ทะลุมิติไปเป็นแพทย์หญิงชาวสวนผู้มั่งคั่ง - บทที่ 225+226 หลับยาวเสียงร้องโหยหวน
- Home
- All Mangas
- ทะลุมิติไปเป็นแพทย์หญิงชาวสวนผู้มั่งคั่ง
- บทที่ 225+226 หลับยาวเสียงร้องโหยหวน
บทที่ 225 หลับยาว
อวิ๋นซิ่วชิงค่อย ๆ ข่มความตื่นเต้นและพูดอย่างใจเย็นว่า “ข้าคงถูกพิษน้อยกว่าเจ้า ข้ากินซาลาเปาไปสองชิ้นเท่านั้น เจ้ากินกี่ชิ้นล่ะ? ห้าชิ้นใช่ไหม?”
ผูเว่ยชางจำได้ว่าตอนนั้นเขากินซาลาเปาไปหลายชิ้น…
เมื่ออวิ๋นซิ่วชิงเห็นว่าผูเว่ยชางหยุดถาม นางก็ลอบถอนหายใจ โชคดีที่นางมีคำอธิบายสำหรับการกิน มิฉะนั้นนางคงไม่รู้ว่าจะตอบคนฉลาดอย่างเขาได้อย่างไร?
ด้วยความกลัวว่าผูเว่ยชางจะยังคงถามคำถามอื่น ๆ ต่อไป อวิ๋นซิ่วชิงจึงแสร้งทำเป็นหาวสองสามครั้ง ซึ่งหมายความว่านางกำลังเหนื่อยและง่วงมาก
เมื่อผูเว่ยชางเห็นอวิ๋นซิ่วชิงหาวจนน้ำตาไหล เขาก็ทุกข์ใจและพูดขึ้นว่า “ไปนอนเถอะชิงเหนียง”
อวิ๋นซิ่วชิงสบตาเขาและยืนขึ้นเพื่อส่งผูเว่ยชางออกจากห้อง หลังจากฟังเสียงฝีเท้าของผูเว่ยชางจากไปแล้วก็โล่งใจ
นางรู้สึกหิวอย่างมาก นางกินแป้งทอดอีกครั้งก่อนที่นางจะขึ้นไปบนเตียง ยัดหมอนลงในผ้าห่มให้ดูเป็นรูปเป็นร่าง ก่อนจะหลับตาลงและเข้าไปในพื้นที่มิติส่วนตัว
หลังจากเข้าไปในมิติส่วนตัวแล้ว อวิ๋นซิ่วชิงก็ตรงไปที่น้ำพุแห่งจิตวิญญาณ
น้ำพุแห่งจิตวิญญาณยังคงให้ความรู้สึกเย็นสบายเสมอ อวิ๋นซิ่วชิงง่วงนอนและไม่สามารถต้านทานมันได้ ทันทีที่นางหลับตาลง นางก็หลับสนิทอยู่ในน้ำพุแห่งจิตวิญญาณ
หลังจากที่ผูเว่ยชางกลับไปที่ห้องของเขา ลูกน้องของเล่ยถิงก็นำน้ำร้อนมาให้
ผูเว่ยชางคิดว่าอวิ๋นซิ่วชิงวิ่งไปมาทั้งวัน นางควรอาบด้วยน้ำร้อนเพื่อคลายความเหนื่อยล้าสะสมของนางแล้วนอนหลับให้ดี
เขาจึงมาที่ประตูห้องของอวิ๋นซิ่วชิงพร้อมถังน้ำร้อน
เทียนในห้องของอวิ๋นซิ่วชิงดับลงแล้ว ผูเว่ยชางขมวดคิ้วและเคาะประตู แต่เคาะอยู่หลายครั้งนางก็ไม่ตอบ เขาคิดว่าอวิ๋นซิ่วชิงน่าจะเหนื่อย จึงนอนหลับลึก
ด้วยความรักที่มีต่ออวิ๋นซิ่วชิง เขาจึงหยุดเคาะประตู
ทว่าหากชายหนุ่มเข้าไปดูก็จะรู้ว่าในห้องไม่มีแม้แต่เงาของอวิ๋นซิ่วชิง
อวิ๋นซิ่วชิงรู้สึกเพียงว่านางนอนหลับสบาย เมื่อนางลืมตาขึ้นอีกครั้งก็ตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง ทำไมนางถึงนอนอยู่ที่นี่?
ดูท้องฟ้านี่สิ มันเป็นสีฟ้าจริง ๆ
อวิ๋นซิ่วชิงขยับตัวครู่หนึ่ง ทันใดนั้นนางก็พบว่าตัวเองยังคงแช่อยู่ใน น้ำพุแห่งจิตวิญญาณ!
นางตกใจจนเหงื่อไหลเย็น รีบลุกขึ้นจากน้ำบ่อพุแห่งจิตวิญญาณ และสวมเสื้อผ้าของตัวเองก่อนจะออกจากพื้นที่มิติส่วนตัว
ทันทีที่นางออกจากมิติ นางก็ได้ยินเสียงเคาะประตูเสียงดัง จึงตอบออกไปอย่างรวดเร็ว “อย่าเคาะ ๆ!”
