ทะลุมิติไปเป็นแพทย์หญิงชาวสวนผู้มั่งคั่ง - บทที่ 119+120 เป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดทางเลือก
- Home
- All Mangas
- ทะลุมิติไปเป็นแพทย์หญิงชาวสวนผู้มั่งคั่ง
- บทที่ 119+120 เป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดทางเลือก
บทที่ 119 เป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด
อวิ๋นซิ่วชิงลุกขึ้นทั้งที่ดวงตาเริ่มแดงก่ำ ผูเว่ยชางจึงรีบกดไหล่ของนางไว้ “เจ้าทำอะไรน่ะ? นั่งลง ระวังอย่าให้ล้ม!”
อวิ๋นซิ่วชิงไม่สนใจเขาและหันหลังกลับไป นางยกมือขึ้นและโบกมือให้พ่อของนาง “ท่านพ่อ ข้าจะรีบกลับมาเร็ว ๆ!”
พ่อเฒ่าอวิ๋นยืนอยู่ที่ทางเข้าหมู่บ้านก็โบกมือให้นางด้วยดวงตาที่แดงก่ำเช่นกัน เขาเป็นห่วงนาง ไม่ว่านางจะเข้าเมืองมากี่ครั้งแล้ว และมีใครอยู่รอบตัวนางหรือไม่ เขาก็เป็นห่วงเช่นกัน
หลังจากที่ได้ยินอวิ๋นซิ่วชิงตะโกนขึ้น ผูเว่ยชางก็เข้าใจและไม่พูดอะไรออกมาอีก
เพราะชายหนุ่มรู้ว่าพ่อเฒ่าอวิ๋นกำลังกล่าวลาลูกสาว เขาจึงไม่อยากขัดเวลาร่ำลาของอวิ๋นซิ่วชิงกับพ่อของนาง จึงทำได้เพียงเหยียดมือออกและจับนางไว้ในอ้อมแขนเพื่อไม่ให้นางล้มลง
อวิ๋นซิ่วชิงยืนอยู่บนเกวียนโดยที่มือข้างหนึ่งยังอยู่บนไหล่ของเขา นางไม่ปล่อยมือจนกระทั่งเกวียนออกมาไกลจากพ่อเฒ่าอวิ๋นแล้ว นางจึงค่อย ๆ นั่งลงบนเกวียนและกินซาลาเปาต่อไป
ผูเว่ยชางหันไปมองอวิ๋นซิ่วชิงที่นั่งเงียบอยู่ “มีอะไรหรือ? เจ้ากลัวหรือเปล่า?”
อวิ๋นซิ่วชิงกลอกตาใส่เขา ก่อนจะก้มศีรษะลงกินซาลาเปาอย่างระมัดระวัง
”มีอะไรหรือเปล่า?” เมื่อเห็นว่าอวิ๋นซิ่วชิงไม่ตอบ ผูเว่ยชางก็รู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติ
อวิ๋นซิ่วชิงกัดซาลาเปาและจ้องมองเขา
ผูเว่ยชางเห็นแววตาโกรธเคืองจากอวิ๋นซิ่วชิง ทำให้เขารู้ว่าในที่สุดนางก็กลับมาเป็นปกติ
หลังจากอวิ๋นซิ่วชิงกินซาลาเปานึ่งคำสุดท้าย นางก็กลอกตาและพูดกับ ผูเว่ยชางว่า “อย่าพูดขณะกินหรือนอนหลับ เจ้าไม่เคยได้ยินเรื่องนี้หรือ?”
