ทะลุมิติไปเป็นแพทย์หญิงชาวสวนผู้มั่งคั่ง - บทที่ 113+114 อิจฉาริษยา!หญิงงามแต่โง่
- Home
- All Mangas
- ทะลุมิติไปเป็นแพทย์หญิงชาวสวนผู้มั่งคั่ง
- บทที่ 113+114 อิจฉาริษยา!หญิงงามแต่โง่
บทที่ 113 อิจฉาริษยา!
หลังจากได้ยินเสียงของผูเว่ยชาง หลี่ฟู่หลานก็เงยหน้าขึ้นมองเขาด้วยแววตาเศร้าสร้อยดูน่าสงสาร ก่อนจะก้มศีรษะลงอย่างรวดเร็ว โดยที่ไหล่ของนางยังสั่นไหวตลอดเวลา เพื่อทำให้นางดูเหมือนคนที่ทุกข์ทรมานเป็นอย่างมาก
อวิ๋นซิ่วชิงถึงกับพูดไม่ออกเมื่อเห็นปฏิกิริยาของหญิงที่งามแต่รูปคนนี้
ทว่าผูเว่ยชางรู้ว่าหลี่ฟู่หลานเป็นคนแบบไหน แม้นางจะมีรูปโฉมงดงาม แต่ก็เป็นหญิงที่มากมารยา คนที่เถรตรงอย่างอวิ๋นซิ่วชิงไม่มีวันแข่งเรื่องนี้กับนางได้เลย
เพราะนางไม่ใช่ผู้หญิงเสแสร้งเสียหน่อย!
อวิ๋นซิ่วชิงจ้องมองหลี่ฟู่หลานอย่างเย็นชา นางต้องการดูว่าอีกฝ่ายจะแสร้งทำเป็นร้องไห้ได้นานแค่ไหน
ผูเว่ยชางไม่อยากให้อวิ๋นซิ่วชิงวุ่นวายอยู่กับหลี่ฟู่หลาน ดังนั้นเขาจึงดึงนางออกไปแล้วถามขึ้นว่า “เกิดอะไรขึ้น?”
“ข้าจะรู้ได้อย่างไรว่าเกิดอะไรขึ้น?! ข้ามาที่นี่เพื่อรอเจ้า แล้วอยู่ ๆ นางก็มา แล้วก็เอาแต่นั่งร้องไห้อยู่ตรงนั้น” อวิ๋นซิ่วชิงอธิบายในสิ่งที่นางรู้และพบเห็น “ข้ามาหาเจ้าวันนี้เพราะมีเรื่องจะปรึกษา”
“ปรึกษาเรื่องอะไร? เข้ามาคุยกันข้างในดีกว่า ข้างนอกอากาศมันหนาวมาก” ผูเว่ยชางพูด จากนั้นเขาก็รีบเปิดประตูและดึงอวิ๋นซิ่วชิงตามเข้ามาด้วย
เมื่ออวิ๋นซิ่วชิงเข้ามาในบ้าน นางหันไปมองหลี่ฟู่หลานที่ยังคงร้องไห้อยู่
ทันใดนั้น หลี่ฟู่หลานก็เงยหน้าขึ้นมาทั้งที่ดวงตายังคงแดงก่ำ และแล้วอวิ๋นซิ่วชิงก็ตระหนักได้ทันทีว่าเกิดอะไรขึ้น
ดูเหมือนหลี่ฟู่หลานจะชอบผูเว่ยชาง…และตอนนี้ก็กำลังริษยานางเสียด้วย!
อวิ๋นซิ่วชิงคิดได้ดังนั้นก็เยาะเย้ยหลี่ฟู่หลานผ่านทางสายตา หลี่ฟู่หลานเองก็มองกลับมาด้วยความเคียดแค้น
ผูเว่ยชางเทชาร้อนทั้งสองถ้วยเผื่อให้นางด้วย อวิ๋นซิ่วชิงถือถ้วยชามาจิบอย่างไม่ได้ใส่ใจนัก เพราะเมื่อครู่นางทะเลาะกับหลี่ฟู่หลานมาจึงเริ่มคอแห้งนิดหน่อย
อวิ๋นซิ่วชิงวางถ้วยน้ำชาลงและถามว่า “พรุ่งนี้เจ้าว่างหรือไม่?”
ผูเว่ยชางเทเมล็ดแตงโมและถั่วลิสงลงบนจานเพื่อให้นางกินกับน้ำชา เมื่อได้ยินคำถามของหญิงสาว เขาก็ถามด้วยความแปลกใจว่า “มีอะไรหรือเปล่า?”
“ไม่มีอะไรเลย ข้าแค่อยากถามเจ้าว่า พรุ่งนี้เจ้าว่างหรือเปล่า?”
