ทะลุมิติไปเป็นแพทย์หญิงชาวสวนผู้มั่งคั่ง - บทที่ 115+116 ข้อตกลงร่วมกันการชักชวน
- Home
- All Mangas
- ทะลุมิติไปเป็นแพทย์หญิงชาวสวนผู้มั่งคั่ง
- บทที่ 115+116 ข้อตกลงร่วมกันการชักชวน
บทที่ 115 ข้อตกลงร่วมกัน
เมื่อผูเว่ยชางได้ยินคำว่า ‘ถ้า’ เขาก็รู้สึกหดหู่ใจขึ้นมาทันที เพราะมันทำให้เขารู้ว่า ตอนนี้อวิ๋นซิ่วชิงไม่มีความรู้สึกเสน่หาต่อเขา
”แล้วเจ้าชอบคนแบบไหน?” เขาถามอย่างไม่ลังเล
อวิ๋นซิ่วชิงหัวเราะฝืน ๆ “ข้าไม่คิดว่าตัวเองจะมีสิทธิ์ชอบใครสักคนหรอก”
”ทำไมล่ะ?” ผูเว่ยชางถามด้วยความประหลาดใจ
“เจ้าก็ดูสภาพข้าและครอบครัวของข้าสิ จะมีชายใดอยากได้ข้ากัน?”
อวิ๋นซิ่วชิงเม้มริมฝีปาก นางคิดไว้แล้วว่าจะไม่รักชายใดอีกตลอดทั้งชีวิตของนาง
สิ่งที่นางต้องการทำมากที่สุดคือ การหาเงินเป็นจำนวนมากเพื่อทำให้ชีวิตตัวเองและพ่อของนางดียิ่งขึ้นกว่าเก่า
ผูเว่ยชางไม่เห็นด้วยกับอวิ๋นซิ่วชิง จึงพูดด้วยสีหน้าจริงจังว่า “เจ้าไม่ใช่คนอัปลักษณ์นะ”
”รู้ไหม? เจ้าเป็นคนแรกที่บอกว่าข้าไม่ใช่คนอัปลักษณ์” อวิ๋นซิ่วชิงหัวเราะคิกคัก
ผูเว่ยชางขมวดคิ้วพลางมองไปที่หญิงสาวข้างกาย อวิ๋นซิ่วชิงเริ่มงดงามขึ้นเรื่อย ๆ ดวงตาของนางกลมโตขึ้น จมูกของนางเป็นสัน ปากของนางก็เล็กลง พร้อมกับวงหน้าของนางก็เล็กลงเช่นกัน
บางทีนางอาจไม่ทันรู้ตัวว่าตัวเองงดงามขึ้นเพียงใด?
อวิ๋นซิ่วชิงรู้สึกไม่สบายใจที่ถูกผูเว่ยชางจ้องมอง นางหลบตาเขาและถามว่า “เจ้ามองข้าทำไม?”
”เจ้าสวยมาก” ผูเว่ยชางพูดอย่างจริงจัง
อวิ๋นซิ่วชิงรู้สึกเขินอายกับน้ำเสียงจริงจังของผูเว่ยชาง นางจึงยิ้มอย่างงุ่มง่ามและพูดว่า “เจ้าเองก็ไม่ได้ดูแย่เหมือนกัน”
อวิ๋นซิ่วชิงและผูเว่ยชางพูดคุยและหัวเราะตลอดทางไปบ้านของหัวหน้าหมู่บ้าน หัวหน้าหมู่บ้านอนุญาตให้อวิ๋นซิ่วชิงเช่าเกวียนลาเมื่อเขาเห็นว่านางขอให้ผูเว่ยชางบังคับเกวียนลาให้
อวิ๋นซิ่วชิงและผูเว่ยชางได้ทำข้อตกลงว่าพวกเขาจะมาเจอกันที่ทางเข้าหมู่บ้านเพื่อให้ผูเว่ยชางมารับนางในวันพรุ่งนี้
