ทะลุมิติไปเป็นแพทย์หญิงชาวสวนผู้มั่งคั่ง - บทที่ 213+214 โรงเตี๊ยมประหลาดไม่มีอะไรผิดปกติ
- Home
- All Mangas
- ทะลุมิติไปเป็นแพทย์หญิงชาวสวนผู้มั่งคั่ง
- บทที่ 213+214 โรงเตี๊ยมประหลาดไม่มีอะไรผิดปกติ
บทที่ 213 โรงเตี๊ยมประหลาด
โรงเตี๊ยมถูกทิ้งร้าง ผูเว่ยชางเดินเข้าไปในโรงเตี๊ยมแล้วก็ไม่พบใคร
เมื่อผูเว่ยชางกำลังคิดที่จะหาโรงเตี๊ยมอื่น เจ้าของร่างอ้วนก็วิ่งเข้ามาจากสวนหลังบ้าน
ทันทีที่เจ้าของร้านเข้าไปในห้องโถงด้านหน้า นางก็เห็นชายแปลกหน้ายืนอยู่ตรงนั้นและยังเป็นชายรูปงามมากเสียด้วย ดวงตาของนางหรี่ลงและถามด้วยรอยยิ้ม “คุณชาย ท่านกำลังหาที่พักอยู่หรือเปล่า?”
ผูเว่ยชางพยักหน้า “มีสองห้องไหม?”
”มีสิ” เจ้าของโรงเตี๊ยมยังคงจ้องตรงไปที่ผูเว่ยชาง
”ตกลง งั้นเปิดสองห้อง”
เจ้าของโรงเตี๊ยมลงชื่อทันทีและให้หมายเลขห้องทั้งสองห้องแก่ชายหนุ่ม
ผูเว่ยชางเดินออกจากโรงเตี๊ยมพร้อมกับหมายเลขประตูห้องทั้งสอง ในเวลานี้อวิ๋นซิ่วชิงได้จัดเตรียมเสื้อผ้าของนางเรียบร้อยแล้ว
ทันทีที่นางยกม่านประตูรถขึ้น นางก็เห็นผูเว่ยชางเดินออกมาจากโรงเตี๊ยม “ผูเว่ยชาง มีห้องไหม?”
”มีห้องอยู่” เมื่อผูเว่ยชางเห็นอวิ๋นซิ่วชิงยื่นหน้าออกมา คิ้วของเขาก็ขมวดขึ้น “ชิงเหนียง ข้าบอกเจ้าให้รอในรถม้า อย่าออกมา ข้างนอกมันหนาว เจ้าจะเป็นหวัดเอา”
อวิ๋นซิ่วชิงยิ้มและพยักหน้ายอมถอยกลับเข้าไปในรถม้า
ผูเว่ยชางกำลังคิดจะถามเจ้าของโรงเตี๊ยมว่าจะไปที่สวนหลังบ้านได้อย่างไร เมื่อเจ้าของโรงเตี๊ยมเดินออกมาแล้ว นางก็นำผูเว่ยชางไปตามทาง
ระหว่างทางนางยังถามต่อไปว่า “คุณชาย ท่านมาจากไหน? ปีนี้เจ้าอายุเท่าไหร่? มีภรรยาหรือยัง?”