แม้อวิ๋นซิ่วชิงต้องการจะเข้าเมือง แต่เรื่องนี้ก็ไม่ได้ถือเป็นเรื่องใหญ่ ดังนั้นนางไม่จำเป็นต้องให้ผูเว่ยชางทิ้งงานของตัวเองเพื่อเข้าเมืองกับนาง หากวันไหนเขาว่างจริง ๆ ก็ค่อยให้เขาพานางเข้าเมืองก็ได้
ทว่าสำหรับผูเว่ยชางแล้ว เรื่องของอวิ๋นซิ่วชิงถือเป็นเรื่องสำคัญที่สุดของเขา ดังนั้นเขาก็พร้อมที่จะเลื่อนงานของตัวเองออกไปเพื่อช่วยเหลืออีกฝ่าย
“พรุ่งนี้ข้าว่าง ไม่มีธุระอะไรเลย เจ้าอยากให้ข้าช่วยอะไรก็บอกข้าได้เลย!” ผูเว่ยชางตอบโดยไม่ลังเล
อวิ๋นซิ่วชิงเหลือบมองเขาอีกครั้งเพื่อให้แน่ใจว่าเขาไม่ได้โกหก จากนั้นก็พูดช้า ๆ ว่า “พรุ่งนี้ข้าอยากเข้าเมืองไปซื้อของ แต่ข้าบังคับเกวียนลาไม่เป็น เจ้าช่วยบังคับเกวียนลาพาข้าไปได้ไหม? ข้าจะเลี้ยงอาหารเย็นให้เจ้าเป็นการตอบแทนทีหลัง”
“โอ้ ข้าเข้าใจแล้ว ไม่มีปัญหา ข้าจะไปบ้านของท่านหัวหน้าหมู่บ้านแล้วเช่าเกวียนลาของเขามา”
อวิ๋นซิ่วชิงขอความช่วยเหลือจากเขางั้นหรือ มันทำให้ผูเว่ยชางรู้สึกมีความสุขอย่างมาก ดังนั้นเขาจึงไม่ลังเลที่จะช่วยเหลือนาง
“เจ้าไม่ต้องเช่ามัน เจ้าแค่ไปที่บ้านท่านหัวหน้าหมู่บ้านกับข้า ข้าจะเช่าเกวียนลาเอง”
เรื่องนี้เป็นธุระของอวิ๋นซิ่วชิง ดังนั้นผูเว่ยชางไม่จำเป็นต้องเสียเงินค่าเช่าเกวียนให้นาง
ยิ่งไปกว่านั้น นางต้องการจะยั่วยุหลี่ฟู่หลานที่ทะนงในความงามของตัวเองให้ยิ่งอิจฉานางมากขึ้น!
ผูเว่ยชางรู้ว่าหญิงสาวตรงหน้าเป็นคนอย่างไร หากเขายังดึงดันจะเช่าเกวียนลาให้ นางจะต้องโกรธเป็นแน่
ชายหนุ่มไม่ต้องการให้อวิ๋นซิ่วชิงโกรธเขา ดังนั้นเขาจึงไม่ปฏิเสธ
“รีบไปกันเถอะ ทั้งหมู่บ้านมีครอบครัวท่านหัวหน้าหมู่บ้านเท่านั้นที่มีเกวียนลา หากมีคนเช่าตัดหน้าเสียก่อน เห็นทีพวกเราต้องเดินเท้าเข้าเมืองเท่านั้น”
ชายหนุ่มกลัวว่าอวิ๋นซิ่วชิงจะกลับเร็วเกินไป จึงแนะนำนางเพื่อที่จะได้อยู่กับอวิ๋นซิ่วชิงต่ออีกเล็กน้อย
อวิ๋นซิ่วชิงคิดอยู่ครู่หนึ่ง หากเกวียนลาโดนเช่าตัดหน้าไปเสียก่อน นางกับเขาคงต้องเดินเท้าเข้าเมืองเท่านั้น ซึ่งนั่นคงจะเหนื่อยเกินไป “ได้เลย! รีบไปกันเถอะ”
หลี่ฟู่หลานยังคงนั่งจดจ้องอยู่ที่หน้าประตูบ้านของผูเว่ยชาง นางยังคงสาปแช่งอวิ๋นซิ่วชิงหลายร้อยพันคำในใจ แต่ก็ไม่เห็นนังหญิงอ้วนโผล่หัวออกมา
หลี่ฟู่หลานได้แต่กัดฟันกรอดด้วยความโกรธเกรี้ยว
…
บทที่ 114 หญิงงามแต่โง่
เมื่ออวิ๋นซิ่วชิงออกมาจากบ้านของผูเว่ยชาง นางก็เห็นหลี่ฟู่หลานที่กำลังจ้องนางเขม็งด้วยความเคียดแค้นและริษยา ซึ่งนั่นทำให้หญิงสาวอดไม่ได้ที่จะหัวเราะเยาะ
ยิ่งหลี่ฟู่หลานโกรธมากเท่าไหร่ อวิ๋นซิ่วชิงก็ยิ่งมีความสุขมากขึ้นเท่านั้น!