ตอนแรกผูเว่ยชางต้องการไปรับนางถึงหน้าประตูคฤหาสน์ตระกูลอวิ๋น แต่อวิ๋นซิ่วชิงกลับปฏิเสธ นางกลัวว่าครอบครัวของนางจะสร้างปัญหาที่ไม่จำเป็นหากพวกเขาเห็นผูเว่ยชาง ในเวลานั้นมันจะเป็นเรื่องยากสำหรับชายหนุ่มซึ่งเป็นคนนอกที่จะจัดการกับมัน
หลังจากอวิ๋นซิ่วชิงและผูเว่ยชางออกมาจากบ้านของหัวหน้าหมู่บ้าน ทั้งสองก็กลับบ้านของตัวเองไป อวิ๋นซิ่วชิงกลับไปที่คฤหาสน์ตระกูลอวิ๋นซึ่งวันนี้ดูเงียบผิดปกติ อวิ๋นซิ่วชิงจึงรู้สึกอึดอัดเล็กน้อย
อวิ๋นซิ่วชิงไปที่ลานห้องของพ่อเฒ่าอวิ๋น แต่พ่อของนางก็ไม่ได้อยู่ที่นั่น
จังหวะที่อวิ๋นซิ่วชิงกำลังสับสน นางก็ได้ยินเสียงไก่ร้องจากสวนหลังบ้าน นางจึงรีบวิ่งไปตามเสียง ก็พบว่าพ่อของนางกำลังเล่นกับไก่
”ท่านพ่อ” อวิ๋นซิ่วชิงเดินไปหาพ่อของนางด้วยรอยยิ้ม
พ่อเฒ่าอวิ๋นดูอารมณ์ดี เขาหันไปหาอวิ๋นซิ่วชิงและถามว่า “ชิงเหนียง เจ้ากลับมาแล้วหรือ ทำไมเจ้ากลับมาช้าจัง?”
หญิงสาวพยักหน้า “ข้าไปที่บ้านของท่านหัวหน้าหมู่บ้าน เขาบอกว่าลานั้นพยศ กลัวว่าข้าจะไม่สามารถบังคับเกวียนลาได้ จึงให้ข้าไปหาคนบังคับ ไม่อย่างนั้นเขาจะไม่ให้ข้าเช่า ข้าจึงไปขอร้องผูเว่ยชาง และพวกเราตกลงกันว่าจะเข้าเมืองในวันพรุ่งนี้”
“ท่านหัวหน้าหมู่บ้านมีเมตตาจริง ๆ เจ้าอย่ารังเกียจไปเลย หากลาพยศ ลำพังเจ้าก็คงไม่สามารถคุมมันได้ ดังนั้นเราต้องหาคนที่สามารถบังคับเกวียนลาได้ ผูเว่ยชาง ถึงแม้เขาจะไม่ช่างพูด แต่เขาก็เป็นคนดี หากเขาไปกับเจ้า ข้าก็โล่งใจ”
พ่อเฒ่าอวิ๋นได้พบผูเว่ยชางหลายครั้ง เขาชอบชายหนุ่มคนนี้มาก
อวิ๋นซิ่วชิงยิ้ม เมื่อเห็นว่ามีไก่เพียงไม่กี่ตัวในสวนหลังคฤหาสน์อันกว้างใหญ่ของนาง จึงอดไม่ได้ที่จะแอบนึกถึงสวนหลังบ้านของหัวหน้าหมู่บ้านที่มีสัตว์มากมาย
”ท่านพ่อ ข้าจะไปที่เมืองและซื้อหมูมาสองตัว” อวิ๋นซิ่วชิงแนะนำ
เมื่อได้ยินเช่นนี้ พ่อเฒ่าอวิ๋นก็ขมวดคิ้วและพูดว่า “ไม่ ลูกหมูมีราคาแพงเกินไป”