ผูเว่ยชางมองอวิ๋นซิ่วชิง จากนั้นก็หัวเราะ
ชายหนุ่มเคยทานอาหารกับหญิงสาวมาหลายครั้ง และนี่เป็นครั้งแรกที่ได้ยินนางพูดแบบนี้กับเขา
อวิ๋นซิ่วชิงรู้สึกอับอายเล็กน้อยจึงหันหน้าหนีไป
“อวิ๋นซิ่วชิง เข้าเมืองคราวนี้เจ้าจะซื้ออะไร?” ผูเว่ยชางถามด้วยความสงสัย สิ่งที่นางต้องการซื้อต้องเป็นสิ่งที่นางชอบแน่ ๆ
ในที่สุด เขาจะได้รู้ว่านางชอบอะไร
“ข้าจะซื้อถ่านกับเตาถ่าน ตอนนี้มันเข้าฤดูหนาวแล้วและพ่อของข้าก็แก่มากแล้ว ข้าจะไปซื้อเมล็ดพันธุ์ผักเพื่อปลูกพวกมันขาย”
หากนางหนาว แค่เพียงสวมเสื้อผ้าให้หนาขึ้นก็อุ่นได้ แต่พ่อของนางทำไม่ได้ เขาอายุมากแล้ว ดังนั้นจะต้องดูแลสุขภาพให้ดี โดยเฉพาะหน้าหนาวนี้ที่คนชรามักจะป่วยง่าย
ผูเว่ยชางไม่คิดว่านางจะซื้อของเหล่านี้เมื่อเข้าเมือง “อวิ๋นซิ่วชิง ทำไมเจ้าไม่ซื้อของของเจ้าเองบ้างล่ะ?”
“ของตัวข้าเอง?” อวิ๋นซิ่วชิงพึมพำและมองเสื้อผ้าของนาง มันไม่ได้เก่าเกินไป เพียงแต่สีซีดจางเล็กน้อย แต่นั่นก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่สำหรับนาง มันยังสามารถใส่ได้จนถึงฤดูใบไม้ผลิ “ข้ายังไม่มีของที่ต้องการจะซื้อ”
”อวิ๋นซิ่วชิง เจ้าเป็นผู้หญิงหรือเปล่า?” ผูเว่ยชางขมวดคิ้ว ผู้หญิงคนอื่นชอบสีชาด เครื่องประทินโฉมหรือชุดที่มีสีสันสดใส แต่อวิ๋นซิ่วชิงกลับไม่ชอบอะไรเลย
”แน่นอนว่าข้าเป็นผู้หญิง เจ้าไม่เห็นว่าข้าใส่ชุดกระโปรงหรือ?” อวิ๋นซิ่วชิงจ้องมองเขาและดึงชุดของตัวเองให้อีกฝ่ายดู
”ทำไมเจ้าไม่ชอบสีชาด เครื่องประทินโฉม หรือผ้าไหม?” ผูเว่ยชางถามอย่างสงสัย
”ไม่ใช่ว่าข้าไม่ชอบมัน ข้าแค่คิดว่ามันไม่สำคัญอะไร” อวิ๋นซิ่วชิงพูดอย่างไม่แยแส
ผูเว่ยชางรู้สึกทึ่งกับคำตอบของอวิ๋นซิ่วชิง “แล้วเจ้าคิดว่าอะไรสำคัญ?”
อวิ๋นซิ่วชิงกล่าวอย่างไม่ลังเลว่า “แน่นอนว่าเงินสำคัญกว่าของเหล่านั้น หากไม่มีเงิน เราก็ทำอะไรไม่ได้เลย”
ผูเว่ยชางพยักหน้า ในที่สุดเขาก็รู้ว่านางชอบอะไรมากที่สุด ซึ่งสิ่งที่อวิ๋นซิ่วชิงชอบมากที่สุดก็คือ เงิน
ผูเว่ยชางกำลังทุกข์ใจ เขามีเงิน แต่ตอนนี้ในฐานะนักล่าแล้วเขาไม่ได้รับอนุญาตให้มีเงินจำนวนมาก มิฉะนั้นเขาจะมอบเงินทั้งหมดให้กับนาง!
…
บทที่ 120 ทางเลือก
“อวิ๋นซิ่วชิง แล้วเจ้าชอบคนรวยหรือไม่?”