ผูเว่ยชางเห็นอวิ๋นซิ่วชิงกำลังหัวเราะจนตัวงอเป็นกุ้งไม่ยอมออกไปข้างนอกสักที ชายหนุ่มก็นึกสับสน มีอะไรข้างนอกหรือ? นางหัวเราะอะไร?
เขาจึงถาม “เจ้าหัวเราะอะไรอยู่?”
อวิ๋นซิ่วชิงรีบหุบยิ้มและพูดว่า “ไม่มีอะไร เรารีบไปกันเถอะ”
พูดจบ อวิ๋นซิ่วชิงก็ผลักประตูเปิดออกและเดินออกไปนำหน้าผูเว่ยชาง
ทันทีที่หลี่ฟู่หลานเห็นอวิ๋นซิ่วชิงออกมาพร้อมผูเว่ยชาง นางก็ยังคงนั่งบนโขดหินข้าง ๆ และเริ่มบีบน้ำตาร้องไห้สะอึกสะอื้น
อวิ๋นซิ่วชิงผู้ซึ่งให้ความสนใจกับหลี่ฟู่หลานได้เห็นฉากนี้อย่างแน่นอน นางเม้มริมฝีปากและคิดว่า ‘หากนางอยู่ในยุคสมัยที่ข้าจากมา นางจะต้องเป็นนักแสดงเจ้าบทบาทแน่ ๆ นางแสดงเก่งมาก!’
เมื่อผูเว่ยชางและอวิ๋นซิ่วชิงเดินออกจากประตูไปแล้ว แต่หลี่ฟู่หลานยังคงนั่งร้องไห้อยู่ที่นั่น
อวิ๋นซิ่วชิงไม่ต้องการคุยกับนาง นับประสาอะไรกับผูเว่ยชางกันเล่า ทั้งสองจึงเดินผ่านหลี่ฟู่หลานไปด้วยรอยยิ้ม
เมื่อเห็นว่าผูเว่ยชางออกไปกับอวิ๋นซิ่วชิงโดยไม่แม้แต่จะเหลียวมองนาง นางก็ลุกขึ้นยืนและพูดว่า “หยุดนะ! อวิ๋นซิ่วชิง!!”
เมื่อได้ยินเช่นนี้ อวิ๋นซิ่วชิงก็กลอกตาขึ้นอย่างช่วยไม่ได้ นางหันไปมอง หลี่ฟู่หลานที่ดวงตาเป็นสีแดงก่ำ และพูดอย่างสบาย ๆ ว่า “หลี่ฟู่หลาน เจ้าเรียกข้าทำไม?”
หลี่ฟู่หลานจ้องอวิ๋นซิ่วชิงด้วยสายตาดุดันระคนเคียดแค้น
เมื่อตอนที่นางชอบหลู่ชีฉาง นังหญิงอ้วนคนนี้ก็แย่งเขาไป…แต่พอมาคราวนี้นางชอบผูเว่ยชาง อวิ๋นซิ่วชิงก็ยังจะมาแย่งเขาไปจากนางอีก!
นังหญิงอ้วนคนนี้มีดีอะไรนักหนา?!
นังอวิ๋นซิ่วชิงต้องการจะขัดขวางไม่ให้ข้าได้แต่งงานออกเรือนกับชายที่ยอดเยี่ยมอย่างนั้นหรือ?!
หลี่ฟู่หลานคิดอย่างเคียดแค้น นางอยากจะกระโดดเข้าไปบีบคออวิ๋นซิ่วชิงเพื่อระบายความแค้นของนาง!
“อวิ๋นซิ่วชิง! เจ้ามันนังแพศยาไร้ยางอาย! เจ้ากล้าหัวร่อต่อกระซิกกับชายคนอื่นในที่สาธารณะได้อย่างไร?! หากทำแบบนั้น ชายที่เจ้าคุยด้วยจะไม่สามารถแต่งงานได้! เจ้าต้องการจะไม่ให้ผูเว่ยชางแต่งงานอีกหรือ?!”
ในความคิดของหลี่ฟู่หลาน ตอนที่หลู่ชีฉางต้องการจะแต่งงานกับอวิ๋นซิ่วชิงและไม่เหลียวแลนางเลยนั่นก็เป็นเพราะเงิน ดังนั้นนางจึงพอเข้าใจได้…
แต่ตอนนี้ตระกูลอวิ๋นของนางหญิงอ้วนแทบไม่มีอะไรเหลืออยู่แล้วแท้ ๆ ซ้ำยังตกอับถึงเพียงนี้ ไหนจะคนในครอบครัวนางก็นิสัยเสียเป็นที่รังเกียจของคนเกือบทั้งหมู่บ้าน แต่ทำไมผูเว่ยชางหนุ่มรูปงามผู้นี้ถึงได้ยังตามอวิ๋นซิ่วชิงต้อย ๆ
นางไม่เข้าใจเลยจริง ๆ!