วันนี้ผูเว่ยชางตื่นแต่เช้าตรู่ เขาถามผู้คนในฐานที่มั่นเฮ่ยเฟิงจนพบห้องครัวและเข้าไปต้มหม้อน้ำร้อนให้อวิ๋นซิ่วชิง
เมื่อคืนนี้ชายหนุ่มคิดว่าหากอวิ๋นซิ่วชิงไม่ได้อาบน้ำร้อน เขาจะเอาไปให้นางตอนเช้า
อย่างไรก็ตาม เมื่อผูเว่ยชางถือน้ำร้อนมาถึงประตูห้องของอวิ๋นซิ่วชิง ประตูก็ยังคงปิดอยู่ และนางก็ยังไม่ตื่น เขาจึงรอให้อวิ๋นซิ่วชิงตื่นขึ้นมา
เวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว และในไม่ช้าดวงอาทิตย์ก็ขึ้น
ผูเว่ยชางรู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติ อวิ๋นซิ่วชิงทำงานหนักมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อนางกำลังเดินทาง แต่ไม่น่าจะหลับยาวขนาดนี้
ยิ่งเขาคิดถึงเรื่องนี้มากเท่าไหร่ก็ยิ่งกลัวมากขึ้นเท่านั้น เขากลัวว่าหญิงสาวจะป่วยแต่ไม่มีใครรู้เรื่องนี้ และความเจ็บป่วยของนางต้องรีบรักษา!
ผูเว่ยชางรออย่างใจจดใจจ่อ และเริ่มที่จะเคาะประตู แต่ไม่ว่าเขาจะเคาะอย่างไรก็ไม่มีการตอบสนอง
ผูเว่ยชางกำลังคิดจะพังประตู แต่จู่ ๆ ก็ได้ยินเสียงขานรับของอวิ๋นซิ่วชิง
หลังจากที่ผูเว่ยชางได้ยินเสียงของนาง หัวใจของเขาก็ผ่อนคลายลง “ชิงเหนียง เจ้าเกือบจะทำให้ข้ากลัว!”
อวิ๋นซิ่วชิงรีบเปิดประตูและอธิบายให้ผูเว่ยชางฟัง “ข้านอนหลับลึกเกินไป เมื่อวานข้าเหนื่อยมาก ขอโทษด้วยนะ”
อวิ๋นซิ่วชิงนอนเหมือนตาย ผูเว่ยชางเข้าใจอย่างนั้น
ท้ายที่สุดอวิ๋นซิ่วชิงก็ไม่ได้นอนหลับสบายระหว่างทางในช่วงสองวันที่ผ่านมา นอกจากนี้นางจะต้องเหนื่อยมากจากการวิ่งวุ่นเมื่อวานนี้
”ไม่เป็นไร ข้าเห็นเจ้าเงียบนานเกินไปจึงทำให้ข้ากลัว” ผูเว่ยชางกล่าวด้วยรอยยิ้ม
…
บทที่ 226 เสียงร้องโหยหวน
อวิ๋นซิ่วชิงยิ้มแห้งและเงยหน้าขึ้นมองท้องฟ้า ดวงอาทิตย์ลอยโดดเด่นอยู่บนท้องฟ้า แม้แต่คนโง่ก็รู้ว่าเวลานี้เที่ยงแล้ว
”ข้านอนตลอดทั้งเช้าเลยหรือ?!” อวิ๋นซิ่วชิงตกใจมาก
”ข้ามาหาเจ้าสองครั้งแล้ววันนี้ เจ้ากลับเข้าห้องไปแล้วรอก่อน ข้าจะอุ่นน้ำร้อนให้เจ้า การอาบน้ำร้อนช่วยผ่อนคลายความเหนื่อยล้าได้…”
ผูเว่ยชางพูดพลางดันตัวอวิ๋นซิ่วชิงกลับเข้าไปในห้อง
อวิ๋นซิ่วชิงนั่งอยู่ในห้องและตบศีรษะตัวเองด้วยความหงุดหงิด นางเพิ่งเสียเวลาในตอนเช้าไป!
ไม่นานผูเว่ยชางก็เข้ามาพร้อมถังน้ำร้อน ด้านหลังหน้าต่างในห้องของอวิ๋นซิ่วชิงเป็นอ่างอาบน้ำ
ผูเว่ยชางเทน้ำร้อนลงในอ่างอาบน้ำและบอกให้หญิงสาวอาบได้ทันที
”ชิงเหนียง น้ำร้อนพร้อมแล้ว มาอาบน้ำเถอะ” ผูเว่ยชางเดินไปหาอวิ๋นซิ่วชิงและพูดขึ้น
อวิ๋นซิ่วชิงมองมือที่เหี่ยวย่นของตัวเองและขมวดคิ้ว นางแช่ตัวในน้ำพุแห่งจิตวิญญาณตลอดทั้งคืนจนร่างกายของนางเหี่ยวย่น ถ้านางอาบน้ำร้อนอีกมันจะไม่ยิ่งมากไปกว่าเดิมหรือ?