“ไม่เลยท่านพ่อ ราคามันถูกนะ ทำไมเราไม่ซื้อหมูเพิ่มอีกสองตัว? หากพวกเราซื้อมาขุนมันจนอ้วนขึ้น ในเทศกาลฤดูใบไม้ผลิที่จะมาถึงนี้ เราสามารถเชือดพวกมันเพื่อกินได้”
อวิ๋นซิ่วชิงต้องการซื้อหมูเพราะนางอยากให้พ่อของนางมีความสุข นางเก็บไก่ไว้สองสามตัวที่สวนหลังคฤหาสน์ และพ่อของนางก็ดูอารมณ์ดีขึ้นมากเพราะไก่เหล่านี้
…
บทที่ 116 การชักชวน
เมื่อได้ยินว่าอวิ๋นซิ่วชิงจะซื้อหมูมาเพื่อเชือดพวกมันเป็นอาหาร พ่อเฒ่าอวิ๋นก็เอ่ยขึ้นด้วยสีหน้าตกตะลึง “เจ้าจะฆ่าพวกมันทำไม?! แบบนั้นก็เท่ากับว่าเรากินเนื้อหมูได้เพียงครั้งเดียวนะ! เจ้าโง่มาก! หมูมีราคาถึงหนึ่งหรือสองตำลึง แต่ถ้าเจ้าซื้อหมูสองตัวมาเลี้ยงให้ดี ๆ มันก็จะให้กำเนิดลูกหมูเพิ่มแล้วเอามันไปขายดีกว่า แม่หมูหนึ่งตัวสามารถออกลูกหมูได้เจ็ดถึงแปดตัวเชียวนะ”
”ท่านพ่อ ท่านเก่งในการทำธุรกิจจริง ๆ” อวิ๋นซิ่วชิงประจบพ่อเฒ่าอวิ๋นด้วยรอยยิ้ม “ท่านพ่อ ข้าไม่รู้วิธีเลี้ยงหมู ท่านต้องช่วยข้าเลี้ยงดูพวกมัน แต่เงินที่ขายหมูนั้นเป็นของท่าน ข้าจะจ่ายสำหรับค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ให้เอง”
พ่อเฒ่าอวิ๋นส่ายหัวทันทีและปฏิเสธออกมาอย่างจริงจัง “ชิงเหนียง ข้าสามารถเลี้ยงดูเจ้าได้ทุกอย่าง เจ้าไม่ต้องให้เงินข้าก็ได้”
”ทำไมล่ะ?” อวิ๋นซิ่วชิงไม่เข้าใจว่าทำไมพ่อของนางต้องทำเช่นนี้ ดูเหมือนว่าเขาจะพยายามแยกพื้นที่ส่วนตัวกับนาง อวิ๋นซิ่วชิงรู้สึกผิดหวังเล็กน้อย
พ่อเฒ่าอวิ๋นตบไหล่และปลอบโยนบุตรสาว “ชิงเหนียง ข้าเอาเงินจากเจ้าไม่ได้ หากข้าเอาเงินจากเจ้า ครอบครัวจะมีปัญหาอีกครั้ง หากเจ้าต้องการที่จะให้ข้าจริง ๆ เจ้าสามารถซื้อบางสิ่งบางอย่างให้ข้าแทนก็ได้ มันก็เทียบเท่ากับการให้เงินเหมือนกัน”
เมื่อนึกถึงผู้หญิงที่ใจร้ายอย่างฮูหยินอวิ๋น อวิ๋นหมิงเซียวคนขี้เกียจ และนางแพศยาเฉียวฮุ่ย อวิ๋นซิ่วชิงคิดว่าพ่อของนางพูดถูก นางจะซื้ออาหารให้เขาแทนการให้เงิน
หากให้เงินท่านพ่อไปแล้ว เขาจะสามารถเก็บมันพ้นจากคนใจร้ายทั้งสามได้นานแค่ไหนกัน?
