ทะลุมิติไปเป็นแพทย์หญิงชาวสวนผู้มั่งคั่ง - บทที่ 235+236 ท่านพ่อ ข้าอยากลองเสี่ยงดูเตรียมทำการผ่าตัด
- Home
- All Mangas
- ทะลุมิติไปเป็นแพทย์หญิงชาวสวนผู้มั่งคั่ง
- บทที่ 235+236 ท่านพ่อ ข้าอยากลองเสี่ยงดูเตรียมทำการผ่าตัด
บทที่ 235 ท่านพ่อ ข้าอยากลองเสี่ยงดู
”ท่านไฉ่ แล้วทำไมท่านไม่ลองดูล่ะ? บางทีด้วยปูมหลังครอบครัวปัจจุบันของท่าน ท่านสามารถหาลูกเขยที่ดีได้ แต่ท่านรับประกันได้ไหมว่า เมื่ออีกฝ่ายได้รับทรัพย์สินของลูกสาวท่าน เขาจะปฏิบัติต่อลูกสาวของท่านอย่างดี?”
อวิ๋นซิ่วชิงยังเป็นมนุษย์ นางยังมีความเห็นแก่ตัวและต้องการผลประโยชน์ตอบแทน แต่แม้จะมีจุดประสงค์อื่นแอบแฝง นางก็ยังมีจิตใจที่ดี นางต้องการช่วยผู้หญิงคนนี้ที่นางไม่เคยพบเห็นมาก่อน
อีกทั้งเมื่อได้ฟังเรื่องราวของนางแล้ว มันทำให้รู้สึกนึกถึงชีวิตของเจ้าของร่างเดิมยิ่งนัก แต่คุณหนูไฉ่ยังโชคดีที่ดูเหมือนคนในครอบครัวทุกคนจะรักนาง ไม่เหมือนอวิ๋นซิ่วชิงที่แม่และพี่ชายไม่รัก
ไฉ่เหวินหลินรู้สึกสะเทือนใจกับสิ่งที่หญิงสาวพูด
การแข่งขันประลองยุทธ์ในวันนี้ไม่มีใครที่น่าพอใจ แม้ว่าลูกสาวของเขาจะเป็นโรคปากแหว่งเพดานโหว่ แต่ลูกสาวของเขาก็เป็นแก้วตาดวงใจของเขา ไม่มีใครเทียบกับนางได้
”ท่านพ่อ ข้าต้องการรักษามัน” คุณหนูไฉ่ซึ่งซ่อนตัวอยู่หลังฉากรู้สึกสะเทือนใจเมื่อได้ยินคำพูดของอวิ๋นซิ่วชิง นางยินดีที่จะลองเสี่ยงดูสักครั้ง
”จิงเอ๋อร์…” ไฉ่เหวินหลินถึงกับทำอะไรไม่ถูก
”ท่านพ่อ ข้าอยากรักษา ยังไงโรคที่ข้าเป็นอยู่มันก็ไม่มีทางเลวร้ายไปมากกว่านี้อีกแล้ว และเมื่อเป็นเช่นนี้ ทำไมไม่ลองดูเล่า? ถ้าข้าสามารถหายได้ล่ะ?”
เสียงของคุณหนูไฉ่ฟังดูหนักแน่น
อวิ๋นซิ่วชิงนั่งลงและมองไปที่คุณหนูไฉ่ ใบหน้าของนางถูกปิดด้วยผ้าคลุมหน้าและมีเพียงดวงตาคู่งามเท่านั้นที่คนนอกสามารถมองเห็นได้ แม้คุณหนูไฉ่จะพูดด้วยน้ำเสียงสั่นเล็กน้อย แต่เสียงของนางฟังแล้วช่างน่าพอใจ
เมื่อเห็นว่าลูกสาวของเขาตัดสินใจแล้ว ไฉ่เหวินหลินก็ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากเห็นด้วย ลูกสาวของเขาพูดถูก โรคที่นางเป็นอยู่นั้นคงไม่เลวร้ายมากไปกว่านี้อีกแล้ว และในเมื่อมีโอกาสที่จะหายจากโรคนี้ ทำไมไม่ลองเสี่ยงดูสักตั้ง?!
”ได้ แม่นางอวิ๋น ข้าเห็นด้วย ถ้าเจ้าสามารถรักษาโรคของลูกสาวข้าได้จริง ๆ ข้าจะเรียกเก็บเงินจากเจ้าเพียงหนึ่งในสามของราคาเมื่อเจ้ารับสินค้าจากข้าในอนาคต!”