ผูเว่ยชางขมวดคิ้ว เขาไม่ได้ตอบคำถาม ชายหนุ่มจะพูดกับคนที่เขาคุ้นเคยมากเท่านั้น
ทว่าเจ้าของโรงเตี๊ยมไม่โกรธที่ผูเว่ยชางไม่ตอบ นางแค่หัวเราะและบอกว่านางชอบความขี้อายของผูเว่ยชาง
ผูเว่ยชางไม่สนใจใด ๆ แต่อวิ๋นซิ่วชิงซึ่งนั่งอยู่ในรถม้าคิดว่าเสียงหัวเราะเจ้าของโรงเตี๊ยมกำลังทะลุทะลวงประสาทหูของนางเหลือเกิน
นางยอมรับว่าผูเว่ยชางเป็นชายหนุ่มหน้าตาหล่อเหลา แต่นางจะไม่หัวเราะแบบนั้นจนดูเหมือนคุกคามอีกฝ่ายแน่นอน
อวิ๋นซิ่วชิงกลอกตาอย่างไร้คำพูด และคิดกับตัวเองว่าบางทีหญิงคนนี้อาจไม่เคยเห็นผู้ชายหล่อมาก่อนเป็นแน่
หลังจากที่ผูเว่ยชางดึงรถม้าไปที่สวนหลังบ้าน เขาก็ปล่อยให้อวิ๋นซิ่วชิง ลงจากรถม้า
เมื่ออวิ๋นซิ่วชิงลงจากรถม้า เจ้าของโรงเตี๊ยมก็หยุดหัวเราะและจ้องมองไปที่อวิ๋นซิ่วชิง ทันใดนั้นเจ้าของโรงเตี๊ยมก็ยิ้มและพูดว่า “แม่นาง เจ้าช่างงดงามจริง ๆ”
เมื่อได้ยินเจ้าของโรงเตี๊ยมพูดเช่นนั้น อวิ๋นซิ่วชิงก็นึกถึงชายที่เคยมองนางอย่างลามกอนาจารที่ถนนบนภูเขา ความรู้สึกนี้ทำให้อวิ๋นซิ่วชิงกลัวขึ้นมา
”ปล่อยนางไว้คนเดียวเถอะ” ผูเว่ยชางกระซิบข้างหูอวิ๋นซิ่วชิง
อวิ๋นซิ่วชิงพยักหน้า นางและผูเว่ยชางไม่สนใจเจ้าของโรงเตี๊ยมอีก พวกเขาหยิบกระเป๋าของตัวเองและกลับไปที่ห้องของพวกเขา
หลังจากอวิ๋นซิ่วชิงกลับไปที่ห้องของนาง นางก็วางกระเป๋าไว้บนโต๊ะ พร้อมมองไปที่โรงเตี๊ยม
สภาพโดยทั่วไปดูดี แต่ห้องพักก็เต็มไปด้วยฝุ่น มันดูเหมือนว่าที่นี่ไม่เคยมีคนมาพัก
เวลานี้ผูเว่ยชางเดินเข้าไปในห้องของอวิ๋นซิ่วชิงและพูดว่า “ชิงเหนียง เจ้าคิดอย่างไรกับห้องนี้?”
”ผูเว่ยชาง เจ้าคิดว่าโรงเตี๊ยมนี้มันสกปรกเล็กน้อยหรือเปล่า” อวิ๋นซิ่วชิงขมวดคิ้ว
ผูเว่ยชางเองก็รู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติกับโรงเตี๊ยมนี้ “ข้าไม่รู้ ทำไมเราถึงไม่เจอคนอื่นเลยล่ะ?”
”ตอนนี้เราได้เข้ามาในโรงเตี๊ยมนี้แล้ว มาดูกันว่าโรงเตี๊ยมแห่งนี้จะเล่นตลกอะไร” อวิ๋นซิ่วชิงคิดว่าโรงเตี๊ยมนี้ยังคงดีอยู่ มันดีกว่านอนบนรถม้าของพวกเขามาก เพียงแต่ที่นี่มีฝุ่นจับอยู่เยอะเท่านั้นเอง
ผูเว่ยชางเห็นด้วยกับสิ่งที่อวิ๋นซิ่วชิงพูด ดูเหมือนว่าคืนนี้เขาจะต้องระมัดระวังมากขึ้น
ชายหนุ่มเงยหน้าขึ้นมองสภาพอากาศก็เห็นว่ามันดูมืดไปหน่อย “ชิงเหนียง เราออกไปกินข้าวเย็นกันเถอะ ข้าถามเจ้าของโรงเตี๊ยม เขาบอกว่าที่นี่ไม่ขายอาหาร”
…
บทที่ 214 ไม่มีอะไรผิดปกติ
หลังจากที่อวิ๋นซิ่วชิงตอบรับคำชวน นางก็ออกไปจากโรงเตี๊ยมพร้อมกับผูเว่ยชางทันที
ขณะเดินออกมา นางก็รู้สึกราวกับว่าตัวเองกำลังถูกจับตามองอยู่
อวิ๋นซิ่วชิงหยุดและมองไปรอบ ๆ ก็เห็นว่าไม่มีคน และแม้แต่ผีก็ไม่มีด้วยซ้ำ นางรู้สึกงงงวยจนต้องขมวดคิ้ว
เมื่อผูเว่ยชางเห็นอวิ๋นซิ่วชิงหยุดเดิน เขาก็หันไปถามว่า “ชิงเหนียง เกิดอะไรขึ้น? ทำไมไม่เดินต่อล่ะ?”