เมื่อเห็นว่าพ่อเฒ่าอวิ๋นไม่ได้คิดที่จะปฏิเสธความหวังดีจากนาง อวิ๋นซิ่วชิงก็อารมณ์ดีขึ้นมา
พ่อเฒ่าอวิ๋นเหลือบมองอวิ๋นซิ่วชิง เมื่อเห็นว่านางอารมณ์ดีขึ้นแล้ว เขาก็พูดขึ้นว่า “ชิงเหนียง ข้าคิดว่ามันจะดีกว่าหากเจ้าแยกออกไปข้างนอก และออกไปใช้ชีวิตของตัวเองอย่างอิสระ”
อวิ๋นซิ่วชิงพยักหน้า แน่นอนว่านางรู้ว่าการอยู่คนเดียวนั้นดีแค่ไหน ไม่มีใครรบกวนนาง และนางสามารถทำอะไรก็ได้ที่ต้องการ
แต่หญิงสาวก็ยังเป็นห่วงผู้เป็นพ่อ นางกลัวว่าเขาจะต้องสูญเสียหากนางแยกจากไป
”ท่านพ่อ ท่านไม่ต้องการข้าหรือ?” อวิ๋นซิ่วชิงถามอย่างหยอกล้อ
”เจ้ากำลังพูดถึงเรื่องไร้สาระอะไร? ข้าจะทิ้งเจ้าได้อย่างไร? ชิงเหนียง ข้าคิดว่าเจ้าจะมีความสุขมากขึ้นหากเจ้าออกไปมีชีวิตที่อิสระมากกว่าที่จะอยู่ในบ้านหลังนี้” พ่อเฒ่าอวิ๋นพูดอย่างจริงจัง
อวิ๋นซิ่วชิงเข้าใจดีว่าพ่อเฒ่าอวิ๋นหมายถึงอะไร
แต่นางไม่สามารถทิ้งเขาไว้ในถ้ำหมาป่านี้ได้ “ท่านพ่อ ข้ารู้ว่าท่านหมายถึงอะไร แต่ข้าไม่อยากทิ้งท่านไป นอกจากนี้ หากข้าจากไปแล้ว ข้าก็จะไม่รู้ว่าท่านกำลังทำอะไรอยู่ในบ้านหลังนี้ ข้าจะมั่นใจได้อย่างไร?”
”ชิงเหนียง พวกเขาไม่กล้ารังแกข้า เพราะในทางกฎหมาย คฤหาสน์หลังนี้ยังคงเป็นของข้า ตราบใดที่ข้าอยู่บ้านหลังนี้ พวกเขาจะไม่กล้าทำอะไร เจ้าคิดให้ดี พ่อพูดถูกใช่ไหม?”
พ่อเฒ่าอวิ๋นคิดเรื่องนี้มานานแล้ว แต่ยังไม่เคยได้มีโอกาสพูดออกมา คราวนี้เขาจะต้องปล่อยให้นางไปอยู่คนเดียวอย่างอิสระ
อวิ๋นซิ่วชิงคิดถึงคำพูดของผู้เป็นพ่ออย่างถี่ถ้วน หากโฉนดบ้านอยู่ในมือของเขาจริง ๆ นางก็สามารถย้ายออกได้อย่างสบายใจ
นอกจากนี้ นางจะสามารถส่งอาหารให้เขาได้เป็นครั้งคราว ซึ่งทำให้อวิ๋นหมิงเซียวรู้สึกถึงวิกฤต คิดว่าพ่อของเขาจะยกคฤหาสน์บรรพบุรุษให้อวิ๋นซิ่วชิงก่อนที่เขาจะเสียชีวิต และอวิ๋นหมิงเซียวจะต้องยอมนางทุกอย่างแน่นอน!
”ท่านพ่อ ท่านพูดเรื่องจริงใช่ไหม?” อวิ๋นซิ่วชิงเลิกคิ้วขึ้นและถามด้วยความสงสัย นางกลัวว่าพ่อของนางจะโกหก
”แน่นอนว่ามันเป็นเรื่องจริง โฉนดที่ดินยังอยู่ในมือข้า ไปกันเถอะ ข้าจะพาเจ้าไปที่นั่นเพื่อดูให้เห็นกับตา” พ่อเฒ่าอวิ๋นไม่คิดว่าอวิ๋นซิ่วชิงจะมีอุบายมากมายกับเขา ดังนั้นเขาจึงหัวเราะแบบฝืน ๆ
อวิ๋นซิ่วชิงพยักหน้าและตามพ่อของนางกลับไปที่ห้องของผู้เป็นพ่อ เมื่ออวิ๋นซิ่วชิงเข้ามาในห้อง นางก็กวาดสายตาไปรอบ ๆ เพราะกลัวว่าจะมีคนลอบมอง
ทันทีที่พ่อเฒ่าอวิ๋นหันมาเห็นสีหน้าของอวิ๋นซิ่วชิง เขาก็อดหัวเราะไม่ได้ “ชิงเหนียง เจ้ากำลังมองอะไรอยู่?”
อวิ๋นซิ่วชิงยิ้มอย่างงุ่มง่ามและหน้าแดงขึ้นมา “ไม่มีอะไรเลย ข้าแค่คิดว่าเราควรจะปิดประตู”