ผูเว่ยชางถามออกไป หากนางตอบว่าชอบคนรวย เขาก็จะเปิดเผยฐานะที่แท้จริงของตัวเองทันทีว่าไม่ได้เป็นเพียงนักล่าสัตว์ธรรมดา
“ข้าเองก็ไม่รู้ มันก็อยู่ที่โชคชะตา ข้าไม่สามารถตอบและตัดสินใจอะไรเองได้ นอกจากนี้ ข้าคิดว่ามันคงเป็นอะไรที่ดีกว่าหากข้าจะรวยได้ด้วยตัวเอง”
อวิ๋นซิ่วชิงตอบเสียงเรียบพลางกวาดตามองไปรอบ ๆ ป่า
เมื่อผูเว่ยชางได้ยินคำตอบของนางก็ขมวดคิ้วและแอบทึ่งอยู่ในใจ ‘นางช่างต่างจากผู้หญิงคนอื่นจริง ๆ!
หญิงสาวคนอื่น ๆ มักจะเลือกแต่งงานออกเรือนไปกับชายฐานะดีเพื่อยกระดับตัวเอง แต่อวิ๋นซิ่วชิงกลับเลือกที่จะสร้างความมั่งคั่งด้วยตัวเอง ซึ่งมันไม่ง่ายเลย
ทันใดนั้น หญิงสาวก็เห็นชายคนหนึ่งเดินอยู่ในถิ่นทุรกันดาร ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากนางมากนัก
อวิ๋นซิ่วชิงรีบดึงแขนของผูเว่ยชางและกล่าวว่า “ผูเว่ยชาง ดูสิ! มีคนอยู่ที่นั่น”
ผูเว่ยชางหันหน้ามองไปในทิศทางที่อวิ๋นซิวชิงชี้ ภายในถิ่นทุรกันดารนั้นมีชายคนหนึ่งก้มศีรษะลงราวกับอ่อนแรง
ผูเว่ยชางหันไปหาอวิ๋นซิ่วชิงและถามว่า “เจ้าต้องการที่จะช่วยเขาไหม?”
หากอวิ๋นซิ่วชิงบอกว่าไม่ช่วย เขาก็จะไม่หยุดเกวียน ใครจะรู้ว่าชายคนนั้นเป็นคนดีหรือคนเลว?!
หลังจากคิดอยู่ครู่หนึ่ง อวิ๋นซิ่วชิงก็เงยหน้าขึ้นและพูดว่า “ไปดูสิ หากเขาตายแล้วก็ให้ฝัง มิฉะนั้นจะมีโรคระบาด หากเขายังมีลมหายใจก็ให้ช่วยเขาไว้ เพราะการที่เขาสามารถพบเราที่นี่ได้ นั่นหมายความว่าเราถูกฟ้ากำหนดให้พบกัน”
ผูเว่ยชางพยักหน้าและดึงบังเหียนเพื่อบังคับให้ลาเลี้ยวมุมหนึ่ง และหยุดในถิ่นทุรกันดารที่ชายคนนั้นนอนอยู่
อวิ๋นซิ่วชิงกระโดดลงจากเกวียนลาและเข้าไปหาชายคนนั้น นางตรวจหลอดเลือดแดงที่คอของชายคนนั้น เมื่อเห็นว่าชายคนนั้นยังมีชีพจรเต้นอยู่เล็กน้อย อวิ๋นซิ่วชิงจึงเรียกผูเว่ยชางไปช่วยทันที
แต่ผูเว่ยชางลังเล เขาเห็นริบบิ้นสีแดงที่ผูกรอบเอวของชายคนนั้น เสื้อผ้าสีดำและริบบิ้นสีแดง มีเพียงโจรเท่านั้นที่จะแต่งตัวแบบนี้!
อวิ๋นซิ่วชิงขมวดคิ้วเมื่อเห็นว่าผูเว่ยชางยังคงนิ่ง “ผูเว่ยชาง เจ้ากำลังคิดอะไรอยู่? ช่วยข้าเร็ว!”
