”
ผูเว่ยชางดึงอวิ๋นซิ่วชิงขึ้นมาเพื่อปกป้องนาง
บัดนี้ประตูวัดจิงเหอเปิดอยู่ เมื่ออวิ๋นซิ่วชิงและผูเว่ยชางเข้าไป พวกเขาก็เห็นลำธารของบันไดน้ำ
สายตาของอวิ๋นซิ่วชิงเกือบจะค้างอยู่บนท้องฟ้า นางยังไม่ทันได้ปีนบันได ขาและน่องของนางก็เริ่มสั่นเต็มที
ผูเว่ยชางเห็นว่าอวิ๋นซิ่วชิงไม่อยากขึ้นไป เขาก็มองไปรอบ ๆ และเห็นว่ามีคนไม่กี่คน
ไม่ต้องรอปฏิกิริยาตอบรับของอวิ๋นซิ่วชิง เขาแบกหญิงสาวขึ้นมาทันที
อวิ๋นซิ่วชิงกรีดร้องเมื่อจู่ ๆ ผูเว่ยชางก็อุ้มนางขึ้นมา นางจับแขนของผูเว่ยชางไว้แน่น
ชายหนุ่มรีบพาขึ้นบันไดและวางนางลงบนพื้น
เมื่อนางเห็นสิ่งต่าง ๆ อย่างชัดเจนอีกครั้ง นางก็มาอยู่ที่บันไดขั้นสุดท้ายแล้ว
”ผูเว่ยชาง แบบนี้จะไม่เปิดเผยตัวตนของเจ้าหรือ?”
อวิ๋นซิ่วชิงลดเสียงลงถามผูเว่ยชาง ก่อนหน้านี้ตอนที่ผูเว่ยชางลากนางขึ้นบันได นายน้อยไฉ่ก็ดูเหมือนจะสงสัยในตัวตนของผูเว่ยชาง ส่วนตอนนี้ผูเว่ยชางได้ใช้ทักษะวิชาตัวเบา คนที่มีสายตาเฉียบแหลมคงจะเห็นว่าตัวตนของผูเว่ยชางนั้นผิดปกติ
ผูเว่ยชางมองอวิ๋นซิ่วชิงก่อนจะหัวเราะ และพูดว่า “ไม่ต้องกังวล ตอนนี้ข้าไม่ได้ใช้วิชาตัวเบาเลย”
”เจ้าไม่ได้ใช้ทักษะตัวเบา?” อวิ๋นซิ่วชิงรู้สึกประหลาดใจ “เจ้าไม่ได้ใช้ทักษะตัวเบาแล้วขึ้นมาที่นี่อย่างรวดเร็วได้อย่างไร?”
”นั่นเพราะข้าแข็งแรงยังไงล่ะ” ผูเว่ยชางชอบอาการแปลกใจของอวิ๋นซิ่วชิง มันน่ารักมาก!
อวิ๋นซิ่วชิงรู้สึกประหลาดใจ คนที่ขึ้นไปบนภูเขาเพื่อออกกำลังกายทุกวันนั้นแตกต่างกัน ดูเหมือนว่านางจะต้องออกกำลังกายบ้างแล้ว
เวลานี้ในห้องโถงของวัดจิงเหอมีเสียงพระสงฆ์สวดพระสูตรอยู่ อวิ๋นซิ่วชิงมองไปรอบ ๆ อย่างสงสัย และเห็นกลุ่มคนนั่งอยู่ในห้องโถง
”พระกำลังเทศน์ เราจะไปฟังไหม?” นายน้อยไฉ่เลิกคิ้วถาม
…
บทที่ 256 ชิงเหนียงจะต้องเป็นของข้า
อวิ๋นซิ่วชิงไม่เคยเห็นพระสงฆ์สวดมนต์กับพระคัมภีร์มาก่อน นางพยักหน้าด้วยความอยากรู้อยากเห็นแล้วเดินเข้าไปในห้องโถงพร้อมกับผูเว่ยชางตามหลังนายน้อยไฉ่
เมื่อหญิงสาวเข้าไปในห้องโถง นางก็เห็นหลายคนนั่งไขว้ขาบนเสื่อเพื่อฟังบทสวด ด้านหลังพระเฒ่ามีพระหนุ่มหลายรูป
คนทั้งสามนั่งไขว้ขาบนเสื่อในแถวสุดท้าย อวิ๋นซิ่วชิงต้องการฟังบทสวดนี้ แต่นางฟังไม่เข้าใจสักคำ เปลือกตาของนางจึงเริ่มปิดลงด้วยความเหนื่อยล้าและเบื่อหน่าย
อวิ๋นซิ่วชิงไม่ได้นอนทั้งคืน วันนี้นางทำหลายสิ่งหลายอย่างและยังเดินขึ้นบันไดหลายขั้น ซึ่งมันทำให้นางเหนื่อยมาก
นางได้ยินบทสวดของพระภิกษุสงฆ์เหมือนเพลงกล่อมเด็ก อวิ๋นซิ่วชิงไม่สามารถควบคุมตัวเองได้ นางหลับไปทันทีหลังจากที่นั่งได้ไม่นาน
ผูเว่ยชางซึ่งนั่งอยู่ด้านข้างรู้สึกว่าไหล่ของเขาหนัก และได้ยินเสียงหายใจข้างหูของเขา
เมื่อชายหนุ่มหันไปมอง เขาก็เห็นว่าอวิ๋นซิ่วชิงนอนหลับแล้ว