”ชิงเหนียง มีอะไรผิดปกติกับมือของเจ้าหรือ?” ผูเว่ยชางถามอย่างกังวลเมื่อเห็นนิ้วที่เหี่ยวย่นของอวิ๋นซิ่วชิง
อวิ๋นซิ่วชิงรีบถอนมือออกและพูดว่า “ไม่เป็นไร ข้านอนทับมันตอนหลับ”
”จริงหรือ?” ผูเว่ยชางถามอย่างสงสัย
อวิ๋นซิ่วชิงพยักหน้ารัว และรีบผลักผูเว่ยชางออกจากประตู “ข้ากำลังอาบน้ำอยู่ เจ้ารออยู่ข้างนอก!”
หลังจากนั้นอวิ๋นซิ่วชิงก็กระแทกประตูปิด
ก่อนที่ผูเว่ยชางจะรู้ว่าเกิดอะไรขึ้น อวิ๋นซิ่วชิงก็ผลักผูเว่ยชางออกจากห้องแล้ว
ผูเว่ยชางยิ้มอย่างทำอะไรไม่ถูกและเดินไปรับอาหารให้หญิงสาว
อวิ๋นซิ่วชิงไม่ได้อาบน้ำร้อนแต่อย่างใด แต่นั่งอยู่ในห้องของนางอย่างเบื่อหน่าย
เมื่อรู้สึกว่าใกล้ถึงเวลาหนึ่งก้านธูปแล้ว นางจึงล้างหน้าด้วยน้ำเพื่อให้ตัวเองดูเปียกก่อนออกจากห้อง
ทันทีที่นางออกจากห้อง อวิ๋นซิ่วชิงก็เห็นผูเว่ยชางมาพร้อมอาหาร ซึ่งตรงจังหวะกับที่นางกำลังหิวพอดี “ผูเว่ยชาง เจ้าน่ารักมาก!”
ผูเว่ยชางยิ้มพลางวางอาหารไว้บนโต๊ะในห้องของอวิ๋นซิ่วชิงและทานอาหารกลางวันกับนาง
“ชิงเหนียง กินช้า ๆ” ผูเว่ยชางกลัวว่าหญิงสาวจะสำลัก เขาจึงเตือนอวิ๋นซิ่วชิง
อวิ๋นซิ่วชิงยังคิดถึงความอับอายที่นางเกือบสำลักตายเมื่อคืนนี้
ครั้นเห็นว่าอวิ๋นซิ่วชิงดูเขินอาย ผูเว่ยชางก็หัวเราะ
นางคีบเนื้อกิน ในขณะที่ชายหนุ่มก็เริ่มเปลี่ยนหัวข้อพูดคุย “ข้าดูเส้นทางแล้ว เราสามารถไปถึงเมืองฉางอันได้ในอีกสองวัน…”
อวิ๋นซิ่วชิงพยักหน้าและพูดอย่างสำนึกผิดว่า “วันนี้ข้าทำให้เสียเวลาไปช่วงเช้า”
”ไม่เป็นไรหรอก อย่างไรเราก็จะต้องเดินทางไปถึงในสองวันอยู่ดี ไม่ว่าจะออกเดินทางเช้านี้หรือไม่ก็ตาม” ผูเว่ยชางปลอบใจ
อวิ๋นซิ่วชิงรู้สึกดีขึ้นเล็กน้อยหลังจากฟังคำพูดนั้น ทว่าอย่างไรก็ตาม นางก็ยังคงตำหนิตัวเอง และหากพวกเขาไม่ต้องเจอเรื่องวุ่นวายเช่นนี้บนท้องถนน พวกเขาอาจจะไปถึงเมืองฉางอันตั้งนานแล้ว
อวิ๋นซิ่วชิงและผูเว่ยชางสนทนากันไปในระหว่างมื้ออาหาร และในไม่ช้าก็กินเสร็จ
จากนั้นทั้งสองก็ทำความสะอาดชามข้าวของพวกเขา แต่แล้วก็ได้ยินเสียงร้องดังมาจากนอกห้อง
ลานนี้เป็นลานของเล่ยถิง อวิ๋นซิ่วชิงและผูเว่ยชางอาศัยอยู่ในห้องพักของเล่ยถิง ดังนั้นหากมีการเคลื่อนไหวครั้งใหญ่ในลานนี้ อวิ๋นซิ่วชิงและผูเว่ยชางจะได้ยินพร้อมกัน
ผูเว่ยชางขมวดคิ้วด้วยความขยะแขยงเมื่อได้ยินเสียงจากลานบ้าน
ในขณะที่อวิ๋นซิ่วชิงเลิกคิ้วขึ้นด้วยความสงสัย ทำไมนางถึงคิดว่าเสียงนี้ช่างคุ้นเคย
นางเดินออกจากห้องไปมองก็เห็นชุ่ยหง หญิงอ้วนคนนั้นนั่งอยู่ในลานและร้องไห้ ท่ามกลางสายตาของเล่ยถิงที่ยืนจ้องอยู่