ผูเว่ยจึงชางได้สติและช่วยอวิ๋นซิ่วชิงพลิกร่างชายคนนั้น
”อวิ๋นซิ่วชิง ชายคนนี้ต้องเป็นโจร เจ้าแน่ใจหรือว่าต้องการช่วยเขา?” ผูเว่ยชางคิดอยู่พักหนึ่งและคิดว่าเขาควรบอกอวิ๋นซิ่วชิงเกี่ยวกับเรื่องนี้ ไม่ว่านางจะช่วยเขาหรือไม่ ทุกอย่างขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของนาง
หลังจากได้ยินเช่นนี้ อวิ๋นซิ่วชิงก็ตกตะลึง ชาวบ้านรอบ ๆ นางคิดว่าโจรต้องเป็นปีศาจ เมื่อพวกเขาพูดถึงโจร คนก็กลัวแทบตาย แต่ตอนนี้นางได้พบโจร นางเป็นหมอ ผู้ที่ควรรักษาผู้ป่วยและช่วยชีวิตผู้ป่วยโดยไม่คำนึงถึงยศฐาใด ๆ
”ผูเว่ยชาง โจรคนนี้พบเจ้าและข้า ย่อมหมายความว่าฟ้าได้ให้โอกาสเขา และในเมื่อฟ้าให้โอกาส ทำไมเราไม่ช่วยเขาล่ะ?”
อวิ๋นซิ่วชิงตัดสินใจช่วยชายคนนี้
”ตกลง ข้าจะฟังเจ้า” เนื่องจากอวิ๋นซิ่วชิงต้องการช่วยชายคนนี้ ผูเว่ยชางจึงไม่ห้ามนาง แต่เขาก็เพิ่มความระมัดระวังให้มากขึ้น
อวิ๋นซิ่วชิงตรวจสอบสภาพร่างกายของชายคนนั้น หน้าท้องของเขาถูกฟันยาวถึงห้านิ้วแต่แผลไม่ลึกมาก นอกจากนี้ยังมีบาดแผลในส่วนอื่น ๆ แต่ก็ไม่ร้ายแรงนัก
เขาหมดสติเพราะเสียเลือดมากเกินไปและเหนื่อยล้า
อวิ๋นซิ่วชิงเปิดเสื้อคลุมของชายคนนั้น พบว่าที่แผลยังมีเลือดออก
เนื่องจากไม่มีอะไรอยู่ในมือของนาง อวิ๋นซิ่วชิงจึงไม่สามารถเย็บแผลได้ ตอนนี้นางต้องห่อแผลด้วยผ้าเสียก่อน
”ผูเว่ยชาง เจ้าช่วยข้าถอดเสื้อของเขาหน่อย” อวิ๋นซิ่วชิงสั่ง นางขมวดคิ้วเป็นกังวล
ผูเว่ยชางพยักหน้าและถอดเสื้อคลุมของชายชุดดำออกตามคำสั่งของอวิ๋นซิ่วชิง
ผูเว่ยชางกำลังจะโยนเสื้อคลุมสีดำออกไป แต่ถูกอวิ๋นซิ่วชิงหยุดไว้
และทันทีที่นางเงยหน้าขึ้น ก็เห็นชายหนุ่มหันหลังและโยนเสื้อคลุมออกไป
อวิ๋นซิ่วชิงจึงรีบหยุดเขา “ผูเว่ยชาง ทำไมเจ้าถึงทิ้งเสื้อผ้าไป? เอาคืนมาให้ข้า!”
”ทำไมเจ้าถึงต้องการเสื้อสกปรกนี้” ผูเว่ยชางถามพร้อมขมวดคิ้ว แม้ว่าเขาจะไม่เข้าใจ แต่ก็ยอมหยิบเสื้อที่เพิ่งโยนทิ้งไปกลับมาใหม่ตามคำสั่งของนาง