ผูเว่ยชางยิ้มอย่างช่วยไม่ได้ พร้อมกับเหลือบมองนายน้อยไฉ่ที่อยู่ใกล้ ๆ ก่อนจะเดินออกจากห้องโถงไป โดยมีอวิ๋นซิ่วชิงอยู่ในอ้อมแขนของเขา
ทันทีที่เขาออกจากห้องโถง ผูเว่ยชางก็ได้พบกับพระภิกษุหนุ่มรูปหนึ่ง
”ท่านช่วยหาห้องเล็ก ๆ ให้เราหน่อยได้ไหม?” ผูเว่ยชางถามอย่างสุภาพ
พระภิกษุหนุ่มมองมาที่ผูเว่ยชางและอวิ๋นซิ่วชิง เดาว่าพวกเขาคงเป็นสามีภรรยา “ตกลง โปรดมากับข้า”
ผูเว่ยชางขอบคุณ และตามพระภิกษุหนุ่มไปที่ห้องเล็ก ๆ
หลังจากที่เขาขอบคุณอีกครั้ง ผูเว่ยชางก็วางร่างของอวิ๋นซิ่วชิงไว้บนเตียงและนำผ้าห่มคลุมให้นาง
ผูเว่ยชางรู้สึกว่าอวิ๋นซิ่วชิงดูเหนื่อยมาก เขาจึงเลือกที่จะไม่ปลุกนาง ยิ่งเห็นนางยังคงหลับสนิทท่ามกลางเสียงสวดที่ดังอย่างต่อเนื่อง ชายหนุ่มก็ยิ้มออกมา
ทันใดนั้นก็มีเสียงเคาะประตูดังขึ้น
ผูเว่ยชางขมวดคิ้วและรีบเปิดประตูออกไป
”แม่นางอวิ๋นสบายดีไหม?” นายน้อยไฉ่เป็นห่วงมาก เขาเห็นผูเว่ยชางอุ้มอวิ๋นซิ่วชิงออกไป
แต่ทันทีที่เขาตามออกมา เขาก็ไม่เห็นผูเว่ยชางแล้ว นายน้อยไฉ่มองหาอยู่นานและได้พบกับพระภิกษุหนุ่ม จึงรู้ว่าผูเว่ยชางและอวิ๋นซิ่วชิงอยู่ที่นี่
”ไม่เป็นไร นางแค่เหนื่อยเกินไป ตอนนี้นางหลับอยู่ พวกเราไปข้าง ๆ กันเถอะ” ผูเว่ยชางกลัวว่าการสนทนาของเขากับนายน้อยไฉ่จะปลุกอวิ๋นซิ่วชิง จึงกระซิบเสียงเบา
นายน้อยไฉ่พยักหน้า และพวกเขาก็เดินไปที่ห้องเล็ก ๆ ห้องหนึ่ง
”ถ้าข้ารู้ ข้าจะไม่มาที่วัดจิงเหอ ข้าจะให้อวิ๋นซิ่วชิงได้พักผ่อน” นายน้อยไฉ่กล่าว
”ไม่มีอะไร นายน้อยไฉ่เป็นคนจิตใจดีแล้ว” ผูเว่ยชางพูดขึ้น
นายน้อยไฉ่ยิ้มอย่างงุ่มง่ามและนั่งลงข้าง ๆ ทั้งสองไม่มีอะไรจะพูด ผูเว่ยชางนั่งอยู่ข้าง ๆ ด้วยสีหน้าเรียบเฉย เขาเองก็ไม่มีอะไรจะพูด
นายน้อยไฉ่จึงเป็นฝ่ายเริ่มคุยกับผูเว่ยชาง “คุณชายผู ข้าอยากรู้ว่าความสัมพันธ์ระหว่างเจ้ากับแม่นางอวิ๋นคืออะไร?”
ผูเว่ยชางเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย คิดถึงความสัมพันธ์ระหว่างเขากับอวิ๋นซิ่วชิง
ในสายตาของหญิงสาว พวกเขาเป็นแค่เพื่อนกัน แต่ในสายตาของผูเว่ยชาง พวกเขาไม่สามารถอธิบายได้ว่าเป็นเพื่อนกัน เขาคิดว่ามันลึกซึ้งกว่านั้น…
ผูเว่ยชางอธิบายความสัมพันธ์ระหว่างเขากับอวิ๋นซิ่วชิงได้ในประโยคเดียวว่า “ข้ากำลังไล่ตามชิงเหนียง”
หลังจากฟังคำพูดของผูเว่ยชาง นายน้อยไฉ่ก็เลิกคิ้วขึ้นด้วยความประหลาดใจ เขาคิดว่าผูเว่ยชางและอวิ๋นซิ่วชิงเป็นคู่รักกันเสียอีก “แล้วคุณชายผูยังไม่ประสบความสำเร็จหรือ?”
ผูเว่ยชางคิดว่าประโยคดังกล่าวของนายน้อยไฉ่แฝงการท้าทาย จึงตอบออกไปว่า
”ชิงเหนียงจะเป็นของข้า ในไม่ช้าก็เร็ว”
ผูเว่ยชางมั่นใจอย่างมาก เขาต้องการบอกนายน้อยไฉ่ว่า ไม่ว่านายน้อยไฉ่จะสนใจอวิ๋นซิ่วชิงหรือไม่ เขาก็จะไม่ยอมอ่อนข้อแต่อย่างใด
อวิ๋นซิ่วชิงจะต้องเป็นของเขาเท่านั้น!