” ผูเว่ยชาง ข้ารู้สึกเหมือนมีคนจ้องมองข้าอยู่” อวิ๋นซิ่วชิงยกมือขึ้นและแตะต้นคอของนาง ขนที่คอลุกซู่ขึ้นมา ความรู้สึกนี้ไม่ค่อยดีนัก
ผูเว่ยชางมองไปรอบ ๆ อย่างระแวดระวัง แต่ก็ไม่พบใคร “ชิงเหนียง บางทีเจ้าอาจอ่อนไหวเกินไป”
ผูเว่ยชางฝึกศิลปะการต่อสู้มาตั้งแต่เด็ก เขาสามารถได้ยินและมองเห็นสิ่งผิดปกติได้เสมอ นอกจากนี้เขายังมีทักษะกำลังภายใน หากมีคนแอบสะกดรอยตามพวกเขา ชายหนุ่มจะต้องตรวจพบอย่างแน่นอน
อวิ๋นซิ่วชิงเชื่อใจผูเว่ยชางมาก ในเมื่อเขาบอกว่าไม่มีใครก็คือไม่มี นางจึงขมวดคิ้วและตบหน้าตัวเองเบา ๆ บางทีนางอาจจะคิดมากเกินไป
”บางทีข้าอาจจะอ่อนไหวเกินไป เช่นนั้นเราไปกันเถอะ มันเริ่มมืดแล้ว”
ผูเว่ยชางพยักหน้าตอบรับและไปยังร้านอาหารที่ใกล้ที่สุด พวกเขาไม่ได้กินอาหารดี ๆ มาตลอดทาง ดังนั้นพวกเขาจึงสั่งอาหารจานร้อนมาและเริ่มลงมือกิน
หลังจากรับประทานอาหารเย็นเรียบร้อยแล้ว พวกเขาก็กลับไปที่โรงเตี๊ยม มีแขกเพียงสองคนในโรงเตี๊ยมนั่นคืออวิ๋นซิ่วชิงและผูเว่ยชางเท่านั้น
โรงเตี๊ยมแห่งนี้ดูโทรมเล็กน้อย เจ้าของโรงเตี๊ยมเพียงต้มน้ำร้อนให้อวิ๋นซิ่วชิงและผูเว่ยชางเท่านั้น มันดีที่มีน้ำร้อน เพราะตลอดการเดินทางที่ผ่านมานางไม่มีแม้แต่น้ำเย็นที่จะใช้ล้างหน้าด้วยซ้ำ
หลังจากล้างอย่างลวก ๆ อวิ๋นซิ่วชิงก็เป่าเชิงเทียนและปีนขึ้นไปบนเตียงนางหลับตาลงและเข้าไปในมิติส่วนตัว
เมื่อเข้าไปในมิติแล้ว อวิ๋นซิ่วชิงก็จัดแจงหมอนของนางยัดลงในผ้าห่ม เป็นการป้องกันกรณีที่มีคนเข้ามาในห้องของนางและจะได้เห็นเงาบนเตียง และรูปร่างของหมอนที่จัดไว้ยังดูเหมือนว่านางกำลังนอนหลับอยู่ ประตูและหน้าต่างของนางถูกปิดอย่างแน่นหนา แต่ถ้าไม่มีใครอยู่ที่นั่นอาจทำให้ผู้เข้ามานึกว่านางเป็นผีได้
อวิ๋นซิ่วชิงไม่ได้เข้ามาในมิติส่วนตัวเป็นเวลาสองวันแล้ว กะหล่ำปลีที่นางปลูกในมิติมีการเปลี่ยนแปลงมากขึ้น และดูเหมือนจะสามารถเก็บกินได้แล้ว