ไฉ่เหวินหลินพูดอย่างจริงจัง
”ท่านไฉ่ ท่านไม่จำเป็นต้องทำเช่นนั้น เพียงแค่ให้ข้าราคาปกติ ข้าแค่อยากช่วยเท่านั้นเอง” อวิ๋นซิ่วชิงพูดด้วยความจริงใจ
”แม่นางอวิ๋น เจ้าไม่จำเป็นต้องปฏิเสธ แค่รักษาลูกสาวของข้าอย่างดีก็พอ”
ตอนนี้ไฉ่เหวินหลินได้ตัดสินใจแล้วว่าหากอวิ๋นซิ่วชิงสามารถรักษาลูกสาวของเขาได้จริง ๆ เขาจะให้ทุกอย่างแก่อวิ๋นซิ่วชิงโดยไม่คิดเงิน
อวิ๋นซิ่วชิงยิ้มและปฏิเสธอยู่หลายครั้ง ก่อนจะถูกแม่บ้านพาไปที่ห้องของคุณหนูไฉ่
ภายในห้องพักเงียบสงบ คนรับใช้ทุกคนยืนอยู่ข้างนอก มีเพียงอวิ๋นซิ่วชิงและคุณหนูไฉ่ที่อยู่ในห้องเท่านั้น
”อย่าประหม่าเลยคุณหนูไฉ่ ถอดผ้าคลุมหน้าของท่านแล้วให้ข้าลองดู”
เสียงของอวิ๋นซิ่วชิงนั้นนุ่มนวลและเนิบช้า ทำให้คุณหนูไฉ่มีความมั่นใจและกล้าหาญมากขึ้น
คุณหนูไฉ่พยักหน้าพลางยกมืออันสั่นเทาขึ้นมา แล้วถอดผ้าคลุมออก
นางมองปากของคุณหนูไฉ่อย่างระมัดระวัง อันที่จริงโรคปากแหว่งของคุณหนูไฉ่ไม่ร้ายแรงเท่ากับข่าวลือที่คนพูดกัน มันเป็นเพียงรอยแตกและยังทำให้มองไม่เห็นฟัน
”ไม่ต้องกังวล โรคกระต่ายของท่านไม่เลวร้ายเกินไป” อวิ๋นซิ่วชิงกล่าวด้วยรอยยิ้ม
”จริงหรือ?” หลังจากได้ยินคำพูดของอวิ๋นซิ่วชิง คุณหนูไฉ่ก็หลั่งน้ำตาออกมาและรู้สึกใจชื้นมาเล็กน้อย
เมื่อเห็นว่าคุณหนูไฉ่กำลังร้องไห้ อวิ๋นซิ่วชิงก็รีบปลอบโยนนาง “อย่าร้องไห้เลย ข้ารักษาท่านได้ ไม่ต้องกังวล ต่อไปท่านไม่จำเป็นต้องออกไปพร้อมกับผ้าคลุมหน้าแล้ว”
คราวนี้คุณหนูไฉ่ร้องไห้มากขึ้นไปอีก นางพบหมอมานับไม่ถ้วนตั้งแต่ยังเด็ก แต่ทุกคนล้วนพากันส่ายหัวและพูดอย่างสงสาร
ไม่เคยมีใครบอกนางว่าสามารถรักษาให้หายขาดได้ นางคิดว่าชีวิตของนางจะต้องจบสิ้นลงแล้ว นางจะต้องมีชีวิตอยู่ท่ามกลางสายตาเยาะเย้ยและสมเพชเวทนาจากผู้อื่นอยู่เสมอ นางไม่ได้คาดหวังว่าวันหนึ่งนางจะยังมีโอกาสได้มีชีวิตอยู่อย่างภาคภูมิใจได้…
”อย่าร้องไห้เลย” อวิ๋นซิ่วชิงคิดว่าหากคุณหนูไฉ่ร้องไห้อยู่แบบนี้คงจะเริ่มลงมือรักษาได้ยาก