เมื่อได้ยินคำพูดของหลี่ฟู่หลาน สีหน้าของผูเว่ยชางก็ครึ้มลง เขาพูดด้วยเสียงอันเย็นชาว่า “ข้าจะได้แต่งงานหรือไม่ มันก็ไม่ใช่ธุระกงการอะไรของเจ้า! เจ้าเอาแต่ว่าอวิ๋นซิ่วชิงแพศยาไร้ยางอาย แล้วตัวเจ้าไม่แย่ยิ่งกว่าหรือ? เจ้าร้องไห้โหยหวนสาปแช่งคนอื่นอยู่หน้าบ้านข้า เจ้ามีมารยาทบ้างไหม?!”
อวิ๋นซิ่วชิงไม่คิดว่าผูเว่ยชางจะเถียงอีกฝ่ายกลับในสิ่งที่นางต้องการจะเอ่ยพอดี
“หลี่ฟู่หลาน ก่อนเจ้าจะว่าอะไรใครก็ควรหัดดูตัวเองก่อนเสียบ้างนะ” อวิ๋นซิ่วชิงพูดขึ้นมาอย่างไม่แยแส
พูดจบ อวิ๋นซิ่วชิงและผูเว่ยชางก็เดินออกไปด้วยกัน ทิ้งให้หลี่ฟู่หลานโกรธจนตัวสั่นและกัดปากด้วยความเจ็บใจ
”อวิ๋นซิ่วชิง เจ้ากับหลี่ฟู่หลานมีความแค้นต่อกันหรือ? ทำไมนางถึงพยายามเจาะจงหาเรื่องเจ้า?” ผูเว่ยชางถามขึ้นอย่างสงสัยขณะเดินไปข้าง ๆ อวิ๋นซิ่วชิง
อวิ๋นซิ่วชิงเหลือบมองผูเว่ยชาง เขาเป็นชายรูปงามที่มีใบหน้าคมสัน มีคิ้วหนาและตาโต สามารถบอกได้ว่าสำหรับผู้คนในยุคนี้นั้น อีกฝ่ายเป็นชายที่หน้าตาดีถึงขั้นหาตัวจับยาก ไม่แปลกใจที่หลี่ฟู่หลานจะชอบเขา
อวิ๋นซิ่วชิงตอบอย่างหน่ายใจ “ข้ากับนางไม่ได้มีความแค้นต่อกัน…” จากนั้นนางก็กลอกตาและมองไปที่ผูเว่ยชาง “เจ้าไม่รู้จริง ๆ หรือว่าทำไมหลี่ฟู่หลานถึงปฏิบัติกับข้าแบบนั้น?”
ผูเว่ยชางขมวดคิ้วและส่ายหัว “ข้าไม่รู้ มันเกี่ยวอะไรกับข้าล่ะ?”
เมื่อได้ยินคำพูดของผูเว่ยชาง อวิ๋นซิ่วชิงก็ไม่สามารถระงับความโกรธระคนขบขันของตัวเองได้อีกต่อไป
นางจึงหัวเราะลั่น ก่อนจะอธิบายว่า “สมองของเจ้าผิดปกติหรือเปล่าเนี่ย? นี่เจ้ายังมองไม่เห็นหรือว่าหลี่ฟู่หลานมองหาแต่เจ้า เจ้าเป็นชายที่นางชอบ และนางจะโกรธจัดเมื่อเห็นชายที่นางชอบอยู่กับผู้หญิงอื่น!”
ความจริงแล้วผูเว่ยชางก็รู้ว่าหลี่ฟู่หลานชอบเขา แต่นางชอบเขาแล้วมันอย่างไร? เกี่ยวอะไรกับเขาล่ะ?
“แล้วหากเป็นเจ้าล่ะ เจ้าจะโกรธหรือไม่ที่ชายที่เจ้าชอบอยู่กับผู้หญิงคนอื่น?” ผูเว่ยชางถามอวิ๋นซิ่วชิงด้วยสีหน้าและน้ำเสียงจริงจัง
อวิ๋นซิ่วชิงไม่ได้สังเกตเห็นความจริงจังในคำพูดของเขา นางแค่คิดว่าเขาล้อเล่น จึงตอบออกไปว่า “แน่นอน หากข้ารักใครสักคนในอนาคต ข้าจะโกรธเขามากที่มีผู้หญิงอื่นมาพะเน้าพะนอเขา มันเป็นธรรมชาติของมนุษย์ทุก ๆ คน”