อวิ๋นซิ่วชิงมองไปที่กะหล่ำปลีสีเขียว แต่มันยังกินไม่ได้ นางอารมณ์เสีย เพราะนางยังไม่ได้ใส่อุปกรณ์ทำอาหารไว้ในพื้นที่มิติส่วนตัวเลย
อวิ๋นซิ่วชิงถอนหายใจเบา ๆ ตอนนี้นางทำได้เพียงแค่มองมันเท่านั้น
จากนั้นอวิ๋นซิ่วชิงก็ปีนขึ้นไปบนเนินเขาอีกครั้ง และเดินมาถึงน้ำพุแห่งจิตวิญญาณ
เมื่อมองไปที่ภาพสะท้อนของตัวเองในน้ำพุแห่งจิตวิญญาณ อวิ๋นซิ่วชิง รู้สึกว่านางเกือบจะลดน้ำหนักลงเป็นปกติแล้ว นางจึงถอดเสื้อผ้าออกและแช่ในน้ำพุทันที
น้ำพุแห่งจิตวิญญาณเย็นลงเล็กน้อย แต่มันก็ทำให้หญิงสาวรู้สึกสบายตัวมากขึ้น
หลังจากแช่ตัวในน้ำพุแห่งจิตวิญญาณไปสักพัก ก็รู้สึกสบายใจราวกับได้ชะล้างความเหนื่อยล้าของนางออกไปอย่างสมบูรณ์
หลังจากแช่ตัวในน้ำพุแห่งจิตวิญญาณได้ไม่ถึงครึ่งชั่วยาม อวิ๋นซิ่วชิงก็ไปที่โรงพยาบาล หลังจากอ่านตำรายาเสร็จแล้ว นางจึงออกจากมิติ
หลังจากอวิ๋นซิ่วชิงออกจากมิติส่วนตัว นางก็ขึ้นไปบนเตียงทันทีและหลับสนิท
ผูเว่ยชางซึ่งอาศัยอยู่ห้องข้าง ๆ มักจะคอยฟังเสียงต่าง ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ตอนนี้เขาคิดว่ามีบางอย่างผิดปกติในโรงเตี๊ยมแห่งนี้ แม้แต่การนอนหลับของเขาก็เป็นเพียงการหลับตาเท่านั้น
ผูเว่ยชางไม่ได้นอนทั้งคืน แต่เมื่อเขาลืมตาขึ้นในรุ่งเช้า เขาก็ยังคงเต็มไปด้วยความกระตือรือร้น
ก่อนหน้านี้เขารู้สึกแปลก และคิดว่าจะเกิดอะไรบางอย่างขึ้นในโรงเตี๊ยมยามค่ำคืน แต่ทุกอย่างก็เงียบสงบ ไม่มีอะไรเกิดขึ้นแต่อย่างใด
วันนี้ผูเว่ยชางตื่นแต่เช้า เขาคำนวณเวลาแล้วว่ามันยังคงเช้าอยู่ และนึกถึงการทำงานหนักของอวิ๋นซิ่วชิงในสองวันนี้ เขาจึงไม่ได้ไปปลุกหญิงสาวให้ตื่น แต่ออกจากโรงเตี๊ยมไปตามลำพัง
อวิ๋นซิ่วชิงพักผ่อนอย่างดีจากการที่ได้แช่น้ำพุแห่งจิตวิญญาณเมื่อคืนนี้
เมื่อนางตื่นขึ้นมาก็จัดแจงล้างเนื้อตัว และเดินไปหาผูเว่ยชาง
นางเคาะประตูห้องของผูเว่ยชางอยู่นาน แต่ก็ไม่มีสัญญาณการเคลื่อนไหวใด ๆ อวิ๋นซิ่วชิงจึงนึกเป็นห่วง
หากมีอะไรเกิดขึ้นกับผูเว่ยชาง นางจะทำอย่างไร?!