ในสมัยโบราณ ทักษะทางการแพทย์มีจำกัด สามถึงหกเดือนหลังคลอดจึงเป็นเวลาที่ดีที่สุดในการรักษาโรคปากแหว่งเพดานโหว่ แต่เพราะทักษะการแพทย์ที่มีจำกัดนั้นเอง ทำให้คุณหนูไฉ่เสียเวลาไปมาก นี่นับว่านางยังโชคดีที่อาการไม่รุนแรงมาก และยังอยู่ในระดับที่สามารถรักษาให้หายขาดได้
คุณหนูไฉ่ตื่นเต้นพลางขยี้ตาและบังคับให้น้ำตาของนางหยุดไหล
”ดูสิ เจ้าสวยแค่ไหนเมื่อเจ้าไม่ร้องไห้”
อวิ๋นซิ่วชิงกล่าวด้วยรอยยิ้ม
…
บทที่ 236 เตรียมทำการผ่าตัด
คุณหนูไฉ่พยักหน้าด้วยดวงตาที่ยังคงแดงก่ำ แล้วเอาผ้ามาคลุมหน้าปิดปากที่โหว่ไว้เหมือนเดิม
”อืม คุณหนูไฉ่ นี่ก็เที่ยงแล้ว เราจะรักษาท่านหลังอาหารเย็น บ่ายนี้ท่านควรกินเนื้อสัตว์มากขึ้น เพราะหลังการรักษา ท่านสามารถกินได้แต่เหลวเท่านั้น…” อวิ๋นซิ่วชิงค่อย ๆ อธิบาย
”ตกลง ข้าเข้าใจแล้ว แม่นางอวิ๋น ขอบคุณท่านมาก” คุณหนูไฉ่กล่าวอย่างซาบซึ้งใจ
อวิ๋นซิ่วชิงหัวเราะคิกคักและพูดคุยกับคุณหนูไฉ่อีกชั่วครู่ ก่อนจะไปที่ห้องโถง ซึ่งไฉ่เหวินหลินกำลังรอผลการวินิจฉัยจากนางอยู่
เมื่ออวิ๋นซิ่วชิงเดินเข้าไปในห้องโถง นางเห็นไฉ่เหวินหลินมองมาที่นางอย่างกระตือรือร้น นางรู้ว่าคนเป็นพ่อกำลังรีบร้อนและนางก็ไม่คิดที่จะอ้อมค้อม จึงพูดไปตามตรงว่า “ท่านไฉ่ โรคกระต่ายของคุณหนูไฉ่ไม่ร้ายแรงนัก หลังอาหารเย็นวันนี้ เราสามารถเริ่มรักษานางได้…”
ไฉ่เหวินหลินพยักหน้าด้วยดวงตาแดงก่ำเพราะน้ำตาแห่งความยินดี และรีบกวักมือเรียกแม่บ้านให้ยกอาหารมาให้นาง
อาหารที่บ้านของไฉ่เหวินหลินนั้นมีเยอะและอุดมสมบูรณ์นัก วันนี้อวิ๋นซิ่วชิงได้กินอิ่มจนพุงแน่น
หลังเสร็จจากมื้อกลางวัน อวิ๋นซิ่วชิงก็ขอตัวพักผ่อน ไฉ่เหวินหลินตอบรับทันทีและขอให้แม่บ้านพาอวิ๋นซิ่วชิงไปที่ห้องพักที่ใหญ่ที่สุด
อวิ๋นซิ่วชิงไม่ได้ทำอะไรเลยในตอนเช้า และตอนนี้นางต้องการเข้าไปในพื้นที่มิติส่วนตัวเพื่อเตรียมอุปกรณ์สำหรับการรักษาโรคปากแหว่งเพดานโหว่ให้คุณหนูไฉ่
ทันทีที่อวิ๋นซิ่วชิงเข้ามาในห้องพัก ผูเว่ยชางก็เดินตามมาเช่นกัน
เมื่อเห็นผูเว่ยชางเข้ามา นางก็ถามขึ้นด้วยความเป็นห่วง “ผูเว่ยชาง ท่านไม่ไปพักผ่อนหรือ?”
ผูเว่ยชางส่ายหัวเพื่อแสดงให้เห็นว่าเขาไม่เหนื่อย ตอนนี้เขาเป็นห่วงอวิ๋นซิ่วชิงเท่านั้น สิ่งที่หญิงสาวพูดเกี่ยวกับการรักษานั้นดูเหมือนทุกอย่างจะเป็นเพียงเรื่องที่ดูง่ายดาย เขากลัวว่าอวิ๋นซิ่วชิงจงใจปลอบโยนท่านไฉ่และลูกสาวของเขาเท่านั้น…
”ชิงเหนียง เจ้าแน่ใจหรือว่าสามารถรักษาโรคกระต่ายของคุณหนูไฉ่ได้?” ผูเว่ยชางขมวดคิ้วถาม
เมื่อได้ยินคำถามจากผูเว่ยชาง อวิ๋นซิ่วชิงก็รู้ว่าผูเว่ยชางเป็นห่วงจึงรีบตอบให้อีกฝ่ายสบายใจ “ไม่ต้องกังวล ข้าสามารถรักษาโรคกระต่ายของคุณหนูไฉ่ได้ อาการของคุณหนูไฉ่ไม่ได้เลวร้ายอย่างที่คนเขาลือกัน”
ผูเว่ยชางพยักหน้า แต่เขาก็ยังไม่เชื่อนัก เนื่องจากเขารู้สึกว่าโรคกระต่ายนี้รักษาได้ยาก เขากลัวว่าหญิงสาวจะพยายามทำเป็นกล้าหาญออกไปเท่านั้น
”ตกลง เจ้าพักผ่อนเถอะ ข้าอยู่ในห้องถัดจากเจ้า หากมีอะไรก็เรียกหาข้าได้…” เมื่อเห็นว่าอวิ๋นซิ่วชิงยังคงดูมั่นใจ เขาจึงหยุดถามและให้นางไปพักผ่อน
”ข้าเข้าใจแล้ว” อวิ๋นซิ่วชิงตอบรับและรอจนกระทั่งผูเว่ยชางเดินจากไป จากนั้นนางก็รีบปิดประตูห้อง หลังจากแน่ใจแล้วว่าบริเวณโดยรอบไม่มีใครอยู่ ก็เข้าไปในพื้นที่มิติส่วนตัว
นางเข้าไปในโรงพยาบาลของพื้นที่มิติส่วนตัว หยิบเอาเข็มเย็บแผลพร้อมไหมละลาย*[1] ชุดหนึ่งขึ้นมา หากนางเย็บโรคปากแหว่งด้วยไหมละลาย นางจะได้ไม่ต้องมาตัดไหมทีหลัง และยังช่วยให้สมานแผลได้รวดเร็ว
อวิ๋นซิ่วชิงหยิบขวดน้ำพุแห่งจิตวิญญาณหนึ่งขวดมาจากเครื่องลายครามขนาดเล็ก แล้วแช่ไหมละลายลงไปในน้ำพุแห่งจิตวิญญาณอยู่ชั่วครู่
น้ำพุแห่งจิตวิญญาณมีสรรพคุณช่วยในการรักษาอย่างรวดเร็ว และยังช่วยกำจัดรอยแผลเป็น
หลังจากการผ่าตัดประสบความสำเร็จ อวิ๋นซิ่วชิงวางแผนที่จะทาน้ำพุแห่งจิตวิญญาณลงบนปากของคุณหนูไฉ่ เพื่อให้แผลผ่าตัดสามารถจางหายไปได้อย่างรวดเร็ว
หลังจากอวิ๋นซิ่วชิงเตรียมพร้อมแล้ว นางก็เดินออกจากห้อง
ในเวลานั้นนางจำได้ว่าสัมภาระของนางยังอยู่ในโรงเตี๊ยม ส่วนมีดผ่าตัดอยู่ในสัมภาระทั้งหมด นางต้องกลับไปที่โรงเตี๊ยมเพื่อนำสัมภาระมาที่นี่
อวิ๋นซิ่วชิงรีบออกจากห้อง นางคิดว่าจะหยิบสัมภาระของนางคนเดียว แต่เมื่อนางคิดว่านางอาจอยู่ที่คฤหาสน์ของท่านไฉ่เหวินหลินในอีกไม่กี่วันข้างหน้า นางก็ไปเคาะประตูห้องผูเว่ยชางซึ่งอยู่ด้านข้าง
นางเคาะประตูห้องของอีกฝ่ายและถามขึ้นว่า “ท่านนอนหรือยัง ผูเว่ยชาง?”
ทันทีที่อวิ๋นซิ่วชิงลดมือลง ผูเว่ยชางก็เปิดประตูออกมา “เกิดอะไรขึ้น ชิงเหนียง?”
”ผูเว่ยชาง ข้าลืมสิ่งที่สำคัญมาก” อวิ๋นซิ่วชิงพูดอย่างกระวนกระวายใจ
”ไม่ต้องห่วง เรื่องอะไรล่ะ?” ผูเว่ยชางถามกลับมาทันที
”สัมภาระของเรายังอยู่ในโรงเตี๊ยม ข้ายังมีบางอย่างที่ข้าต้องการใช้ในสัมภาระของข้า”
อวิ๋นซิ่วชิงตบศีรษะของตัวเองอย่างเจ็บใจ นางลืมไปได้อย่างไร?!
[1] ไหมสำหรับเย็บแผลผ่าตัดที่สามารถละลายได้เมื่ออยู่ในร่างกายของมนุษย์ แต่ไม่สามารถละลายได้ภายนอกร่างกาย